จดหมายจากอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้สูงอายุถึง เพื่อนเก่า:ผมไม่สนับสนุนการกำหนดความหนาแน่นของกระดูก จดหมายจากอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลผู้สูงอายุถึง เพื่อนเก่า ผมไม่สนับสนุนการกำหนดความหนาแน่นของกระดูกอีกต่อไป ผมไม่สนับสนุนการกำหนดความหนาแน่นของกระดูกอีกต่อไป เพราะผู้สูงอายุจะเป็นโรคกระดูกพรุนอย่างแน่นอน และเมื่ออายุมากขึ้น ระดับของโรคกระดูกพรุนก็จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และความเสี่ยงที่จะกระดูกหักก็จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน มีสูตรดังนี้ ความเสี่ยงของการแตกหัก = ความเสียหายภายนอก / ความหนาแน่นของกระดูก ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะกระดูกหักเนื่องจากค่าตัวส่วน (ความหนาแน่นของกระดูก) น้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นความเสี่ยงของกระดูกหักจึงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นมาตรการที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้สูงอายุในการป้องกันกระดูกหักคือการทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สิ่งที่เรียกว่าความลับผมสรุปได้มีทั้งหมด 7 อย่างได้แก่ มาตรการเฉพาะ ได้แก่ : 1. ไม่ยืนบนเก้าอี้หรือเก้าอี้สตูลเพื่อหยิบสิ่งของ แม้แต่เก้าอี้เตี้ยก็ตาม 2. พยายามออกไปข้างนอกในวันที่ฝนตกให้น้อยที่สุด 3. ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่ออาบน้ำหรือใช้ห้องน้ำ เพื่อป้องกันตัวเองจากการลื่น 4. อย่าลืมทำความสะอาดพื้นห้องน้ำในห้องนอนเสมอ 5. เมื่อตื่นกลางดึกต้องเปิดไฟก่อนแล้วจึงค่อยลุกขึ้นช้าๆ 6. คุณต้องไม่เบียดเสียด (ขึ้น) รถบัสเมื่อคุณออกไปข้างนอก 7. ผู้สูงอายุให้นั่งสวมกางเกงเสมอ 8.กรณีพลัดตกต้องยื่นมือพยุงพื้น กระดูกหักปลายแขนและข้อมือดีกว่าคอหัก หรือกระดูกต้นขาที่ข้อสะโพก ในส่วนของการเพิ่มมวลกระดูก ผมยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ผลิตภัณฑ์จากนม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และอาหารทะเล โดยเฉพาะหนังกุ้งตัวเล็กซึ่งมีแคลเซียมสูง) แทนที่จะใช้ยาเสริม ควรทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเหมาะสม เพราะแสงแดด (ภายใต้แสง UV) จะแปลงคอเลสเตอรอลในผิวหนังให้เป็นวิตามินดี มีประโยชน์ในการส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้และกิจกรรมสร้างกระดูกซึ่งมีผลในการชะลอโรคกระดูกพรุน การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ (1) สรุป คือ ผมพบข้อมูลที่น่าอัศจรรย์ ผู้ที่มีอายุเกินร้อยปีเกือบทั้งหมดที่ล้มลงจะตายภายในสามเดือน (2) การล้มอาจไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การแตกหัก แต่แรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกของการตกจะทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุอยู่ในสภาพแตกหัก เส้นลมปราณและหลักประกันถูกปิดกั้น และไม่สามารถกลายเป็นสารอินทรีย์ได้ ทั้งหมดเพื่อให้บรรลุการควบคุมสมดุลย์ในตนเอง ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะภายในล้มเหลวอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้เสียชีวิตในภายหลังด้วย (3) ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการกันลื่นของห้องน้ำ เวลาขึ้นบันไดต้องระวังราวจับอย่าให้ตก ทุกคน ดูแลตัวเองด้วย ผู้สูงอายุจึงควรใส่ใจเรื่องการป้องกันการลื่นไถลและป้องกันการล้ม การล้มหนึ่งครั้งจะคร่าชีวิตสิบปี เพราะกระดูกและกล้ามเนื้อถูกทำลายไปหมด การผ่าตัดไม่มีประโยชน์ และการรักษาแบบอนุรักษ์นิยมก็เป็นอุปสรรคเช่นกัน ข้อความอาจดูยาวแต่ก็คุ้มค่าที่จะอ่านโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุครับ เพราะผู้สูงอายุจะเป็นโรคกระดูกพรุนอย่างแน่นอน และเมื่ออายุมากขึ้น ระดับของโรคกระดูกพรุนก็จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และความเสี่ยงที่จะกระดูกหักก็จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน