Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ภูทับเบิกสำหรับผมไม่ต้องขึ้นหล่มเก่า หรือนครไทย ก็ได้เพราะไม่อยากเหมือนใคร


เมื่อตุลาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปเที่ยวเพชรบูรณ์กับเพื่อน ๆ เห็นใคร ๆ ก็พูดถึง ภูทับเบิก ว่าต้องไปให้ได้ ก็เลยลองขับรถไปกัน รวม 5 คัน ปรากฏว่า มีผมขึ้นไปได้คันเดียว ส่วนอีก 4 คัน ยอมแพ้ หันหัวกลับ เนื่องจากเจอฝน ถนนลื่นมาก ส่วนผมอาศัย 4wd เลยขึ้นไปได้อย่างสบาย ๆ หลังจากได้ขึ้นถึงยอดสูงสุด สัมผัสแรก อากาศดีมาก เส้นทางสูงชันดี ในใจก็คิด แบบนี้มันต้องขึ้นแบบไม่เหมือนใครน่าจะดี คิดในใจ ปั่นจักรยานขึ้นน่าจะได้อารมย์กว่า ที่ผ่านมาก็เจอมาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะดอยปุย ดอยอินทนนท์ ทุ่งแสลงหลวง วิ่งขึ้นภูกระดึงก็เคยมาแล้ว แต่เส้นทางภูทับเบิกนี่น่าจะเป็น อะไรที่ท้าทายที่สุด

จังหวะดี เพื่อนในชมรมจักรยาน ไบค์เน็ต ตั้งใจจะมาปั่นจักรยานแถวนี้ วันที่ 14-15 พ.ย. กัน ตามแผน ว่าจะปั่นจากทาง บ้านเข็กน้อย ==> ยอดดอยตั่วเพ่ง ระยะทาง ประมาณ 20 กม. ก็เลยถามว่า ไปถึงภูทับเบิกเลยได้มั้ย เพื่อนในทีมก็เลยติดต่อไปชมรมจักรยานเจ้าถิ่น เสือเพชรบูรณ์ โอเค จัดให้ แต่เส้นทาง มันโหดนะ คำตอบของเราคือ บ่ ยั่น ครับ

หลังจากนั้นก็ตั้งตารอวันรอคืน จนถึงกำหนด ทางทีมผม ก็ออกเดินทางจากศรีราชากันเกือบ ๆ สามทุ่ม ตามเส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ผ่านสระบุรี เพชรบูรณ์ ถึงที่พักที่บ้านเข็กใหญ่ ซึ่งมีบ้านเพื่อนมาปลูกไว้ที่นั่นประมาณ ตีสามครึ่ง กว่าจะได้นอนกันก็ตีสี่ ส่วนผมนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ มาหลับได้ตอนตี 5 แป๊บเดียวเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น 6 โมงแล้ว ได้เวลาเตรียมตัว เพื่อไปพบกับทีมเสือภูเขาเพชรบูรณ์ เจ้าภาพ ของเรา ที่บ้านเข็กน้อย (อยู่บนเส้นทาง เพชรบูรณ์-พิษณุโลก บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง) ทีมงานเของผมมาถึงจุดนัดพบ 7 โมงเช้าตามเวลา ทางทืมงานเพชรบูรณ์ วันนี้มากันหลายทีม เพื่อต้อนรับพวกเราอย่างเต็มที่ ทริปนี้ ทางไบค์เน็ต มา 11 คน ส่วน ทางทีมเพชรบูรณ์ 20+2 (สองคนจากสุพรรณบุรี ซึ่งมีหนึ่งเดียวของทริปนี้ที่เป็นผู้หญิงมาด้วย 1 ท่าน )



เพือน ๆ ทีม BikeNet กำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทาง


สถานีตำรวจบ้านเข็กน้อย ที่เราใช้เป็นที่จอดรถยนต์ ยามที่เราเดินทาง ซึ่งน่าจะเป็นที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว


ช่างแบน ดีกรีเป็นแชมป์ประเทศไทย ประเภท B รับถ้วยพระราชทานมาแล้ว

ประตูทางเข้าบ้านเข็กน้อย มองจากฝั่งตรงข้าม จากจุดที่พวกเราจอดรถรอทีม เพชรบูรณ์อยู่



