กางแผนที่ แบกเป้พาลูกเที่ยว บันทึกการเดินทางเที่ยวเอง แบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบประหยัดและมีความสุข หลงบ้างมั่วบ้างแต่ก็สนุกดังคำกล่าวในหนังสือ Lonely Planet เคยบอกไว้ว่า " หากไม่มีปาฏิหาริย์บังเกิด ก็จงเป็นปาฏิหาริย์นั้นเสียเอง "
|
|||
Strasbourg France เมืองแห่งนกกระสาแคว้นAlsac :เที่ยวเอง14d in Switzerland 2016 Day6: ทริปเที่ยวเอง14d in Switzerland 2016 . .
---------------------------------------------- เที่ยวเองสวิตเซอร์แลนด์ 14days in Switzerland 2016 ::: ลุย6ประเทศ 4ภูเขาหิมะ 13 เมือง ::: ----------------------------------------------------------- day 1 : BKK- Zurich Switzerland / Emirates Airline ทริปเที่ยวเอง14days in Switzerland 2016 :: 12 April 2016 Day6: Strasbourg France ทริปเที่ยวเองวันนี้ เป็นวันที่6ของการท่องเที่ยว จุดมุ่งหมายวันนี้ราจะเที่ยวฝรั่งเศสกัน เมืองมรดกโลก Strasbourg France เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ได้รับการบันทึกขึ้นทะเบียนมรดกโลก สตาบูร์กอยู่ห่างปารีส300กม. เป็นเมืองหลักและเมืองหลวงของแคว้น อัลซาส (Alsace Region) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศสติดกับพรมแดนประเทศเยอรมัน มีประชากรในเขตเมืองประมณ 272,975 (ปี 2006) พื้นที่เมือง 78.2 ตร.กม. ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศฝรั่งเศส ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก (World Heritage Site) จากองค์การยูเนสโก ในปีค.ศ.1988 Strasbourg เป็นเมืองสองวัฒนธรรมคือฝรั่งเศสและเยอรมัน ที่สำคัญคือยังเป็นเมืองหลวงแห่ง รัฐสภายุโรป ( Palais de I' Europe ) สตราสบูวร์ก เป็นศูนย์กลางของสหภาพยุโรป เพราะมีองค์กรระหว่างประเทศตั้งอยู่ที่นี่หลายแห่ง เช่น รัฐสภาสหภาพยุโรบ, Council of Europe ซึ่งได้แก่ ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป, Eupean Directorate of Quality of Medicines เป็นต้น ตามพี่แทนไท น้องกองทัพไปเที่ยวกันเลยนะครับ ------------Tuesday 12 April 2016---------------------- (ข้อมูลในบล็อคเป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัวที่พบในช่วงสั้นๆในมุมมองฐานะนักท่องเที่ยว ข้อมูลอาจไม่ละเอียดหรืออาจผิดพลาดตกหล่นบ้าง นำมาเล่าเท่าที่พบเห็นประสบการณ์ตรงในฐานะนักท่องเที่ยว นะค๊าบ รูปภาพเล่าเรื่องราวไม่ได้ผ่านการตกแต่งใดๆหรือใช้แอพใดๆทั้งสิ้น ) ---------------------------------------------------------------------------------- แผนการเดินทางวันนี้ 12April 2016 : Zurich - Basel - Strasbourg France - Basel - Zurich เช้านี้ 12C อากาศขมุกขมัวฟ้าครึ้มมีฝนตก การเดินทางวันนี้ เริ่มต้นขึ้นที่ นั่งรถไฟสายS18 มาลงสถานีStadelhofen