"วันนี้คงจะพอแค่นี้นะคะ พรุ่งนี้อาจารย์นัดพวกคุณมาเรียนแปดโมงนะ บอกเพื่อนๆที่ไม่ได้เข้าเรียนคาบนี้ด้วย คาบสุดท้ายอาจารย์จะแนะข้อสอบให้ อยากให้พวกคุณเข้าเรียนกันทุกคน" สิ้นเสียงอาจารย์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมี ปี 2 ก็ทยอยลุกออกจากห้องเรียน บ้างก็ไปทานข้าวที่โรงอาหารกลาง บ้างก็กลับที่พัก เพราะวันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวัน"รันจ๊ะ จะไปทานข้าวรึเปล่า" เสียงใสๆของสาวน้อยหน้าหวานเอ่ยถามเพื่อนสาว"ไปจ้ะ เมื่อเช้ารันไม่ได้ทานข้าว หิวมากเลย" พูดพลางยิ้มให้เพื่อน"ก็..พิณว่าจะชวนรันไปสมัครเข้าค่ายอาสาพัฒนาน่ะ ไปดูรูปที่พี่ๆเค้าจัดบอร์ดที่โรงอาหารกลางก่อนก็ได้นะ เผื่อว่ารันจะสนใจ คือจริงๆแล้ว พิณอยากไปน่ะ แต่ไม่มีเพื่อน" ว่าแล้วพิณก็ยิ้มแหยๆ"อ๋อ ค่ายที่จะไปสร้างอาคารเอนกประสงค์ให้โรงเรียนใช่ไปมจ๊ะ เมื่อวานรันไปดูรูปแล้วล่ะ สนใจเหมือนกัน เพราะปีหน้าคงไม่มีโอกาสได้เข้าค่ายอีก แต่ดูเหมือนงานก่อสร้างจะหนักนะ""โหย...งานก่อสร้างน่ะ เค้าไม่ให้ผู้หญิงทำหรอกจ้ะ งั๊นทานข้าวเสร็จเราไปสมัครกันเนอะ"พอถึงวันเดินทางไปเข้าค่ายของชมรมอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์เข้าจริงๆ พิณก็ต้องไปคนเดียว"รันต้องขอโทษด้วยนะพิณ พอดีวันนี้หมอนัดตรวจฟันน่ะ อีกสองสามวันจะตามไปนะ" รันสัญญากับพิณเมื่อตอนส่งพิณขึ้นรถ ใจจริงรันก็อยากจะไปวันแรกของการเข้าค่ายและตั้งใจจะอยู่จนปิดค่ายอยู่หรอกนะ แต่หมอก็มานัดตรวจฟันตรงกับวันแรกของการเข้าค่าย ก็เลยต้องตัดสินใจตามไปทีหลัง ยังไงรถของมหาวิทยาลัยก็ต้องมารับคนไปเข้าค่ายทุกวันล่ะน่า รันคิด...."กริ๊ง กริ๊ง"...."สวัสดีค่ะ 204344 ค่ะ""รัน! นี่พิณนะ ไหนบอกว่าอีกสองสามวันจะตามมาไง วันนี้พิณอุตส่าห์โดงานค่ายมารับที่มอนะนี่" ถามเพื่อนสาวอย่างน้อยใจ"อุ๊ย! รันขอโทษมากๆเลยนะพิณ พรุ่งนี้จะไปจริงๆ ขอโทษนะ" น้ำเสียงบอกว่าตกใจ กลัวเพื่อนจะโกรธ"จ้ะ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ต้องมาจริงๆนะ แล้วจะรู้ว่าค่ายนี้สนุกจริงๆ งั๊นแค่นี้นะจ๊ะ"พอวางหูโทรศัพท์ลง รันก็เดินเข้าห้อง เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พลางนึกถึงการใช้ชีวิตในค่ายแล้วยิ้มกับตัวเอง"เอ้า ขอแรงงาน ใครว่างๆมาขนนั่งร้านลงจากรถด้วย"เสียงอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายตะโกนบอกเหล่านักศึกษาชาย ที่กำลังนั่งพักหลังทานอาหารเที่ยงเสร็จ รันกระโดดลงจากรถ พลางทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่รู้จักใครเลย"จ๊ะเอ๋ เป็นไง เหนื่อยมั๊ย" เสียงใสๆของพิณนั่นเอง ยิ้มร่าเริงเชียว ค่ายคงจะทำให้เธอสนุกและมีความสุขมาก"เหนื่อยสิจ๊ะ นั่งในรถตั้ง 6 ชั่วโมง ไม่เห็นบอกกันเลยนะว่าทางขรุขระ ถนนก็เป็นฝุ่นแดง" พูดพลางปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า"จะได้เซอร์ไพรซ์ไง เนี่ย กลิ่นอายของชาวค่ายแท้ๆเลยนะ" พูดจบสองสาวก็หัวเราะให้กันทักทายกันแล้วสองสาวก็เก็บกระเป๋าขึ้นห้องพัก ซึ่งเป็นอาคารเรียนของโรงเรียน โรงเรียนที่นักศึกษาชมรมอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์ได้เดินทางไปทำกิจกรรมออกค่ายอาสาพัฒนาชุมชนนี้ มีอาคารเพียงหลังเดียว คือหลังที่เป็นที่พักของนักศึกษาในตอนนี้ จึงเป็นการดีและตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ที่นักศึกษาได้มาสร้างอาคารเอนกประสงค์ให้อีกหนึ่งหลัง
ตกเย็นหลังทานอาหารเสร็จ ก็มีการประชุมสรุปการดำเนินงานในแต่ละวันและมีการแนะนำสมาชิกใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นวันครบวาระที่จะต้องตั้งหัวหน้าฝ่ายสันทนาการเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับชาวค่ายด้วย รันได้รับการโหวตคะแนนเสียงให้เป็นหัวหน้าฝ่ายสันทนาการ เจ้าตัวถึงกับทำหน้าเอ๋อ ก็เพิ่งมาเข้าค่ายวันแรกก็โดนแกล้งซะแล้ว หลังจากประชุมเสร็จก็มีการจัดสมาชิกชาวค่ายให้เข้ากลุ่มกันเพื่อทำงานในฝ่ายต่างๆในวันรุ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการก่อสร้างที่กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้าง งานสวัสดิการที่ต้องคอยบริการเครื่องดื่มให้ทุกฝ่าย หรืองานอาหารที่วันๆต้องเข้าครัวทำอาหารและไปตลาด นอกจากนี้ยังมีงานด้านประชาสัมพันธ์คอยเก็บภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ในค่าย และงานพยาบาลที่คอยดูแลสุขภาพของสมาชิกชาวค่ายรุ่งขึ้นรันตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษ เพราะนอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากเป็นคืนแรกที่มานอนแปลกที่ ทั้งกลางคืนอากาศยังหนาวเย็นผิดกับกลางวันที่แดดร้อนเปรี้ยง เมื่อลุกแล้วก็รีบไปอาบน้ำเตรียมตัวทำงานที่ได้รับมอบหมาย วันนี้รันกับพิณได้ทำงานฝ่ายสวัสดิการ ซึ่งจะต้องคอยจัดหาน้ำดื่มให้ฝ่ายก่อสร้างที่ต้องทำงานกันกลางแดดร้อน พอยกกระติกน้ำไปให้ฝ่ายก่อสร้างรันกับพิณก็เลยถือโอกาสนั่งดูฝ่ายก่อสร้างทำงาน ซึ่งวันนี้มีการเทคานล่าง หนุ่มๆฝ่ายก่อสร้างครึกครื้นกันใหญ่ เพราะมีสาวๆมาคอยให้กำลังใจ สาวๆก็พลอยรู้สึกสนุกไปด้วย"น้องครับ ช่วยเอาเหล็กแหลมนี่ทิ่มลงบนปูนเวลาพี่เทลงด้วยนะ ทำให้มันเกิดช่องว่างน้อยที่สุด" ฮั่นแน่ มีพี่ๆมาทำความรู้จักซะด้วย ถือโอกาสใช้งานพร้อมสรรพขณะที่กำลังทำงานเพลินๆอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งทำลายบรรยากาศขึ้นมา"น้องๆ ทำไมดำจัง"เสียงพูดดังอยู่ข้างหู พร้อมกันนั้นแขนล่ำๆก็ยกขึ้นมาเทียบเสียงนั้นทำให้รันขุ่นเคืองไม่น้อย ก็แขนของเจ้าตัวคนพูดน่ะ คล้ำกว่าเธอซะอีก แล้วยังมาหาว่าเธอดำ ทั้งๆที่เธอมีผิวสีน้ำผึ้น อันเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาฝรั่งมังค่าแท้ๆรันชะงักงาน เงยหน้าขึ้นมองคนพูด ก็พบกับสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ จนหญิงสาวไม่กล้าสบตานัก เพราะเขินอายกับสายตาคู่นั้น ทั้งๆที่เมื่อกี๊ยังนึกขุ่นเคืองเขาอยู่ เห็นแว๊บๆแค่ใบหน้าคมเข้ม ตัดกับฟันขาวๆที่ยิ้มให้'วิธีทำความรู้จักกับสาวๆแบบใหม่เหรอ' รันคิดพิณหันมากระทุ้งแขนเบาๆพลางกระซิบ "คนอะไรยิ้มน่ารักจัง ฟันขาวๆตัดกับหน้าดำๆเชียว อิอิ สงสัยจะสนใจรันนะ"ตกเย็นพิณก็บอกกับรันว่าคนที่ทักเธอน่ะ เรียนอยู่คณะวิศวะฯ ปี 3 ชื่อ วุธ ออกค่ายมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วล่ะ ทำงานเก่งใช้ได้ แต่อู้งานบ่อย หญิงสาวพยักหน้ารับรู้แต่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น"สวัสดีค่ะชาวค่ายทุกคน วันนี้ก็เป็นวันแรกนะคะที่เราจะได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการกัน ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว แต่เรายังไม่เคยกล่าวสวัสดีกันเลย วันนี้ดิฉันก็ขอเชิญชาวค่ายทุกคนมาร้องเพลงสวัสดีพร้อมทำท่าประกอบด้วยกันนะคะ" สิ้นเสียงของหญิงสาว ทุกคนก็ร้องเพลงและเล่นเกมร่วมกันอย่างสนุกสนาน2-3 วันต่อมา ช่วงบ่ายๆ รันว่างจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายก็หอบเสื้อผ้าเตรียมไปซัก"เอ้า น้องรัน วันนี้จะซักผ้าเหรอ" เสียงพี่เกรียง รุ่นพี่คณะวิศวะฯ ประธานชมรมน้องพิณแฟนคลับนั่นเอง"ค่ะ พอดีวันนี้ว่างงานละ แล้วผ้าก็ชักจะเยอะแล้วด้วย" ตอบพลางยิ้มน้อยๆ"พอดีเลย ซักผ้าให้พี่ด้วยนะ เสื้อ 3 ตัวเอง เดี๋ยวจะเลี้ยงไอติมนะ" พูดจบก็วิ่งไปเอาเสื้อมาให้ทันที หญิงสาวไม่มีโอกาสตอบรับหรือปฏิเสธเลยพอพี่เกรียงหอบเสื้อผ้ามาก็เจอเพื่อนๆที่กำลังเดินมาพักงาน"เอ้า นี่นะ เสื้อ 3 ตัว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเลี้ยงไอติม""น้องรันซักผ้าเหรอ ซักให้พี่ด้วย" พี่เอพูดจบก็วิ่งไปเอาเสื้อ"ซักให้พี่ด้วย" พี่รุตต์ลูกพี่ของพิณกับพี่เอดส์พูดขึ้นพร้อมกัน แล้วรีบวิ่งไปเอาเสื้อ"เอ้า งั๊นพี่ด้วยนะ" รายสุดท้ายพูดจบก็วางเสื้อ 3 ตัวลงบนหอบผ้าของหญิงสาวรันเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มแหยๆ ก็รายสุดท้ายที่ว่านี้ก็อีตาพี่วุธปากร้ายน่ะสิ'ยังไม่สนิทกันซักหน่อยพี่พวกนี้ ซักเองไม่เป็นรึไง' หญิงสาวนึกในใจ"เอ้า เห็นแก่พวกพี่ๆผู้ชายทำงานก่อสร้างมาเหนื่อยๆด้วยนะ" พูดยังกะรู้ความในใจของหญิงสาวรันได้แต่ก้มหน้าก้มตารับเสื้อผ้าไป มารู้ทีหลังว่าตอนนั้นพี่ๆอยากจะทำความรู้จักด้วย'เฮ้อ นึกว่าเป็นเวรกรรม' คิด พลางถอนใจช่วงเย็นขณะรอทานอาหาร รันได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ๆหลายคน หนึ่งในนั้นก็มีพี่วุธด้วย พอฟ้าเริ่มมืด ต่างคนต่างทยอยกับไปอาคารเพื่อรอทานอาหาร