Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
สะดุดรักชาวค่าย

ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนว่า นี่เป็นเรื่องแรกที่แต่งไว้เมื่อปี 2540 เรื่องอาจจะเชยและไม่ดีพอ แต่เกิดจากความพยายาม ณ เวลานั้น เลยไม่ได้เกลาใหม่ค่ะ

สะดุดรักชาวค่าย

"วันนี้คงจะพอแค่นี้นะคะ พรุ่งนี้อาจารย์นัดพวกคุณมาเรียนแปดโมงนะ บอกเพื่อนๆที่ไม่ได้เข้าเรียนคาบนี้ด้วย คาบสุดท้ายอาจารย์จะแนะข้อสอบให้ อยากให้พวกคุณเข้าเรียนกันทุกคน" สิ้นเสียงอาจารย์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมี ปี 2 ก็ทยอยลุกออกจากห้องเรียน บ้างก็ไปทานข้าวที่โรงอาหารกลาง บ้างก็กลับที่พัก เพราะวันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวัน
"รันจ๊ะ จะไปทานข้าวรึเปล่า" เสียงใสๆของสาวน้อยหน้าหวานเอ่ยถามเพื่อนสาว
"ไปจ้ะ เมื่อเช้ารันไม่ได้ทานข้าว หิวมากเลย" พูดพลางยิ้มให้เพื่อน
"ก็..พิณว่าจะชวนรันไปสมัครเข้าค่ายอาสาพัฒนาน่ะ ไปดูรูปที่พี่ๆเค้าจัดบอร์ดที่โรงอาหารกลางก่อนก็ได้นะ เผื่อว่ารันจะสนใจ คือจริงๆแล้ว พิณอยากไปน่ะ แต่ไม่มีเพื่อน" ว่าแล้วพิณก็ยิ้มแหยๆ
"อ๋อ ค่ายที่จะไปสร้างอาคารเอนกประสงค์ให้โรงเรียนใช่ไปมจ๊ะ เมื่อวานรันไปดูรูปแล้วล่ะ สนใจเหมือนกัน เพราะปีหน้าคงไม่มีโอกาสได้เข้าค่ายอีก แต่ดูเหมือนงานก่อสร้างจะหนักนะ"
"โหย...งานก่อสร้างน่ะ เค้าไม่ให้ผู้หญิงทำหรอกจ้ะ งั๊นทานข้าวเสร็จเราไปสมัครกันเนอะ"


พอถึงวันเดินทางไปเข้าค่ายของชมรมอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์เข้าจริงๆ พิณก็ต้องไปคนเดียว
"รันต้องขอโทษด้วยนะพิณ พอดีวันนี้หมอนัดตรวจฟันน่ะ อีกสองสามวันจะตามไปนะ" รันสัญญากับพิณเมื่อตอนส่งพิณขึ้นรถ ใจจริงรันก็อยากจะไปวันแรกของการเข้าค่ายและตั้งใจจะอยู่จนปิดค่ายอยู่หรอกนะ แต่หมอก็มานัดตรวจฟันตรงกับวันแรกของการเข้าค่าย ก็เลยต้องตัดสินใจตามไปทีหลัง ยังไงรถของมหาวิทยาลัยก็ต้องมารับคนไปเข้าค่ายทุกวันล่ะน่า รันคิด

...."กริ๊ง กริ๊ง"....
"สวัสดีค่ะ 204344 ค่ะ"
"รัน! นี่พิณนะ ไหนบอกว่าอีกสองสามวันจะตามมาไง วันนี้พิณอุตส่าห์โดงานค่ายมารับที่มอนะนี่" ถามเพื่อนสาวอย่างน้อยใจ
"อุ๊ย! รันขอโทษมากๆเลยนะพิณ พรุ่งนี้จะไปจริงๆ ขอโทษนะ" น้ำเสียงบอกว่าตกใจ กลัวเพื่อนจะโกรธ
"จ้ะ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ต้องมาจริงๆนะ แล้วจะรู้ว่าค่ายนี้สนุกจริงๆ งั๊นแค่นี้นะจ๊ะ"


