รู้จัก 'Eli Lilly' ว่าที่น้องใหม่ 7 หุ้นนางฟ้า ที่อาจเขี่ย 'Tesla' ตกสวรรค์! เศรษฐกิจ-ธุรกิจ รู้จัก 'Eli Lilly' ว่าที่น้องใหม่ 7 หุ้นนางฟ้า ที่อาจเขี่ย 'Tesla' ตกสวรรค์! By สุรินทร์ เจนพิทยา06 ก.พ. 2024 เวลา 7:15 น. แนวโน้ม “เบาหวาน” ดันยอดขายยาบริษัททะยาน รู้จัก 'Eli Lilly' ว่าที่น้องใหม่ 7 หุ้นนางฟ้า ที่อาจเขี่ย 'Tesla' ตกสวรรค์! ทำความรู้จัก “Eli Lilly” บริษัทยารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และกำลังมาแรง หลังหุ้นทะยานราว 100% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จนอาจแทนที่ “Tesla” ในกลุ่ม 7 หุ้นนางฟ้าได้ หลังค่ายรถ EV ชื่อดังยังเผชิญกับปัญหารุมเร้า Key Points ข้อมูลจากสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติระบุว่า ในปี 2564 มีผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลกสูงถึง 537 ล้านคน และมีแนวโน้มว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน ภายในปี 2573 และเป็น 783 ล้านคนภายในปี 2588 แนวโน้มโรคเบาหวานที่สูงขึ้นทั่วโลกได้ให้อานิสงส์แก่ Eli Lilly ที่เชี่ยวชาญด้านโรคนี้อยู่แล้ว และมีสัดส่วนรายได้จากยากลุ่มเบาหวานมากที่สุด บริษัท “Eli Lilly” ก่อตั้งเมื่อเกือบ 150 ปีที่แล้ว โดยชายที่ชื่อ อีไล ลิลลี เขาเป็นทั้งทหารอเมริกัน เภสัชกร นักเคมี และนักธุรกิจ อีกทั้งเป็นบริษัทยารายแรกของโลกที่ผลิตอินซูลินในการรักษาโรคเบาหวาน ท่ามกลางราคาหุ้นค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่าง Tesla (เทสลา) ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยติดลบราว 25% แล้วในรอบ 1 เดือน ส่งผลให้อีลอน มัสก์ เจ้าของ Tesla ผู้เคยเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ตกบัลลังก์สู่อันดับ 2 แทน หลังเสียแชมป์ให้กับเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของอาณาจักรธุรกิจแบรนด์หรู LVMH ตามการจัดอันดับมหาเศรษฐีพันล้านของนิตยสาร Forbes ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทรถ EV รายนี้อาจหลุดจากกลุ่ม “หุ้น 7 นางฟ้า” หรือ 7 หุ้นทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย Apple (แอปเปิ้ล), Amazon (อเมซอน), Alphabet (อัลฟาเบท), Nvidia (อินวิเดีย), Meta (เมตา), Microsoft (ไมโครซอฟท์) และ Tesla (เทสลา) โดยขณะนี้ Microsoft เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก อยู่ที่ราว 3 ล้านล้านดอลลาร์ สำหรับบริษัทที่มีแววเข้ามาแทนที่ในอันดับ 7 นี้ คือ “Eli Lilly” (อีไล ลิลลี) บริษัทผลิตยารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ โดยในเวลาเพียง 1 ปี ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 109% จนล่าสุดมีมูลค่าตลาด 670,400 ล้านดอลลาร์ แซงหน้า Tesla ซึ่งมีมูลค่าตลาด 5.67 แสนล้านดอลลาร์ไปแล้ว จึงน่าสนใจว่า อะไรทำให้ Eli Lilly ขึ้นมายิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แนวโน้ม “เบาหวาน” ดันยอดขายยาบริษัททะยาน ในปัจจุบัน ชาวอเมริกันเผชิญโรคเบาหวาน และโรคอ้วนเป็นจำนวนมาก โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (CDC) ระบุไว้ว่า “เกือบครึ่งหนึ่ง” ของประชากรสหรัฐเป็น ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นเบาหวาน และมากกว่า 10% ของประชากรสหรัฐป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้ว นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เนื่องจากเกือบครึ่งประชากรที่มีภาวะก่อนเบาหวาน หากไม่ปรับพฤติกรรมก็อาจเสี่ยงเข้าสู่ “ภาวะเบาหวาน” ในขั้นต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลจาก IDF Diabetes Atlas ของสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติระบุว่า ในปี 2564 มีผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลกสูงถึง 537 ล้านคน และมีแนวโน้มว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคนภายในปี 2573 และเป็น 783 ล้านคนภายในปี 2588 https://www.bangkokbiznews.com/business/1112006 /Education Blog
สวัสดีคะพี่ เข้าไปทักผิดบล็อกซะงั้น
เบาหวานอยุ่ทางนี้เลยคะ ประเทศไทยเราก็ติดอันดับเลยคะ ดูแลสุขภาพนะคะพี่ โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 6 ตุลาคม 2567 เวลา:10:24:16 น.
|
BlogGang Popular Award#20
newyorknurse
บทความทั้งหมด
|
ดูแล้ว อีกหน่อยน่าจะเป็นกันทั้งโลก เลยมั่ง
บริษัทยา รวยกันไม่รู้เรื่องเลยนะครับนี่ 555