ยังคงเหลือรันกับวุธที่นั่งคุยกันอย่างถูกคอ'น้องคนนี้น่ารักดีแฮะ ร่าเริงดี' วุธนึกเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ ชาวค่ายก็พากันนั่งพักให้อาหารย่อยก่อนการประชุมสรุปงานประจำวันจะเริ่มรุตต์ เพื่อนของวุธ บอกกันรันว่า "นี่น้องรันรู้มั๊ย ไอ้วุธมันจะจีบน้องรันนะ" พูดพลางยิ้มล้อเลียนรันเขินเลยแกล้งพูดเสียงดังๆ "บ้าเหรอพี่ ยังไม่รู้จักกันดีซักหน่อย" แล้วก็ลุกไปทางอื่นหลังจากวันนั้น พี่ๆหลายคนที่เคยให้รันซักผ้าให้ ก็ไม่เคยฝากรันอีกเลย มีเพียงแค่ขาประจำคือวุธ นั่นเอง ทำให้รันได้มีโอกาสทำความรู้จักกับวุธมากขึ้น บางวันว่างจากงานก็นั่งคุยกัน จนชาวค่ายคนอื่นๆเห็นก็นึกอิจฉา แซวเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน พิณก็พลอยเป็นไปกะเค้าด้วย ตอนนี้ตามติดลูกพี่แจ ไม่ว่าพี่รุตต์จะไปไหนก็พาน้องพิณไปด้วย จนเกรียงต้องตามไปจีบด้วยกลายเป็นว่าไปไหนไปด้วยกันสามคน แต่รันเองก็ไม่ได้คิดะไรมาก เธอรู้ตัวว่าไม่สวย ซุ่มซ่ามแถมยังโทรมอีก เพราะอยู่ค่ายไม่รู้ว่าจะแต่งตัวไปอวดใคร เธอไม่รู้หรอกว่า ชายหนุ่มได้ไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเธอ จากเพื่อนๆทั้งชายหญิงของเธอเพราะเขานึกชอบในความร่าเริงสดใส น่ารักของเธอ"น้องรัน วันนี้ให้พี่ทานข้าวกลุ่มเดียวกับน้องรันนะ" วุธพยายามเข้ามาตีสนิท"ไม่ได้หรอกค่ะพี่วุธ แบบนี้คนอื่นๆจะว่ารันลำเอียงได้" ตอบแล้วก็จัดกลุ่มทำอาหารต่อ แต่แล้วก็ชะงัก"พี่วุธช่วยจับฉลากจับกลุ่มทานข้าวด้วยสิคะ" บอกพร้อมกับส่งยิ้มให้วุธอมยิ้มแล้วก็ช่วยหญิงสาวแต่โดยดี และแล้ววันนั้นวุธก็จับฉลากได้ทานอาหารกลุ่มเดียวกับรันสมใจ จะเป็นเพราะแรงอธิษฐานหรือเปล่าก็ไม่รู้"ทานเนื้อเยอะๆนะ เดี๋ยวผอม" พูดแล้ววุธก็ตักเนื้อปลานุ่มๆให้หญิงสาว รันขอบคุณเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาทานข้าว"โอ๊ย หมั่นไส้จัง" คนในกลุ่มเดียวกันแซว แล้วพากันลุกไปทานข้าวกลุ่มอื่น ปล่อยให้รันนั่งเขินอยู่คนเดียว วุธเองก็ทำไม่รู้ไม่ชี้นั่งทานต่อ หญิงสาวเขินจัด จนต้องรีบรวบช้อนทำเป็นอิ่มแล้วลุกไป ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งทานข้าวต่อคนเดียวช่วงสันทนาการค่ำวันนั้น มีการจับฉลากบัดดี้บัดด๊อก โดยจับได้ใครป็นบัดดี้ต้องคอยเทคแคร์จะให้รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ ถ้าจับได้ใครเป็นบัดด๊อกจะต้องคอยแกล้งๆๆแล้วก็แกล้งลูกเดียว ไม่มีการถือโทษโกรธเคืองกัน"เฮ้ย กูได้น้องรันเป็นบัดดี้ว่ะ" เพื่อนของวุธกระซิบบอก"งั๊นเอามาเปลี่ยนกัน" วุธอ้อนวอน"มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน" บอกพร้อมกับยิ้ม อย่างมีเลศนัยรันนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมวุธมักใช้ให้ตักน้ำให้ดื่ม ให้ชงกาแฟให้ จนวันเฉลยเกมเธอจึงได้รู้"พี่คะ จับได้ใครเป็นบัดดี้ต้องคอยเทคแคร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมพี่ชอบใช้รันล่ะคะ" ถามขึ้นมาอย่างอดสงสัยไม่ได้"ก็ ให้น้องรันเทคแคร์พี่ไง" ยิ้มหน้าตายรัน.....