Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 กันยายน 2548
 
All Blogs
 

รักที่สวยงาม

เรานั่งข้างกองไฟ

ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวลงทีละน้อย
ลมหนาวหอบใบไม้ปลิวลิ่ว บางใบตกลงใกล้ ๆ ปลายเท้าพ่อ แล้ว ก็พลิกคว้างจากไป

พ่อหักกิ่งไม้แห้งที่กองอยู่ข้าง ๆ โยนลงให้เชื้อไฟ ปะทุ หอมกลิ่นควันไฟจางเจือ แววตาพ่อมีรอยยิ้มเมื่อถามถึงคนในความรู้สึกของผม

"ตกลงเขามาไม่ได้หรือ" "ไม่มาครับ" ผมตอบ พลิกกิ่งไม้เขี่ยวาดพื้นดินเป็นรอย

"ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่" พ่อพูดต่อ มือยังคงหักกิ่งไม้ให้สั้นลง เพราะเราไม่ได้ต้องการไฟกองใหญ่ในยามที่อากาศหนาวน้อยกว่าทุกวัน แต่เราต้องการที่นั่งคุยกัน และบรรยากาศ...ที่นานมาแล้ว เราไม่มีอยู่ในชีวิต

"วันนี้ไม่ว่างมา วันหน้าค่อยมาก็ได้"

"แต่ผมเสียใจที่ไม่ได้มาพร้อมเขา" พ่อหัวเราะ

"เขาก็บอกไม่ใช่หรือว่าถ้ายังมีความตั้งใจ สักวันคงได้มาด้วยกัน"

"แต่ตอนนี้เขาไปทะเลกับคนอื่น" ไฟลุกพลุ่งโพลงขึ้นสูงเมื่อพ่อกอบใบไม้แห้งโปรย ลงสองสามใบ แต่แล้วเปลวก็วูบลงอย่างรวดเร็ว แสงสีสัมเรืองรองระเรื่อ ผมได้ยินเสียงน้ำในคลองกระซิกไหล เสียงไผ่เสียดสีกอแว่ว

แล้วพ่อก็พูดขึ้น "ความรักไม่ได้สำคัญแค่การไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ใช่หรือ?"
ผมเงียบไป...

@ @ @ @ @ @

นานมากเหลือเกิน ที่ผมใช้ชีวิตผันแปรอยู่ในมหานคร
ไม่ได้กลับมาบ้าน หรือผมถูกลงทัณฑ์ด้วยบางสิ่งที่เป็นความลับของโลก?

ชีวิตผมจึงระเหระหนตลอดมา มหานครไม่ใช่เมืองที่ผมรัก...แต่ผมกลับพบว่า มันพันธนาการผมไว้แนบแน่นกว่าหนไหน ปีแล้วปีเล่า ที่ผมสัญจรร่อนเร่ไปตามที่ชีวิตและการงานจะบันดาล

กระทั่ง...ผมได้พบกับใครคนหนึ่ง...

เธอ หญิงสาวคนที่ผมตั้งใจว่าจะชวนมาบ้านริมคลองด้วยกัน วันใดก็ได้ที่เธอมีเวลา แต่เธอก็ไม่เคยมีเวลา...แม้ในครั้งนี้ที่ผมวาดหวัง นัดหมาย รอคอย ใฝ่เฝ้า

เย็นแรกที่เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดพร้อมกับกระเป๋าเพียงหนึ่งใบ ผมจึงเลือกที่จะเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง

@ @ @ @ @ @

"เขาบอกลูกหรือว่าจะไปไหน" พ่อถามขึ้น

"เปล่าหรอกครับ" ผมตอบ

"บังเอิญผมโทรไปหา เขาก่อนจะขึ้นรถ ถึงได้รู้ว่า เขากำลังจะเดินทางไปทะเล กับคนพิเศษ...ที่เขารู้สึกดี ๆ ด้วย"

"ไปกินเหล้าละสิคืนนั้น"

"เปล่าพ่อ ผมกลับไปนอนอ่านหนังสือของ รุ่งอรุณ ณ สนธยา แต่...ผมอ่านไม่รู้เรื่อง" พ่อหัวเราะอีก

