[รักคนเสื้อแดง] ครบรอบ 4 เดือน 19 พฤษภา ที่นี่(ประเทศไทย)มีคนตาย คนที่ตายไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย
บอกตามตรง ครั้งแรกที่ผมได้อ่านข่าวนี้ น้ำตาไหลผมได้ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ไหลออกมาเพราะภาพชายร่างกายที่ซูบผอม เหมือนคนเร่ร่อน ไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายพรางทหาร และได้ถูกยิงตายในวันที่ 19 พฤษภาคม ได้ผุดขึ้นมาอยู่ตรงหน้า จากกระทู้ที่ผมเขียนแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกับคุณไป่ฉี P9690708 [รักคนเสื้อแดง] ผู้ก่อการร้ายเมื่อถูกยิงเสียชีวิตแล้ว...ก็มีคนหยิบอาวุธไป (กระทู้ภาคต่อคุณไป่ฉีตอนที่1) ไปไว้ที่ blog (คลิก) ในวันที่ 31 พฤษภาคม นายสุเทพได้อภิปรายกล่าวความตอนหนึ่งไว้ว่า "...ที่บอกว่าไม่เคยเจอปืนในมือผู้เสียชีวิต ต้องยอมรับว่าคนเหล่านี้ฝึกมาดี เมื่อปะทะกับเจ้าหน้าที่ แนวอยู่กันไกล เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ก็มีการหยิบอาวุธไป..." ช่วงนั้นถ้าผมจำไม่ผิด การกล่าวข้อความนี้สืบเนื่องมาจากการแสดงรูปผู้เสียชีวิตสองราย ที่ถูกยิงตายบริเวณสวนลุมพินี หน้ารพ.จุฬา ที่เป็นภาพข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลก โดยมีการแสดงความคิดเห็นในช่วงแรกในท่วงทำนองที่ว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายนี้ อาจถูกพวกเสื้อแดงด้วยกันเองยิงเสียชีวิตตอนกลางคืน เลือดแห้งแล้ว อาวุธก็ถูกหยิบนำไป วันนี้เป็นวันครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร 4 เดือน กระชับวงล้อมราชประสงค์ ผมจึงถือโอกาสนำภาพชุดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ มายืนยันแสดงให้เห็นว่า คนเสื้อแดง 2 คน ที่ถูกยิงเสียชีวิต ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 19 พฤษภาคม และมือของพวกเขาไม่มีอาวุธ
โดยเฉพาะชายร่างกายซูบผอม เหมือนคนเร่ร่อน ไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายพรางทหาร ก่อนที่เขาจะถูกยิงเสียชีวิตกลายเป็นศพไม่มีญาติ ในมือของเขา ในวงแขนของเขา คือ ผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และเขาได้วิ่งเข้าไปทำการช่วยเหลือ ก่อนที่ตนเองจะถูกยิงเสียชีวิต โดยมีคนเป็นที่ยัดเยียดข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้ายมีอาวุธปืนสงคราม เมื่อถูกยิงตายก็มีกองกำลังที่ถูกฝึกมาดีหยิบไป
* ผมจะพยายามขอสงวนและหลีกเลี่ยงไม่นำภาพผู้เสียชีวิตที่ถ่ายให้เห็นหน้าตรง และภาพศพในอริยาบทต่างๆ ที่มีมากมายซึ่งเพื่อนสมาชิกหลายท่านคงได้เห็นผ่านตามาลงนะครับ
จากคลิป มีคนเหรอยิงเลย และภาพที่เห็นผ่านสายตาผู้ชมทั่วไปจากกล้อง TPBS ที่เห็นทหารยิงปืนรัวเข้าใส่กลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังวิ่งหนี คุณไป่ฉีคงจะไม่แปลกใจเลยว่า เจ้าลูกกระสุนที่ยิงตรงไปจะไปถูกใครบ้าง และทิศทางกระสุนมาจากทางฝั่งใด และก็ช่างเป็นการบังเอิญเสียเหลือเกินที่นักข่าวอิตาลีผู้โชคร้ายก็ยืนอยู่ ทางฝั่งคนเสื้อแดงเสียด้วย (ดูภาพ *)
ถ้าใครเคยเข้าไปอ่าน blog กระทู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณไป่ฉี ผมเคยเกริ่นไว้ว่า รูปนายมานะที่ถูกยิงและมีช่างภาพคนหนึ่งวิ่งเข้าไปช่วยนำร่างออกมา จะเป็นคนเดียวกันกับคนที่ได้เข้าไปช่วยนำร่างของนักข่าวอิตาลีออกมา (*ภาพบนสุด คนซ้ายมือภาพ)
หลายภาพชุดข้างต้น คนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ชุมนุม ในมือของพวกเขาไม่มีอาวุธปืนสงคราม ในมือของพวกเขามีแต่ผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ที่พวกเขาพยายามช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล(ตำรวจ)ที่ไม่ใช่โรงพยาบาลจุฬา(เพราะ เหตุอะไรถึงไม่ส่งรพ.จุฬา?) และพวกเขาที่ถูกยิงเสียชีวิตไม่ได้มีภาพของการต่อสู้เลยด้วยซ้ำไป ไม่มีแม้กระทั่งหนังสติ๊กหรือก้อนอิฐ
ภายหลังที่ตำรวจได้นำกองกำลังไปลำเลียงคนเสื้อแดงออกจากวัดปทุมเพื่อทำการ ส่งกลับภูมิลำเนา วันที่ 21 พฤษภาคม ก็มีการจับกุมการ์ดนปช.คนเสื้อแดงที่หลบอยู่ในวัดปทุมได้ 2 คน และหนึ่งในนั้นก็เคยถูกนำภาพตอนไปตรวจค้นหาทหารที่รพ.จุฬาจับไปโยงกับภาพ สเก็ตซ์ผู้ต้องสงสัยปาระเบิดบ้านนายบรรหาร ช่วงวันที่ 19 การ์ดนปช.คนนี้ในขณะที่ทหารทำการกระชับวงล้อม และมีคนเสื้อแดงถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีภาพการ์ดนปช.คนนี้ไม่ได้ทำการต่อสู้ แต่เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ทำการช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงพร้อม กับนายวสันต์ สายรัศมี หนุ่มกู้ชีพ (คลิกดาวน์โหลดไฟล์ภาพ)
สุดท้ายนี้ โดยเฉพาะชายร่างกายซูบผอม ที่ยังกลายเป็นศพไม่มีญาติ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเร่ร่อนแต่จิตใจของเขายังสูงส่งกว่าคนที่กล่าวร้ายป้ายสี ยัดเยียดให้เขาเป็นผู้ก่อการร้าย แม้เขาจะรู้ว่าการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงมีความ เสี่ยงต่อการที่จะถูกยิงเอง แทนที่เขาจะวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ด้วยน้ำใจที่สูงยิ่ง ที่แสดงให้เห็นหัวจิตหัวใจคนเสื้อแดงถึงการไม่ทิ้งกัน เขากลับต้องมาเสียสละชีวิตเสียเอง ยามเมื่อผมเปิดดูภาพพวกนี้ทีไร น้ำตาผมมันมักจะปริ่มๆ อยู่เสมอ เหมือนเครื่องเตือนใจว่า คนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ทวงความเป็นธรรมให้คนตายที่ เสียสละชีวิต
กระทู้นี้ผมจึงอยากฝากถึงใครก็ตามที่ยังหลงเชื่อคำพูดนายสุเทพ ศอฉ. นาย(ก) เก็บเอาความนิยมชมชอบทางการเมืองส่วนตัวไว้ก่อน ให้ลดอคติ ลดทิฐิ ลดความเกลียดชังที่มีต่อคุณทักษิณและพ่วงไปถึงคนเสื้อแดง ดูหลักฐาน ดูข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้วายชนม์และจงยอมรับถึงความผิดพลาดที่เกิดจากฝ่ายที่ตน เองเชียร์กระทำ ดีกว่าที่จะแสดงตนกลายเป็นพวกเชียร์อย่างไม่ลืมหูลืมตา อะไรผิด อะไรถูก ไม่สนใจ อย่าพาตนเองจมดิ่งถลำลึกจนโงหัวไม่ขึ้น ถ้ายังไม่ฉุกคิดบางทีอาจจะสายเกินไป
Create Date : 19 กันยายน 2553 |
|
19 comments |
Last Update : 19 กันยายน 2553 16:44:08 น. |
Counter : 964 Pageviews. |
|
|
|