อึ้ง.....และแล้ววันที่สำคัญของการเข้าค่ายก็มาถึง เรียกกันว่าวันจัด Camp Fire โดยช่วงกลางๆค่ายจะมีงานเลี้ยงกัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ชาวค่ายทำงานให้เสร็จทันกำหนดวันปิดค่าย วันนั้นฝ่ายงานก่อสร้างจะงดทำงานและช่วยฝ่ายสวัสดิการและอาหารเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม บางส่วนก็ต้องไปหาไม้มาทำกองไฟ ทุกคนช่วยกันทำงานอย่างสนุกสนานไม่มีเกี่ยงงอน นอกจากนี้ยังเป็นวันอิสระเปิดตัวได้เต็มที่ กฏค่ายไม่มีผลบังคับใช้ขณะที่รันจัดเตรียมน้ำดื่มให้คนก่อกองไฟต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงประกาศ"ประกาศๆ จากรองผอค.ฝ่ายก่อสร้าง วันนี้น้องรันห้ามทำงานหนักนะครับ พี่วุธเป็นห่วง" เสียงบ่งบอกว่า กำลังได้ที่ แต่รันก็ยังจำได้ว่าเป็นเสียงของวุธ"น้องนก พี่ตี๋ฝากบอกว่าเสริฟน้ำให้ด้วย""น้องพิณ พี่เกรียงขอกำลังใจด้วย" และอื่นๆ....ตบท้ายด้วยเสียงเพลงและเสียงแซวกันเป็นที่สนุกสนาน จากนั้นก็มีเสียงประกาศอีกเป็นระยะๆตกเย็นมีกิจกรรมรอบกองไฟคือการประกวดขวัญใจชาวค่าย หนึ่งในจำนวนนั้นรันได้รับคัดเลือกด้วย วุธเชียร์อย่างออกหน้าออกตา จนถูกทุกคนแซวรุ่งเช้า รันตื่นแต่เช้าเพราะรู้สึกหิว เมื่อคืนมัวยุ่งกับการประกวด เลยไม่ค่อยได้ทานอะไร พอเดินเข้าครัวก็ต้องชะงัก เพราะวุธนั่งทานข้าวอยู่ เธอเขินก็เลยเดินเลี่ยงไปทอดไข่และนั่งทานเงียบๆจากวันนั้น วุธก็จีบรันอย่างออกหน้าออกตา หญิงสาวก็ทำตัวตามปกติ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่วุธก็พอจะดูออกว่าหญิงสาวมีใจให้ ก็ยิ่งรุก ไม่ว่าจะเป็นการสละผ้าห่มให้ เพราะดึกๆอากาศเย็น ซื้อขนมมาฝาก คอยมาคุยมาแหย่ จนนับวันยิ่งสนิทกันขึ้นทุกทีจนกระทั่งถึงวันจะปิดค่าย เป็นวันที่ทุกคนรื่นเริงเป็นพิเศษเพราะจะได้ไปเที่ยวนอกสถานที่ โดยอาจารย์ที่ปรึกษาพิเศษของค่ายได้พาไปที่หาดวิจิตรา ซึ่งเป็นหาดทรายขาวสะอาดตาริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังทานอาหารเสร็จแล้ว ชาวค่ายก็พากันไปเล่นน้ำ รันกับพิณเลือกเล่นน้ำบริเวณห่างจากชายฝั่งประมาณ 5 เมตร ไม่ตื้นหรือลึกจนเกินไปและมีเนินทรายคล้ายเกาะกลางน้ำด้วยขณะที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่นั้น ก็มีมือๆหนึ่งมาจับขา"อุ๊ย บุ๋ม บุ๋ม" พยายามตะเกียกตะกายช่วยตัวเองไม่ให้จมน้ำจนสำเร็จ"แฮ่" วุธนั่นเอง ยิ้มล้อซื่อๆ จนรันนึกโกรธไม่ลง"ตกใจหมดเลย" ก็เล่นมาจับขากันนี่นา"เฮ้ย! นี่ไงคู่นี้ จับไปฝังเลย" เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นสิ้นเสียงชาวค่ายหลายคนก็พากันเฮโลมาจับแขนจับขาลากตัวรันกับวุธไปที่เนินทรายแล้วคุ้ยทรายขึ้นถมทั้งสอลคน โดยให้แขนของวุธพาดบนทรายที่ถมตัวรันอยู่ แล้วถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐาน ทุกคนหัวเราะกันจนท้องขดท้องแข็ง บางคนน้ำตาไหล รันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเพราะตัวเองเป็นคนถูกแกล้ง หันไปมองวุธก็สบสายตาอ่อนโยนคู่นั้นจนต้องรีบหันกลับ สักครู่พอทุกคนพอใจกับผลงานก็ช่วยกันขนทรายออกและดึงตัวไปเล่นน้ำกัน บ้างก็หาทำเลดีๆเพื่อเก็บภาพสวยๆ บ้างก็ใช้ทรายปากันเล่นพองาม บ้างก็นั่งทานขนม บ้างก็นั่งดู วันนั้นเป็นวันที่ทุกคนเป็นอิสระที่สุด ไม่มีงานทำ เล่นน้ำกันให้สนุกเป็นวันสุดท้ายของการอยู่ค่าย จนตะวันบ่ายคล้อย อาจารย์ที่ปรึกษาก็เรียกชาวค่ายทุกคนขึ้นรถกลับรันกับวุธนั่งรถกลับคันเดียวกัน รันสังเกตเห็นว่าวุธมีท่าทีชอบกลเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูดซักที จนใกล้ถึงที่พักวุธจึงเอ่ยปากขึ้นว่า"เดี๋ยวพอลงรถ พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ" รันตอบตกลงทันทีเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าวุธจะบอกอะไร เห็นลังเลอยู่ตั้งนานแต่พอถึงที่พักจริงๆ หลังจากลงรถแล้วรันก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เพราะเปียกมาทั้งตัว วุธได้แต่มองตามแล้วถือโอกาสไปอาบน้ำบ้างพอทุกคนอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ก็นั่งพักรอทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อสุดท้ายของการเข้าค่าย วุธได้โอกาสจึงชวนรันอีกครั้ง เมื่อหาที่เหมาะๆได้แล้ว วุธก็เริ่มถามขึ้นก่อน"เมื่อไหร่รันจะรับพี่เป็นแฟน"รันได้ยินก็ตกใจปนเขินอาย จริงๆแล้วก็เตรียมอกเตรียมใจมาอยู่หรอกนะ แต่เจอถามจริงๆก็อดนิ่งไปครู่ใหญ่ไม่ได้"เมื่อกี๊พี่วุธว่าอะไรนะคะ" เสียงเบาลงเรื่อยๆพร้อมกับก้มหน้าตั้งสติ"พี่ถามว่า เมื่อไหร่รันจะรับพี่เป็นแฟน" ถามออกไปแล้วก็จ้องหน้าคนฟัง รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อคราวนี้รันมีสติดีกว่าเดิม แต่ก็บอกอย่างเขินๆว่า"พี่เล่นถามอย่างนี้เลยเหรอคะ ตอบยากจัง" รันหัวเราะเขินๆ"ก่อนตอบ รันขอถามพี่วุธซักคำถามได้ไหมคะ""อื้อ" พลางก้มหน้า คงเขินเหมือนกัน"พี่วุธชอบรันมั๊ยคะ" ถามเองเขินเอง"ชอบ" วุธตอบสั้นๆ"ชอบแล้วรักด้วยไหมคะ""รักสิ" วุธตอบทันที"พูดง่ายจัง""พูดง่ายแต่ลืมยากนะ" วุธหยอดคำหวาน พลางมองหญิงสาว เห็นเธอกำลังถอนหญ้าอย่างเขินจัด เลยแซวว่าเดี๋ยวหญ้าตายหมด หญิงสาวยิ่งเขินไปใหญ่ก่อนที่หญิงสาวจะทำอะๆรไม่ถูกไปกว่านี้ก็มีเสียงระฆังช่วย"ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ"รับกับวุธจึงรีบลุกไปสมทบกับชาวค่ายอื่นๆ ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายโดนแซววันนี้ไม่มีการสรุปการทำงานประจำวันเช่นเคย แต่มีการเปิดใจของชาวค่ายทุกคน คู่ที่ทุกคนให้ความสนใจอยากฟังเปิดใจมากที่สุดคือวุธกับรัน แต่วุธก็พูดเพียงสั้นๆทำเอาทุกคนที่รอฟังผิดหวังไปตามๆกัน พอถึงตอนรันเปิดใจ ทุกคนจึงตั้งใจฟังเป็นพิเศษ"รันรู้สึกดีใจมากๆเลยนะคะที่ตัดสินใจมาเข้าค่ายในครั้งนี้ เป็นค่ายแรกที่รันอยากมามาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร" พูดพร้อมกับทำตาซึ้ง แต่ต้องค้อนควับเมื่อมีเสียงแซว"พอได้มาเข้าค่ายแล้ว ก็ไม่ผิดหวังเลยนะคะ ชาวค่ายทุกคนน่ารักมากเป็นกันเอง รันจะไม่ลืมทุกคนเลยค่ะ รันต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่ยอมมาเข้าค่ายด้วยกัน และขอบคุณคนๆหนึ่งสำหรับความรู้สึกดีๆที่มีให้กันนะคะ ขอบคุณค่ะ" สิ้นเสียงหญิงสาวก็มีเสียงปรบมือและเสียงแววตามมาเบิ้มยกมือขึ้นถาม"อยากทราบว่าคุณรันรู้สึกยังไงกับพี่วุธครับ""เอ่อ เอาไว้บอกกันสองคนดีกว่านะคะ" รันตอบอายๆเสียงชาวค่ายเฮกันดังกว่าเดิม บรรยากาศครึกคื้น ตรงข้ามกับบรรยากาศรอบนอกที่มืดและเงียบสงัดคืนนั้นวุธนอนหลับฝันดีที่สุด เขาฝันว่าได้พร่ำรำพันคำหวานและกอดรัน แหมตัวเธอช่างนุ่มนิ่มอะไรเช่นนี้"มันเป็นอะไรของมันวะ กอดกูซะแน่นเชียว" เอดส์บ่นเบาๆกับความมืดแล้วหลับตานอนต่อเช้านี้ต่างจากทุกวัน ไม่มีเสียงทำงานของฝ่ายอาหารหรือฝ่ายก่อสร้าง แต่มีเสียงของชาวค่ายที่ช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถของมหาวิทยาลัยเตรียมตัวกลับบ้าน วันนี้แล้วสินะที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือไว้แค่ผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวค่ายทุกคนที่ทำงานได้เสร็จตามกำหนด อาคารเอนกประสงคืที่บนกระเบื้องหลังคาแต่งแต้มด้วยรอยดินสอ เขียนชื่อและความในใจของชาวค่ายเต็มไปหมด แต่เอาเถอะไม่มีใครเห็นหรอกน่า รันหันมองอาคารอีกครั้งราวจะเก็บบันทึกรายละเอียดไว้ในความทรงจำ"รัน ขึ้นรถได้แล้ว จะไม่กลับมอรึไง" เสียงใสๆของพิณตะโกนเร่ง รันจึงรีบวิ่งขึ้นรถ......................"รันจ๋า หวานใจมารอรับไปทานข้าวอยู่ข้างล่างแหนะ คิดอะไรอยู่นั่งอมยิ้มเชียว" เสียงของติ๊ก รูมเมทบอก แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูหลังห้องตะโกนบอกหวานใจของรันที่รออยู่ข้างล่าง รันเดินออกจากห้องได้ยินเสียงแว่วๆว่า"พี่วุธคะ รันนั่งคิดถึงหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว"รันเดินมาหาวุธแล้วยิ้มให้อย่างหวานที่สุด"เมื่อกี๊นั่งอมยิ้มอะไรคนเดียว" วุธยิ้ม"ก็กำลังนึกถึงตอนเข้าค่ายปีที่แล้วน่ะค่ะ คิดแล้วตลกดี เนี่ย รันว่าจะเขียนเรื่องของเราเป็นเรื่องสั้นเก็บไว้ดีไหมคะ" ถามยิ้มๆ"แล้วก็เขียนให้ตัวเองเป็นนางเอกของเรื่องเหรอ" วุธยิ้มด้วยสายตา"ก็แหงอยู่แล้ว" พูดจบทั้งคู่ก็หัวเราะให้กันและกันอย่างมีความสุข