|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
ฟรีไดฟ์ (Freedive) กีฬาที่ผสมผสานความแอดเวนเจอร์เข้ากับศาสตร์โยคะ |
|
7 เหตุผล ทำไมต้องฟรีไดฟ์ (Freedive)
ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ฟรีไดฟ์ ถือเป็นกีฬาที่มีอัตราการเติบโตเร็วมาก โดยเฉพาะในประเทศเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย เราลองมาดูเหตุผลที่ทำให้คนหันมาเล่นฟรีไดฟ์กันค่ะ
1.เป็นกีฬาที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ผสมผสานการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ทำให้หัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรง เพราะเวลาที่เราต้องฝึกหายใจ และกลั้นหายใจนั้น จะช่วยทำให้ปอดแข็งแรงขึ้น มีนักกีฬาฟรีไดฟ์หลายคนที่เคยเป็นโรคหอบหืดก่อนหันมาฝึกฟรีไดฟ์แบบจริงจังจนอาการหอบหืดหายไป ยกตัวอย่างเช่น คุณ Stig Severinsen เจ้าของสถิติกลั้นหายใจได้นานที่สุดในโลก และเจ้าของหนังสือ Breatheology (www.breatheology.com) นอกจากนี้ ขณะที่เราตีฟินอยู่ใต้น้ำ เราต้องใช้กำลังขา และสะโพกอย่างมาก ซึ่งเป็นการเผาผลาญแคลอรี่ที่ได้ผลดีมาก ในขณะที่เราไม่ได้ใช้อ๊อกซิเจนในการตีฟิน ทำให้ร่างกายเราเหนื่อยมากกว่าการออกกำลังกายแบบใช้อ๊อกซิเจน คนที่เล่นฟรีไดฟ์ใหม่ๆ จะรู้สึกเหนื่อยจนหมดแรง แต่พอฝึกไปเรื่อยๆ ร่างกายเราจะอึดขึ้น และสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานมากขึ้น การดำฟรีไดฟ์เพียงแค่ 1 วัน จะช่วยเบิร์นไขมันหน้าท้องของคุณได้ดีมาก 2. การหายใจด้วยกล้ามเนื้อกระบังลม (Diaphragmic breathing หรือ Belly breathing) ในขณะที่เราเตรียมตัวหายใจก่อนที่กลั้นหายใจ แล้วลงไปใต้น้ำ เราจะใช้วิธีการหายใจเข้าลึกๆ โดยดันกล้ามเนื้อกระบังลมลงให้อากาศไหลเข้าปอดได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ท้องจะป่องออก และหายใจออกยาวๆ ผ่านทางปากโดยการเผยอริมฝีปากหน่อยนึง แล้วใช้ฟันปิดกั้นทางเดินของอากาศ ทำเสียงเหมือนตัวซี เพื่อควบคุมให้อากาศไหลออกช้าๆ (Pursed lip breathing) ซึ่งเป็นวิธีการหายใจแบบโยคะ ซึ่งการหายใจแบบนี้จะเพิ่มปริมาณอ๊อกซิเจนจากการหายใจเข้าไปเต็มปอด ช่วยเพิ่มปริมาตรของปอด และช่วยให้ปอดแข็งแรง ลิงก์วีดีโอการหายใจแบบ Belly breathing และ Pursed lip breathing https://bit.ly/Bellybreathing)
3. การกลั้นหายใจทำให้มีสมาธิมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าจะมีเรื่องเข้ามาในสมองประมาณ 60,000 เรื่อง ต่อวัน (Monkey brain) ในขณะที่เรากลั้นหายใจนั้น ไม่มีอากาศไหลเข้า-ออก ทำให้ไม่มีแรงไปกระทำต่อสมอง สมองจะหยุดสั่น ทำให้สมองของเราไม่เกิดความคิดฟุ้งซ่านเหมือนตอนที่เราหายใจอยู่ ทำให้เราสามารถเข้าสู่สมาธิได้เร็วกว่าปกติ และในขณะที่เรากลั้นหายใจนานขึ้น เราจะเริ่มรู้สึกถึงความสงบ และการเข้าถึงจิตใต้สำนึก และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้นักฟรีไดฟ์รู้สึกฟินน์หลังจากการดำฟรีไดฟ์ ทั้งๆ ที่เหนื่อยแสนเหนื่อย
4. การกลั้นหายใจไปกระตุ้นให้ม้ามบีบตัว และปล่อยเม็ดเลือดแดงกลับเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ม้ามเป็นอวัยวะที่เก็บเซลล์เม็ดเลือดแดงที่รอการกำจัดทิ้ง แต่เมื่อเรากลั้นหายใจ ร่างกายจะรับรู้ว่าเราเริ่มได้รับอ๊อกซิเจนน้อยลง ด้วยกลไกการเอาชีวิตรอดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (Mammalian dive reflex) ร่างกายจะไปสั่งให้ม้ามบีบตัวเพื่อส่งเซลล์เม็ดเลือดแดงกลับเข้าสู่กระแสเลือด ในเซลล์เม็ดเลือดแดงแต่ละเซลล์จะมีโปรตีนฮีโมโกลบินซึ่งทำหน้าที่จับกับอ๊อกซิเจนที่เข้ามาแล้วปล่อยออกไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นการเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดแดงให้กับเลือดจะช่วยให้มีการจับอ๊อกซิเจนที่มีอยู่ในร่างกายได้มากขึ้น เรื่องนี้มีตัวอย่างให้เห็นในนักฟรีไดฟ์ที่มีเซลล์เม็ดเลือดแดงต่ำ หรือเป็นพาหะธาลัสสซีเมีย หลังจากดำฟรีไดฟ์เป็นประจำ พบว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นในทุกๆ ครั้งที่เค้าทำการบริจาคโลหิต
5. ฟรีไดฟ์เป็นกีฬาที่ร่างกายได้อยู่กับธรรมชาติ 100 % ร่างกายจะได้การชาร์จแบตจากการออกทะเล ได้ดำน้ำอยู่กับธรรมชาติ และได้ไปพบปะกับผู้คนที่รักการดำน้ำเหมือนกัน การชาร์จพลังงานให้กับร่างกายและจิตใจนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนในวัยทำงานในยุคนี้ ทำให้สมองปลอดโปร่ง และกลับมาทำงานได้อย่างมีชีวิตชีวามากขึ้น
6. สำหรับสาวๆ ที่หุ่นดี และรักการออกกำลังกาย นิยมหันมาดำฟรีไดฟ์อวดหุ่นในชุดบิกินี่กันมากขึ้น และถ่ายรูปสวยๆในชุดบิกินี่อวดหุ่นที่เป๊ะ ปัง เป็นการช่วยให้เรามีความรักในตัวเองมากขึ้น ช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเองในการดูแลสุขภาพต่อไป และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ที่อยากหุ่นดีอีกด้วย
7. ถ้าหากเราต้องการดำฟรีไดฟ์จริงจังมากขึ้น แบบนักฟรีไดฟ์อาชีพ เราต้องหันมาดูแลตัวเองมากขึ้นในเรื่องของการควบคุมอาหาร เพราะเราต้องลีนไขมันออก เพื่อที่จะให้ลงไปใต้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักฟรีไดฟ์หลายคนหันมาทานมังสวิรัติ เพื่อรักษาสภาวะความเป็นด่างของเลือดซึ่งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยลดการสะสมของอนุมูลอิสระที่เกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ยังต้องงดผลิตภัณฑ์จากนม และแป้งแปรรูปต่างๆ ที่ส่งผลต่อการปรับแรงดันในหู ดังนั้นด้วยความรักในกีฬาฟรีไดฟ์จึงทำให้นักฟรีไดฟ์หลายๆ คนหันมาใส่ใจกับการบริโภคอาหารไปโดยปริยาย
และนี่ก็เป็น 7 เหตุผล ที่น่าจะทำให้คนที่หันมาเล่นกีฬาฟรีไดฟ์เสพติดกับการดำฟรีไดฟ์ แล้วก็ชวนเพื่อนมาเรียนฟรีไดฟ์กันมากขึ้น กีฬาฟรีไดฟ์นี้แบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งแอดมินจะขอนำเสอนประเภทกีฬาฟรีไดฟ์ในบทความถัดไปนะคะ
สนใจอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ที่ https://www.zanookdive.com/blog/
Create Date : 22 มิถุนายน 2564 |
|
0 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2564 11:54:16 น. |
Counter : 868 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|