"แล้วลูกคิดจะทำอย่างไร"

"นั่นสิฮะพ่อ มีอะไรจะแนะนำผมบ้างไหม วิธีที่ผมจะได้เขามา วิธีเหมือนที่พ่อเคยใช้กับแม่ก็ได้" แววตาพ่อกลับหม่นแสงลง พร้อมลมหนาวพัดกรูมาจนเปลวไฟไหวยวบ

"นัค" เสียงพ่อต่ำหนัก

"พ่อจะบอกอะไรให้"

"อะไรพ่อ" ผมมองหน้าพ่อ เหมือนสมัยยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่เฝ้ารอให้พ่อเล่านิทาน

"รู้ใช่ไหม ว่าพ่อได้กับแม่ยังไง?" ผมพยักหน้า ความรักระหว่างพ่อกับแม่เป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับผม แม่เคยเล่าว่า...

แรกนั้น พ่อกับแม่ไม่ได้รักกันเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป พ่อมีภรรยา มีลูกชายสองคน แต่วันหนึ่ง ภรรยาของพ่อก็เสียชีวิตลง พี่ ๆ ทั้งสองยัง เด็กนัก อายุไม่กี่ขวบ เมื่อพ่อจะต้องไปทำงานที่อื่นจึงส่งลูก ๆ ให้หอบข้าวของลอดรั้วมาหาแม่ และแม่ก็เลี้ยงพวกเขาไว้จนกระทั่งพ่อกลับมา หลังจากนั้นจึงมีการผูกข้อมือกันขึ้น และแม่ก็อยู่กับพ่อมา

ตั้งแต่นั้น... แต่ผมกับพี่น้องไม่เคยรู้สึกเลยว่า พ่อกับแม่ไม่ได้รักกัน ในบ้านของเรามีความรักอยู่มากพอ และรักนั้นเองที่หล่อหลอมให้พวกเราทุกคนเติบโตมา ผมเชื่อมั่นอย่างนั้น...เพราะแม้วันที่แม่จากพวกเราไป พ่อก็อยู่ เคียงข้างแม่จนลมหายใจสุดท้าย ผมศรัทธาในรักนั้น...และอยากรู้นักว่า พ่อทำอย่างไรจึงเอาชนะใจแม่ได้ก่อนแต่งงานกัน..

"แม่ไม่เคยรักพ่อหรอกนัค ถ้าหมายถึงรักอย่างคนหนุ่มสาว พ่อพูดขึ้น ผมชะงักไป.. .

"ลูกรู้ไหม แม่เขามีกล่องไม้เก่า ๆ อยู่ใบหนึ่ง รู้ไหมว่าในนั้นมีอะไร มีจดหมายนับสิบนับร้อยฉบับที่เป็นของผู้ชายคนหนึ่ง คนที่แม่รักมาตลอดชีวิต แต่ก็ไกลกันตลอดชีวิต"

"หมายความว่ายังไงฮะพ่อ

"เรื่องมันเป็นอย่างนี้..." พ่อมองเหม่อไปข้างหน้า

@ @ @ @ @ @

"ก่อนหน้าที่แม่จะมาอยู่กับพ่อ เขามีคนรักอยู่แล้วคนหนึ่ง หวังกันมากว่าจะแต่งงานกันเมื่อพร้อม...
เขารักกันมาตั้งห้าปี เวลาไม่ใช่น้อย ๆ นะลูก แต่แล้วพ่อก็ก้าวเข้ามา พร้อมกับเด็ก ๆ...อันเป็นเงื่อนไขที่แม่เขาจำใจต้องยอม"

คำบอกเล่าของพ่อ ทำให้ผมมิอาจรีบเอ่ยสิ่งใดออกไป ห่างออกไป ความมืดรำร่ายลงมาโอบคลุมทั่วทุกบริเวณ มองหาสิ่งใดคงยากจะเห็น

"แม่เขาไม่ปฏิเสธ...ไม่ใช่เพราะเขาเกรงใจพ่อหรือถูกใครบังคับ แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนมีจิตใจสวยงาม รู้ไหมลูก พ่อเคยขอความรักแม่หลายต่อหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยสนใจพ่อเลย ทั้ง ๆ ที่พ่อรักแม่มาตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานกับแม่ของพวกพี่ ๆ เสียอีก"

"แล้วทำไมพ่อแต่งงานกับคนอื่นก่อน?"

"ไม่รู้นะลูก ถ้าจะถามเหตุผลที่แท้จริงในตอนนั้น มันคงเป็นอารมณ์วูบไหวของคนหนุ่มกระมัง มีคนมาสนใจ ห่วงใยทุกข์สุขของเรา...ใครจะไม่อ่อนไหวล่ะลูก อีกอย่าง ชีวิตพ่อกำพร้ามาตั้งแต่เล็ก มีใครเขาพร้อมจะให้เราฝากผีฝากไข้ พ่อก็ไม่อยากปฏิเสธ"

"แต่มันไม่ใช่ความรักหรือพ่อ" พ่อลังเล...

"ไม่รู้สินะ...แต่พ่อยืนยันได้ว่ามันไม่เหมือนกัน แม่ของลูกอยู่ในความฝันของพ่อตลอดเวลา ทำให้พ่อรู้สึกนานาสารพันอย่างที่ไม่มีความรู้สึกนั้นกับใคร...แต่กับแม่ของพี่ ๆ เป็นความอบอุ่นกระมังลูก เป็นความสบายใจ ตอนที่แม่ของพี่ ๆ จากไป ใช่ว่าพ่อจะไม่เสียใจ..."

"หลังจากนั้น พ่อก็เลยส่งพวกพี่ ๆ ไปฝากให้แม่ช่วยเลี้ยง"

"ใช่ลูก นั่นเป็นการวางแผนของพ่อกับญาติผู้ใหญ่ ฝ่ายแม่บางคนที่รู้เห็นเป็นใจ ใคร ๆ ก็รู้ แม่เขาเป็นคน รักเด็ก ยิ่งพอเด็กติดเขา เขาทิ้งไปไม่ได้หรอก ยิ่งตอนนั้นพ่อบอกว่าจะขึ้นไปอยู่บนภูเขาสักสองสามเดือน"

"พ่อไปนานกว่านั้น" พ่อพยักหน้า

"ใช่ พอพ่อกลับมา ก็รู้แล้วว่าแม่เขาทิ้งเด็ก ๆ ไม่ได้จริง ๆ พี่ ๆ ก็ร้องไห้กระจองอแงจะอยู่กับเขา ในที่สุด พ่อก็ได้ผูกข้อมือกับเขาจนได้"

"แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะฮะพ่อ" พ่อเกลี่ยฟืนให้ชิดไฟ ดวงดาวบนฟากฟ้าเปล่งประกายระยิบระยับ ดังดวงตาของใครคอยจ้องมองเราอยู่

"ผู้ชายคนนั้นหรือ...เขาก็หายจากแม่ของลูกไป แต่พ่อรู้ว่าแม่ไม่เคยลืมเขาหรอกนัค เขาเก็บจดหมายในกล่องไม้ไว้เสมอ จนบางครั้งพ่อน้อยใจ..."

ผมนึกถึงกล่องใส่จดหมายของแม่ คงจะเป็นกล่องไม้เก่าคร่ำคร่า ผมไม่เคยเห็น แต่ก็เริ่มนึกภาพแม่ออก

@ @ @ @ @ @

แม่คงนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องแคบ

เปิดกล่องดูจดหมายแต่ละฉบับ แม่จะมีน้ำตาไหม ในยามที่ความหลังอยู่ตรงหน้า แต่ไม่มีวันเป็นจริงได้อีกต่อไป แม่จะเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อนึกถึงชีวิตที่ต้องดำเนินไปกับพันธนาการ

พ่อบอกว่า แม่เป็นคนที่มีจิตใจสวยงาม...แต่ไยพ่อก็เลือกที่จะทำร้ายคนสวยงาม เพียงเพราะความรักมากมายที่พ่อมี นอกจากนั้น พ่อยังทำร้ายผู้ชายคนนั้นอีกด้วย...
คนที่พ่อเองไม่เคยเห็นหน้า แต่เขาอยู่ในความฝันของ แม่ตลอดเวลา เติบโตอยู่ในนั้น มีชีวิตอย่างเงียบเชียบ ให้แม่หล่อเลี้ยงเขาไว้ ด้วยความเศร้าลึกของรักแรก ผมเริ่มไม่เข้าใจ..

ขณะที่ดวงตาวาวแจ่มใสของ เธอ เลือนวูบเข้ามาในความคำนึง นึกถึงเสียงใสระรื่นที่เฝ้าย้ำว่าเราเป็นเพื่อน...รอย เท้าที่ริมฝั่งทะเลของเธอกับใครอื่นที่ผมไม่รู้จัก... หรือผมอยากกระทำซ้ำรอยพ่อ

@ @ @ @ @ @

พ่อเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนใจเบา มองหน้า ผม ในดวงตาพ่อมีต้นเศร้าหยั่งรากล้ำลึกในนั้น ผมเห็นมันผลิใบ...

"นัครู้ไหม อะไรทำที่พ่อเสียใจมากที่สุด"

"อะไรพ่อ"

"พ่อเสียใจที่ได้ทำร้ายคนที่มีหัวใจสวยงาม" พ่อพูดช้า ๆ และชัดเจน

"ทำร้ายคนที่พ่อไม่รู้จัก เป็นความ ผิดนะนัค เป็นตราบาปในชีวิตพ่อ ที่พ่อรู้สึกมาก ๆ เมื่อ แม่ของลูกจากไป เขาตายไปโดยไม่เคยได้อะไรสักอย่างที่เขาฝัน เขาเผาจดหมายทั้งหมดในวันที่รู้ข่าวว่าผู้ชายคนนั้นแต่งงาน..."

ผมนิ่งเงียบ มองดูบ้านไม้สีน้ำตาลของเราที่ยืนสงบนิ่งเหมือนคนชรา

"เพราะพ่อเป็นคนอ่อนแอ เพราะพ่อเป็นคนไม่กล้า พ่อเลือกที่จะทำตามใจตัวเองโดยไม่นึกถึงใคร พ่อ นึกถึงแต่รักของตัวเอง..."

"พ่อจะบอกอะไรผม"

"พ่ออยากให้ลูกกล้าหาญ นัค กล้าหาญและเข้มแข็งเหมือนแม่ อย่าเอาอย่างพ่อ ให้ลูกมีรักที่ดีงาม รักที่นึกถึงคนที่เรารัก อย่าไปคิดถึงเรื่องจะแย่งชิงเขา ถ้าเขามีใจกับใคร"

"แล้ววันหนึ่ง ผมจะต้องอยู่กับคนที่ผมไม่ได้รักไหมพ่อ"

"ชีวิตยังมีรายละเอียดอยู่มากมายเหลือเกินลูก บางที...เราอาจจะอยู่กับคนที่เราไม่รักก็ได้ แต่เป็นเพื่อน เราได้ ไม่รู้เหมือนกันนัค อย่างไรก็ตาม ขอแค่ไม่ทำร้ายกันเท่านั้น"

ผมนึกถึงดวงตาของเธออีก นึกถึงทุกครั้งเมื่อเราพบกัน

นั่นสินะ...ผมเป็นคนที่นึกถึงแต่รักของตัวเองไหม หลายครั้งแค่ไหน ที่ผมเรียกร้องให้เธอสนใจและเข้าใจผม
แล้วผมก็คิดถึงแม่ คล้ายจะเห็นแววน้ำตาซึ่งล้อแสงไฟ

ต่อมา ผมก็นึกถึงความเจ็บปวดของพ่อ เราทุกคนต่างมีความเจ็บปวด จะมากหรือน้อยแตกต่างกันไป แต่จะมีใครบ้างที่เข้มแข็ง...แบกรับความ เศร้าของตัวเองไว้ ไม่โยนให้คนอื่น โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจสวยงาม

@ @ @ @ @ @

ดึกมากแล้ว

ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาตามรอยแยกของช่องไม้ บ้านของเราเก่าคร่ำคร่าและเริ่มชราลงไปทุกที
ผมนอนอยู่ในห้องที่เคยนอนมาตั้งแต่เล็ก มีหน้าต่างอยู่บานหนึ่ง แต่คืนนี้ผมปิดเอาไว้ ด้วยอากาศเหน็บหนาวเกินกว่าจะนอนมองดาว

ผมคิดถึงแม่ คิดถึงอ้อมแขนโอบเอื้อเมื่อเยาว์ วัย ที่นี่เคยมีแสงแดดสดใสสว่าง...มีรอยยิ้มปิติยินดี มีบทเพลงพื้นบ้านจากเสียงของพ่อร้องคลอซึงของพี่ชาย แทรกเสียงหัวเราะของน้องสาว

ผมเคยคิดว่าความรักเป็นของพวกเราเสมอ ไม่เคยนึกเลยว่า ใต้ประกายแสงอบอุ่นของดวงตะวัน มีสายฝนหลั่งรินตลอดมา

แล้วผมก็นึกถึง เธอ ป่านนี้เธออาจกำลังพูดคุยกับใคร นึกถึงบางค่ำคืนที่ถนนหลับใหล ผมเคยเดินเตร็ดเตร่หาตู้โทรศัพท์ เพื่อจะโทร.ไปบอกว่า ขอความรักให้ผมบ้าง

ผมรู้แล้ว...ว่าควรทำอย่างไร ผมรู้ใจตัวเองแจ่ม ชัด หลังจากพูดคุยกับพ่อ

@ @ @ @ @ @

ผมจะไม่มีวันทำร้ายเธอ เพียงเพราะต้องการให้เธอมารักผม ผมจะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ
ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เพราะเธอเป็นแสงจันทร์ที่มีค่า ในยามดึกสงัดโลกหลับใหล

เธอเคยปลุกดอกไม้เล็ก ๆ ดอกหนึ่งให้ตื่นขึ้น ทุกวันนี้ ดอกไม้นั้นยังอยู่ ดอกไม้ไมตรี
ความหมายที่ทำให้ผมเชื่อมั่น ทุกครั้งยามผมต้องการลืมเรื่อง หนหลัง อยากจะหนีไปให้ไกลสุดแสนจากแม่น้ำความเศร้า

ผมจะรักเธอ เหมือนที่พ่อบอกผม รักที่สวยงาม เพื่อคนที่มีใจดวงสวยงาม แม้ในบางค่ำคืนผมอาจจะต้องร้องไห้

ร้องไห้กับความรักที่สวยงาม



เรื่องสั้นเรื่องนี้ เคยลงตีพิมพ์ครั้งแรกใน สานแสงอรุณ กุมภาพันธ์ 2538
พิมพ์ครั้งที่ 2 ในโครงการ "หนังสือเล่มน้อย" ในนามกลุ่ม "เราและเธอ"
เนื่องในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เมษายน 2543












 

Create Date : 22 กันยายน 2548
1 comments
Last Update : 22 กันยายน 2548 23:18:14 น.
Counter : 414 Pageviews.

 

 

โดย: หนุ่มสวีเดน 22 กันยายน 2548 23:24:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หนุ่มสวีเดน
Location :
Borlange Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






เมื่อตะวันลัดฟ้าจะลาลับ

แสงจันทร์จับท้องฟ้านภาใส

คนึงถึงคนหนึ่งในดวงใจ

อยู่ห่างไกลใจเราเฝ้าอาวรณ์

ยามแสงจันทร์สาดส่องต้องกายฉัน

ดังดวงตาเธอนั้นจ้องฉันอยู่


แม้อยู่ไกลปลายฟ้าขอให้รู้

..ว่าใจฉันนั้นอยู่เคียงคู่เธอ...













Friends' blogs
[Add หนุ่มสวีเดน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.