ป้ายบอกทาง บ้านห้วยน้ำขาว 11 กม. เส้นทางของเราวันนี้ เริ่มจากบ้านเข็กน้อย => บ้านห้วยน้ำขาว => ดอยตั่วเพ่ง => ภูทับเบิก รวมแล้วประมาณ 32 กม. เท่านั้นเอง



ตอนนี้ทีมเสือเพชรบูรณ์มาถึงแล้ว กำลังนัดแนะเตรียมความพร้อมกัน งานนี้มีเสบียงมาด้วย ข้าวเหนียว+หมูเส้น คนละห่อ


กว่าจะพร้อมเดินทางกันได้ก็เกือบ 9 โมงเช้า จากบ้านเข็กน้อยซึ่งว่ากันว่า เป็นชุมชนชาวม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มุ่งหน้าไปบ้านห้วยน้ำขาว เส้นทางช่วงนี้ยังคงเป็น ถนนที่อยู่ในสภาพดี รถยนต์วิ่งได้สะดวกพอสมควร แต่ทางก็ถือว่าแคบไปสักหน่อย ระหว่างทาง มีชาวม้ง ช่วยกันมาลงแรง ตัดหญ้าข้างถนน เห็นบอกว่า ทำกันทุกปีก่อน 5 ธันวาคม นัยว่า ทำดีเพื่อพ่อหลวงของเรานั่นเอง ผมก็ปี่นอยู่ช่วงกลาง ๆ กลุ่ม ซึ่งมีทั้งหมด 33 คัน ไปเรื่อย ๆ กลุ่มหน้าทิ้งผมห่างไปเรื่อย ๆ ในใจผมก็คิดว่า เค้าจะรีบไปไหนกัน หนทางอีกยาวไกล แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะ รู้ดีอยู่แล้ว นักปั่น BikeNet ปั่นช้าไม่ค่อยเป็น งานนี้ เสียงเจ้าภาพแซวมาตามสายลม " งานนี้ดีวุ้ย เจ้าภาพนำทางอยู่ด้านหลัง ให้แขกผู้มาเยือนตามอยู่ข้างหน้า " ช่างแบน ก็คอยลงมาดูด้านหลังเป็นระยะ ผมเลยถามว่า ใครนำหน้าอยู่ตอนนี้ " น้าหนึ่งพี่จะมีใครหละ ที่จะดันทุรังขี่ได้แบบนี้ " อิอิ

ในที่สุดก็ถึงจุดหมายแรก บ้านห้วนน้ำขาว จุดนี้จะมีร้านค้า ซึ่งมีน้ำดื่มจำหน่ายเป็นร้านสุดท้ายแล้ว พวกเราต้อง ตุนเสบียบและน้ำที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย สำหรับคนเคยปั่นจักรยานทริปแบบนี้ ต่างรู้ดีว่า น้ำดื่มสำคัญมาก ตัวผมเองก็ เติมน้ำดื่มไปเต็ม ๆ 2 ขวด แต่รวมแล้วก็ไม่ถึง 1 ลิตร

หน้าร้านค้า บ้านห้วยน้ำขาว จุดสุดท้ายที่เราจะมีโอกาส ซื้ออาหารหรือน้ำดื่ม

คุณส้ม เธอก็มาของเธอเรื่อย ๆ ทีแรกใคร ๆ ก็คิดว่า เธอน่าจะไปได้ไม่ตลอดแต่ต้องดูตอนจบ


ชาวม้งที่มาช่วยกันตัดหญ้าข้างถนน จำนวนหลายร้อยคนเลยทีเดียว คันนี้คงแวะมาซื้อเสบียง และจะมุ่งหน้าไปที่น้ำตกสันติสุข จุดหมายเดียวกับพวกเรา



จากร้านค้าประมาณ 2 กม. ก็ถึงทางเข้าน้ำตกสันติสุขแล้ว ในช่วงนี้ ผมยังปั่นจักรยานได้แบบสบาย ๆ เส้นทางแม้นจะเป็นเนินลาดชัน แต่ร่างกายยังถือว่า สดอยู่ พอมาถึงทางเข้าน้ำตก พวกเราก็มาเจอ แหล่งกำเนิดหมอก รอรับเลยฃ



ผมลงไปถึง เพื่อน ๆ ผมก็ลงไปด้านล่างกันหมดแล้ว มาเร็ว เคลมเร็วจริง ๆ แก๊งค์นี้


น้ำตกที่นี่เงียบสงบ คงไม่ค่อยมีใครแวะมาเที่ยวกัน แต่ผมว่าสวยงามดีเหมือนกันนะ


ถ่ายภาพกันใหญ่



ชัยบ้านบึง ขาประจำ สำหรับทริปเที่ยวแบบนี้

รุ่นเก๋า ลายครามทั้งนั้นขอบอก


ถ่ายรูปเสร็จก็ต้องปีนกลับขึ้นไป




หลังจากที่ขึ้นมารวมตัวด้านบน ผมได้ยินเพื่อน ๆ บอกว่า เส้นทางนี้น่าจะถือว่าเป็นเส้นทางที่ โหดระดับห้าดาว เพราะ คุยกับชาวม้งแล้ว รับประกันว่า โหด เห็นบอกว่า ชาวม้ง เค้าเห็นพวกเราปั่นจักรยานกันมาก็เลยถามว่า

" จาไปไหน กัน ?"

จะไป ยอดตั่วเพ่ง และต่อไป ภูทับเบิก

" ตั่วเพ่ง ทับเบิก (ยิ้ม ๆ) ไม่รอกหรอก ไม่รอก "

" ทางไกล ลำบาก ไม่รอก ไม่รอก ถ้าเดินหนะพอไหว "

" ถ้าจาให้ดี ต้องใช้ โมโต นา "

โอเค ผ่าน แบบนี้ยิ่งชอบ 5555 เส้นทางจากน้ำตกไป ดอยตั่วเพ่ง จะไม่มีถนนอีกแล้ว จะเป็น Off Road ทั้งหมด ขอให้รอ ๆ กันหน่อย หลงแล้วจะหาไม่เจอ ทางเสือเพชรบูรณ์ กำชับพวกเรา

เส้นทาง ไหลลงแบบนี้มีให้เห็นช่วงแรกเท่านั้นเองให้ดีใจเล่น


คุณส้มจอดรถเตรียมถ่ายภาพ ก่อน

วันนี้แสงแดดแผดเผา ได้ใจจริง ๆ ตอนนี้ประมาณ 10 โมง

เจอเข้าแล้ว เนินลาดชันยาว ๆ งานเข้าครับงานเข้า


ตอนนี้แรงยังเหลือ ปั่นขึ้นเนินโชว์ได้


มาถึงก่อนก็ได้พักก่อน


ตอนนี้พวกเรามาได้ประมาณ กม. ที่ 10 แล้ว เส้นทางเป็นเนินสูงชันมาตลอดทาง จนถึงเนินนี้ ผมพยายามฝืนปั่นเพื่อจะขึ้นให้ถึงด้านบน ซึ่งเพื่อน ๆ จอดรออยู่ เหลือเพียงแค่ 10 เมตร เท่านั้นเอง เพื่อน ๆ ก็ส่งเสียงเชียร์อีกนิดเดียว มาให้ได้ อย่าให้เท้าแตะพื้นนะ " ยอมหวะ " ตอนนั้น หัวใจผมเหมือนจะย้ายไปอยู่ในหัวเลย เสียงหัวใจลี่นในหัว หายใจไม่ทันแล้ว คิดในใจ งานนี้คงตายแน่ ๆ ว่าแล้วก็กระโดดจากจักรยานทันที รีบหันทิศทางของรถในแนวขวางเพื่อต้านแรงโน้มถ่วง ในใจตอนนั้นก็คิดถึง ภาพยนต์ "ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน" ที่มีพระเอกยืนตายแบบใช้ทวนค้ำตัวไว้ ผมก็อาศัยจักรยานเป็นที่ค้ำตัวไว้ ต้องยืนนิ่งแบบนั้นหลายนาที จน พี่แดงเพือนร่วมทีม ต้องเดินลงมาถาม ไหวมั้ยแป๊ะ มาผมช่วยเอาจักรยานขึ้นไปให้ " อย่าพี่อย่า ถาพี่เอาจักรยานออกจากตัวผมไป ผมอาจจะต้องล้มท้งยืน" 5555


ผมทนยืนตากแดด อยู่ตรงนั้นหลายนาที จน ระดับการเต้นของหัวใจเริ่มปกติ แต่อาการ คลื่นไส้ ยังไม่หาย อาการแบบนี้ถ้าเป็นรถยนต์ก็คงอาการ หม้อน้ำแตก เครื่องโอเวอร์ฮีท นั่นแหละ ผมต้องประคองตัวไปหาที่ร่มนั่งพัก 5 นาทีผ่านไป อาการไม่ดีขึ้น ได้แต่คิดในใจ สงสัยจะไปไม่รอดซะแล้วเรา คง น๊อคที่ กม. 10 นี่แหละ ระหว่างนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ในเป้ ตัวเอง มี Power Gel ที่ผมเตรียมมาถึง 5 ซอง ว่าแล้วก็รีบเอาออกมาเติมเข้าปากทันที เออ ได้ผลจริง ๆ อาการคลื่นไส้ หายเป็นปลิดทิ้ง พละกำลังฟื้นมาอย่างรวดเร็ว อย่างนี้สิถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หลังจากรอเพื่อนจนครบ ก็เริ่มไต่เขาไปกันต่อ

เส้นทางยังคนเป็นเนินสูงชัน ไต่ไปเรื่อย ๆ กลุ่มเริ่มแตก ผมก็ไปเรื่อย ๆ จนไปทันเพื่อนที่นำไปก่อน เราก็จอดรอกลุ่มหลัง ระหว่างนั้นก็เจอ ชาวม้ง ขับรถที่ผมไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร บรรทุกของลงมา แถมมาจอดบริเวณที่เรานั่งพัก เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็เลยถือโอกาสขึ้นไปนั่งถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเลย


ช่างแบนเราขึ้นไปควบใหญ่ จนเพื่อนต้องเตือนว่า ระวัง อะไหล่ของเค้าจะหลุด


ทีมเสือเพชรบูรณ์กับท่าเหิรฟ้า ถูกใจผมมากเลยท่านี้


4wd อาจจะพ่ายเจ้าคันนี้ก็ได้นะ

มาแล้วคุณส้ม หนึ่งเดียวคนนี้


กลุ่มบ้วย

ไปต่อ

หลังจากปั่นต่อมาสักพัก พวกเราก็มาเจอลำธารน้ำ ก็เลยแวะ ดื่มด่ำกับความเย็นของสายน้ำกันสักหน่อย


หลังจากผ่านลำธารน้ำ มาไม่ไกลมาก เราก็เข้าสู่ลานตั่วเพ่ง ที่เสือเพชรบูรณ์เรียกว่า สนามกอล็ฟธรรมชาติ คุณชัยขอให้ถ่ายภาพก่อนเพื่อนเลย

วิวสวย ๆ คุ้มค่ากับค่าเหนื่อยจริง ๆ


เห็นภาพเบื้องหน้าแล้วได้แต่คิดในใจ เหนื่อยแทบตายได้เห็นแค่นี้ก็คุ้มแล้ว มองมาอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นลานที่ราบ เห็นเพื่อน ๆ บอกว่า เป็นลานที่กลุ่ม ออฟโร้ด จะขึ้นมาพักกัน เสือเพชรบูรณ์ ชี้ให้ดูไปยอดเขาเบื้องหน้ามี หน้าผาที่มีลักษณะเป็นแท่งหินใหญ่ ๆ เดี๋ยวเราจะไต่ขึ้นไปบนนั้นแหละ เห็นทางเล็กนั่นมั้ย ส่วนใหญ่จะไม่มีคนทราบว่า จากตั่วเพ่งนี้มีทางเดินเท้าขึ้นไปถึงทับเบิกได้ (อันนี้เรื่องจริง กลับมาถามเพื่อนกลุ่มออฟโร้ด เพือนยังงงเลยว่า มันขึ้นไปได้เหรอ ) แต่ เส้นทางนั้นรับรองได้ว่าไม่ธรรมดา ขนาดม้งรับประกันให้

หลังจากพักรับประทานอาหารที่เตรียมมา ข้าวเหนียวกับหมูเส้น อร่อยจริง ๆ ขอบอก เพื่อนบางท่านก็ทานไม่ลง ส่วนผมก็ทานไม่ลงเหมือนกัน แต่หมดไปสองห่อ

เราเจอคนเฝ้าวัว บนนี้ด้วย มีกระต๊อบ อยู่ 1 หลัง เลยขอน้ำดื่มจากลุงมาเติมกัน แต่ก็ได้ไม่มากนักเพราะ ลุงมีแค่ แกลลอนเดียว ต้องแบ่ง ๆ กันไป หลังจากนั้นก็ต้องดันเนินกันไปต่อ ช่วงแรกต้องเข็นขึ้นอย่างเดียว มีบางช่วงปั่นได้นิดหน่อย


ดูสภาพเส้นทางครับ ทางแบบนี้นับว่ายังดีมากถ้าเทียบกับช่วงในป่า


ดีว่ามีท้องฟ้าอันสวยงามคอยปลอบใจอยู่ตลอดเวลา



เห็นทางแล้ว

มองจากมุมนี้ ดูความชันกันครับ


ยังไม่หมดกับทางชัน ๆ สำหรับเส้นทางนี้




แล้วมาเจอกับตรงนี้อีก จุกครับงานนี้จุก

ไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีได้พักเหนื่อย


เป้าหมายเราอยู่บนโน้น


ในที่สุดก็ถึงยอดดอยตั่วเพ่งแล้ว ตรงนี้มีร่มไม้ให้พักด้วย

ความสูงเทียมเมฆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง


หนึ่งเดียวคนนี้มาถึงก่อน ท่านชายอีกหลายท่านครับงานนี้ ผมขอคารวะ คุณส้มจากสุพรรณบุรี



พี่แดง BikeNet ในวัยเลยมาถึงดอนเมืองแล้ว ยังแข็งแกร่ง คนวัยก่อนถึงหลักสี่


มีนอนแผ่ด้วย


ขอทดลองนำภาพของคุณ ชัยบ้านบึงมาแปะสักภาพสองภาพเพื่อจะได้เห็นภาพที่ได้อารมย์มากขึ้นครับ

นี่ครับคุณชัยบ้านบึง












ชุดนี้เป็นภาพจากกล้องคุณชัยบ้านบึง ถ่ายได้บรรยากาศจริง แบบไม่ต้องบรรยายเลย

ตรงจุดนี้ทั้งหมด 29 คน นั่งพักเก็บแรง กันพักใหญ่ ใครคนหนึ่งสังเกตเห็นอะไรเคลื่อนที่มาทางเรา ความเร็วค่อนข้างสูง แป๊บเดียวก็ได้เห็นโฉมหน้า ผู้มาเยือน กลุ่ม โมโต นั่นเอง มากัน 5 คัน ปรากฎว่าเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ทีมเพชรบูรณ์ จากนั้น กลุ่มโมโต ก็นำเราไปก่อน ในใจ คิดอยากจะไปแบบนั้นจัง



จากนั้นก็เป็นคิวของพวกเรา ทางเสือเพชรบูรณ์ ได้ชี้แจงเรื่องเส้นทางให้กับกลุ่มว่าทางข้างหน้าจะเป็นป่าทึบแล้ว ทุกคนอย่าออกนอกเส้นทางเป็นอันขาดหากหลงก็จะหาเจอยากมาก หากไม่แน่ใจให้หยุดรอก่อน

ภาพในป่าคงขอยืมของคุณชัยมาเช่นกันครับ







3 กม. สุดท้ายเรามาทัน ทีม โมโต 3 คันนี้ครับ ขึ้นไม่ได้เนื่องจากชันและลื่นมาก



หลังจากเข็นจักรยานขึ้นเขาในป่ามาประมาณ 8 กม. ก็มาออกตรงนี้แหละครับ อยู่ห่างจากด่านทับเบิก ประมาณ 800 เมตรเท่านั้นเอง


บรรยากาศแถว ๆ ร้านกาแฟ บริเวณด่าน



หลักจากนั้นก็เป็นการเก็บเกี่ยวความสุข จากการไหลลงทางถนนด้านหล่มเก่า มีนักท่องเที่ยวมายืนมองเพื่อลุ้นว่า จักรยานกับรถยนต์ใครจะเร็วกว่ากัน .... คำตอบคือ...... ไม่บอกครับ ลองคำนวณกันครับ

ก็จบสักทีสำหรับทริปนี้ ท้ายนี้ขอ คัดลอกคำกล่าวของคุณชัยมาสรุป ณ ที่นี้ครับ

"เส้นทางในทริปนี้ เริ่มต้นที่
-หมู่บ้านเข็กน้อย รวมพลกัน33ชีวิตทั้งเจ้าถิ่นและผู้ไปเยือน
-หมู่บ้านม้งห้วยน้ำขาว เป็นจุดสุดท้ายที่จะแวะซื้อน้ำและเสบียง
-น้ำตกสันติสุข แวะล้างหน้าล้างตาประมาณ 20 นาที
-ดอยตั่วเพ่ง เป็นลานสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ เป็นจุดพักกินอาหารเที่ยง
-ช่วงบ่ายลุยแหลกผ่าน เนินผาหิน ป่าทึบทั้งลากทั้งจูงและแบก แสงแดดอันร้อนระอุ
-ด่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
-จุดชมวิวภูทับเบิกที่ความสูง 1768 เมตร (หนาวเย็นพอประมาณ)

12ชม.กับการเริ่มต้นไต่ระห่ำและไหลลงฝั่งภูทับเบิกจนจบทริปที่ร้านอาหารเขาค้อเวลา2ทุ่มพอดีครับ

ขอขอบคุณ-อ.ปัญญา,อ.V3 ป่าเล่า และเพื่อนเสือเพชรบูรณ์-เขาค้อทุกท่าน
สำหรับการต้อนรับและดูแลพวกเราเป็นอย่างดีครับ
ขอขอบคุณ-คุณแม่-คุณพ่อ และน้องปุ๋ยBikenet ที่เอื้อเฟื้อที่หลับที่นอนและคอยห่วงใยให้พวกเราครับ
ขอขอบคุณ-คุณลุงยินดี (เจ้าของสนามกอล์ฟ ดอยตั่วเพ่ง)สำหรับน้ำดื่มจากธรรมชาติจริงๆประทังชีวิต
แม้จะเตรียมไปกันมากแล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยพอ
ขอขอบคุณ-คุณวรรณและแฟนน้องเชล์ ที่ขับรถไปรับมาเอารถที่จุดเริ่มต้นด้วยครับ

และสุดท้ายขอปรบมือดังๆให้พี่น้องเพื่อนพ้องทุกคน ที่ร่วมเดินทางร่วมลุยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
โดยเฉพาะพี่ผู้หญิงที่มาจากสุพรรณบุรี หนึ่งเดียวในทริปนี้ ใจเกินร้อยจริงๆ
น้องแบนก็แข็งแกร่งมากๆ จนอดที่จะชมไม่ได้ วิ่งขึ้นวิ่งลง ทั้งแบกทั้งจูงรถให้ท่านที่หมดจริงๆ"



ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้ด้วยครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียบเรียง ทริป อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิขึ้นมาใหม่เนื่องจาก ฉบับแรก ฝากไว้ที่ เวป BikeNet แล้วบังเอิญมีอุบัติเหตุ หายไปหมด ท่านใดสนใจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบนี้ ก็สามารถติดตาม เพื่อศึกษาหาข้อมูลดูได้ครับ อาจจะทำให้มีแรงบันดาลใจ ว่าสักวันหนึ่ง ท่านก็จะเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ทำแบบนี้เช่นกันครับ




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2552
6 comments
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2552 8:30:11 น.
Counter : 2856 Pageviews.

 

เที่ยวด้วย แถมได้หลายๆ อย่างไปในคราวเดียว
น่าสนุกดีจัง :)

 

โดย: sierra whiskey charlie 17 พฤศจิกายน 2552 15:31:08 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล๊อกนะคะ
emo

 

โดย: sierra whiskey charlie 17 พฤศจิกายน 2552 16:14:54 น.  

 

ขอบคุณเช่นกันครับ

 

โดย: kent IP: 203.146.56.211 17 พฤศจิกายน 2552 16:25:06 น.  

 

เจ๋งมากครับ เคยเห็นโฟร์วีลขึ้นไปยอดผาตั่วเพ่ง ว่าสุดยอดแล้ว นี่ 2 ล้อปั่นเลย เอาแรงมาจากไหนกัน
รอชมภาพผาตั่วเพ่งนะครับ สุดยอด สุดยอด

 

โดย: kirin IP: 58.9.249.228 17 พฤศจิกายน 2552 16:33:38 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: maxpal 18 พฤศจิกายน 2552 2:24:55 น.  

 

พวกนายแน่มากเว้ย....

 

โดย: เสือสายเดี่ยว IP: 171.97.155.189 15 พฤศจิกายน 2555 22:40:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kent
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มุมมองการท่องเที่ยวในแบบที่บางท่านอาจจะไม่เคยสัมผัส ยามเมื่อไปกับรถยนต์ เผื่อจะเป็นแรงใจให้เพื่อน ๆ หันมาสนใจที่จะท่องเที่ยวในรูปแบบนี้บ้าง ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ
Friends' blogs
[Add Kent's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.