พอวางหูโทรศัพท์ลง รันก็เดินเข้าห้อง เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พลางนึกถึงการใช้ชีวิตในค่ายแล้วยิ้มกับตัวเอง

"เอ้า ขอแรงงาน ใครว่างๆมาขนนั่งร้านลงจากรถด้วย"เสียงอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายตะโกนบอกเหล่านักศึกษาชาย ที่กำลังนั่งพักหลังทานอาหารเที่ยงเสร็จ
รันกระโดดลงจากรถ พลางทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่รู้จักใครเลย
"จ๊ะเอ๋ เป็นไง เหนื่อยมั๊ย" เสียงใสๆของพิณนั่นเอง ยิ้มร่าเริงเชียว ค่ายคงจะทำให้เธอสนุกและมีความสุขมาก
"เหนื่อยสิจ๊ะ นั่งในรถตั้ง 6 ชั่วโมง ไม่เห็นบอกกันเลยนะว่าทางขรุขระ ถนนก็เป็นฝุ่นแดง" พูดพลางปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า
"จะได้เซอร์ไพรซ์ไง เนี่ย กลิ่นอายของชาวค่ายแท้ๆเลยนะ" พูดจบสองสาวก็หัวเราะให้กัน

ทักทายกันแล้วสองสาวก็เก็บกระเป๋าขึ้นห้องพัก ซึ่งเป็นอาคารเรียนของโรงเรียน โรงเรียนที่นักศึกษาชมรมอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์ได้เดินทางไปทำกิจกรรมออกค่ายอาสาพัฒนาชุมชนนี้ มีอาคารเพียงหลังเดียว คือหลังที่เป็นที่พักของนักศึกษาในตอนนี้ จึงเป็นการดีและตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ที่นักศึกษาได้มาสร้างอาคารเอนกประสงค์ให้อีกหนึ่งหลัง


ตกเย็นหลังทานอาหารเสร็จ ก็มีการประชุมสรุปการดำเนินงานในแต่ละวันและมีการแนะนำสมาชิกใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นวันครบวาระที่จะต้องตั้งหัวหน้าฝ่ายสันทนาการเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับชาวค่ายด้วย รันได้รับการโหวตคะแนนเสียงให้เป็นหัวหน้าฝ่ายสันทนาการ เจ้าตัวถึงกับทำหน้าเอ๋อ ก็เพิ่งมาเข้าค่ายวันแรกก็โดนแกล้งซะแล้ว
หลังจากประชุมเสร็จก็มีการจัดสมาชิกชาวค่ายให้เข้ากลุ่มกันเพื่อทำงานในฝ่ายต่างๆในวันรุ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการก่อสร้างที่กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้าง งานสวัสดิการที่ต้องคอยบริการเครื่องดื่มให้ทุกฝ่าย หรืองานอาหารที่วันๆต้องเข้าครัวทำอาหารและไปตลาด นอกจากนี้ยังมีงานด้านประชาสัมพันธ์คอยเก็บภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ในค่าย และงานพยาบาลที่คอยดูแลสุขภาพของสมาชิกชาวค่าย

รุ่งขึ้นรันตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษ เพราะนอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากเป็นคืนแรกที่มานอนแปลกที่ ทั้งกลางคืนอากาศยังหนาวเย็นผิดกับกลางวันที่แดดร้อนเปรี้ยง เมื่อลุกแล้วก็รีบไปอาบน้ำเตรียมตัวทำงานที่ได้รับมอบหมาย วันนี้รันกับพิณได้ทำงานฝ่ายสวัสดิการ ซึ่งจะต้องคอยจัดหาน้ำดื่มให้ฝ่ายก่อสร้างที่ต้องทำงานกันกลางแดดร้อน พอยกกระติกน้ำไปให้ฝ่ายก่อสร้างรันกับพิณก็เลยถือโอกาสนั่งดูฝ่ายก่อสร้างทำงาน ซึ่งวันนี้มีการเทคานล่าง หนุ่มๆฝ่ายก่อสร้างครึกครื้นกันใหญ่ เพราะมีสาวๆมาคอยให้กำลังใจ สาวๆก็พลอยรู้สึกสนุกไปด้วย
"น้องครับ ช่วยเอาเหล็กแหลมนี่ทิ่มลงบนปูนเวลาพี่เทลงด้วยนะ ทำให้มันเกิดช่องว่างน้อยที่สุด" ฮั่นแน่ มีพี่ๆมาทำความรู้จักซะด้วย ถือโอกาสใช้งานพร้อมสรรพ

ขณะที่กำลังทำงานเพลินๆอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งทำลายบรรยากาศขึ้นมา
"น้องๆ ทำไมดำจัง"เสียงพูดดังอยู่ข้างหู พร้อมกันนั้นแขนล่ำๆก็ยกขึ้นมาเทียบ
เสียงนั้นทำให้รันขุ่นเคืองไม่น้อย ก็แขนของเจ้าตัวคนพูดน่ะ คล้ำกว่าเธอซะอีก แล้วยังมาหาว่าเธอดำ ทั้งๆที่เธอมีผิวสีน้ำผึ้น อันเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาฝรั่งมังค่าแท้ๆ

รันชะงักงาน เงยหน้าขึ้นมองคนพูด ก็พบกับสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ จนหญิงสาวไม่กล้าสบตานัก เพราะเขินอายกับสายตาคู่นั้น ทั้งๆที่เมื่อกี๊ยังนึกขุ่นเคืองเขาอยู่ เห็นแว๊บๆแค่ใบหน้าคมเข้ม ตัดกับฟันขาวๆที่ยิ้มให้
'วิธีทำความรู้จักกับสาวๆแบบใหม่เหรอ' รันคิด
พิณหันมากระทุ้งแขนเบาๆพลางกระซิบ "คนอะไรยิ้มน่ารักจัง ฟันขาวๆตัดกับหน้าดำๆเชียว อิอิ สงสัยจะสนใจรันนะ"

ตกเย็นพิณก็บอกกับรันว่าคนที่ทักเธอน่ะ เรียนอยู่คณะวิศวะฯ ปี 3 ชื่อ วุธ ออกค่ายมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วล่ะ ทำงานเก่งใช้ได้ แต่อู้งานบ่อย หญิงสาวพยักหน้ารับรู้แต่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น
"สวัสดีค่ะชาวค่ายทุกคน วันนี้ก็เป็นวันแรกนะคะที่เราจะได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการกัน ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว แต่เรายังไม่เคยกล่าวสวัสดีกันเลย วันนี้ดิฉันก็ขอเชิญชาวค่ายทุกคนมาร้องเพลงสวัสดีพร้อมทำท่าประกอบด้วยกันนะคะ" สิ้นเสียงของหญิงสาว ทุกคนก็ร้องเพลงและเล่นเกมร่วมกันอย่างสนุกสนาน