มีสูตรดังนี้ ความเสี่ยงของการแตกหัก = ความเสียหายภายนอก / ความหนาแน่นของกระดูก ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะกระดูกหักเนื่องจากค่าตัวส่วน (ความหนาแน่นของกระดูก) น้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นความเสี่ยงของกระดูกหักจึงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นมาตรการที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้สูงอายุในการป้องกันกระดูกหักคือการทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สิ่งที่เรียกว่าความลับผมสรุปได้มีทั้งหมด 7 อย่างได้แก่ มาตรการเฉพาะ ได้แก่ : 1. ไม่ยืนบนเก้าอี้หรือเก้าอี้สตูลเพื่อหยิบสิ่งของ แม้แต่เก้าอี้เตี้ยก็ตาม 2. พยายามออกไปข้างนอกในวันที่ฝนตกให้น้อยที่สุด 3. ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่ออาบน้ำหรือใช้ห้องน้ำ เพื่อป้องกันตัวเองจากการลื่น 4. อย่าลืมทำความสะอาดพื้นห้องน้ำในห้องนอนเสมอ 5. เมื่อตื่นกลางดึกต้องเปิดไฟก่อนแล้วจึงค่อยลุกขึ้นช้าๆ 6. คุณต้องไม่เบียดเสียด (ขึ้น) รถบัสเมื่อคุณออกไปข้างนอก 7. ผู้สูงอายุให้นั่งสวมกางเกงเสมอ 8.กรณีพลัดตกต้องยื่นมือพยุงพื้น กระดูกหักปลายแขนและข้อมือดีกว่าคอหัก หรือกระดูกต้นขาที่ข้อสะโพก ในส่วนของการเพิ่มมวลกระดูก ผมยังสนับสนุนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ผลิตภัณฑ์จากนม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และอาหารทะเล โดยเฉพาะหนังกุ้งตัวเล็กซึ่งมีแคลเซียมสูง) แทนที่จะใช้ยาเสริม ควรทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเหมาะสม เพราะแสงแดด (ภายใต้แสง UV) จะแปลงคอเลสเตอรอลในผิวหนังให้เป็นวิตามินดี มีประโยชน์ในการส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้และกิจกรรมสร้างกระดูกซึ่งมีผลในการชะลอโรคกระดูกพรุน การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ (1) สรุป คือ ผมพบข้อมูลที่น่าอัศจรรย์ ผู้ที่มีอายุเกินร้อยปีเกือบทั้งหมดที่ล้มลงจะตายภายในสามเดือน (2) การล้มอาจไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การแตกหัก แต่แรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกของการตกจะทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุอยู่ในสภาพแตกหัก เส้นลมปราณและหลักประกันถูกปิดกั้น และไม่สามารถกลายเป็นสารอินทรีย์ได้ ทั้งหมดเพื่อให้บรรลุการควบคุมสมดุลย์ในตนเอง ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะภายในล้มเหลวอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้เสียชีวิตในภายหลังด้วย (3) ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการกันลื่นของห้องน้ำ เวลาขึ้นบันไดต้องระวังราวจับอย่าให้ตก ทุกคน ดูแลตัวเองด้วย ผู้สูงอายุจึงควรใส่ใจเรื่องการป้องกันการลื่นไถลและป้องกันการล้ม การล้มหนึ่งครั้งจะคร่าชีวิตสิบปี เพราะกระดูกและกล้ามเนื้อถูกทำลายไปหมด การผ่าตัดไม่มีประโยชน์ และการรักษาแบบอนุรักษ์นิยมก็เป็นอุปสรรคเช่นกัน ข้อความอาจดูยาวแต่ก็คุ้มค่าที่จะอ่านโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุครับ Cr:เจ้าของข้อมูลที่มีประโยชน์
สวัสดีครับพี่น้อย
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:15:44 น.
สวัสดีครับ
อ่านแล้วนึกถึงคุณแม่ขึ้นมาเลยครับ ท่านเสียเพราะลื่นล้มในห้องน้ำตอนที่ไม่มีใครอยู่บ้านนี่แหล่ะครับ การล้มของคนสูงอายุเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆครับ โดย: กะริโตะคุง วันที่: 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:20:34 น.
พื้นห้องน้ำต้องระวังจริงๆ ครับ เพราะบางครั้งเราอาจมองข้ามไป
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:29:25 น.
ไม่ทันแล้วค่ะพี่น้อยปีนเก้าอี้พลาสติก
เก้าอี้หักเข่ากระแทกพื้นไปเรียบร้อยค่ะ โดย: หอมกร วันที่: 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา:7:02:36 น.
|
newyorknurse
บทความทั้งหมด
|