ข่าวประชาสัมพันธ์ "นิทรรศการงานปักศิลปาชีพ"

สวัสดีคะ เพื่อนๆ

วีณะชา เอามาฝากเพื่อนๆ และ เด็กๆ ที่สนใจในงานปักนะคะ พอดีอ่านเจอในข่าว ..ขออนุญาต ก๊อปปี้มาลงในหน้านี้นะคะ วีณะชา ว่าน่าสนใจมากคะ...ถ้าเพื่อนๆอยู่ที่กรุงเทพ ควรหาเวลาไปชม เพราะหาดูได้ยาก..

ซึ่งการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ จะมีขึ้นระหว่าง วันที่ 2 สิงหาคม ถึง วันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 ในเวลา 10:00น.ถึง19:00น ทุกวัน เว้นวันพุธ (วันปิดทำการของหอศิลป์ฯ) อีกทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษ..ซึ่งเพื่อนๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โทร. 02 – 2815360-1” นะคะ

************************************************

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัด “นิทรรศการงานปักศิลปาชีพ”
โครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ซึ่งได้สร้างอาชีพเสริมแก่ประชาชนทั่วประเทศ

มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพจัด “นิทรรศการงานปักศิลปาชีพ” ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 2 สิงหาคม ถึง วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 และ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555

ในงานนี้ จะจัดแสดงภาพปักกว่า 200 ภาพคู่กับภาพต้นแบบที่สร้างสรรค์มาจากเนื้อเรื่องในวรรณคดี วิถีชีวิตความเป็นอยู่และธรรมชาติของไทย การนำผลงานผ้าปักที่นำมาแสดงในครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่สมาชิกปักผ้าที่เป็นชาวนาชาวไร่ทั่วประเทศ ได้ภาคภูมิใจในอาชีพเสริมที่ได้รับพระราชทานจนสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และให้มีความตั้งใจพัฒนาผลงานฝีมือตนเองให้งดงามยิ่งขึ้นโดยลำดับ

ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ กล่าวถึงพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับงานปักผ้า ว่า “งานปักผ้า เป็นงานที่พระราชทานให้กับชาวภาคใต้ ทรงเห็นว่าชาวบ้านภาคใต้มีเวลาว่างจากการกรีดยาง ทรงอยากให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเป็นการเพิ่มรายได้ จากที่ทรงเห็นว่า ชาวไทยมุสลิม ซึ่งมีจำนวนมากกว่าชาวไทยพุทธในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา เขาแต่งตัวสวยงาม มีผ้าคลุมผม ปักงดงาม ทรงเห็นว่า เขาน่าจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการทำงานศิลปะทางด้านการปักนี้ได้ โดยที่เวลาเสด็จพระราชดำเนินไป ทรงเห็นครอบครัวไหนยากจน ก็ทรงคัดเลือกมา ให้มานั่งเล่าเรียนงานปัก ครูก็คือ คุณข้าหลวง ซึ่งทำงานถวายการรับใช้ แล้วก็ปักงานถวายอยู่แล้ว ไปเป็นครูสอน ค่อยๆ ทำมา จากหมู่บ้านหนึ่ง ไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง จนเดี๋ยวนี้งานปักมีอยู่ทั่วแทบจะทุกแห่งแล้ว นอกจากภาคใต้แล้วยังทรงขยายงานไปยังภาคอื่นๆ ด้วย แต่ภาคใต้จะเป็นการตั้งต้นงานปัก

งานทอผ้าที่ภาคอีสานก็ทรงอนุรักษ์เอาไว้ให้ชาวบ้านยังคงปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ยังคงทอผ้าไหม งานชาวเขาก็เหมือนกัน ชาวเขาแต่ละเผ่า เขามีงานฝีมือของเขาเอง ก็ทรงอนุรักษ์ ทรงเก็บเอาไว้ โดยที่หลักง่ายๆ ก็คือ ทรงช่วยเขาในเรื่องปากเรื่องท้องของเขาก่อนเลย รับสั่งว่า เขามีครอบครัวที่จะต้องเลี้ยง เพราะฉะนั้นการทำมาหากินเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เขาก็จะมีปัญหา มีภาระมากมาย ส่วนการทำงานที่เขาทำเป็นเองอยู่แล้ว จะไม่นำความยุ่งยากมาให้ เพราะฉะนั้นจึงทรงหยิบงานเหล่านี้ขึ้นมาให้เขาได้ทำ และได้สืบสานต่อไป ถ้าทุกคนได้มองเห็นภาพที่พระองค์ท่านประทับทรงงานนะคะ ยกตัวอย่างภาคใต้ เวลาที่พระราชทานงานปักผ้า หรือที่ชาวบ้านทำเสร็จแล้วส่งงานถวาย ถ้าพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไป ชาวบ้านจะเก็บงานของตัวเองเอาไว้ เพื่อที่อยากจะได้รับการคัดเลือก ได้ขึ้นไปเฝ้าถวายงานด้วยตัวเอง เขาจะปักอย่างสุดฝีมือเลย แล้วก็ค่อยๆ พัฒนามาจนกระทั่งงานปักนี่ ถ้าคนเก่งๆ แทบจะเป็นงานที่เหมือนกับภาพเขียนเลย เหมือนกับภาพต้นแบบเลย โดยเริ่มต้นจากดอกไม้ดอกเดียว ก็ค่อยๆ ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เขามีความคุ้นเคยขึ้น จากดอกไม้ดอกเดียว ก็อาจจะมีใบ มีกิ่ง มีก้าน จากดอกเดียวเป็นสองดอก เป็นเถา เป็นต้น มาถึงงานปักที่เป็นธรรมชาติ เป็นป่า เป็นเขา เป็นลำธาร เป็นสัตว์ป่า เป็นภาพวรรณคดี"

