คุยกับวินิติ์ศิริ อาทิตยวารสิริสวัสดิ์-เปรมมนัสกมลสันติ์ ( รักที่อยากลืม )
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์-เปรมมนัสกมลสันติ์ ที่ 29 มีนาคม 2552 ค่ะ
เพื่อนๆ สุขสบายดีไหมคะ วันนี้ร้อนมากขึ้น ระวังสุขภาพนะคะ ตากแดดมากๆ ก็ไม่ดีค่ะ อาจจะเป็นหวัดแดดได้ค่ะ หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคน จะอยู่สุขสบายดีนะคะ
วันนี้นำของดีมีมงคลมาฝากอีกค่ะ
ทศพิธราชธรรม ธรรมของพระราชา 10 ประการ
ตบะ : ความเพียรเผากิเลส
ตบะ คือความเพียรเผากิเลสตัณหา ไม่หลงระเริงไปกับคำสรรเสริญเยินยอ และความสำเริงสำราญ ที่มาพร้อมกับอำนาจวาสนา จนลืมปฏิบัติหน้าที่ให้บริบูรณ์ ผู้นำที่มีตบะ จะสามารถควบคุมจิตใจให้พอใจกับความเรียบง่าย เขาเป็นคนที่ได้ดีแล้วไม่ลืมตัว เขาอยู่อย่างไม่ตามใจกิเลสตัณหา แม้จะมีเงินทองมากมาย เขาก็ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญตบะ จึงทรงพอพระทัยชีวิตที่เรียบง่ายตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทรงพระราชทานแก่ชาวไทย พระองค์เองทรงเป็นแบบอย่างของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ดังที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เล่าไว้ว่า
" วันหนึ่ง เสด็จ ฯ เขาค้อ เปิดอนุสาวรีย์ พอเปิดอนุสาวรีย์เสร็จ พระองค์ท่านก็ขอกลับไปที่พระตำหนัก เพื่อจะทรงเปลี่ยนฉลองพระบาท เพราะเดี๋ยวจะไปดูงานในป่าในดง เราก็ไม่ได้ทานข้าว ไม่มีใครทานข้าว ตอนนั้นบ่ายสองโมงแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนฉลองพระบาทสักยี่สิบนาที น่าจะพุ้ยข้าวกันทัน ก็รีบวิ่งไปที่ห้องอาหารที่เตรียมไว้
ปรากฏว่าพวกที่ไม่ได้ตามเสด็จ ฯ เขาทานกันหมดแล้ว ในนั้นจึงเหลือข้าวผัดติดก้นกระบะ กับมีไข่ดาวทิ้งแห้งไว้อยู่ 3-4 ใบ เราก็ตัก เห็นมีข้าวอยู่จานหนึ่งวางไว้ มีข้าวผัดเหมือนอย่างเรา ไข่ดาวโปะใบหนึ่ง มีน้ำปลาถ้วยหนึ่งวางวางอยู่ เพื่อนผมจะไปหยิบมา มหาดเล็กบอกว่า
" ไม่ได้ ๆ ของพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก "
ดูสิครับ ตักมาจากก้นกระบะเลย ผมนี่แทบน้ำตาไหลเลย ท่านเสวยเหมือนๆกันกับพวกเรา "
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหลักอยู่ 3 ประการ
1.มัตตัญญุตา ความรู้จักพอประมาณ
2.ความมีเหตุผล คือ มัชฌิมาปติปทา รู้จักเดินทางสายกลาง
3.มีภูมิคุ้มกัน 2 อย่าง คือ
....1.มีปัญญารู้เท่าทันสามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด และ
....2.มีคุณธรรม โดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานชีวิต
การบำเพ็ญตบะ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พระองค์ทรงดำรงค์ชีวิตอย่างรู้จักพอประมาณ ซึ่งเป็นหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง หลักฐานประการหนึ่งในเรื่องนี้ ก็คือหลอดยาสีพระทนต์ หรือหลอดยาสีฟันของในหลวง
ที่ ท่านผู้หญิง เพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ส่วนพระองค์ กล่าวถึง ในการให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อเดือน สิงหาคม 2542 ดังนี้
