พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
สัมมาทิฏฐิสูตร ที่ ๙ ว่าด้วยความเห็นชอบ
ชรามรณวาร
[๑๑๖] ภิกษุเหล่านั้นชื่นชม อนุโมทนาภาษิตของท่านพระสารีบุตรว่า สาธุ ท่านผู้มีอายุ แล้วได้ถามปัญหากะท่านพระสารีบุตรต่อไปว่าดูกรท่านผู้มีอายุ จะพึงมีอยู่หรือ ปริยายแม้อย่างอื่น อริยสาวก ... มาสู่พระสัทธรรมนี้.
[๑๑๗] ท่านพระสารีบุตรตอบว่าพึงมีอยู่ ท่านผู้มีอายุ เมื่อใด อริยสาวกรู้ชัดซึ่งชราและมรณะ เหตุเกิดแห่งชราและมรณะความดับชราและมรณะ และทางที่จะให้ถึงความดับชราและมรณะ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ อริยสาวกชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ... มาสู่พระสัทธรรมนี้ ก็ชราและมรณะ เหตุเกิดแห่งชราและมรณะ ความดับชราและมรณะทางที่จะให้ถึงความดับชราและมรณะ เป็นไฉน? ได้แก่ความแก่ ความคร่ำคร่าฟันหลุด ผมหงอก หนังย่น ความเสื่อมแห่งอายุ ความแก่หง่อมแห่งอินทรีย์ ในหมู่สัตว์นั้นๆของเหล่าสัตว์นั้นๆ อันนี้เรียกว่าชรา ความจุติ ความเคลื่อนไป ความแตกทำลาย ความหายไปมฤตยู ความตาย ความทำกาละ ความแตกแห่งขันธ์ ความทิ้งซากศพไว้ ความขาดไปแห่งชีวิตินทรีย์จากหมู่สัตว์นั้นๆของเหล่าสัตว์นั้นๆ อันนี้เรียกว่ามรณะ ชราและมรณะ ดังพรรณนามาฉะนี้ เรียกว่า ชราและมรณะเหตุเกิดแห่งชราและมรณะ ย่อมมีเพราะชาติเป็นเหตุให้เกิด ความดับชราและมรณะ ย่อมมีเพราะชาติดับอริยมรรคประกอบด้วยองค์๘ นี้แหละ คือ ความเห็นชอบ ... ความตั้งใจชอบ ชื่อว่าปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับชราและมรณะดูกรท่านผู้มีอายุ เมื่อใดแล อริยสาวกรู้ชัดซึ่งชราและมรณะ เหตุเกิดแห่งชราและมรณะความดับชราและมรณะ และปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับแห่งชราและมรณะ อย่างนี้ๆ เมื่อนั้นท่านละราคานุสัย ฯลฯ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ อริยสาวกชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิมีความเห็นดำเนินไปตรงแล้วประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้.