2-3 วันต่อมา ช่วงบ่ายๆ รันว่างจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายก็หอบเสื้อผ้าเตรียมไปซัก
"เอ้า น้องรัน วันนี้จะซักผ้าเหรอ" เสียงพี่เกรียง รุ่นพี่คณะวิศวะฯ ประธานชมรมน้องพิณแฟนคลับนั่นเอง
"ค่ะ พอดีวันนี้ว่างงานละ แล้วผ้าก็ชักจะเยอะแล้วด้วย" ตอบพลางยิ้มน้อยๆ
"พอดีเลย ซักผ้าให้พี่ด้วยนะ เสื้อ 3 ตัวเอง เดี๋ยวจะเลี้ยงไอติมนะ" พูดจบก็วิ่งไปเอาเสื้อมาให้ทันที หญิงสาวไม่มีโอกาสตอบรับหรือปฏิเสธเลย
พอพี่เกรียงหอบเสื้อผ้ามาก็เจอเพื่อนๆที่กำลังเดินมาพักงาน
"เอ้า นี่นะ เสื้อ 3 ตัว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเลี้ยงไอติม"
"น้องรันซักผ้าเหรอ ซักให้พี่ด้วย" พี่เอพูดจบก็วิ่งไปเอาเสื้อ
"ซักให้พี่ด้วย" พี่รุตต์ลูกพี่ของพิณกับพี่เอดส์พูดขึ้นพร้อมกัน แล้วรีบวิ่งไปเอาเสื้อ
"เอ้า งั๊นพี่ด้วยนะ" รายสุดท้ายพูดจบก็วางเสื้อ 3 ตัวลงบนหอบผ้าของหญิงสาว
รันเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มแหยๆ ก็รายสุดท้ายที่ว่านี้ก็อีตาพี่วุธปากร้ายน่ะสิ
'ยังไม่สนิทกันซักหน่อยพี่พวกนี้ ซักเองไม่เป็นรึไง' หญิงสาวนึกในใจ
"เอ้า เห็นแก่พวกพี่ๆผู้ชายทำงานก่อสร้างมาเหนื่อยๆด้วยนะ" พูดยังกะรู้ความในใจของหญิงสาว
รันได้แต่ก้มหน้าก้มตารับเสื้อผ้าไป มารู้ทีหลังว่าตอนนั้นพี่ๆอยากจะทำความรู้จักด้วย
'เฮ้อ นึกว่าเป็นเวรกรรม' คิด พลางถอนใจ

ช่วงเย็นขณะรอทานอาหาร รันได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ๆหลายคน หนึ่งในนั้นก็มีพี่วุธด้วย พอฟ้าเริ่มมืด ต่างคนต่างทยอยกับไปอาคารเพื่อรอทานอาหาร ยังคงเหลือรันกับวุธที่นั่งคุยกันอย่างถูกคอ
'น้องคนนี้น่ารักดีแฮะ ร่าเริงดี' วุธนึก

เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ ชาวค่ายก็พากันนั่งพักให้อาหารย่อยก่อนการประชุมสรุปงานประจำวันจะเริ่ม
รุตต์ เพื่อนของวุธ บอกกันรันว่า "นี่น้องรันรู้มั๊ย ไอ้วุธมันจะจีบน้องรันนะ" พูดพลางยิ้มล้อเลียน
รันเขินเลยแกล้งพูดเสียงดังๆ "บ้าเหรอพี่ ยังไม่รู้จักกันดีซักหน่อย" แล้วก็ลุกไปทางอื่น

หลังจากวันนั้น พี่ๆหลายคนที่เคยให้รันซักผ้าให้ ก็ไม่เคยฝากรันอีกเลย มีเพียงแค่ขาประจำคือวุธ นั่นเอง ทำให้รันได้มีโอกาสทำความรู้จักกับวุธมากขึ้น บางวันว่างจากงานก็นั่งคุยกัน จนชาวค่ายคนอื่นๆเห็นก็นึกอิจฉา แซวเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน พิณก็พลอยเป็นไปกะเค้าด้วย ตอนนี้ตามติดลูกพี่แจ ไม่ว่าพี่รุตต์จะไปไหนก็พาน้องพิณไปด้วย จนเกรียงต้องตามไปจีบด้วยกลายเป็นว่าไปไหนไปด้วยกันสามคน แต่รันเองก็ไม่ได้คิดะไรมาก เธอรู้ตัวว่าไม่สวย ซุ่มซ่ามแถมยังโทรมอีก เพราะอยู่ค่ายไม่รู้ว่าจะแต่งตัวไปอวดใคร เธอไม่รู้หรอกว่า ชายหนุ่มได้ไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเธอ จากเพื่อนๆทั้งชายหญิงของเธอเพราะเขานึกชอบในความร่าเริงสดใส น่ารักของเธอ
"น้องรัน วันนี้ให้พี่ทานข้าวกลุ่มเดียวกับน้องรันนะ" วุธพยายามเข้ามาตีสนิท
"ไม่ได้หรอกค่ะพี่วุธ แบบนี้คนอื่นๆจะว่ารันลำเอียงได้" ตอบแล้วก็จัดกลุ่มทำอาหารต่อ แต่แล้วก็ชะงัก
"พี่วุธช่วยจับฉลากจับกลุ่มทานข้าวด้วยสิคะ" บอกพร้อมกับส่งยิ้มให้
วุธอมยิ้มแล้วก็ช่วยหญิงสาวแต่โดยดี และแล้ววันนั้นวุธก็จับฉลากได้ทานอาหารกลุ่มเดียวกับรันสมใจ จะเป็นเพราะแรงอธิษฐานหรือเปล่าก็ไม่รู้
"ทานเนื้อเยอะๆนะ เดี๋ยวผอม" พูดแล้ววุธก็ตักเนื้อปลานุ่มๆให้หญิงสาว
รันขอบคุณเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาทานข้าว
"โอ๊ย หมั่นไส้จัง" คนในกลุ่มเดียวกันแซว แล้วพากันลุกไปทานข้าวกลุ่มอื่น ปล่อยให้รันนั่งเขินอยู่คนเดียว วุธเองก็ทำไม่รู้ไม่ชี้นั่งทานต่อ หญิงสาวเขินจัด จนต้องรีบรวบช้อนทำเป็นอิ่มแล้วลุกไป ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งทานข้าวต่อคนเดียว