นางเพียงใจ ว่องไว ครูสอนปักผ้า ในโครงการของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จากจังหวัดนราธิวาส ผู้ซึ่งพิการแขนข้างซ้ายขาดตั้งแต่กำเนิด เล่าถึงประสบการณ์ก่อนจะได้เข้าร่วมโครงการว่า “เมื่อก่อนดิฉันก็เป็นคนกรีดยางค่ะ พอดีปี 36 สมเด็จฯ เสด็จไปหมู่บ้านป่าไผ่ ดิฉันก็เลยเข้าไปถามว่า จะสมัครปักผ้าได้ที่ไหน และก็ถามว่า คนพิการอย่างดิฉันนี้ปักได้มั้ย เขาว่าปักได้ เพราะว่าปักกับสะดึงและไหมได้ ดิฉันก็เลยสมัครเป็นคนปักผ้า เมื่อก่อนก็ลำบาก จะกินก็ไม่มี ต้องไปยืมเงินร้อยละ 10 มาใช้จ่าย พอเข้าเป็นสมาชิก หนี้ก็หมดไป บ้านก็มีอยู่ เมื่อก่อนบ้านไม่มีจะอยู่ เวลาฝนตกทีต้องวิ่ง เพราะว่าหลังคารั่ว ฝาบ้านก็ไม่มี พอพระองค์ท่านให้ตรงนี้ ก็มีบ้านตึก แล้วก็มีรถเครื่อง รถยนต์ มีทุกอย่างที่อยากจะได้เหมือนคนอื่นเขา"

ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งให้เกียรตินำชมนิทรรศการในรอบสื่อมวลชน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา กล่าวถึงรายละเอียดการจัดแสดงในแต่ละชั้นว่า “การจัดแสดงผลงานทั้ง 5 ชั้น จะมีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไปในแต่ละชั้นโดยชั้นที่หนึ่งจะเน้นสื่อถึงพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงร่วมกันรักษาผืนป่าและต้นน้ำลำธาร โดยความน่าสนใจของชั้นนี้จะอยู่ที่ภาพวาดและภาพปัก ชุด " ป่าต้นน้ำลำธาร" ขนาดใหญ่ 2x3 เมตร ที่สองข้างพระสาทิสลักษณ์ ตลอดจนจัดแสดงประติมากรรมหล่อเรซิ่นตกแต่งด้วยผ้าไหมรูป "หงส์" และ "เหมราช" ไว้หน้าพระสาทิสลักษณ์ และที่ชั้นหนึ่งนี้เอง ที่ผู้เข้าชมนิทรรศการ จะสามารถมีส่วนร่วมในการปักผ้าผืนยาว “ปักใจภักดิ์ รักพระราชินี” เพื่อถวายความจงรักภักดีเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ส่วนในชั้นที่สอง จะจัดแสดงภาพที่สื่อถึงแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ โดยจัดแสดงภาพปักคู่กับต้นแบบภาพปักที่โปรดให้วาดเป็นสัตว์ป่าหายากตลอดถึงพรรณไม้ในธรรมชาติของประเทศไทย ในชั้นที่สาม จัดแสดงภาพวาดต้นแบบคู่ภาพปักเป็นกลุ่มภาพ เช่น กลุ่มภาพสัตว์และพรรณไม้ในป่าหิมพานต์ กลุ่มภาพสตรีและภาพดอกไม้ไทย กลุ่มภาพวรรณคดีเรื่องต่างๆ กลุ่มภาพประเพณีวิถีชีวิตไทย เป็นต้น สำหรับชั้นที่สี่ เป็นการเล่าเรื่องที่มาของงานปักศิลปาชีพด้วยภาพและฉากประกอบ รวมทั้งภาพแสดงขั้นตอนที่มาของเส้นไหม จนถึงการจัดแสดงเกลียวไหมสีต่างๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการปักผ้า และที่สำคัญยังจะมีการสาธิตการปักภาพบึงบัวใหญ่ขนาด 1.1x1.4 เมตร ให้ได้ชมเปรียบเทียบกับภาพวาดต้นแบบ และภาพปัก "นางลอย" ขนาด 2.40x1.92 เมตร รวมถึงการแสดงภาพวาดต้นแบบคู่ภาพปัก ในลักษณะเป็นชุดเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง และทศชาติ และชุดภาพปัก นางสงกรานต์ อีกด้วย”

“นอกการแสดงผลงานภาพปักคู่กับภาพต้นแบบแล้ว ภายในงานที่บริเวณชั้น 5 ของหอศิลป์ฯ ยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานปัก บัตรอวยพร สมุดภาพรวมเล่มวรรณคดีและธรรมชาติ ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายทั้งในวันธรรมดา และกิจกรรมพิเศษในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โทร. 02 – 2815360-1”

โดยการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2 สิงหาคมถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 ในเวลา 10:00น.ถึง19:00น ทุกวันเว้นวันพุธ (วันปิดทำการของหอศิลป์ฯ)

Create Date : 30 สิงหาคม 2555		1 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2555 10:34:42 น.
Counter : 4360 Pageviews.
Share Tweet