หลังเสริมหน้าอก สามารถตรวจแมมโมแกรมได้หรือไม่ หลังเสริมหน้าอก ยังสามารถตรวจแมมโมแกรมได้ แต่ แพทย์จะใช้เทคนิคพิเศษในการตรวจ คือ การเอ็กซเรย์โดยดึงแยกเนื้อเยื่อออกจากซิลิโคน ควบคู่ไปกับการอัลตราซาวด์ ข้อควรระวัง - แจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก่อนตรวจ ว่าได้เสริมหน้าอกมา
- แพทย์อาจต้องใช้เวลาในการตรวจนานกว่าปกติ
- อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยระหว่างการตรวจ
การตรวจแมมโมแกรม เป็นวิธีการคัดกรองมะเร็งเต้านมที่มีประสิทธิภาพ แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจแมมโมแกรมทุกๆ 1-2 ปี สำหรับผู้หญิงที่เสริมหน้าอก ควรเริ่มตรวจแมมโมแกรม 10 ปีหลังจากการผ่าตัด ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่เหมาะสมที่สุด หลังเสริมหน้าอกสามารถตรวจแมมโมแกรมได้ แต่แพทย์จะใช้วิธีการพิเศษเพื่อให้การตรวจแม่นยำและปลอดภัย โดยทั่วไปจะทำดังนี้ 1. แจ้งให้แพทย์ทราบ ก่อนเข้ารับการตรวจแมมโมแกรม แจ้งให้แพทย์ทราบว่าเคยเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน แพทย์จะได้เตรียมตัวและใช้วิธีการตรวจที่เหมาะสม 2. เทคนิคพิเศษ แพทย์จะใช้วิธีการเอ็กซเรย์แบบพิเศษ ดึงแยกเนื้อเยื่อเต้านมออกจากซิลิโคน ช่วยให้มองเห็นเนื้อเยื่อเต้านมได้ชัดเจน โดยไม่ต้องกังวลว่าซิลิโคนจะเสียหาย 3. ตรวจอัลตราซาวด์ควบคู่ไปด้วย แพทย์มักใช้วิธีตรวจอัลตราซาวด์ควบคู่ไปกับแมมโมแกรม ช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำยิ่งขึ้น 4. ความปลอดภัยของซิลิโคน ซิลิโคนเสริมหน้าอกมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นสูง การตรวจแมมโมแกรมไม่ทำให้ซิลิโคนแตก ข้อควรระวัง - แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการผ่าตัดเสริมหน้าอก ยี่ห้อและขนาดของซิลิโคน
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยา อาหารเสริม สมุนไพรที่รับประทานอยู่
- แจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น เต้านมบวม แดง เจ็บ
สรุป หลังเสริมหน้าอกสามารถตรวจแมมโมแกรมได้ แต่อาจใช้เทคนิคพิเศษและตรวจอัลตราซาวด์ควบคู่ไปด้วย แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการผ่าตัด ยา อาหารเสริม และอาการผิดปกติ เพื่อความปลอดภัยและแม่นยำในการตรวจ . หมออ้น วีรพรรณ
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2567 9:42:49 น. |
Counter : 276 Pageviews. |
|
|
|