ช่วงสันทนาการค่ำวันนั้น มีการจับฉลากบัดดี้บัดด๊อก โดยจับได้ใครป็นบัดดี้ต้องคอยเทคแคร์จะให้รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ ถ้าจับได้ใครเป็นบัดด๊อกจะต้องคอยแกล้งๆๆแล้วก็แกล้งลูกเดียว ไม่มีการถือโทษโกรธเคืองกัน
"เฮ้ย กูได้น้องรันเป็นบัดดี้ว่ะ" เพื่อนของวุธกระซิบบอก
"งั๊นเอามาเปลี่ยนกัน" วุธอ้อนวอน
"มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน" บอกพร้อมกับยิ้ม อย่างมีเลศนัย

รันนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมวุธมักใช้ให้ตักน้ำให้ดื่ม ให้ชงกาแฟให้ จนวันเฉลยเกมเธอจึงได้รู้
"พี่คะ จับได้ใครเป็นบัดดี้ต้องคอยเทคแคร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมพี่ชอบใช้รันล่ะคะ" ถามขึ้นมาอย่างอดสงสัยไม่ได้
"ก็ ให้น้องรันเทคแคร์พี่ไง" ยิ้มหน้าตาย
รัน.....อึ้ง.....

และแล้ววันที่สำคัญของการเข้าค่ายก็มาถึง เรียกกันว่าวันจัด Camp Fire โดยช่วงกลางๆค่ายจะมีงานเลี้ยงกัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ชาวค่ายทำงานให้เสร็จทันกำหนดวันปิดค่าย วันนั้นฝ่ายงานก่อสร้างจะงดทำงานและช่วยฝ่ายสวัสดิการและอาหารเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม บางส่วนก็ต้องไปหาไม้มาทำกองไฟ ทุกคนช่วยกันทำงานอย่างสนุกสนานไม่มีเกี่ยงงอน นอกจากนี้ยังเป็นวันอิสระเปิดตัวได้เต็มที่ กฏค่ายไม่มีผลบังคับใช้

ขณะที่รันจัดเตรียมน้ำดื่มให้คนก่อกองไฟต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงประกาศ
"ประกาศๆ จากรองผอค.ฝ่ายก่อสร้าง วันนี้น้องรันห้ามทำงานหนักนะครับ พี่วุธเป็นห่วง" เสียงบ่งบอกว่า กำลังได้ที่ แต่รันก็ยังจำได้ว่าเป็นเสียงของวุธ
"น้องนก พี่ตี๋ฝากบอกว่าเสริฟน้ำให้ด้วย"
"น้องพิณ พี่เกรียงขอกำลังใจด้วย" และอื่นๆ....ตบท้ายด้วยเสียงเพลงและเสียงแซวกันเป็นที่สนุกสนาน จากนั้นก็มีเสียงประกาศอีกเป็นระยะๆ

