เว้นระยะห่างแบบพอดีทุกคนล้วนมีโลกส่วนตัวกันทั้งนั้น อย่าบังคับให้เค้าเข้ามาอยู่ในโลกเรามากเกินไป แบบนั้นจะทำให้เกิดความกดดัน ทั้งเราและเค้้าจะไม่มีทางได้เป็นตัวของตัวเอง ในโลกของความรักให้แบ่งเป็นสามส่วนคือ โลกของเธอ โลกของฉันและโลกของเรา ปล่อยให้ตัวเราและตัวเค้าได้ทำอะไรในรูปแบบของตัวเอง ปล่อยให้เราและเค้ามีความเป็นตัวเองมากที่สุด เมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองคิดถึงกันค่อยจับมือกันมาอยู่ในโลกของเรา แชร์ความรู้สึกคิดถึงให้กัน แบบนี้รับรองอยู่คู่กันไปอีกนาน
รักกันแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่าทำให้ความรักนั้นร้อนรน อย่าตั้งความหวังในกันและกันมากเกินไป ความรักกับความกดดันไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ ควรทำให้ความรักสบายๆอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกผ่อน
คลายไม่กดดัน
บันทึกเรื่องราวของเราเอาไว้เสมอการจดบันทึกรวบรวมความจำและความรู้สึกดีๆไว้เสมอ เช่นขึ้นรถเมล์ด้วยกันก็เก็บตั๋วรถเมล์ไว้ในไดอารี่ หรือเก็บตั๋วหนังที่ไปดูด้วยกันครั้งแรกอะไรเล็กๆน้อยๆเหล่านี้นานๆไปก็ย้อนกลับมาดู สิ่งเหล่านี้จะเป็นความทรงจำและรอยยิ้มดีๆ ที่ทำให้ความรักของเราสดใสไม่จืดจางแน่นอน
ห้ามลืมวันสำคัญ(ของเราทั้งคู่)อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่น่าใส่ใจหรือให้ความสำคัญ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ล่ะที่ทำให้กระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นมากขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกใส่ใจและทำให้ความรักอบอุ่นมากยิ่งขึ้น แต่คำอวยพรหรือการย้ำเตือนวันสำคัญต่างๆด้วยคำพูดก็ทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความใส่ใจที่มีต่อกัน
ยิ้มให้กันบ่อยๆรอยยิ้มเป็นมิตรที่ดี และรอยยิ้มก็เป็นตัวแทนของความหวังและการเริ่มต้นที่ดี เวลาอยู่ด้วยกันอย่าลืมยิ้มให้กันบ่อยๆ ไม่ผิดหรือแปลกหรอกนะถ้าเราจะหันไปยิ้มให้หวานใจเราบ่อยๆ แน่นอนว่ารอยยิ้มจากคนที่เรารักมักทำให้เราอบอุ่นหัวใจเสมอความรักไม่ใช่เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ที่จะมีโปรโมชั่นให้เลือกมากมายและมีวันหมดอายุ แต่ความรักควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนความพอดีระหว่างคนสองคน ทั้งนิสัย สถานะทางสังคม พื้นฐานทางครอบครัว และสิ่งสำคัญที่สุดคือคุณทั้งสองจะต้องมอบความรักและเติมเต็มความรักให้แก่ กันจนลงตัวไม่ควรปล่อยให้ใครต้องรักใครมากกว่า ไม่ควรปล่อยให้ใครต้องเป็นผู้ให้มากกว่าที่ได้รับ หากเกิดความพอดีขึ้นระหว่างคุณทั้งคู่แล้วเชื่อได้เลยว่าโปรโมชั่นความรักของคุณจะไม่มีวันหมดอายุอย่างแน่นอน