Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [? ]
Aesthetic surgery is an essential component of plastic surgery. Plastic surgeons use cosmetic surgical principles in all reconstructive surgical procedures as well as isolated operations to improve overall appearance.
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
การดูแลตนเองก่อน-หลังผ่าตัด
การเตรียมตัวและข้อห้ามก่อนการผ่าตัด 1 งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แอลกอฮอลล์อย่างน้อย 5 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและอาการบวมที่ยาวนานกว่าปกติ (กรณีผ่าตัดใหญ่ให้งดบุหรี่หลังผ่าตัด 1 เดือน) 2 งดยากลุ่มแอสไพริน (aspirin) หรือไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) เช่น ยารักษาโรคไซนัส ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาดังกล่าว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัดเพื่อลดอาการฟกช้ำจากปัญหาเลือดคั่งหลังการผ่าตัด หากจำเป็นให้ใช้ยาพาราเซตามอนในการแก้ปวดเท่านั้น 3 งดยา สมุนไพร และอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E และ C อย่างน้อย 10 วัน เนื่องจากทำให้เลือดหลุดไหลยาก และเป็นอุปสรรคในการทำผ่าตัด เช่น ผงชูรส กระเทียม หัวหอม ถั่วเหลือง อีฟนิงพริมโรส ยาลดความอ้วน ยาต้านอาการซึมเศร้า อัลมอนด์ แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลเบอรี่ แตงกวา ขิง มะเขือเทศ 4 แจ้งประวัติการแพ้ยา อาหารเสริมที่รับประทานอยู่ และโรคประจำตัว 5 งดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง แต่สามารถดื่มน้ำได้ แต่กรณีที่ต้องใช้ยาสลบให้งดทั้งน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด 6 ในกรณีผ่าตัดใหญ่เช่น ทำหน้าอก ดูดไขมัน ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน 7 ลาหยุดประมาณ 4 วัน และควรมีคนมาเป็นเพื่อนด้วย เนื่องจากแพทย์จะให้ยานอนหลับทำให้มีอาการมึนเมาหลังจากฟื้นจากฤทธิ์ยา 8 หากคนไข้อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ให้นำบิดาหรือมารดามาเซ็นยินยอมอนุญาตให้บุตรเข้ารับการผ่าตัด ไม่สามารถให้พี่สาวหรือญาติมาเซ็นได้การดูแลตนเองหลังเข้ารับการผ่าตัด การเสริมจมูก, แก้ไขจมูก, ตกแต่งทรงจมูก และการตัดปีกจมูก 1 ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ประคบเย็นควรเป็นวัสดุน้ำหนักเบาเช่น ใช้ผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆสัก 3 ผืนแช่ช่องแข็งและสลับนำมาประคบให้ต่อเนื่องที่สุด โดยประคบหน้าผาก ตา และข้างๆจมูก หากพ้นระยะ 48 ชั่วโมงแล้วให้ปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ควรประคบร้อนหรือเย็นทั้งสิ้นเพราะอาการบวมจะมีต่อไปอีกประมาณ 4-14 วันแล้วจะค่อยๆยุบลง โดยช่วงหัวตาจะยุบช้าที่สุด ดังนั้นหากรู้สึกว่าหัวตาดูโตไม่ต้องกังวลค่ะ 2 นอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับ 48 ชั่วโมง และตระหนักไว้ว่าอาการบวมจนตาปิดช่วง 3-4 วันแรกเป็นอาการปกติ และช่วง 8 วันแรกยังไม่ต้องอารมณ์เสียกับรูปทรงจมูกเพราะอาการบวมยังมีมากอยู่จนไม่อาจทราบทรงจมูกที่แท้จริงได้ อาการบวมช้ำจะยาวนานแตกต่างกันไปในแต่ละรายช่วง 4-14 วัน ไม่ต้องวิตกกังวล 3 ห้ามแผลผ่าตัดโดนน้ำ 7 วัน ดังนั้น การทำความสะอาดหน้า 3-4 วันแรกให้ใช้กระดาษซับมัน หลังจากนั้นใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งบริเวณดั้งจมูก 4 ผู้เข้ารับการผ่าตัดจึงควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงฝุ่นที่เป็นสาเหตุให้แพ้อากาศ หากมีน้ำมูกให้รีบทานยาแก้แพ้ทันที หลีกเลี่ยงการไอ จาม และสั่งน้ำมูก 5 หลังจากรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจนหมดแล้วไม่ต้องซื้อรับประทานเองเพิ่ม ให้ทานได้เฉพาะยาแก้ปวดพาราเซตามอนเท่านั้น ในกรณีมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมักมีสาเหตุมาจากอาการแห้ยาให้หยุดทานยาแก้อักเสบ และสามารถทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้(Domperidone) 6 วันที่ 4 หลังการผ่าตัดให้แกะเฝือกที่ติดจมูกออกได้โดยใช้น้ำอุ่นลูบเบาๆ 7 ในช่วง 3-4 วันแรกคนไข้อาจมีอาการน้ำเหลืองหรือเลือดจางๆซึมออกมาจากแผล ให้ใช้คัตตอนบัดซับเบาๆ และแต้มเบตาดีนเบาๆในบริเวณที่มีน้ำเหลืองซึมออกมา ห้ามเช็ดหรือถูโดยเด็ดขาด แต่ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลในทุกกรณี 8 หลังจากแผลผ่าตัดแห้งแล้วเท่านั้นจะสามารถใช้ยารักษาแผลเป็นได้ 9 ในกรณีตัดปีกจมูก คนไข้ไม่ต้องตกใจหากแผลมีอาการแฉะ สามารถซับด้วยไม้พันสำลีชุบเบตาดีนได้ถ้าจำเป็น ห้ามเช็ดหรือถูโดยเด็ดขาด (ไม่ควรทำบ่อย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลในทุกกรณี) 10 ต้องมาตรวจซ้ำตามใบนัด หากมีอาการเอียงแพทย์จะสามารถใช้มือดัดแก้ไขให้ตรงได้ทันเวลา หากมีปัญหาแล้วไม่มาตามนัดอาจไม่สามารถแก้ไขได้ สำหรับคนไข้ที่แพทย์ไม่ได้ทำการตัดไหมให้อาจเป็นเพราะแผลยังไม่แห้งสนิท ดังนั้นหากรู้สึกรำคาญสามารถให้แพทย์ท่านอื่นตัดได้ 11 รับประทานอาหารอ่อนๆในช่วง 3-4 วันแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกและขยับเขยื้อนของจมูก รวมไปถึงของหมักดอง อาหารรสจัด ของไม่สะอาดทั้งหลาย การเสริมคาง 1 ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ประคบเย็นควรเป็นวัสดุน้ำหนักเบาเช่น ใช้ผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆสัก 3 ผืนแช่ช่องแข็งและสลับนำมาประคบให้ต่อเนื่องที่สุด โดยประคบช่วงแก้ม หลีกเลี่ยงการประคบตรงจุดที่มีซิลิโคนอยู่ หากพ้นระยะ 48 ชั่วโมงแล้วให้ปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ควรประคบร้อนหรือเย็นทั้งสิ้นเพราะอาการบวมจะมีต่อไปอีกประมาณ 4-5 วัน 2 นอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับ 48 ชั่วโมง และตระหนักไว้ว่าอาการบวมอย่างมากช่วง 3-4 วันแรกเป็นอาการปกติ และช่วง 8 วันแรกยังไม่ต้องอารมณ์เสียกับคางที่ใหญ่เกินไปเพราะยังมีอาการบวมอยู่ 3 การผ่าตัดคางจะผ่าจากด้านในปาก ทำให้มีแผลในปาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง อาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวในช่วงแรก ส่วนการทำความสะอาดให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำยาบ้วนปากเจือจางช่วง 3-4 วันแรก 4 หลังจากรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจนหมดแล้วไม่ต้องซื้อรับประทานเองเพิ่ม ให้ทานได้เฉพาะยาแก้ปวดพาราเซตามอนเท่านั้น ในกรณีมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมักมีสาเหตุมาจากอาการแห้ยาให้หยุดทานยาแก้อักเสบ และสามารถทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้ (Domperidone) 5 วันที่ 4 หลังการผ่าตัดให้แกะเฝือกที่ติดคางออกได้โดยใช้น้ำอุ่นลูบเบาๆ 6 ต้องมาตรวจซ้ำตามใบนัดแพทย์ หากมีอาการเอียงแพทย์จะสามารถใช้มือดัดแก้ไขให้ตรงได้ทันเวลา แต่หากไม่มาอาจแก้ไขให้ไม่ได้ สำหรับคนไข้ที่แพทย์ไม่ได้ทำการตัดไหมให้อาจเป็นเพราะแผลยังไม่แห้งสนิท ดังนั้นหากรู้สึกรำคาญสามารถให้แพทย์ท่านอื่นตัดได้ การทำตาสองชั้น และการตัดถุงไขมันใต้ตา 1 ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ประคบเย็นควรเป็นวัสดุน้ำหนักเบาเช่น ใช้ผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆสัก 3 ผืนแช่ช่องแข็งและสลับนำมาประคบให้ต่อเนื่องที่สุด โดยประคบหน้าผาก รอบๆตา ใต้ตาและสันจมูก หากพ้นระยะ 48 ชั่วโมงแล้วให้ปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ควรประคบร้อนหรือเย็นทั้งสิ้นเพราะอาการบวมจะมีต่อไปอีกประมาณ 4-5 วัน 2 นอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับ 48 ชั่วโมง และตระหนักไว้ว่าอาการบวมจนตาปิดหรือมีอาการฟกช้ำโดยรอบช่วง 3-7 วันแรกเป็นอาการปกติ และบางรายอาจมีอาการเลือดคั่งด้วยเช่นกันซึ่งสามารถให้แพทย์ดูดออกภายหลังได้ 3 เมื่อพ้นระยะ 24 ชั่วโมงสามารถแกะผ้าปิดตาออกได้ ห้ามแผลโดนน้ำ 5-7 วัน ดังนั้น การทำความสะอาดหน้า 3-4 วันแรกให้ใช้สำลีหรือผ้าชุบน้ำเช็ดทั่วใบหน้าอย่าให้โดนแผลเด็ดขาด 4 ผู้เข้ารับการผ่าตัดจึงควรอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงฝุ่นที่เป็นสาเหตุให้แพ้อากาศ หากมีน้ำมูกให้รีบทานยาแก้แพ้ทันที หลีกเลี่ยงการไอ จาม และสั่งน้ำมูก 5 หลังจากรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจนหมดแล้วไม่ต้องซื้อรับประทานเองเพิ่ม ให้ทานได้เฉพาะยาแก้ปวดพาราเซตามอนเท่านั้น ในกรณีมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมักมีสาเหตุมาจากอาการแห้ยาให้หยุดทานยาแก้อักเสบ และสามารถทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้(Domperidone) 6 ในช่วง 3-4 วันแรกคนไข้อาจมีอาการน้ำเหลืองหรือเลือดจางๆซึมออกมาจากแผลให้ปล่อยไว้เฉยๆ แต่ถ้าทนไม่ไหวให้ใช้คัตตอนบัดชุบเบตาดีนซับเบาๆ ในบริเวณนั้นๆ ห้ามเช็ดหรือถูแผลเด็ดขาด หลังจากแผลผ่าตัดแห้งแล้วเท่านั้นจะสามารถใช้ยารักษาแผลเป็นได้ และแต่งหน้าได้หลังผ่าตัด 7-10 วัน หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์ สวมแว่นตาหนักๆ ยกของหนัก การใช้สายตามากๆช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด 7 ไม่ต้องตกใจหากมีเลือดซึมจากแผลที่เปลือกตามาแห้งหรังทั่วบริเวณจำนวนมาก และห้ามแคะแกะเกา 8 มาตรวจซ้ำตามใบนัดแพทย์ หากมีอาการผิดปกติแพทย์จะสามารถแก้ไขให้ได้ทันท่วงที สำหรับคนไข้ที่แพทย์ไม่ได้ทำการตัดไหมให้อาจเป็นเพราะแผลยังไม่แห้งสนิท ดังนั้นหากรู้สึกรำคาญสามารถให้แพทย์ท่านอื่นตัดได้ การดูดไขมัน การเตรียมตัวและข้อห้ามก่อนการผ่าตัด 1 งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แอลกอฮอลล์อย่างน้อย 5 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและอาการบวมที่ยาวนานกว่าปกติ (กรณีผ่าตัดใหญ่ให้งดบุหรี่หลังผ่าตัด 1 เดือน) 2 งดยากลุ่มแอสไพริน (aspirin) หรือไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) เช่น ยารักษาโรคไซนัส ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาดังกล่าว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัดเพื่อลดอาการฟกช้ำจากปัญหาเลือดคั่งหลังการผ่าตัด หากจำเป็นให้ใช้ยาพาราเซตามอนในการแก้ปวดเท่านั้น 3 งดยา สมุนไพร และอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E และ C อย่างน้อย 10 วัน เนื่องจากทำให้เลือดหลุดไหลยาก และเป็นอุปสรรคในการทำผ่าตัด เช่น ผงชูรส กระเทียม หัวหอม ถั่วเหลือง อีฟนิงพริมโรส ยาลดความอ้วน ยาต้านอาการซึมเศร้า อัลมอนด์ แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลเบอรี่ แตงกวา ขิง มะเขือเทศ 4 แจ้งประวัติการแพ้ยา อาหารเสริมที่รับประทานอยู่ และโรคประจำตัว 5 งดทั้งน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด 6 การทำหน้าอก ดูดไขมัน ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน 7 ลาหยุดประมาณ 4 วัน และควรมีเพื่อนดูแลตลอดคืน (admit 1 คืน) 8 หากคนไข้อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ให้นำบิดาหรือมารดามาเซ็นยินยอมอนุญาตให้บุตรเข้ารับการผ่าตัด ไม่สามารถให้พี่สาวหรือญาติมาเซ็นได้ การดูแลตนเองหลังการดูดไขมัน 1 หลังการผ่าตัดในคนไข้บางรายจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเนื่องจากอาการแพ้ยาสลบ 2 ค้างคืนที่โรงพยาบาล 1-2 คืนกรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำของพยาบาลอย่างเคร่งครัด 3 ในช่วง2-3วันแรกห้ามขยับตัวมาก ควรใช้วิธีการเช็ดตัวในการทำความสะอาดร่างกาย คนไข้ไม่ต้องตกใจหากมีน้ำหรือเลือดซึมออกมาจากแผล สามารถทำแผลเองด้วยการใช้เบตาดีนแต้มได้ สำหรับวันที่ 3 เป็นต้นไปแผลจะแห้งและสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ 4 ต้องพันผ้าที่แพทย์พันให้ตลอดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ 5 หลังแผลหายอาจมีผิวหนังเป็นคลื่นหรอมีไตแข็งๆ สามารถนวดในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาการจะดีขึ้นใน 3-6 เดือน 6 ประมาณ 3 สัปดาห์ อาการบวมช้ำจะมีอยู่เป็นเรื่องปกติไม่ต้องตกใจ 7 ต้องมาตรวจซ้ำตามใบนัด หากมีอาการเอียงแพทย์จะสามารถใช้มือดัดแก้ไขให้ตรงได้ทันเวลา หากมีปัญหาแล้วไม่มาตามนัดอาจไม่สามารถแก้ไขได้ การเสริมหน้าอกและลดขนาดหน้าอก การเตรียมตัวและข้อห้ามก่อนการผ่าตัด 1 งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แอลกอฮอลล์อย่างน้อย 5 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและอาการบวมที่ยาวนานกว่าปกติ (กรณีผ่าตัดใหญ่ให้งดบุหรี่หลังผ่าตัด 1 เดือน) 2 งดยากลุ่มแอสไพริน (aspirin) หรือไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) เช่น ยารักษาโรคไซนัส ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาดังกล่าว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัดเพื่อลดอาการฟกช้ำจากปัญหาเลือดคั่งหลังการผ่าตัด หากจำเป็นให้ใช้ยาพาราเซตามอนในการแก้ปวดเท่านั้น 3 งดยา สมุนไพร และอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามิน E และ C อย่างน้อย 10 วัน เนื่องจากทำให้เลือดหลุดไหลยาก และเป็นอุปสรรคในการทำผ่าตัด เช่น ผงชูรส กระเทียม หัวหอม ถั่วเหลือง อีฟนิงพริมโรส ยาลดความอ้วน ยาต้านอาการซึมเศร้า อัลมอนด์ แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลเบอรี่ แตงกวา ขิง มะเขือเทศ 4 แจ้งประวัติการแพ้ยา อาหารเสริมที่รับประทานอยู่ และโรคประจำตัว 5 งดทั้งน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด 6 การทำหน้าอก ดูดไขมัน ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดในช่วงมีประจำเดือน 7 ลาหยุดประมาณ 4 วัน และควรมีเพื่อนดูแลตลอดคืน (admit 1 คืน) 8 หากคนไข้อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ให้นำบิดาหรือมารดามาเซ็นยินยอมอนุญาตให้บุตรเข้ารับการผ่าตัด ไม่สามารถให้พี่สาวหรือญาติมาเซ็นได้ การดูแลหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกและลดขนาดหน้าอก 1 หลังการผ่าตัดในคนไข้บางรายจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเนื่องจากอาการแพ้ยาสลบ 2 ค้างคืนที่โรงพยาบาล 1 คืนกรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำของพยาบาลอย่างเคร่งครัด 3 ในช่วง2-3วันแรกไม่ควรขยับตัวมาก ควรใช้วิธีการเช็ดตัวในการทำความสะอาดร่างกาย สำหรับวันที่ 7 เป็นต้นไปแผลจะแห้งและสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ โดยคนไข้ไม่ต้องทำแผลเองเลยจนกว่าจะมาตรวจซ้ำตามแพทย์นัด 4 การยกของหนักควรหลีกเลี่ยงในช่วง 1 เดือนแรก และอาการแขนไม่มีแรงเป็นเรื่องปกติ แพทย์จะแจ้งวิธีการบริหารแขนให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติเอง 5 ต้องพันผ้าที่แพทย์พันให้ตลอดเวลา ให้แน่นในระดับที่สามารถหายใจได้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 6 ห้ามใส่ยกทรงโครงเหล็ก หรือสามารถใส่ sport bar ได้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ 7 การนวดหน้าอกให้นิ่มเป็นธรรมชาติต้องเริ่มนวดตั้งแต่วันที่มาตรวจซ้ำ โดยแพทย์จะเป็นผู้สอนวิธีการนวดที่ถูกต้อง ต้องนวดต่อเนื่องทุกวันวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20-30 นาที เป็นเวลา 6 เดือน หลังจาก 6 เดือนไปแล้วนวดวันเว้นวันได้จะดีมาก (กรณีลดขนาดหน้าอกไม่ต้องนวด) 8 ต้องมาตรวจซ้ำตามใบนัด หากมีอาการผิดปกติใดๆแพทย์จะสามารถแก้ไขได้ทันเวลา หากมีปัญหาแล้วไม่มาตามนัดอาจไม่สามารถแก้ไขได้
Create Date : 10 พฤษภาคม 2554
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 0:09:00 น.
0 comments
Counter : 156450 Pageviews.