มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
24
25
26
27
28
29
30
 
การดูแลผิวด้วยสครับ ( Scrub )
สวัสดีจ้าา วันนี้ไม่ได้มารีวิว หรือ ฮาวทูแต่อย่างใดแต่วันนี้จะมาแชร์ความรู้เล็กๆน้อยๆว่าด้วยเรื่อง "การดูแลผิวด้วยสครับ ( Scrub )" จ้าาา

สครับ ( scrub ) หมายถึง การขัด หรือ การถู ซึ่งการทำสครับมีวัตถุประสงค์เพื่อการทำความสะอาดด้วยวิธีการขัดหรือการถู สครับช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนรวมทั้งเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพหรือเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้วที่เกาะอยู่บนบริเวณผิวหนังชั้นนอกให้สามารถหลุดออกได้เร็วขึ้น โดยปกติแล้วในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นนั้นกระบวนผลัดเซลล์ผิวนั้นสามารถทำได้ดีเซลล์ผิวเก่าสามารถผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ดีกว่าวัยผู้ใหญ่ ดังนั้นจะสังเกตุได้ว่าผิวของเด็กๆ หรือวัยรุ่นจะมีความสดใสดูมีชีวิตชีวามากกว่าผิวของผู้ใหญ่ ดังนั้นสครับจึงมีประโยชน์ในการช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกได้ง่ายขึ้นและให้โอกาสเผยเซลล์ผิวใหม่ที่ดูสดใส มีชีวิตชีวากว่าเซลล์ผิวเก่าสภาพเสื่อมที่ดูหมองคล้ำ และเป็นการลดปัญหาของการเกิดสิวเนื่องจากสิ่งสกปรกและไขมันที่อุดตันตามผิวหน้า ซึ่งการเร่งกระบวนผลัดเซลล์ผิวอาจจะทำได้อีกวิธีหนึ่งคือการใช้กระบวนการของ Alpha Hydroxy Acid (AHA) ซึ่งเป็นกระบวนการที่แตกต่างจากการสครับโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นกรดที่ได้จากกรดวิธีทางเคมี จากธรรมชาติหรือการสังเคราะห์ ที่มีส่วนช่วยในการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วเช่นกัน

สครับส่วนมากที่จะหาได้ในบ้านเราซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้


สครับที่ทำจากธรรมชาติ โดยมากเนื้อเมล็ดของสครับจะทำจากเมล็ดของพืช เช่น walnut meal, corn meal, coconut meal, apricot meal และอื่นๆ เมล็ดสครับที่ได้จากธรรมชาตินั้นมักจะมีรูปร่างที่ไม่แน่นอนและขนาดของเมล็ดสครับจะมีลักษณะค่อนข้างหยาบ และคุณภาพจะแตกต่างกัน เมล็ดสครับให้ประสิทธิภาพในการขัดที่ดี เนื่องความแตกต่างทางรูปทรงของเมล็ดสครับ จึงช่วยให้การขัดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเมล็ดสครับที่มีผลต่อการระคายเคืองผิวน้อยที่สุดด้วย ซึ่งสครับประเภทนี้สามารถใช้ได้สัปดาห์ละไม่เกิน 3 ครั้งแต่ทั้งการขัดด้วยสครับไม่ควรจะรุนแรงเกินไป


สครับที่ทำมาจากกระบวนการทางเคมี เช่น เม็ดพลาสติก หรือ เม็ดพลาสติกเคลือบ ( Micro bead ) เม็ดสครับประเภทนี้จะมีให้เลือกตามแต่ขนาดที่ผู้ผลิตต้องการมีตั้งแต่หยาบมากจนถึงละเอียดมาก ซึ่งคุณภาพของเม็ดสครับจะแตกต่างกันออกไปเช่น บางชนิดอาจจะเป็นเพียงแค่เม็ดพลาสติกธรรมดา บางประเภทอาจจะมีการเคลือบหรือชุบสารสกัดธรรมชาติ เช่น jojoba bead โดยมากจะมีสีสันให้เลือกหลากหลาย ส่วนลักษณะของเม็ดสครับจะมีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดเท่ากันของเม็ด ซึ่งสครับประเภทนี้มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดการระคายต่อผิวได้มากกว่าสครับจากธรรมชาติ สำหรับสครับประเภทไม่ควรใช้เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

ข้อควรรู้ในการสครับผิวหน้า

•  ระยะเวลาเหมาะสม ในการใช้สครับสำหรับการเลือกใช้สครับนั้นความถี่ในการสครับผิวนั้นไม่ควรเกินสัปดาห์ละ 3 ครั้งหรือตามแต่ประเภทของสครับ เพื่อเป็นเปิดโอกาสให้เซลล์ผิวได้สร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่ถูกขจัดออกไป

•  ช่วงเวลาเหมาะสมในการใช้สครับ การเลือกใช้สครับนั้นควรจะเลือกใช้สครับกับใบหน้าหรือผิวกายในช่วงเวลาเย็น-กลางคืน เพราะหลังจากที่ได้มีการใช้สครับแล้ว ขณะที่ร่างกายได้มีการหลับพักผ่อนเซลล์ผิวจะได้รับการซ่อมแซมและฟื้นตัวจากสครับเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ

•  สำหรับผิวที่เป็นสิว การสครับยังคงสามารถทำได้แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกรดของ Salicylic Acid ที่ไม่เข้มข้นจนเกินไปในที่นี่ไม่ควรเกิน 2 เปอร์เซนต์ ซึ่งจากการวิจัยในสถาบันชั้นนำจากต่างประเทศ พบว่าสาร Salicylic Acid ช่วยขจัดความมันส่วนเกินและขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วนช่วยให้การกระตุ้นกระบวนการผลิตโปรตีนคอลลาเจน รวมถึงช่วยการชะลอกระบวนสร้างเม็ดสีผิวอีกด้วย

•  หลังจากใช้สครับ หลังจากใช้สครับควรจะมีการบำรุงผิวด้วย ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์และคอลลาเจน เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งหลังจาการสครับจะทำให้เนื้อครีมบำรุงสามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดทั้งทางตรงและทางอ้อม

ขอจบการแชร์ความรู้ ข้อมูลดีๆไว้เท่านี้ บายๆจร้าาาSmiley




Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 23 มิถุนายน 2555 3:25:12 น.
Counter : 526 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JuneTC
Location :
สุรินทร์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]