มีนาคม 2553

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Trip มาเก๊า ฮ่องกง : วันที่ 2 Macau ไทปา ฟิชเชอร์แมน ประภาคารเกีย วัดอาม่า เซนาโด้
วันที่สอง มาเก๊า

1. ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไทปา และเดินเล่นใน ไทปาก่อน มีวัดด้วย

2. ไป Fisherman’s Wharf เป็นแบบสวนสนุก และพวก Mall ถ่ายรูปสวย

3. ไป ประภาคารเกีย ต้องไปเพราะอยากขึ้นลงกระเช้า ในสวน ฟลอรา

4. ไป วัดอาม่า อันนี้จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องไปถ่ายรูปที่ตำนาน อาม่าขึ้นมาเก๊า

5. ไป ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล จำเป็นที่สุด แถวนี้ก็อยู่ละแวกเดียวกับ เซนาโด้แสควร์ล่ะ

6. จบที่เกาะไทปาใกล้ที่พักเป็นถนนสายโรแมนติก และถนนสายอาหาร
Note : ทำการบ้านไปก่อนว่าจะไปสถานที่เหล่านี้ หลังจากไปสถานที่จริงก็ไปตามแผนเดิม ตามที่เรียงข้างบน เปลี่ยนการเรียงลำดับ เพราะตอนแรกกะจะไป Fisherman’s wharf ตอนเย็น แต่มีรถ รร.ไปถึงเลยก็เลยไปก่อนเป็นที่แรก ๆ เพราะไม่เสียค่ารถ

..................................................................................................................................

1. เดินเล่นที่ไทปา
ตอนเช้า เห็นว่า Shuttle Bus ก็สามารถไปเที่ยว Fisherman’s Wharf ได้ ก็เลยกะว่าจะไปตอนประมาณ 9 โมง แล้วก็เลยรีบเดินไปหาอะไรรับประทานที่ถนนสายอาหารเดินไปเรื่อย ๆ ที่หมู่บ้านไทปา เห็นร้านเบอร์เกอร์แวะซื้อทาร์ตไข่ก่อนเลย $6 ขนมปัง $5 พอเดินไปอีกเจอ Café Tai Lei Loi Kei พอดีร้านขึ้นชื่อตามในหนังสือซะด้วย แพงเหมือนกัน $16 สำหรับแฮมเบอร์เกอร์หมูล้วน ๆ เลย ก็อร่อยนะ แล้วก็กาแฟ ไมโล น้ำ ทาร์ตไข่ แถวนั้นแหละ ร้านเบเกอร์รี่เห็นมีสัก 2 ร้าน แพงกว่าบ้านเราหน่อยนึง
เดินไปถ่ายรูปไป ตึกสวย ๆ แถวพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไทปา อยากเข้ามากแต่ยังไม่เปิดเลย ถนนแถวนั้นก็จะเป็นแบบระลอกคลื่น พิพิธภัณฑ์นี้จะเป็นบ้านมี 5 หลังภายนอกคล้าย ๆ กันเลย สีเขียวอ่อน ๆ สงบ สวยมาก ติดกับแม่น้ำด้วย

ผ่านวัด Tin Hua Tample มีธูปแขวนอยู่หน้าวัดเป็นม้วน ๆ เราว่าดูคลาสลิกดี ตรงหมู่บ้านไทปา ตึกก็สวยงาม ถ่ายรูปสวยมาก ๆ เลย สีเขียว ๆ ส้ม ๆ เดินไปเรื่อย ๆ ตามป้าย ไม่ยาก ก็จะเห็น โบสถ์พระแม่คาร์เมล (The Cuurch of Our Lady of Camel) เดินแถวนั้นแหละวนไปวนมาแล้วก็กลับโรงแรมดีกว่า บางร้านยังไม่เปิดเช้าอยู่ไว้มาเดินเล่นตอนเย็นใหม่

ข้อมูล : ไทปา

ที่ไทปามีสนามบินนานาชาติมาเก๊า มหาวิทยาลัยมาเก๊า และสนามกีฬามาเก๊า มีบ้านเรือนอาคารเก่า ๆ มี Food Steet รวมอาหารนานาชาติ ขนมของโปรตุเกส อิตาลี และญี่ปุ่น จีน เวเนเชี่ยน ก็อยู่ที่ เกาะไทปา























2. ไป Fisherman’s Wharf เป็นแบบสวนสนุก และพวก Mall ถ่ายรูปสวย

เดินกลับไปขึ้นรถฟรีไป ที่ท่าเรือ Ferry Terminal (ถ้าใครจะต่อเรือไปฮ่องกง จอง First Ferry ที่นี่ก็ได้ แต่เราจองของ Cotai Jet เจ้าของคือเวเนเชี่ยน) พอถึงก็เดินไป Fisherman’s Wharf สวยมาก ไม่ร้อนด้วย ก็เราไปเช้าอยู่เลย ถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งน้าน

ข้อมูล : Fisherman’s Wharf

เป็นสวนสนุกผสมกับร้านขายของ มี 3 ส่วนคือ Dynasty Wharf จำลองสมัยราชวงศ์ถัง สอง East meets West :มีร้านค้า เวทีการแสดงเหมือนโรมัน ถ่ายรูปสวย มี Valcano : ภูเขาไฟจำลอง สาม Legend Wharf : Shopping อยู่ในอาคารสไตล์ยูโรเปียนผสมลาติน พื้นที่ 93,000 ตรม. เปิด 24 ชม. มาเดินเล่นได้ตลอดไม่เสียค่าเข้าชมด้วย

















3. ไป ประภาคารเกีย ต้องไปเพราะอยากขึ้นลงกระเช้า ในสวน ฟลอรา

แล้วเราก็ถามยามแถว Fisherman’s Whart ว่าไปประภาคารเกีย นั่งรถเมล์ไปทางไหน เค้าบอกว่าให้ไปแท็กซี่ดีกว่าไม่ค่อยไกลเท่าไหร่ ดูจากแผนที่ก็ใกล้ ๆ (เราดูแผนที่ถือไว้ตลอดเลย) เดินไปเรื่อย ๆ เห็น Casino Sand ด้วย เดินอ้อมไปไม่ถูก เลยนั่งแท็กซี่ ผ่านรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม (รู้งี้เดินไปที่เจ้าแม่กวนอิมก่อนดีกว่า จะลงก็แปลก ๆ เพิ่งขึ้นมาเอง เลยให้ชะลอกดถ่ายรูป แต่ไม่ได้แวะ) แท็กซี่พาขึ้นเขาแล้วให้เดินไปเอง ค่ารถแค่ $21 นับว่าก็ OK สวยดีนะ เราว่า (ใกล้นะขับอ้อมน่าดู) วิวสวยเห็นเมือง ก็พักถ่ายรูป แล้วเราเดินตามแผนที่ ถามไปเรื่อย ๆ ว่าสวนฟลอร่า กับ ทางลงกระเช้าไปทางไหน ไม่นาน เดินไปตามทางก็ถึง ค่าลง คนละ $2 เอง พอลงมาเห็นป้ายรถเมล์ ไปดูสิว่าจะไปไหนต่อ อ๋อไปวัดอาม่าก่อนดีกว่า ไหว้พระแล้วค่อยนั่งรถไปเซนาโด้ เพราะจะมีรถไปเยอะ

Note : รถเมล์ที่ไปดูง่าย ดูที่หัวลูกศร จำไม่ได้สายไร น่าจะสาย 6 ที่นั่งไปวัดอาม่า จริง ๆ ไม่ต้องจำก็ได้ ดูหน้างานดีกว่า เห็นรูปชัด ๆ ว่าไปไหน ไม่แน่ใจถามคนแถวนั้นก็ได้ เราแค่บอกสถานที่ รูป เค้าก้อน่าจะบอกได้ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แล้ว ถามเด็กวัยรุ่นมาเก๊าคนนึง ดูกลัว ๆ ไม่กล้าบอก สงสัยเขิน เหมือนเรามีต่างชาติมาถามเขิน ๆ อยู่ แต่ก็บอกเราได้นะ ให้แลกเหรียญด้วยล่ะ

ข้อมูล : ประภาคารเกีย

สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1637 ชาวโปรตุเกสเรียกว่า “Carlos Vicente da Rocha” เพื่อใช้เป็นหอสำหรับตรวจตราป้องกัน มีโบสถ์และป้อมปืนป้องกันข้าศึก เข้าฟรีค่ะ










4. ไป วัดอาม่า อันนี้จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องไปถ่ายรูปที่ตำนาน อาม่าขึ้นมาเก๊า

นั่งสาย 6 ไปถึงวัดอาม่า : ศาลเจ้าแม่ทับทิมถูกสร้างขึ้นช่วงราชวงศ์หมิง มีหินก้อนใหญ่รูปเรือสำเภาสด เชื่อว่าอาม่าในตำนานได้ก้าวขึ้นสู่มาเก๊า ไปง่ายมาก ถ้าไม่แน่ใจบอกคนขับรถเมล์ให้บอกเวลาไปถึงก็ได้ หน้าวัดอาม่าเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเล เราไม่ได้เข้าไปหรอก เสียเวลา ซื้อไอติมหน้าวัด $7 เหรียญ ความอร่อยสู้แมค บ้านเราไม่ได้เลย แล้วยังน้อยนิดอีก แล้วเราก็เข้าไปไหว้พระ ชอบมาเก๊าตรงที่มีธูปแขวนไว้สวยดี ดูเป็นสัญลักษณ์ของมาเก๊าไปเลย เป็นวน ๆ แล้วยาวด้วย ไหว้พระเสร็จ ก็ไปเดินข้าง ๆ ว่าจะไปจตุรัสลิเลา เป็นบ้านเรือนในสไตล์โปรตุเกสแท้ เงียบ ๆ ไม่ค่อยมีคน อยู่ในซอย แถวนั้นจะมีทางไปโบสถ์เพนญา และคฤหาสน์ขุนนางจีน ต้องไปอีกทางเราเลยไม่ได้ไป เดินไปทางเก่าที่รถเมล์ผ่านมา เข้าซอย ผ่านร้านขายขนม คนเยอะให้ชิมด้วย ไม่ได้ซื้อหรอก ขี้เกียจถือ แล้วไม่ค่อยชอบขนมแบบนี้ด้วย ก็เลยเดินไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่ ไม่มีคนเลยล่ะ ผ่านสถานที่นึงน่าจะใช่ สวย คล้ายในรูปนะ แต่ไม่เหมือนเท่าไหร่ ตึกที่มาเก๊าสวย ๆ บางทีก็เก่า ๆ บ้าง แต่คลาสลิกดี เหนื่อยมาก ก็ดันใส่รองเท้าส้นสูง แต่จริง ๆ แล้วคู่นี้ OK นะ แต่เดินขนาดนี้ก็ไม่ไหว ว่าจะใส่ผ้าใบ ก็ไม่สวยนี่น่า ไม่เป็นไร เด๋วดูคู่ใหม่ที่ เซนาโด้ หรือไม่ก็ฮ่องกง เป็นบู๊ซสวย ๆ สักคู่

หิวแล้ว เดินออกจากซอยไปตามทาง เจอตลาดพอดี เลือกร้านเลยดีกว่า เป็นร้านอาแปะ ข้าวแกง น่ากินมากเลย มีผัก ไก่ทอด เป็ด อีกมากมาย จานละตก 50 บาท เหมือนให้จับกังกิน เยอะกว่าราดข้าวของเรา 2 เท่า กิน 3 คน 2 จาน น้ำชาฟรี อร่อยดี ผ่านไปเจอเป็ดอบ หมูอบ หมูกรอบ น่ากินมาก ๆ แต่เราอิ่มแล้วนี่น่า เดินไปนั่งรถเมล์ไปเซนาโด้ดีกว่า นั่งรถเมล์สายอะไรก็ได้ประมาณ $2.8 เหรียญ (พอไปซื้อของที่เซเว่น ควรให้แบงค์ ทอนมาจะได้เป็นเหรียญ ซื้อสัก 2 รอบก้อได้ ส่วนใหญ่เราให้เกิน ไม่แน่ใจว่าขึ้น 3 คนเค้าจะรวมยอดให้เลยหรือเปล่า หรือคิดทีละคน ให้ผู้รู้ตอบทีค่ะ)











5. ไป ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล จำเป็นที่สุด แถวนี้ก็อยู่ละแวกเดียวกับ เซนาโด้แสควร์

ลงรถเมล์ไปถึง แถวเซนาโด้ ก็เดินหาซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ก่อนเลย (สัญลักษณ์ของมาเก๊าเป็นที่ตั้งของโบสถ์มาเทอร์เดอิ แต่เด๋วนี้เหลือแต่ซากประตูหน้าและบันไดหิน เพราะปี ค.ศ. 1835 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่) เดินไปเรื่อย ๆ เป็นแบบแหล่งช็อปปิ้ง คนเยอะมาก ๆ ขนาดวันธรรมดานะ สถานที่ท่องเที่ยวก็ทะลุกันหมด เดินง่าย เหมือนเดินสยามประมาณนั้น แต่แถวนี้จะมีพวกโบราณสถานอยู่ในแหล่งช็อปปิ้งด้วย เหมือนของเก่ากับของใหม่ปนกันงัยไม่รู้ โบสถ์สวยงามคนเยอะ ใหญ่ด้วย วันนี้ถ่ายรูปไม่ค่อยสวย เพราะประมาณ บ่ายสอง แดดแรงไปหน่อย เดินเข้าไปข้างในโบสถ์ด้วย ข้างในก็เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์โชว์ แม่พระ รูปภาพ และรูปปั้นต่าง ๆ เย็นดี ไม่ร้อนหรอก ข้าง ๆ โบสถ์ เป็น พิพิธภัณฑ์มาเก๊า Hi-light เลยล่ะ แต่เราไม่ได้เข้าไปหรอก เดินเหนื่อย นั่งพักนิดนึง แวะไปดู แล้วลงมานั่งเล่นแถวสวนสาธารณาแถวนั้นก็ร่มรื่นดี

