<<
มีนาคม 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 มีนาคม 2559
 
 
แนะนำขนมคาวหวานพื้นเมือง

แนะนำขนมคาวหวานพื้นเมือง


ขนมเกลือ


   ขนมเกลือ หรือเข้าหนมเกลือ (อ่านว่า เข้าหนมเกื๋อ) บ้างเรียกว่า ขนมขาว เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า ส่วนผสมหลักมีแป้งและเกลือ ถ้าชอบหวาน ให้ใส่น้ำตาล ถ้าชอบกะทิ ก็ใส่ไปด้วยก็ได้ หรืออาจโรยงาดำลงไปด้วย มีคำพูดว่า เข้าหนมเกลือ เบื่อบ่าว เป็นคำพูดเชิงสัพยอกว่า หากไม่ชอบหนุ่มคนใด ถ้าเขามาพูดเกี้ยว ก็ให้สาวนั้นเอาเข้าหนมเกลือให้บ่าวหรือชายหนุ่มผู้นั้นกิน เพราะขนมเกลือมีแต่แป้ง กินมากจะแน่นท้อง จนอาจจะพูดอะไรไม่ออก และอาจกลับบ้านไปเลย (ทักษนันท์ อนรรฆพฤฒ, สัมภาษณ์, 5 กรกฎาคม 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 821)

ส่วนผสม

1. แป้งข้าวเจ้า 1 1/2 ถ้วย
2. แป้งมัน 2 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา


วิธีการทำ

1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาล เกลือ และน้ำประมาณ 1 ถ้วยตวง นวดให้เข้ากัน
2. นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ คนไปเรื่อยๆ
3. คนจนแป้งข้นและหนืด ยกลง และพักไว้
4. ฉีกใบตองกว้าง 5 นิ้ว ตักแป้งใส่บนใบตองประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วกดให้แป้งแบน
5. พับใบตองซ้ายขวา พับหัวท้าย เป็นรูปสี่เหลี่ยม
6. นำใส่ลังถึงนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 20 นาที
7. พอนึ่งได้ที่ ขนมสุก ปิดไฟ


เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
ใส่ใบเตยลงในน้ำนึ่งขนม เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอม

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=97


ขนมตาล


ขนมตาล หรือเข้าหนมบ่าตาล (อ่านว่า เข้าหนมบ่าต๋าน) มีวิธีการทำคล้ายขนมกล้วย เพียงแต่เปลี่ยนจากกล้วยน้ำว้าสุกงอมมาเป็นน้ำคั้นจากเนื้อผลตาลสุก และมีการหมักส่วนผสม หลังจากที่นวดส่วนผสมให้เข้ากันแล้ว เพื่อให้แป้งฟู น่ารับประทาน (ทักษนันท์ อนรรฆพฤฒ, สัมภาษณ์, 5 กรกฎาคม 2550)

ส่วนผสม

1. ตาลสุก 400 กรัม
2. แป้งข้าวเจ้า 600 กรัม
3. น้ำตาลทราย 500 กรัม
4. กะทิ 2 ถ้วย
5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีการทำ

1. นำผลตาลสุกงอม ปอกเปลือกแช่น้ำ ยีลูกในน้ำที่แช่ นำเนื้อตาล ใส่ในถุงผ้าแขวนไว้จนน้ำออกหมด เหลือแต่เนื้อตาล และนำมาผสมกับแป้งข้าวเจ้า นวดให้เข้ากัน ใส่แป้ง
2. ใส่น้ำกะทิ นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน นวดแป้ง
3. ใส่น้ำตาลทราย นวดต่อจนน้ำตาลละลาย หมักไว้ 1 ชั่วโมง ใส่น้ำตาลทราย
4. เตรียมกระทงใบตอง ตัดเป็นรูปวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 4 นิ้ว เย็บสี่มุมเป็นรูปกระทง ทำกระทง
5. ตักขนมใส่กระทง ตักขนมใส่กระทง
6. โรยมะพร้าวขูดลงบนหน้าขนม โรยมะพร้าว
7. นำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที นึ่งขนม

เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
เคล็ดลับในการปรุง

หมักเนื้อตาล ขณะที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือนำไปตากแดด จะทำให้ขนมตาลฟูอร่อย

เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม
เลือกลูกตาลที่แก่จัด สีเหลืองสวย และมีกลิ่นหอม

ที่มา
//library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=188


ขนมจ็อก

ขนมจ็อก หรือ ขนมเทียน บางแห่งเรียกว่า ขนมนมสาว เป็นขนมที่นิยมทำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มาแต่โบราณ และงานบุญต่างๆ (มณี พยอมยงค์, 2547, 72) บางสูตรใส่ถั่วลิสงป่น หรืองาขี้ม้อน ลงในไส้มะพร้าว หรือไส้ถั่วเขียว โดยเอาถั่วเขียวนึ่งแล้วบด นำมาผสมหรือผัดกับเครื่องปรุง มีรสเค็มนำ เรียกว่า “ไส้เค็ม” (รัตนา ไชยนันท์, สัมภาษณ์, 28 มิถุนายน 2550) ปัจจุบัน มีการทำไส้ขนมจ็อกหลากหลาย ตามแต่ที่ผู้ทำจะชอบ เช่น ไส้ถั่วเขียว ไส้ถั่วแดง ไส้เค็ม เหมือนไส้ซาลาเปา (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, 821)

ส่วนผสม

1. แป้งข้าวเหนียวดำ 300 กรัม
2. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
3. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือป่น 1 ช้อนชา
5. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

1. ทำไส้ขนม นำมะพร้าวขูดลงผัดในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ผัดพอหอม ใส่เกลือ 1 ช้อน
โต๊ะ ผัดให้เข้ากัน
2. ผัดไส้มะพร้าวจนเหนียวดีแล้ว พักไว้
3. ทำแป้งขนม นำแป้งนวดผสมกับน้ำ และเกลือป่น 1 ช้อนชา ให้เข้ากันจนเป็นก้อน
4. ฉีกใบตองกว้างประมาณ 10 ซม. นำด้านที่ห่อมาทาน้ำมันให้ทั่ว
5. นำแป้งที่นวดมาทำเป็นแผ่นกลม ใส่ไส้มะพร้าวตรงกลาง แล้วห่อแป้งให้มิดไส้ แล้วคลึง
เป็นก้อนกลม
6. ทำใบตองเป็นรูปทรงกรวย ใส่ขนมลงในใบตอง พับทบล่าง ซ้าย ขวา นำด้านที่แหลมสอด
พับ แล้วห่อจะได้ขนมทรงสามเหลี่ยม
7. นำไปนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 20 นาที 



เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
เคล็ดลับในการปรุง

แป้งสำหรับทำขนมจ็อก บ้างอาจจะผสมแป้งข้าวจ้าวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เหนียวเกินไป และอาจใส่น้ำอ้อยลงในแป้ง เพื่อให้แป้งมีรสหวาน

เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม
มะพร้าวสำหรับทำไส้ขนมจ็อก ควรใช้มะพร้าวที่ไม่แก่เกินไป และไม่อ่อนเกินไป หรือที่เรียกว่า “มะพร้าวทึนทึก”

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=12



ข้าวหนุกงา


ข้าวหนุกงา หรือข้าวคลุกงา ใช้งาขี้ม้อน (งาเม็ดกลมสีน้ำตาลเทา) โขลกกับเกลือ และข้าวนึ่งสุกใหม่ๆ ชาวล้านนานิยมทำข้าวหนุกงา ในช่วงฤดูหนาวเฉพาะในช่วงเช้า ซึ่งช่วงนั้นเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่

ส่วนผสม

1. ข้าวสารเหนียว 1 ลิตร
2. งาขี้ม้อน 1/2 ถ้วย
3. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีการทำ

1. ข้าวสารเหนียวล้างให้สะอาด แช่น้ำไว้ 1 คืน
2. ล้างข้าวที่แช่ไว้ นึ่งไฟกลางประมาณ 25 - 30 นาที
3. พอข้าวนึ่งสุก เทลงในภาชนะ คนข้าวให้ไอร้อนลดลง ก่อนบรรจุไว้ในกล่องข้าว เพื่อเก็บความร้อน
4. คั่วงาขี้ม้อน ใช้ไฟอ่อนๆ จนมีกลิ่นหอม
5. โขลกงาขี้ม้อนและเกลือให้ละเอียด
6. ใส่ข้าวเหนียวร้อนๆ ลงโขลกรวมกัน
7. นวดข้าวหนุกงาจนเป็นเนื้อเดียวกัน


เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
ข้าวเหนียวต้องเป็นข้าวที่สุกใหม่ ร้อนๆ จะทำให้ข้าวกับงาขี้ม้อน โขลกเข้ากันได้ง่ายนิยมรับประทานขณะข้าวอุ่นๆ จะมีรสชาติดีกว่าทิ้งไว้ให้เย็น

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=193

ข้าวควบ

ข้าวควบ หรือ ข้าวเกรียบว่าว บ้างเรียก ข้าวปอง เป็นขนมพื้นบ้านที่มีมาช้านาน มีกล่าวไว้ในวรรณกรรมล้านนา เรื่อง นางอุทรา ว่า นางร้าย คือแม่เลี้ยงนางอุทรา แกล้งป่วย โดยใช้ข้าวควบวางไว้ใต้ที่นอน เมื่อขยับจะเสียงดัง ให้เข้าใจว่ากระดูกนางผิดปกติ (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 809)

