จาก"กระซิบรัก" ถึง"ตะโกน" พระอารมณ์ขัน สมเด็จพระเทพรัตนฯ
โดย พนิดา สงวนเสรีวานิช
(ที่มา:มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 2 เมษายน 2555)
| ใครไป "น่าน" ก็ต้องแวะไปเยี่ยม
"ปู่ม่านย่าม่าน" ที่วัดภูมินทร์
น่านเวลานี้ในส่วนของเทศบาลเมืองทัศนียภาพดูสะอาดตา สวยงามนัก เพราะการนำเสาไฟฟ้าลงใต้ดินทำให้ภาพของวัดวาอารามมุมกว้างไม่มีสายไฟรกตาเป็นขยุ้มๆ
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวช่วงนี้อาจจะขัดใจเล็กน้อย เพราะวัดภูมินทร์ รวมทั้งวัดหลักๆ ที่เป็นจุดสำคัญๆ ที่ผู้มาเยือน "ต้อง" แวะนมัสการขอความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เช่น วัดพระธาตุเขาน้อย ฯลฯ กำลังอยู่ในระหว่างการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
ที่ วัดภูมินทร์ ยามนี้จึงระเกะระกะตาด้วยนั่งร้านเพื่อซ่อมแซมหลังคาโบสถ์ หลังจากที่น้ำรั่วซึมทำให้จิตรกรรมล้ำค่าภายในพระอุโบสถเสียหายไปไม่น้อย
แต่ยังเปิดให้ผู้มาเยือนเข้าไปนมัสการองค์พระประธานภายในพระอุโบสถ
รวมทั้ง "ปู่ม่านย่าม่าน" ที่วันนี้ยังสุขสบายดี มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชี้ชวนชม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอยู่มาก
ทำไมต้องเป็น "ม่าน" ?
เป็นคำถามที่มักได้ยินจากปากของนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ ที่เข้ามาตามหาภาพสัญลักษณ์ของเมืองน่าน
"ม่าน" เป็นภาษาล้านนา หมายถึง "พม่า"
ปู่ม่านย่าม่านเป็นตัวแทนของหนุ่มสาวเชื้อสายพม่าคู่หนึ่ง สะท้อนให้เห็นความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในดินแดนแห่งนี้ เป็นหลักฐานชั้นต้นทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของน่าน เมื่อครั้งที่ยังไม่นับเนื่องเป็นผืนเดียวกับสยาม ซึ่งนอกจากพม่าแล้ว จิตรกรรมที่นี่ยังมีภาพของผู้คนอีกหลายชาติหลากภาษา ทั้งฝรั่ง จีน แขก ฯลฯ ภาพฝีพระหัตถ์"กระซิบรัก"พระราชทานเรือนจำจังหวัดน่าน
|
...เพียงแต่ไม่มีภาพใดที่ "เซ็กซี่" เท่า เป็น "โมนาลิซ่าแห่งล้านนา" ที่เรียกขานกันในชื่อ "กระซิบรักบันลือโลก" (Whispering)
ทุกวันนี้ "ปู่ม่านย่าม่าน" กลายเป็น
ซิกเนเจอร์ของเมืองน่าน ที่ไปปรากฏอยู่ตามสินค้าที่ระลึกต่างๆ มากมาย อาทิ เสื้อยืด โปสการ์ด ข้าวของแต่งบ้าน ฯลฯ
นอกจากภาพแสนโรแมนติกอย่าง "กระซิบรัก" แล้ว ใครที่ได้ไปยล "หอศิลป์ริมน่าน" ที่ก่อตั้งโดย วินัย ปราบริปู ศิลปินท้องถิ่นวัย 58 ปี จะเห็นภาพมากกว่า "กระซิบ"
"ตะโกน" (Shout) ภาพลายเส้นฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขนาด 40x60 เซนติเมตร แขวนอยู่บนผนังจัดแสดงงานศิลปะ ที่ชั้น 2 ของหอศิลป์ริมน่าน คู่กับ "กระซิบรัก" ภาพฝีพระหัตถ์อีกภาพที่ทรงเขียนพระราชทานเรือนจำชั่วคราว เขาน้อย จังหวัดน่าน เมื่อเสด็จจังหวัดน่านในคราวเดียวกัน ระหว่างวันที่ 18-19 มกราคม เมื่อปีกลาย
อาจารย์วินัยเล่าถึงที่มาของภาพฝีพระหัตถ์ทั้งสองภาพว่า...
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดน่านเมื่อวันที่ 18-19 มกราคม 2554 โดยในวันที่ 18 มกราคม เสด็จฯไปทรงเปิดโรงแรมพูคาน่านฟ้า
เช้าวันรุ่งขึ้น เสด็จฯไปทอดพระเนตรห้องสมุดพร้อมปัญญา และกิจการเกษตรแบบผสมผสาน ที่เรือนจำชั่วคราว เขาน้อย จังหวัดน่าน
ช่วงบ่ายเสด็จฯไปหอศิลป์ริมน่าน และเป็นที่มาของภาพที่ชาวจังหวัดน่านเล่าขานกันปากต่อปากด้วยความปลื้มปีติในพระกรุณาธิคุณต่อชาวจังหวัดน่านและพระอารมณ์ขันที่สอดแทรกอยู่ในความเป็นองค์ศิลปินอันเอกอุ ภาพฝีพระหัตถ์"ตะโกน"ทรงเขียนพระราชทานหอศิลป์ริมน่าน
|
วันที่ 19 มกราคม 2554 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปเรือนจำจังหวัดน่าน ทรงเขียนภาพ ?กระซิบ? ไว้ ขนาดภาพ 50x70 เซนติเมตร พระราชทานให้กับเรือนจำชั่วคราว เขาน้อย จังหวัดน่าน
ตอนบ่าย เสด็จฯไปหอศิลป์ริมน่าน ทอดพระเนตรภาพเขียน ?กระซิบ? ที่ผมเขียนเป็นฝรั่งกระซิบ
ท่านตรัสว่า "อ้าว ภาพเวอร์ชั่นใหม่ เมืองน่านมีแต่ภาพ ?กระซิบ? เมื่อเช้าได้เขียนภาพกระซิบไว้" อาจารย์วินัยบอก และว่า ทางหอศิลป์เราเตรียมผ้าใบและสีเมจิกไว้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงวาดภาพผู้ชายไว้ผมทรงโมฮอว์ก และผู้หญิงใส่ผ้าถุงทำท่าเอามือป้องหูเหมือนรับฟัง และเขียนอักษร "ตะโกน"
พระสหายกลุ่มที่มาด้วยได้มาถ่ายรูป ท่านทรงอธิบายว่า...
"ต้องตะโกนกัน เพราะกระซิบไม่ได้ยินแล้ว อายุมากกันแล้ว"
สักพักพระองค์ทรงชี้ที่ผ้าถุงของผู้หญิง ตรัสว่า "ลายน้ำไหลเมืองน่าน" ส่วนผู้ชายหัวโล้นที่มีผมข้างบน ตรัสว่า "ทรงโมฮอว์ก"
ศิลปินเมืองน่านคนเดิมบอกว่า ตอนหลังเราก็เอาแรงบันดาลใจจากภาพฝีพระหัตถ์ของพระองค์มาทำประติมากรรมด้วยตัวนอต ทำท่าตะโกนในลักษณะที่ผู้ชายทำทรงผมโมฮอว์ก และผู้หญิงใส่ผ้าถุงทำท่าเอามือป้องหู ที่มาคือตรงนี้
อาจารย์วินัยเล่าต่ออีกว่า เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หอศิลป์ริมน่านเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
อีกครั้ง ทางฝ่ายเตรียมการรับเสด็จแจ้งว่า จะเสด็จ
ที่หอศิลป์ริมน่าน พร้อมกับคณะกรรมการโครงการรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล พระอาคันตุกะของพระองค์ แต่ปรากฏว่าต้องยกเลิกเพราะน้ำท่วม
"ก่อนหน้าที่จะแจ้งยกเลิกการเสด็จ ทางฝ่ายต้อนรับคือกองราชเลขาในพระองค์ ประชุมใหญ่ที่จังหวัดน่าน แจ้งมาว่าให้ผมไปรับภาพ ?กระซิบ? ที่เรือนจำให้ยืม มาแขวนคู่กับภาพ ?ตะโกน? เพื่อให้ประชาชนที่มาชมงานศิลปะที่หอศิลป์เห็น"
เมื่อมีการยกเลิกกำหนดการเสด็จ ภาพ "กระซิบ" จึงยังจัดแสดงคู่กับภาพ "ตะโกน" จนบัดนี้
ทั้งสองภาพจะยังจัดแสดงที่หอศิลป์ริมน่านต่อไปอีกนาน เพราะท่านผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดน่าน ไพฑูรย์ อำพันธ์
มีความปรารถนาจะให้ประชาชนได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพผ่านภาพ "กระซิบ" โดยเขียนกำกับใต้ภาพว่า เป็นภาพฝีพระหัตถ์พระราชทานให้เรือนจำจังหวัดน่าน
เพราะถ้าอยู่ที่เรือนจำประชาชนไม่มีโอกาสได้เห็น
คนที่มาชมงานศิลปะที่นี่เห็นภาพฝีพระหัตถ์แล้วชอบมากเพราะคิดไม่ถึง ทรงเป็นพระองค์แรกที่ทรงคิดสร้างสรรค์ภาพตะโกน เป็นภาพที่สื่อออกมาจากแรงบันดาลใจ ณ เดี๋ยวนั้น
"หลังจากวาดรูปนี้แล้วท่านทรงมีความสุขมาก เหมือนศิลปินได้สร้างสรรค์งานที่ถูกใจออกมา ทรงประทับที่หอศิลป์อยู่เกือบ 2 ชั่วโมง" อาจารย์วินัยบอก
ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพร ขอจงทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระชนมานสืบยืนสี่หมื่นวัน พระพุทธเจ้าข้า
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คุณพนิดา สงวนเสรีวานิช สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 02 เมษายน 2555 |
Last Update : 2 เมษายน 2555 14:43:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 926 Pageviews. |
|
|