เพื่อนบอกว่าถ้าไปที่นี่ต้องแวะไปกินน้ำมะม่วง $15 อร่อยดี แล้วแวะไปซื้อของเล่นที่ร้านข้าง ๆ โบสถ์หาไม่ยาก หันหน้าเข้าหาโบสถ์ ด้านซ้ายมือเป็นร้านขายน้ำมะม่วงกับขายของเล่น ส่วนขวามือเป็นพิพิธภัณฑ์มาเก๊า ร้านขายของเล่นถ้าของชิ้นใหญ่ราคาถูก แต่ถ้าชิ้นเล็ก ๆ ก็พอ ๆ กับบ้านเราแหละ ต้องดูดีดี แมคเน็ทที่นี่ถูก ไม่แพงเท่าไหร่ (ราคาพอ ๆ กับที่ขายของตลาดเย็นของหมู่บ้านไทปาตอนเย็น) จากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ ก้อจะเจอ โบสถ์เซนต์ดอมินิค : เป็นโบสถ์สีเหลืองสดเก่าแก่กว่า 400 ปี แล้วยังสวยอยู่เลย (คนเยอะมากเราเลยอดเข้าไปดู) แล้วเดินไป เซนาโด้ จตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารเก่าแก่สไตล์นีโอคลาสลิก ทางเดินเหมือนลอนคลื่นชิมขนมไปเดินไป ถ่ายรูปไป

ที่นี่เราต้องไปหาร้าน Restaurante Platao ตามที่หนังสือบอกสักหน่อย เดินไปดูหนังสือหาร้านอยู่ เจอแล้ว สั่งตามเมนูดังเลย ผิดหวังน่าดู ปลาค๊อดอบชีส $150 ไม่ใช่แบบที่เราชอบเลย เฮ้อ มื้อนี้ทำใจหน่อย เราอาจสั่งไม่ดีก็ได้ ก้อเพราะบ่ายสามเอง ยังไม่หิวเลย แพงสุดสุด
เดินต่อไปยังไม่ค่อยทั่วเท่าไหร่ ลูกชายกับพ่อเค้าก็บ่นว่าอยากกลับแถวที่พักคือ ไทปา มากกว่า ไม่พลุกพล่าน เค้าไม่ชอบช็อปปิ้งเท่าไหร่ เลยนั่งรถเมล์กลับไปแถวที่พักสัก สี่โมงเย็นแล้ว



























6. จบที่เกาะไทปาใกล้ที่พักเป็นถนนสายโรแมนติก และถนนสายอาหาร

จบที่เกาะไทปาใกล้ที่พักเป็นถนนสายโรแมนติก และถนนสายอาหาร เดินไปเรื่อย ๆ ผ่านพิพิธภัณฑ์หมู่ป้านไทปามีอยู่ 5 หลัง คล้าย ๆ กันว่าจะเข้า
แต่เค้าจะปิดแล้ว เลยอด แต่ดูแล้วไม่ค่อยมีไร เลยเดินไปถนนสายอาหาร ของรับประทานเยอะมาก แต่แพง จะเข้าร้านไปกินก็แปลกไม่ค่อยมีคนนั่งกินเลย มีแต่ร้านขายขนมขายดี เราไม่ชอบขนมแบบมาเก๊านี่น่า ตอนนี้อยากกินแบบบ้าน ๆ มากกว่า เลยสั่ง หมูกรอบ ข้าว เป็ด ไปกินที่โรงแรม อร่อยดีไม่แพง แต่ข้าวสิ แพงเป็นบ้า $7 = 30 บาท บ้านเรา 5 บาทเอง กินขนม น้ำ ไปเรื่อย ๆ เดินเล่นเผอิญวันนี้วันอาทิตย์มี แผงลอยตั้งเหมือนเปิดท้ายบ้านเรา ขายของเฉพาะวันอาทิตย์ พวกของที่ระลึก แม็คเนท แล้วขายเหมือนที่กรุงเทพฯ เลย เป็นแบบ กิฟช็อปน่ะ









ไปต่อวันที่ 3 อย่าลืมติชมนะคะ



Create Date : 15 มีนาคม 2553
Last Update : 16 มีนาคม 2553 8:04:32 น.
Counter : 861 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาชมภาพสวยๆ กันค่ะ
โดย: mamminnie วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:15:54:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aor_wal
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]