ส่วนผสม

1. ข้าวสารเหนียว 1 ลิตร
2. น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
3. หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ

1. ตำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ โดยใช้ครกมอง ตำจนข้าวเหนียวละเอียดเป็นแป้งเหนียว ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
2. ใส่น้ำตาลปี๊บเคี่ยวผสมกะทิลงในครกมอง ตำต่อจนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ต้มไข่ไก่ให้สุก เลือกเฉพาะไข่แดง มาขยี้ผสมกับน้ำมันพืช เพื่อใช้ทามือและอุปกรณ์ในการทำข้าวควบ
4. นำแผ่นพลาสติกตัดเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว หยิบแป้งประมาณหัวนิ้วโป้ง กดให้แบน คลึงแป้งให้เป็นวงกลมด้วยกระบองไม้ คว่ำแผ่นแป้งลงบนแผ่นพลาสติกใหญ่
5. นำไปตากแดดให้แห้งประมาณ 1 ชั่วโมง
6. กลับด้านแป้ง และตากบนไม้ไผ่สาน อีก 1 ชั่วโมง
7. แกะแป้งออก พักไว้ให้เย็น นำมาเรียงซ้อนกันบรรจุในกระติก โดยใช้ใบตองรองด้านล่าง และปิดคลุมด้านบน เก็บไว้เป็นเวลา 1 คืน
8. นำแผ่นข้าวควบย่างกับเตาถ่าน 

เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
เคล็ดลับในการปรุง

ไข่ไก่ต้ม ใช้เฉพาะไข่แดง นำมาขยี้ให้เข้ากับน้ำมัน สำหรับทามือขณะที่หยิบแป้งข้าวควบ เพื่อไม่ให้ติดแป้งติดมือ

เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม
น้ำตาลปี๊บให้เลือกแบบที่ไม่มีน้ำตาลทรายผสม (ของแท้) เพราะถ้ามีน้ำตาลทรายผสม จะทำให้ข้าวควบไม่พองตัวเมื่อย่างไฟ

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=18


ข้าวแต๋น


ข้าวแต๋น เป็นขนมที่นิยมทำกันในเทศกาลปีใหม่เมือง หรือสงกรานต์ งานปอยลูกแก้ว และงานปอยหลวง ปัจจุบัน นิยมผสมน้ำแตงโมลงในข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ว ก่อนนำมากดลงพิมพ์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและความหวานอร่อย (บัวจันทร์ นนทวาสี, สัมภาษณ์, 10 กรกฎาคม 2550)

ส่วนผสม

1. ข้าวสารเหนียว 1/2 ลิตร
2. น้ำแตงโม 1 ถ้วย
3. งางาดำ 2 ช้อนโต๊ะ
4. งางาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 1 ช้อนชา
6. น้ำมันพืช 2 กิโลกรัม

วิธีการทำ

1. คั้นเนื้อแตงโม และกรองเอาแต่น้ำ ผสมงาดำใส่ลงในน้ำแตงโม คนให้เข้ากัน
2. แช่ข้าวสารประมาณ 1 คืน นึ่งข้าวให้สุก เทใส่ชาม เทน้ำแตงโมผสมงาดำลงในชามข้าวเหนียว คลุกเคล้า ให้เข้ากัน
3. ใส่ข้าวในถุงพลาสติกเพื่อเก็บความร้อน
4. กดข้าวลงในพิมพ์วงกลม
5. แกะข้าวออกจากพิมพ์ นำข้าวแต๋นไปตากแดด 2 วัน
6. ทอดข้าวแต๋นในน้ำมันร้อนจัด
7. หยอดด้วยน้ำอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียว



เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
เคล็ดลับในการปรุง

การทำน้ำอ้อยสำหรับหยอดหน้าข้าวแต๋น ให้เคี่ยวน้ำอ้อยจนข้นเหนียว ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนแล้วค่อยหยอดลงไปที่หน้าข้าวแต๋น เพื่อให้ข้าวแต๋นกรอบได้นานขึ้น

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=104









Create Date : 06 มีนาคม 2559
Last Update : 8 มีนาคม 2559 10:34:23 น. 1 comments
Counter : 4158 Pageviews.

 
ชอบขนมตาลมากค่า



โดย: สมาชิกหมายเลข 5329215 วันที่: 13 สิงหาคม 2562 เวลา:11:36:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

สมาชิกหมายเลข 2974511
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 2974511's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com