สมัคร สอบสัมภาษณ์ ลงทะเบียน
หลังจากหาข้อมูลสถาบันสอนภาษามาช่วงนึง จากทั้ง google พันธุ์ทิพย์ และ bloggangโดยเฉพาะข้อมูลจาก blog ของคุณเชษฐา ซึ่งต้องขอขอบคุณ คุณเชษฐา เป็นอย่างมากที่ช่วยทำ review สถาบันสอนภาษาต่างๆ ไว้ ช่วยในการตัดสินใจของเราได้ดีทีเดียวด้วยเหตุผลหลายอย่าง และจุดประสงค์ที่ต้องการเรียนคือเพื่อเน้น speaking และ listeningBerlitz จึงเป็นที่ที่เราคิดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดหลังจากตัดสินใจได้แล้วจึงโทรเข้าไปสอบถามราคาและนัดวันสอบก่อนสอบก็กังวลอยู่เหมือนกันว่าเราจะฟังอาจารย์ฝรั่งรู้เรื่องรึเปล่าเพราะในชีวิตประจำวัน ไม่เคยมีโอกาสได้งัดภาษาอังกฤษออกมาใช้เลยใจนึงอยากจะหาหนังสือมานั่งอ่าน เป็นการวอร์มเครื่อง เพราะกลัวจะได้เลเวลต่ำเกินไปแล้วจะต้องเรียนอีกเยอะ...กลัวเปลืองตังค์และอายอาจารย์ hahaอีกใจก็กลัวว่าถ้าพยายามเกินไปแล้วสอบได้เลเวลสูงเกินจริง มันจะเรียนไม่รู้เรื่องคิดไปคิดมาเวียนหัว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เตรียมอะไร เป็นไงเป็นกัน ไปกันแบบดิบๆ นี่แหล่ะวันที่เข้าไปสมัคร มีเจ้าหน้าที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์สองสามคนในระหว่างที่รออาจารย์ เค้าก็ยื่นเอกสารให้กรอกข้อมูลส่วนตัวอ่า...ถ้าใครคาดหวังบริการของพนักงานที่นี่ในระดับสูง(ตามราคาคอร์ส)ขอบอกก่อนว่าคุณอาจจะผิดหวังตั้งแต่เราเข้าไปเหยียบ กรอกใบสมัคร จ่ายตังค์ จนกระทั่งเดินออกมาเราได้รับคำแนะนำจากพนักงานน้อย จนถึงขั้นน้อยมากถ้าไม่ได้อ่าน review ของคุณเชษฐา ว่าเรียนที่นี่ได้ผลดี เราคงไม่สมัครแน่นอน...ขอข้ามเรื่องนี้ไปเลยละกันนะคะหลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ อาจารย์ฝรั่งก็เดินมาทักทายแล้วพาเข้าห้องเชือดซึ่งอาจารย์จะคุยเป็นภาษาอังกฤษกับเราตลอด เริ่มด้วยการให้เลือกที่นั่งหลังจากนั้นก็เริ่มคุยกันด้วยเรื่องทั่วๆ ไป เป็นการเปิดบทสนทนาในช่วงแรกๆ อาจารย์จะพูดช้าๆ และคอยสังเกตว่าเราฟังรู้เรื่องมั้ยแล้วค่อยเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆบทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเราเอง เช่น อายุ อาชีพ เหตุผลที่ต้องการเรียนซึ่งอย่างหลังนี่สำคัญมาก ต้องตอบให้ตรงตามความต้องการของเราจริงๆเวลาเรียนจะได้โฟกัสกันตรงจุดนอกนั้นก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป มียิงมุขขำๆ ให้หายตื่นเต้นบ้างเป็นบางช่วงหลังจากพูดคุยกันซักพักอาจารย์ฝรั่งก็บอกว่าเราน่าจะอยู่ประมาณเลเวลไหนถึงเลเวลไหนแต่เพื่อความมั่นใจว่าเลเวลไหนจะเหมาะกับเราจริงๆ เค้าจะมีคำถามมาถามอีกเป็นข้อๆช่วงที่สองนี้อาจารย์จะถามเป็นประโยค ตรงตาม structure และ grammar ทุกอย่างเราต้องตอบเป็น tense ประเภทเดียวกัน และต้องตอบเป็นประโยคเต็มๆ ด้วยก็มีทั้งที่ตอบได้สมบูรณ์ และไม่สมบูรณ์บ้าง เพราะหลังๆ ถามยาวและพูดเร็วเหลื๊อเกินมีอยู่ข้อนึงจำไม่ได้ว่าจะเอาคำไหนมาเรียบเรียงเป็นประโยคบ้าง ก็เลยตอบไปแค่ว่า Yes, they didคำตอบมันก็ไม่ผิดแต่สงสัยจะยังไม่ถูกใจอาจารย์ เลยถามอีกรอบ ช้าลงหน่อย แต่มันยาวววววววเรามันก็พวกปลาทองความจำสั้นซะด้วย ก็ตอบ Yes, they did อีก อาจารย์แกดูขำๆ แล้วก็ถามคำถามอื่นต่อหลังจากสอบเสร็จอาจารย์ก็บอกเลยว่าเราได้เลเวลไหน ต้องเรียนเกี่ยวกับอะไรแล้วก็แนะนำคอร์สพิเศษที่เหมาะกับเราว่ามีอะไรบ้างออกมาจ่ายตังค์เสร็จสรรพ หมดไป 28000 กว่าบาท 1 เลเวลรวมค่าหนังสือของคนอื่นอาจจะมากกว่านี้ แต่บังเอิญว่าเลเวลที่เราได้เค้าเริ่มเรียนกันไปบ้างแล้ว อาจารย์เค้าให้เข้าแทรกได้ ก็เลยหักค่าใช้จ่ายออกไปเยอะซึ่ง group ที่เราเลือก เป็นแบบ semi-group เรียนกันแค่ 3 คน(สงสัยต้องคุยกันจนเหนื่อย)จริงๆ แล้วเราอยากจะเรียน group ที่มีคนเยอะกว่านี้เหมือนกัน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายลง เผื่ออยากจะเรียนหลายๆ เลเวลแต่เลเวลที่สูงขึ้นมาหน่อยจะไม่ค่อยมีแบบ group ใหญ่ ก็เลยต้องเลือกเรียนแบบ semi-group ไปโดยปริยายอาทิตย์หน้าก็ต้องเริ่มเรียนแล้ว ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเข้าไปแล้วจะทำได้แค่นั่งอ้าปาก ฟังเค้าอย่างเดียวหรือเปล่าเพราะเลเวลที่ได้สูงกว่าที่คาดไว้อยู่เหมือนกัน แต่จ่ายตังค์ไปแล้ว ก็ต้อง สู้-สู้ อย่างเดียวแล้วค่ะ