"ครั้งหนึ่งเคยกราบทูลท่านว่า ลูกศิษย์ที่มหาวิทยาลัยฟุ่มเฟือยมาก กระเป๋าถือต้องใช้ของนอก มีแบรนด์เนม บางคนไม่มีเงินซื้อ ก็ไปเช่าที่สยามสแควร์เดือนละพันสองพัน ไม่เหมือนสมเด็จพระเทพฯ ท่านสะพายอะไรก็ได้ วันก่อนเข้าไปในห้องสรงสมเด็จพระเทพฯ เห็นหลอดยาสีพระทนต์ สมเด็จพระเทพ ฯ ทรงรีดใช้จนเกลี้ยงหลอด
พระองค์ท่านตรัสว่า " ของเราก็มี วันก่อนนี้ยังใช้ไม่หมด มหาดเล็กมาทำความสะอาดห้องสรง คิดว่าหมดแล้ว มาเอาไปเปลี่ยนหลอดใหม่มาให้ เราบอกให้ไปตามกลับมา เรายังใช้ต่อได้อีก 5 วัน "
หลังจากนั้น ท่านผู้หญิงเพ็ชรา ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานหลอดยาสีพระทนต์หลอดนั้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มหาดเล็กนำมาพระราชทานให้ท่านถึงบ้าน
เมื่อได้เห็นหลอดยาสีพระทนต์ ท่านก็ต้องรู้สึกแปลกใจ ที่หลอดยาสีพระทนต์นั้นแบนราบเรียบตลอดคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอดนั้น ปรากฏรอยบุ๋มลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด
เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ อีกครั้งในเวลาต่อมา ท่านผู้หญิงเพ็ชรา จึงได้รับพระราชทานพระบรมราชาธิบายว่า
หลอดยาสีพระทนต์ที่แบนราบเรียบและมีรอยบุ๋มนั้น เพราะทรงใช้แปรงสีพระทนต์รีดและกดที่คอหลอด
พระมหากษัตริย์ผู้ทรงบำเพ็ญทศพิธราชธรรม ข้อ ตบะ เท่านั้น จึงสามารถใช้หลอดยาสีพระทนต์ได้คุ้มค่าขนาดนั้น
จาก ธ ทรงครองแผ่นดิน โดยทศพิธราชธรรม พระธรรมโกศาจารย์ (ศ.ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
ขอนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง ขอน้อมนำพระราชจริยวัตรองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง มาเผยแผ่ให้เพื่อนๆได้รับทราบด้วยสำนึกในพระมหากรุณาคุณเป็นล้นพ้น
ขอถวายพระพร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
วันนี้มีเพลงเพราะมากมาฝาก ขอขอบคุณดาวจ๋าคนซนๆ (satineesh) และคุณวันชนะ ผู้หาเนื้อเพลงให้ เมื่อถามว่า.. เพลงที่มีคำร้องแบบนี้ ชื่อเพลงอะไร..ชั่วเวลากลับหน้า...ดาวจ๋าหามาได้แล้ว โดยพิมพ์ทั้งคำร้องและวางเพลงให้ค่ะ นางฟ้าผู้นิรมิต ตัวจริงละค่ะ...
รักที่อยากลืม
ขับร้อง แซม ยุรนันท์
ปลิดปลิวเคว้งคว้าง ชีวิตฉันดั่งใบไม้ที่หลุดลอย น้ำตาฉันเต็มลำธาร อาบรักที่ผิดหวังในตัวเธอ
ร้องทุกข์กับผืนทราย ที่เผลอใจไปรักเธอ จึงต้องมานั่งซึมเหม่อ เพราะรักเธอเพียงข้างเดียว
* หยาดฝนพร่างฟ้า ชีวิตฉันปรารถนาเธอผู้เดียว รักเอยเหมือนดังคมเคียว เกี่ยวแม้ข้าวที่เขียวยังคานา
** ฝนเอยจงเป็นพยาน ข้าขอวานจงเมตตา จงช่วยทำให้ใจข้า ได้ร้างราลืมรักลง
(ซ้ำ * และ ** และ **)
สิริสวัสดิ์วัฒนวาร กมลมานโชติแจ่มจ้าค่ะ
Create Date : 29 มีนาคม 2552 |
|
50 comments |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 18:08:23 น. |
Counter : 1593 Pageviews. |
|
|
|
"ไม่ได้ ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก"