Group Blog
 
 
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
27 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
กิโมโน

ก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นสมัยนารา (ค.ศ.710-794) ชาวญี่ปุ่นนิยมแต่งชุดท่อนบนกับท่อนล่างเหมือนกัน
หรือไม่ก็เป็นผ้าชิ้นเดียวกันไปเลย

พอมาถึงสมัยเฮอัน
ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นการใส่กิโมโน
ชาวญี่ปุ่นพัฒนาเทคนิคการตัดชุดเสื้อผ้าด้วยการตัดผ้าเป็นเส้นตรง
เพื่อให้ง่ายต่อมาสวมใส่ หยิบมาคลุมตัวได้ทันที
ทั้งยังเป็นชุดที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ถ้าหนาวๆใช้ผ้าหนา
ถ้าเป็นฤดูร้อนก็เปลี่ยนไปใช้ผ้าบางๆ

ความสะดวกสบายนี้ทำให้ชุดกิโมโนแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว
โดยในวงการแฟชั่นสมัยนั้นผู้ตัดเย็บก็จะคิดหาวิธีที่ทำให้ชุดกิโมโนมีสีสัน
ผสมผสนานกันด้วยสีต่างๆ ให้เหมาะกับสภาพอากาศและชนชั้นทางสังคม
ถือว่าเป็นช่วงที่ชุดพัฒนาในเรื่อง “สี” มากที่สุด

ในยุคคามาคุระ (ค.ศ.1192-1338) และยุคโรมาจิ (ค.ศ.1338-1573)
ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะนิยมใส่ชุดกิโมโนที่สีสันแสบทรวง
ยิ่งเป็นนักรบจะต้องยิ่งใส่ชุดที่สีฉูดฉาดมากๆ
เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้นำ
บางครั้งเรียกว่าไปแข่งแฟชั่นกันในสนามรบกันเลยทีเดียว

ต่อมาในยุคเอโดะ (ค.ศ.1600-1868)
ช่วงที่โชกุนโตกูกาวาปกครองญี่ปุ่น
โดยให้ขุนนางไปปกครองตามแคว้นต่างๆ นั้น
ในช่วงนี้นักรบซามูไรแต่ละสำนักจะแต่งตัวแบ่งแยกตามกลุ่มของตัวเอง
เรียกว่าเป็น “ชุดเครื่องแบบ” เลยด้วยซ้ำ

ชุดที่ใส่นี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
คือ ชุดกิโมโน ชุดคามิชิโม ตัดเย็บด้วยผ้าลินินใส่คลุมชุดกิโมโนเพื่อให้ไหล่ดูตั้งและกางเกงขายาวที่ดูเหมือนกระโปรงแยกชิ้น

ชุดกิโมโนของซามูไรจำเป็นต้องเนี้ยบมาก
ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่พัฒนากิโมโนไปอีกขั้น จนเป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง

สมัยต่อมาในยุคเมจิ (ค.ศ.1868-1912)
ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากต่างชาติรุนแรงมาก
ชาวแดนปลาดิบจึงเริ่มเปลี่ยนไปใส่เสื้อสากลมากขึ้น
และจะใส่ชุดกิโมโนเมื่อถึงงานที่เป็นพิธีการ



ข้อมูลจาก //www.yenta4.com


Create Date : 27 มิถุนายน 2552
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 3:05:46 น. 0 comments
Counter : 233 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tuktauiu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








Friends' blogs
[Add tuktauiu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.