Often one goes for one thing and finds another
Photobucket
Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าจาก Kataragama

วันนี้อยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Kataragama อันเป็นชื่อเมืองที่หลายคนอาจไม่คุ้นนัก ฟังจากชื่อบางคนอาจเดาว่าเป็นเมืองญี่ปุ่นไปก็ได้ แต่จริงๆแล้ว ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของประเทศศรีลังกาต่างหาก Kataragama เขียนเป็นภาษาแบบไทยบาลีว่า กฎรคาม (อันเป็นที่มาของชื่อจตุคามที่เคยเป็นที่นิยมกันอยู่พักหนึ่งในบ้านเรานั่นแหละ)

บังเอิญว่าเมื่อครั้งที่เดินทางไปที่ Barberyn Beach Ayurveda Resort ที่เมือง Weligama ทางตอนใต้ของศรีลังกา และเดินทางต่ออีกร้อยกว่ากิโลเมตรมายังฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศมายังวัดแห่งนี้ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งก็เป็นเวลาที่เขากำลังจัดงานเทศกาลประจำปีครั้งยิ่งใหญ่กันอยู่พอดี



อันที่จริง เมือง Kataragama หรือ กฎรคาม นี้เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวศรีลังกาทั้งพุทธและฮินดูนิยมเดินทางมาแสวงบุญ บางกลุ่มคนที่ศรัทธานั้นมีการเดินแสวงบุญกันทุกปี ที่เรียกว่า Pada Yatra โดยตั้งต้นเดินกันจากเมืองจัฟน่าที่อยู่ตอนเหนือสุดของประเทศทีเดียว ใช้เวลาเดินกันแรมเดือนกว่าจะมาถึงเมืองกฎรคามแห่งนี้

วัดกฏรคามนี้เคารพบูชาพระสกันท์ (Skanda หรือเรียกตามภาษาทมิฬว่า Murukan) หรือที่เรารู้จักกันในนามพระขันธกุมาร พระขันธกุมารนี้เองทรงเป็นโอรสของพระศิวะและพระอุมาเทวี แถมยังเป็นน้องของพระพิฆเนศวร์เสียด้วย

ในตำนานเก่าแก่นั้นเชื่อว่าพระขันธกุมารนี้เป็นเทพเจ้าแห่งการสงครามและความสุขสงบ บ้างก็ขนานนามว่า God of War and Peace ฟังดูขัดแย้งกันใช่ย่อย แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ตำนานเล่าไว้ก็ฟังดูมีเหตุมีผลไม่น้อย
เขาเล่ามาว่าพระขันธกุมารนี้เกิดมาเพื่อปราบอสูรร้ายตารกา (ซึ่งก็ตรงกับ ตรีบุรำในเรื่องรามเกียรติ์ของไทย)

ที่มาก็คือมีอยู่อสูรตนหนึ่งชื่อว่า ตารกา นั่งบำเพ็ญภาวนาจนกระทั่งได้ขอพรจากพระพรหม ตารกาแกมโกงก็เลยขอพรว่า อย่าได้พ่ายแพ้หรือถูกสังหารจากผู้ใดในสามโลกเลย ยกเว้นเสียแต่ผู้เป็นโอรสของพระศิวะเท่านั้น เพราะตารกาในขณะนั้นเชื่อว่า ภายหลังจากที่พระนางสตีได้เผาตัวตายทำให้พระศิวะอาลัยยิ่งนัก เอาแต่นั่งบำเพ็ญตบะ จึงคงไม่สามารถมีบุตรได้อีก แต่เมื่อมีพระขันธกุมารถือกำเนิดแล้ว อสูรตารกาทราบเข้าก็ออกตามหาหวังจะสังหาร

อันที่จริงตำนานนี้สนุกมาก อสูรตารกาสร้างความเดือนร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง ไม่เว้นแม้กระทั่งพระอินทร์ พระอินทร์จึงบินไปฟ้องพระพรหม พระพรหมจำได้ถึงพรที่ตนให้ไว้แต่ตารกา เลยต้องแก้ไขโดยให้กามเทพไปแผลงบุษปศรให้พระศิวะหลงใหลนางปารวตี (ซึ่งในตำนานบอกว่าเป็นพระนางสตีกลับชาติมาเกิด) เรื่องเล่านี้มีอีกยาว เช่นพระศิวะยังไม่พร้อมมีลูก พระอัคนีจึงต้องนำน้ำเชื้อบินข้ามแม่น้ำคงคา เผลออ้าปาก น้ำเชื้อนั้นก็ผล่นลงไปผสมพันธุ์กันแม่น้ำคงคา จึงกำเนิดเป็นกุมารน้อยขันธกุมารขึ้น
เมื่ออายุได้ 12 ปี พระขันธกุมารทรงสงครามกับตารกาสูรและสังหารเจ้าอสูรร้ายได้สำเร็จความสงบสุขจึงกลับมาสู่โลกอีกครั้งหนึ่ง

ทุกๆปีที่วัดกฎรคามจะมีงานเทศกาลใหญ่เพื่อบูชาพระขันธกุมาร ซึ่งก็จะมีผู้คนแห่แหนจะมากันอย่างเนืองแน่นจากทั่วประเทศ ในงานมีทั้งขบวนแห่ที่สวยงามอลังการ แม้แต่ช้างยังก็จัดแต่งตัวกันไม่แพ้มนุษย์ทีเดียว ขอบอกว่างานนี้คนแน่นมากถึงมากที่สุด ทางเดินเข้างานนี้เบียดเสียดแทรกไหล่คนแขกกันแบบไม่มีเกรงใจ ขบวนแห่นั้นยาวนานพอควร ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนเข้าไปยังตัวอุโบสถกัน



ดูๆไป พุทธศาสนาและฮินดูเป็นอะไรที่แตกกันไม่ออกเลย โดยเฉพาะที่ประเทศศรีลังกาแห่งนี้ แม้ว่าที่นี่จะเป็นวัดพุทธ แต่พิธีกรรมมากมายก็มีความเป็นวัฒนธรรมประเพณีแบบฮินดูมาผสมผสาน ชาวฮินดูถวายสิ่งของและขอพรและการปกปักคุ้มครองจากองค์พระขันธกุมารในสถานะของพระเจ้า ชาวพุทธเองก็มาทำการบูชาพระโดยนำผลไม้ใส่ถาดมาวางไว้ที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ในวัดและภายในอุโบสถเช่นกัน



งานเทศกาลใหญ่อย่างนี้เขาจัดกันยาวนานถึง 20 วันเลยทีเดียว ขบวนแห่ก็จะมีในวันท้ายๆ เด็กแขกติดหนวดเครามาเต้นกันในขบวนแห่น่ารักดีไม่หยอก
งานจะสิ้นสุดลงด้วยพิธีกรรมข้ามน้ำ water-cutting ceremony) ในวันพระจันทร์เต็มดวงของเดือนสิงหาคม ผู้คนที่จะมาร่วมพิธีนี้จะแต่งชุดขาว เดินเร็วๆ แบบจ้ำๆข้ามน้ำตื้นๆแค่ข้อเท้ามาอีกฝั่งหนึ่งของบริเวณวัด จากนั้นถึงจะเข้าไปบูชาพระขันธกุมารในอุโบสถกัน



ไม่ไกลจากวัดกฎรคามนี้เป็นที่ตั้งของเจดีย์ใหญ่ Kiri Vehera ที่เชื่อว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 และเป็นสถานที่หนึ่งในสิบหกแห่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาเผยแพร่พุทธศาสนาในศรีลังกา เดี๋ยวไว้จะเขียนเล่าเรื่องเจดีย์แห่งนี้ให้อ่านกันต่อไป


Create Date : 04 มีนาคม 2553
Last Update : 4 มีนาคม 2553 20:07:23 น. 1 comments
Counter : 1397 Pageviews.

 
ชอบอ่านค่ะ สนุกดี


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:16:34:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i@home
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Latest Travel News Provided by

ASIA Travel Tips.com

Hotels - News - Reviews

Friends' blogs
[Add i@home's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.