ตกเย็นมีกิจกรรมรอบกองไฟคือการประกวดขวัญใจชาวค่าย หนึ่งในจำนวนนั้นรันได้รับคัดเลือกด้วย วุธเชียร์อย่างออกหน้าออกตา จนถูกทุกคนแซว

รุ่งเช้า รันตื่นแต่เช้าเพราะรู้สึกหิว เมื่อคืนมัวยุ่งกับการประกวด เลยไม่ค่อยได้ทานอะไร พอเดินเข้าครัวก็ต้องชะงัก เพราะวุธนั่งทานข้าวอยู่ เธอเขินก็เลยเดินเลี่ยงไปทอดไข่และนั่งทานเงียบๆ

จากวันนั้น วุธก็จีบรันอย่างออกหน้าออกตา หญิงสาวก็ทำตัวตามปกติ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่วุธก็พอจะดูออกว่าหญิงสาวมีใจให้ ก็ยิ่งรุก ไม่ว่าจะเป็นการสละผ้าห่มให้ เพราะดึกๆอากาศเย็น ซื้อขนมมาฝาก คอยมาคุยมาแหย่ จนนับวันยิ่งสนิทกันขึ้นทุกที

จนกระทั่งถึงวันจะปิดค่าย เป็นวันที่ทุกคนรื่นเริงเป็นพิเศษเพราะจะได้ไปเที่ยวนอกสถานที่ โดยอาจารย์ที่ปรึกษาพิเศษของค่ายได้พาไปที่หาดวิจิตรา ซึ่งเป็นหาดทรายขาวสะอาดตาริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังทานอาหารเสร็จแล้ว ชาวค่ายก็พากันไปเล่นน้ำ รันกับพิณเลือกเล่นน้ำบริเวณห่างจากชายฝั่งประมาณ 5 เมตร ไม่ตื้นหรือลึกจนเกินไปและมีเนินทรายคล้ายเกาะกลางน้ำด้วย

ขณะที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่นั้น ก็มีมือๆหนึ่งมาจับขา
"อุ๊ย บุ๋ม บุ๋ม" พยายามตะเกียกตะกายช่วยตัวเองไม่ให้จมน้ำจนสำเร็จ
"แฮ่" วุธนั่นเอง ยิ้มล้อซื่อๆ จนรันนึกโกรธไม่ลง
"ตกใจหมดเลย" ก็เล่นมาจับขากันนี่นา
"เฮ้ย! นี่ไงคู่นี้ จับไปฝังเลย" เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้น

สิ้นเสียงชาวค่ายหลายคนก็พากันเฮโลมาจับแขนจับขาลากตัวรันกับวุธไปที่เนินทรายแล้วคุ้ยทรายขึ้นถมทั้งสอลคน โดยให้แขนของวุธพาดบนทรายที่ถมตัวรันอยู่ แล้วถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐาน ทุกคนหัวเราะกันจนท้องขดท้องแข็ง บางคนน้ำตาไหล รันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเพราะตัวเองเป็นคนถูกแกล้ง หันไปมองวุธก็สบสายตาอ่อนโยนคู่นั้นจนต้องรีบหันกลับ
สักครู่พอทุกคนพอใจกับผลงานก็ช่วยกันขนทรายออกและดึงตัวไปเล่นน้ำกัน บ้างก็หาทำเลดีๆเพื่อเก็บภาพสวยๆ บ้างก็ใช้ทรายปากันเล่นพองาม บ้างก็นั่งทานขนม บ้างก็นั่งดู วันนั้นเป็นวันที่ทุกคนเป็นอิสระที่สุด ไม่มีงานทำ เล่นน้ำกันให้สนุกเป็นวันสุดท้ายของการอยู่ค่าย จนตะวันบ่ายคล้อย อาจารย์ที่ปรึกษาก็เรียกชาวค่ายทุกคนขึ้นรถกลับ

รันกับวุธนั่งรถกลับคันเดียวกัน รันสังเกตเห็นว่าวุธมีท่าทีชอบกลเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูดซักที จนใกล้ถึงที่พักวุธจึงเอ่ยปากขึ้นว่า
"เดี๋ยวพอลงรถ พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะ" รันตอบตกลงทันทีเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าวุธจะบอกอะไร เห็นลังเลอยู่ตั้งนาน

แต่พอถึงที่พักจริงๆ หลังจากลงรถแล้วรันก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เพราะเปียกมาทั้งตัว วุธได้แต่มองตามแล้วถือโอกาสไปอาบน้ำบ้าง

พอทุกคนอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ก็นั่งพักรอทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อสุดท้ายของการเข้าค่าย วุธได้โอกาสจึงชวนรันอีกครั้ง เมื่อหาที่เหมาะๆได้แล้ว วุธก็เริ่มถามขึ้นก่อน
"เมื่อไหร่รันจะรับพี่เป็นแฟน"
รันได้ยินก็ตกใจปนเขินอาย จริงๆแล้วก็เตรียมอกเตรียมใจมาอยู่หรอกนะ แต่เจอถามจริงๆก็อดนิ่งไปครู่ใหญ่ไม่ได้
"เมื่อกี๊พี่วุธว่าอะไรนะคะ" เสียงเบาลงเรื่อยๆพร้อมกับก้มหน้าตั้งสติ
"พี่ถามว่า เมื่อไหร่รันจะรับพี่เป็นแฟน" ถามออกไปแล้วก็จ้องหน้าคนฟัง รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
คราวนี้รันมีสติดีกว่าเดิม แต่ก็บอกอย่างเขินๆว่า
"พี่เล่นถามอย่างนี้เลยเหรอคะ ตอบยากจัง" รันหัวเราะเขินๆ
"ก่อนตอบ รันขอถามพี่วุธซักคำถามได้ไหมคะ"
"อื้อ" พลางก้มหน้า คงเขินเหมือนกัน
"พี่วุธชอบรันมั๊ยคะ" ถามเองเขินเอง
"ชอบ" วุธตอบสั้นๆ
"ชอบแล้วรักด้วยไหมคะ"
"รักสิ" วุธตอบทันที
"พูดง่ายจัง"
"พูดง่ายแต่ลืมยากนะ" วุธหยอดคำหวาน พลางมองหญิงสาว เห็นเธอกำลังถอนหญ้าอย่างเขินจัด เลยแซวว่าเดี๋ยวหญ้าตายหมด หญิงสาวยิ่งเขินไปใหญ่
ก่อนที่หญิงสาวจะทำอะๆรไม่ถูกไปกว่านี้ก็มีเสียงระฆังช่วย
"ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ"
รับกับวุธจึงรีบลุกไปสมทบกับชาวค่ายอื่นๆ ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายโดนแซว

วันนี้ไม่มีการสรุปการทำงานประจำวันเช่นเคย แต่มีการเปิดใจของชาวค่ายทุกคน คู่ที่ทุกคนให้ความสนใจอยากฟังเปิดใจมากที่สุดคือวุธกับรัน แต่วุธก็พูดเพียงสั้นๆทำเอาทุกคนที่รอฟังผิดหวังไปตามๆกัน พอถึงตอนรันเปิดใจ ทุกคนจึงตั้งใจฟังเป็นพิเศษ
"รันรู้สึกดีใจมากๆเลยนะคะที่ตัดสินใจมาเข้าค่ายในครั้งนี้ เป็นค่ายแรกที่รันอยากมามาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร" พูดพร้อมกับทำตาซึ้ง แต่ต้องค้อนควับเมื่อมีเสียงแซว
"พอได้มาเข้าค่ายแล้ว ก็ไม่ผิดหวังเลยนะคะ ชาวค่ายทุกคนน่ารักมากเป็นกันเอง รันจะไม่ลืมทุกคนเลยค่ะ รันต้องขอขอบคุณเพื่อนๆที่ยอมมาเข้าค่ายด้วยกัน และขอบคุณคนๆหนึ่งสำหรับความรู้สึกดีๆที่มีให้กันนะคะ ขอบคุณค่ะ" สิ้นเสียงหญิงสาวก็มีเสียงปรบมือและเสียงแววตามมา
เบิ้มยกมือขึ้นถาม"อยากทราบว่าคุณรันรู้สึกยังไงกับพี่วุธครับ"
"เอ่อ เอาไว้บอกกันสองคนดีกว่านะคะ" รันตอบอายๆ
เสียงชาวค่ายเฮกันดังกว่าเดิม บรรยากาศครึกคื้น ตรงข้ามกับบรรยากาศรอบนอกที่มืดและเงียบสงัด

คืนนั้นวุธนอนหลับฝันดีที่สุด เขาฝันว่าได้พร่ำรำพันคำหวานและกอดรัน แหมตัวเธอช่างนุ่มนิ่มอะไรเช่นนี้
"มันเป็นอะไรของมันวะ กอดกูซะแน่นเชียว" เอดส์บ่นเบาๆกับความมืดแล้วหลับตานอนต่อ

เช้านี้ต่างจากทุกวัน ไม่มีเสียงทำงานของฝ่ายอาหารหรือฝ่ายก่อสร้าง แต่มีเสียงของชาวค่ายที่ช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถของมหาวิทยาลัยเตรียมตัวกลับบ้าน วันนี้แล้วสินะที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือไว้แค่ผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวค่ายทุกคนที่ทำงานได้เสร็จตามกำหนด อาคารเอนกประสงคืที่บนกระเบื้องหลังคาแต่งแต้มด้วยรอยดินสอ เขียนชื่อและความในใจของชาวค่ายเต็มไปหมด แต่เอาเถอะไม่มีใครเห็นหรอกน่า รันหันมองอาคารอีกครั้งราวจะเก็บบันทึกรายละเอียดไว้ในความทรงจำ
"รัน ขึ้นรถได้แล้ว จะไม่กลับมอรึไง" เสียงใสๆของพิณตะโกนเร่ง รันจึงรีบวิ่งขึ้นรถ

......................

"รันจ๋า หวานใจมารอรับไปทานข้าวอยู่ข้างล่างแหนะ คิดอะไรอยู่นั่งอมยิ้มเชียว" เสียงของติ๊ก รูมเมทบอก แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูหลังห้องตะโกนบอกหวานใจของรันที่รออยู่ข้างล่าง รันเดินออกจากห้องได้ยินเสียงแว่วๆว่า
"พี่วุธคะ รันนั่งคิดถึงหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้ นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว"
รันเดินมาหาวุธแล้วยิ้มให้อย่างหวานที่สุด
"เมื่อกี๊นั่งอมยิ้มอะไรคนเดียว" วุธยิ้ม
"ก็กำลังนึกถึงตอนเข้าค่ายปีที่แล้วน่ะค่ะ คิดแล้วตลกดี เนี่ย รันว่าจะเขียนเรื่องของเราเป็นเรื่องสั้นเก็บไว้ดีไหมคะ" ถามยิ้มๆ
"แล้วก็เขียนให้ตัวเองเป็นนางเอกของเรื่องเหรอ" วุธยิ้มด้วยสายตา
"ก็แหงอยู่แล้ว" พูดจบทั้งคู่ก็หัวเราะให้กันและกันอย่างมีความสุข




Create Date : 12 ตุลาคม 2548
Last Update : 13 ตุลาคม 2548 12:05:26 น. 4 comments
Counter : 403 Pageviews.

 
มารออ่านต่ออย่างใจจดใจจ่อนะคะ


โดย: อพันตรี วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:14:00:53 น.  

 
จะมาต่อพรุ่งนี้นะคะ
ไปทำงานละ


โดย: zarzia (zarzia ) วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:14:17:41 น.  

 
แล้วจะแวะมาอ่านใหม่นะคะ


โดย: oryzaja วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:15:21:49 น.  

 
เรื่องนี้ขอไว้อาลัยแด่ พี่รุตต์ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นมาตลอดจนถึงนาทีสุดท้าย

"ค่ายสร้างคน คนสร้างค่าย"

ระลึกถึงเสมอ


โดย: zarzia (zarzia ) วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:12:10:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zarzia
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add zarzia's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.