ข้างทะเลสาบซูริค ที่นี่เราจะซื้อตั๋วรถไฟไปฝรั่งเศสกัน ซึ่งเราไปซื้อที่สถานีรถไฟกลาง Zurich HBก็ได้ หรือซื้อที่สถานี Stadelhofenก็ได้ สะดวกดี คนน้อย สวน Stadelhofen สถานีรถไฟ Stadelhofen ราคาตั๋วรถไฟไปStrasbourg France Basel Switzerland- Strasbourg France - ผู้ใหญ่ (รวมทั้งพี่แทนไท ) = 56CHFx3คน (6,216บาท) - ตั๋วเด็ก= 28CHF (1,036บาท) รวมค่าผ่านแดนหรือค่าอะไรไม่แน่ใจ เสียเพิ่มอีก10CHFx2 สรุปแล้ว วันนี้เดินทางพ่อแม่ลูก4คน ซื้อตั๋วไปstarsbourg France รวม 216 CHF (x37บาท)= 7,992 บาท ตั๋วไปฝรั่งเศสนี้ซื้อเต็มราคา เด็กๆไม่ฟรีเหมือนไป เยอรมัน ,ออสเตรีย ,อิตาลี ,ลิกเตนสไตน์ เด็กๆจะนั่งรถไฟฟรีถ้ามี swiss pass มีฝรั่งเศสประเทศเดียวที่ต้องซื้อตั๋วและเต็มราคา การเดินทาง เราจะเริ่มจาก Zurich ไปเมืองบาเซิลเมืองชายแดน3ประเทศ เพื่อขึ้นรถไฟสายฝรั่งเศสไปยัง Strasbourg การเดินทางในสวิสเราใช้swiss pass ในการเดินทาง 8.38 Zurich HB - Basel ชานชาลา11 รถ IC ขบวนนี้ของเราครับ ปลายทางBasel เมืองชายแดน ใช้swiss pass ได้ในสวิส เดินทางขึ้นทางเหนือ ผ่านเตานิวเคลียร์ ฮ่าๆมันคืออะไรครับ ใครทราบบ้าง 9.30 Basel Switzerland
นั่งรถไฟจากซูริคแค่50นาทีเท่านั้น ที่สถานีBasel เป็นที่ๆเราต้องมาเปลี่ยนขบวนรถไปฝรั่งเศสหรือเยอรมัน รอบก่อนพาท่องเมืองแล้ว รอบนี้ไม่ไปซ้ำครับ ช่วงนี้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งจะมีตำรวจเดินตรวจครับหลังเกิดเหตุระเบิดที่เบลเยี่ยมมาหมาดๆ อุ่นใจดีไม่น่ากลัว แต่เวลาเดินเที่ยวคุณพ่อคุณแม่มองระวังภัยทุกที่นะครับ มีเวลาเดินเล่น เดินซื้อขนมไปทานบนรถไฟก่อนนะ ร้านด้านหลังมีช็อคโกแลตกล่องสัญลักษณ์เมือง Baselสวยๆด้วยครับ ใครชอบเก็บสะสมห้ามพลาด ร้านประจำซื้อBrezel ที่นี่เราจะเดินผ่านประตู ออกไปเพื่อขึ้นรถไฟสายฝรั่งเศสที่จอดรออยู่ต้นทางแล้ว ไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจ แต่น่าจะมีกล้องวงจรปิดดูเราอยู่ ยินดีต้อนรับสู่ ฝรั่งเศส ครับ ตู้เหลืองๆนี่ใช้Validate ตั๋ว จริงๆตั๋วเราระบุวันเวลาเดินทางชัดเจนไปกลับวันนี้ ไม่ต้องValidateก็ได้ครับ น่าจะใช้Validateตั๋วที่ซื้อไปกลับหลายวันและไม่ได้ระบุวันเดินทาง ต้องValidateตั๋ว เสียบเข้าไปเลย เราไปขบวนนี้ครับ รถไฟสายฝรั่งเศส เขียน Alsac แคว้นนกกะสา มีแผนที่เขียนข้างรถด้วย
10.21ได้เวลาออกเดินทางจาก Basel Switzerland to Strasbourg France ได้เวลาขนมของเรา Brezel ธัญพืช แสนอร่อย ราคามาตรฐาน3.5CHF (130บ.) รถไฟสายฝรั่งเศส ความเร็วสูง แล่นเร็วมากผิดกับรถไฟในสวิสที่แล่นช้าชมวิวข้างทางได้เต็มตา รถไฟจะผ่านสถานีแรกในฝรั่งเศส คือ Saint Louis วิวสองข้างทางเป็นทุ่งโล่งกว้าง มีต้นไม้เป็นระยะ วิวไม่สวย รถไฟจะพาเราผ่านสถานี Saint Louis- mulhouse-Colmar เมืองที่เราจะมาในวันถัดๆไป- selestat- Strasbourg
11.35 STRASBOURG FRANCE
ใช้เวลาเดินทางเพียง 1.15 ชม จาก Basel-Strasbourg
สถานีรถไฟ Gare De Strasbourg
บรรยากาศแรกของสถานีรถไฟ คนเดินทาง นักท่องเที่ยวยังเดินขวักไขว่เต็มสถานี มีเสียงประกาศเหมือนในหนังMr Bean เรื่องโปรดของเราด้วย ฮ่าๆ มองหน้ากันแล้วยิ้มครับ มีความสุข
ที่นี่เราได้เจอพี่ๆแฟนบล็อคของแทนไท กองทัพด้วยครับ โลกกลมจริงๆ ตามมาเที่ยวตามบล็อคเมื่อ2ปีก่อนของเรา ถ้าคุณอาเอก อาจ็อปแวะมาอ่าน คุณแม่คิดถึงนะค๊าบ ตกลงว่าวันนี้เราจะร่วมทริปไปเที่ยวในฝรั่งเศสด้วยกัน รอบก่อนลุงมาร์คมาด้วย รอบนี้เราลุยกันเอง ออกจะงง สถานีรถไฟคนขวักไขว่มากมาย มีแต่ป้ายภาษาฝรั่งเศส จากนี้ไปมหาวิหารไกลจากกันมาก จำเป็นต้องนั่งรถรางไป ปัญหาแรกคือ ต้องซื้อตั๋วรถรางเข้าเมืองซะก่อน มองหาตู้หยอดซื้อตั๋ว มีแต่ภาษาฝรั่งเศสไม่รู้เรื่องเลยครับ ที่เคาท์เตอร์ Information เจ้าหน้าที่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ พูดฝรั่งเศสอย่างเดียว ไม่รู้เรื่อง ที่นี่ไม่มีข้อมูลแผ่นพับแผนที่เที่ยวอะไรเลยครับ ไม่พร้อมเหมือนสวิส มีแจกทุกสถานีรถไฟ มั่วไปแล้วกันครับ หาตัวช่วยก่อน
ลงไปชั้นใต้ดินชั้นที่1 ที่มีตู้ขายตั๋วรถรางอยู่ที่นี่ ซื้อตั๋วกันก่อน เราถามพี่ทหารที่อยู่บริเวณนั้นครับ พี่หล่อมากเลยทั้งกลุ่มมีพูดอังกฤษได้คนเดียว เรามาหลังช่วงระเบิดที่เบลเยี่ยม ตามประเทศต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถไฟจะมีตำรวจทหารเต็มไปหมด อยู่กันเป็นกลุ่ม3-4คน อาวุธปืนครับมือพร้อมยิง ได้พี่ทหารช่วยแนะนำเรื่องซื้อตั๋วจากตู้ ที่ตู้ฝรั่งเศสไม่รับแบงค์uro มีแต่ที่เสียบจ่ายด้วยบัตรเครดิต ไอ้เราก็ยัดแบงค์ยูโรเข้าไป 555 ไม่เหมือนที่สวิสและอิตาลีมีช่องเสียบแบงค์ และเเล้ว ก็สำเร็จใช้บัตรเครดิตเสียบง่ายที่สุด ตอนนี้พี่แทนซื้อตั๋วได้เองแล้ว เราซื้อตั๋ว 1day ราคา 3.4 uro /คน (126บาท/คน) หลังจากซื้อตั๋วจากตู้ได้เเล้วก็ถึงเวลาไปกันต่อ ลงไปรอรถไฟชั้นใต้ดินชั้นที่2 ดูชานชาลาให้ถูก มาแบบมั่วครับฮ่าๆ ป้ายภาษาฝรั่งเศสทั้งหมด รถรางใต้ดิน ลวดลายสีสัน สรุป ข้ามไปรออีกฝั่งรถรางจะพาเข้าเมือง รถรางในยุโรป ขึ้นได้เลยครับแต่ต้องซื้อตั๋วนะ และแล้ว เราก็อาศัยความคุ้นเคย มาลงรถรางผิดป้ายครับ ฮ่าๆ มาลงที่รูปปั้นนายพลแทนที่จะเป็นรูปปั้นนักพิมพ์ เที่ยวเองก็แบบนี้ล่ะครับต้องลองผิดลองถูก แต่ไม่เป็นไรเดินไปถึงอาจอ้อมสักหน่อยถือว่าเดินชมเมืองไปในตัว Place Kleber หรือจตุรัส Kleber เป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมือง Strasbourg อยู่กลางเมือง ได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของนายพล Jean-Baptiste Kléber ซึ่งเกิดใน Strasbourg ในปี 1753 ที่กลางจัตุรัสนี้มีรูปปั้นของนายพล ข้างใต้เป็นหลุมฝังศพของเขา
วันนี้ที่จัตุรัสนายพลมีออกตลาดนัดขายหนังสือ เดินตามหามหาวิหารกันต่อ เจอโบสถ์สวยหยุดถ่ายภาพ แถบนี้สวย ดูเป็นประเทศฝรั่งเศสจริงๆ และแล้วเราก็มาถึงจุดหมายสำคัญ มหาวิหาร โนตเตรอ ดาม แห่ง สตราสบูร์ก ( Cathédrale Notre-Dame-de-Strasbourg) มหาวิหาร Cathedrale de Notre-Dame ที่ก่อสร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค มหาวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก มีนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมปีละประมาณ 4 ล้านคน โดยถือเป็นมหาวิหารที่มีนักท่องเที่ยวต่อปีมากที่สุดรองจากมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส มหาวิหาร เคยได้รับการบันทึกเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงที่สุดในโลก ในช่วงปีค.ศ. 1647 จนถึงปีค.ศ. 1874 ด้วยความสูงถึง 142 เมตร ซึ่งในปัจจุบัน ถือเป็นวิหารที่สูงที่สุดอันดับที่หกของโลก และสูงที่สุดเป็นอันดับสองรองจากมหาวิหารรูอ็อง และยังถือเป็นวิหารที่สูงที่สุดที่สร้างในยุคกลาง ที่ยังคงสภาพอยู่ในปัจจุบัน ศิลปินเปิดหมวกที่นี่เยอะ สมทบทุนไปนิดหน่อยครับ ใกล้ๆ กันจะมีบ้านเก่าสวยงามหลังนึง ชื่อว่า Maison Kammerzell ซึ่งตอนนี้กลายเป็นร้านอาหาร (บ้านสีดำๆ) ที่ฝรั่งเศสมีหลายเชื้อชาติ ศิลปินเปิดหมวก คนขายของ ขอทานมีครบ มีหญิงเหมือนยิปซีเดินมาขอเงินด้วย ฟังไม่ออกพูดอะไร มาดูประวัติของโบสถ์กันต่อ สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ แต่ยังมีส่วนประกอบที่สำคัญของสถาปัตยกรรมแบบกอทิกตอนปลายที่งดงามที่สุดแห่งหนี่ง โดยมีสถาปนิกชาวเยอรมัน เออร์วิน วอน สไตน์บัค (Erwin von Steinbach) เป็นผู้ดูแลการออกแบบและก่อสร้างในช่วงปีค.ศ. 1277 จนถึง ค.ศ. 1318 วันนี้ไม่เน้นเข้าไปดูในมหาวิหาร ภายในมหาวิหารประดับกระจกสี rose window สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่12 และมีนาฬิกาดาราศาสตร์ ครั้งก่อนที่เรามาแล้วมีขบวนแห่ช่วงเที่ยง จริงๆแล้วคือ ขบวนแห่ อัครสาวกพระเจ้า12พระองค์ มีแห่เวลา12.30น. เดินเล่นไปด้านข้างมหาวิหารกำลังมีการบูรณะซ่อมแซม ด้านหน้ามหาวิหารมีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก เอกลักษณ์ฝรั่งเศส ต้องมีศิลปินวาดภาพเหมือนทุกที่ ร้านขายสินค้าที่ระลึก ต้องมีนกกะสาเป็นหลัก ที่นี่แคว้น Alsace เมืองนกกะสา ในสมัยโบราณเชื่อกันว่า เทพธิดาวีนัสนอกจากเป็นเทพีแห่งความรักผู้เลอโฉมแล้ว ยังเป็นเทพีครองความมีลูกดกด้วย ชาวกรีกและโรมันนับถือนกกระสาอันเป็นนกคู่บารมีของเทพธิดาวีนัส โดยรับหน้าที่คาบห่อผ้าซึ่งภายในมีทารกไปมอบให้กับครอบครัวที่จะมีเด็กเกิด หรือหากนกกระสาสองตัวผัวเมียมาทำรังบนหลังคาบ้าน ถือเป็นเครื่องหมายแสดงว่า เทพธิดาวีนัสโปรดให้ครอบครัวในบ้านนั้นมีลูก และประสบความรุ่งเรือง ดังนั้นชาวยุโรปจะรู้สึกยินดีหากมีนกกระสามาทำรังบนหลังคาบ้าน" จากนี้เริ่มมองหาของทานเล่นกันแล้วครับ ที่ฝรั่งเศสหาร้านเจลาโตทานยาก จำได้ว่าตรงนี้มีร้านเจลาโตและอาหารทานเล่น เริ่มเลยครับ เจลาโตรสสเมิรฟ , รสพิชตาชิโอ ,รสnut โคนละ1.9uro(x40บาท) ถัดมามีร้านพิซซ่าน่าอร่อย พิซซ่า salami และ chicken ham chesses ชิ้นละ4 uro ทำใหม่ๆอบร้อนๆรอไม่นานได้พิซซ่าแท่งยาวมาทานแล้ว อร่อยมาก ต่อไป ร้านนี้ซื้อ Bretzel และไส้กรอกBratwurst แสนอร่อย ใส่มาในขนมปังยาว ในสวิสบางทีจะเป็นขนมปังเจาะรู บางร้อนขนมปังโบรทก้อนกลมครับ ไส้กรอก 4.9uro (181บาท) ราคาเท่าๆกับที่สวิส อร่อยเหมือนกัน เติมพลังแล้วเดินกันต่อครับ อาหารแบบstreet food เหมาะกับนักท่องเที่ยวแบบเรากินไปเรื่อยๆอย่างละนิดละหน่อย ตึกนี้น่าจะเป็น Museum Historic ของเมือง Musee Historique de la villede strasbourg เดินชมวิวมาตามริมแม่น้ำอิลล์ ตรงข้างๆMuseum เป็นจุดลงเรือล่องแม่น้ำอิลล์ด้วยครับ นักท่องเที่ยวเยอะเลย เรือจะล่องไปตามแม่น้ำซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองไปทางทิศใต้ของ La Petite France ที่นี่เป็นเมืองขนาดกลาง มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม la Petite France (ปารีสน้อย) ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ เดินเล่นไปด้วยกันเรื่อยๆนะครับ ร้านนี้คุณแม่เข้าไปซื้อผ้าลายฝรั่งเศสแบบโบราณ และมาการองกรอบครับ หอมหวานผลไม้อร่อยมาก แวะตลอดทาง มาฝรั่งเศสก็ต้องแวะซื้อมาการอง ร้านนี้น่าสนใจแวะซื้อก่อนนะครับ มาการองฝรั่งเศสราคาไม่แพงชิ้นละ1uro (40บาท) รสชาดหลากหลายอร่อยมากๆ เช่น รสคาราเมล พีช rose องุ่น
เมอแรงส์อร่อยมากฟูบางเบา นิยมขายในฝรั่งเศส ซื้ออีกๆ จากนี้เราจะเดินเลียบแม่น้ำอิลล์ ร้านแล็บร้านนี้ยังอยู่ที่เดิมคุณแม่บอกอยากมาทำแล็บที่นี่จัง อิอิ จุดหมายต่อไป คือ เดินไปย่าน ปารีสน้อย la Petite France และก่อนถึงปารีสน้อยเราจะดูการปรับระดับที่กั้นน้ำในแต่ละช่วงเพื่อให้เรือแล่นไปต่อได้ในแม่น้ำ ระหว่างทาง โบสถ์ Saint-Thomas เป็นโบสถ์คริสต์นิการโปรแตสแตนท์ เป็นศิลปะแบบ Alsatian Gothic สังเกตุโบสถ์ที่นี่มักใช้หินทรายสีชมพูในการก่อสร้าง สะพานนี้เป็นจุดชมการปรับระดับน้ำ เดิมสองปีก่อนทางเดินขวามือเปิดให้เดินชมแบบใกล้ชิดเลย แต่วันนี้ทางเดินปิดครับ นักท่องเที่ยวรอชมไฮไลต์ของเรือในการแล่นเรือผ่านระดับน้ำที่ไม่เท่ากัน เรือจะมาหยุดตรงประตูน้ำ ระดับน้ำไม่เท่ากัน และมีวิธีการปรับระดับน้ำโดยเปิดประตูหนึงแล้วเปิดอีกประตู รอให้ระดับน้ำเท่ากัน แล้วให้เรือผ่าน ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน
ดูเรือแล้วเดินเที่ยวต่อ ข้างหน้าจะเป็นย่านปารีสน้อย
ย่าน La Petite France ในสตราสบูร์ก ย่านเมืองเก่า (La Petite France) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน rue des Moulins แถบนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก เน้น นกกะสาเป็นจุดขาย เดินเล่นไปเรื่อยๆ ได้เวลากลับไปหน้ามหาวิหารอีกรอบครับ ต้องนั่งรถรางไปเมื่อยขามาก วันนี้คุณแม่ตั้งชื่อว่า ทริปขาลาก ฮ่าๆ ก่อนไป แวะพักกินขนมกันก่อนครับ มาฝรั่งเศสก็ต้องลองครัวซองค์ เค๊กช็อคโกแลตก็เยี่ยม อร่อยทุกอย่าง กลับมาหน้ามหาวิหาร มาเพื่อซื้อคุ๊กกี้ก่อนกลับ จริงๆครั้งแรกที่ลงรถรางต้องมาลงที่นี่ จัตุรัสนักพิมพ์ จะอยู่หน้ามหาวิหารพอดี จัตุรัส กูเทนเบิร์ก ( Place Guthenberg ) อนุสาวรีย์ของ โยฮันน์ กูเทนเบิร์ก หรือบิดาการพิมพ์ กูเทนเบิร์กเป็นบิดาการพิมพ์ชาวเยอรมัน ผู้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์ที่ถอดได้ ทำให้ข่าวสารกระจายได้เร็วเขาได้ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในเมืองนี้ชาวเมืองจึงได้สร้างอนุสาวรีย์เป็นที่ระลึก ก่อนกลับเดินไปซื้อคุ๊กกี้ร้านดังหน้ามหาวิหาร La Cure Gourmande ร้านนี้ขายคุ๊กกี้แบบสอดไส้ชิ้นใหญ่ จุดเด่นคือ มีกล่องแสนสวยลวดลายฝรั่งเศสโบราณให้ใส่คุ๊กกี้ คุณแม่ชอบซื้อไปสะสม รอบก่อนหอบไปแล้วหลายกล่อง รอบนี้มาอีกครับ ไม่พลาด คุ๊กกี้ที่นี่ขายตามน้ำหนักต้องนำไปชั่งแล้วคิดเงิน ครบถ้วนแล้ววันนี้ ได้เวลากลับอำลาพี่ๆแฟนบล็อคเพจ คุณอาทั้งสอง เที่ยวต่อให้สนุกนะค๊าบอาจ๊อป อาเอก เราต้องกลับซูริค เดี๋ยวไม่ทันเวลารถไฟออก ขากลับไม่พลาดลองMcdonaldก่อนกลับ ร้านMc ในยุโรปจะมีจอทัชสกรีนสั่งอาหารจ่ายเงินเองได้เลย สะดวกดีมาก ตรงนี้มีอะไร คนต่อแถวเยอะจัง ระหว่างทางขากลับเดินสวนทางทหารกลุ่มเล็กๆ เดินรักษาความปลอดภัย อาวุธปืนครบมือ ดูแล้วอุ่นใจ แถบนี้คนแน่นนักท่องเที่ยวและชาวเมืองเยอะมากครับ นั่งรถรางกลับสถานีรถไฟ รถรางที่ฝรั่งเศส คนแน่น รถรอนาน ตู้รถรางสั้น มีข้อเปรียบเทียบกับที่ซูริคมาก ที่นั่น สุดยอดของเมืองรถราง นั่งรถรางกลับมาลงหน้าสถานี gare de Strasbourg
17.51 Strasbourg France - Basel Switzerland Basel Switzerland เราจะผ่านจากฝรั่งเศส สู่ สวิตเซอร์แลนด์ที่ประตูนี้ครับ ที่ตม.เดินเข้าไปเลยไม่มีการตรวจอะไร แต่ที่มุมประตู มีเจ้าหน้ายืนสุ่มเรียกคนตรวจ เราเห็นมีคนถูกเรียก 2-3คน มาถึงสถานีรถไฟบาเซิล แวะร้านของสินค้าที่ระลึกก่อนกลับ รอเวลารถไฟออกครับ มีร้านน่าสนใจอยู่ชั้น2 ชอบมาก ช้อปกระหน่ำ ไม่เน้นแบรนด์เนมครับ สะสมแต่ของพื้นเมือง
ได้เวลาอำลาวันนี้ บ๊ายบาย basel ขากลับซูริค โชคดีมีรถไฟ เตเจเว TGVรถไฟความเร็วสูง France จะเข้าซูริค เราไปขบวนนี้ล่ะครับ อิอิ หรูมาก ตอนนี้ใช้swiss passได้แล้ว ขบวนนี้คนแน่นแต่มีที่นั่ง รถวิ่งมาจากฝรั่งเศสผ่านซูริค รถไฟความเร็วสูงฝรั่งเศส 19.45 Basel - Zurich รถ TGV Lyria ของฝรั่งเศส คันเบาะสีม่วงนี่ล่ะหรูสุดๆ มีwifi ประตูเลื่อนอัตโนมัติ มีโต๊ะวางแลปทอป กาแฟ ไฟที่เบาะ มีรีวิวเล็กๆในวันที่ไปเยอรมันครับ เราเคยนั่งวันที่ไปเยอรมันมาแล้ว นั่งจากซูริค ไปบาเซิล ชอบนั่งรถไฟยุโรป คนจะนั่งกันเงียบๆอ่านหนังสือไม่มีคุยเสียงดัง ถึง Zurich HB สถานีรถไฟกลางเมืองซูริค ฝนไม่ตกแล้ว ต่อรถไฟ2นาทีกลับสถานี Stadelhofen แวะร้านcoop ซื้ออาหารเย็นครับ และต่อรถรางสายs18กลับบ้าน วันนี้คนแน่นเพราะเป็นขบวนดึกแล้ว คนเลิกงานกลับบ้าน วันนี้กลับถึงบ้าน 22.00 ตรงกับ ตี3เมืองไทยครับ
พรุ่งนี้เราจะไปเยือนเมืองกระดิ่งวัว ไปเที่ยวด้วยกันนะครับ : St.Gallen & Appenzell 2016 --------------------------------------------------------------------------------- Day7: ทริปเที่ยวเอง14d in Switzerland 2016 :13 April 2016 St.Gallen & Appenzell เมืองกระดิ่งวัว -------------------------------------------------------------------------- ไปเที่ยวด้วยกัน ปี 2016 ทริปเที่ยวเอง14days in Switzerland ปี2 : 7-20 April 2016 วิธีขอวีซ่าพาลูกเที่ยว & แนะนำเวบไซด์หาตั๋วเครื่องบินเอง ทริปนี้ลุ้นตั๋วเครื่องบิน6วันก่อนเดินทาง https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-04-2016&group=24&gblog=2
Review :: Emirates Airline ประสบการณ์7ชม.ในสนามบินDubai https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=20-07-2016&group=24&gblog=4 Day1 : BKK-ZRH Zurich Switzerland 2016 7April 2016 แนะนำswiss pass พาเที่ยวซูริคZurichวันแรก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=24-07-2016&group=24&gblog=6 Day2 : SteinAmRhine Switzerland 2016 8 April 2016 ท่องเมืองเก่า Stein am Rhine , Switzerland https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=31-07-2016&group=24&gblog=8 Day2 :Schaffhausen Switzerland 2016 8 April 2016 Schaffhausen Switzerland https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-08-2016&group=24&gblog=10 Day3: Leictenstein 2016 9 April 2016 เยือนประเทศแสนสงบ พระราชวังบนยอดเขา ป.Liechtenstein https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=03-08-2016&group=24&gblog=12 Day4: Freiburg Germany 2016 10 April 2016 เยือนเมืองแห่งแสงอาทิตย์ Freiburg เยอรมัน https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-08-2016&group=24&gblog=14 Day5: Pilatus & Rigi , Luzern Switzerland 2016 11 April 2016 วันเดียวตะลุย2ยอดเขา นั่งรถไฟไต่เขาขบวนเก่าที่สุดในยุโรป ท่องทะเลสาบ Luzern https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=22-08-2016&group=25&gblog=1 Day6: Strasbourg France 2016 12 April 2016 เยือนดินแดนแห่งนกกะสา เมืองมรดกโลก Strasbourg France https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=08-09-2016&group=25&gblog=6 Day7: St.Gallen & Appenzell Switzerland 2016 13 April 2016 พาเที่ยวเมืองกระดิ่งวัวสุดแสนน่ารัก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=30-08-2016&group=25&gblog=3 Day8: FIFA football museum & Zurich Switzerland 2016 14 April 2016 ลุยพิพิธภัณฑ์ฟุตบอล FIFA เปิดใหม่ในซูริค แฟนฟุตบอลห้ามพลาด https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=02-09-2016&group=25&gblog=4 Day9: Innsbruck Austria 2016 15 April 2016 ประทับใจในออสเตรีย เมืองสีลูกกวาดกลางหุบเขา https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-09-2016&group=25&gblog=5 Day10: Colmar France 2016 16 April 2016 เยือนฝรั่งเศส เมืองโบราณแสนสวย https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tantailovegongtup&month=09-2016&date=25&group=25&gblog=8 Day11: Zermatt Switzerland 2016 17 April 2016 ตะลุยพายุหิมะ ตามหายอดเขา Matterhorn บนกล่องช็อคโกแลตToblerone โดยรถไฟสายGornergrat https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-10-2016&group=25&gblog=11 Day12: Titlis Switzerland 2016 18 April 2016 เล่นหิมะบนยอดเขา Tislis รอบสอง สนุกสุดๆไปเลย https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-11-2016&group=25&gblog=15 Day13: Milano Italy 2016 19 April 2016 เยือนมหาวิหาร Milano Duomo เดินชมแหล่งช้อปปิ้งสุดหรู Galleria Vittorio Emanuele และไปชะโงกดูสนามฟุตบอล Sansiro https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=11-11-2016&group=25&gblog=16 Day14: Zurich Switzerland 2016 20 April 2016 เดินเที่ยวซูริคปิดท้ายทริป พาชิมร้านขนมเจ้าหญิง อำลา switzerland - BKK https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-12-2016&group=25&gblog=17 ---------------------------------------------------------------------- |
momarmy
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?] เทคนิคการแพทย์ที่มีฝัน รักการเดินทาง เขียนบันทึกการท่องเที่ยว และรักการถ่ายภาพลูกชายเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เก็บกระเป๋า สะพายกล้องออกเดินทาง รักอิสระชอบวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวเอง มีความฝันอยากพาผู้คนไปท่องเที่ยวให้มีความสุข บันทึกการเดินทางในบล็อคนี้คือการบันทึกวันเวลาแห่งความสุขเก็บไว้ และยินดีแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในการท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้กับผู้ที่มีความฝันเหมือนกัน Group Blog
All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |