----------------------------------------------

    เที่ยวเองสวิตเซอร์แลนด์  14days in Switzerland 2016    

:::   ลุย6ประเทศ 4ภูเขาหิมะ  13 เมือง   :::

-----------------------------------------------------------
Switzerland- France (Strasbourg/Colmar) -Germany (Freiburg) -Italy (Milano) -Austria (Innsbruck) - Liectenstein (Vaduz)
  Titlis  - Gornergrat - Pilatus - Rigi  
------------------------------------------------------------
Switzerland 2016 ปี2 (6-20 April2016 )

day 1 :  BKK- Zurich Switzerland / Emirates Airline  
day 2 :  Stein Am Rhine + Schuffhausen 
day 3 :  Liectenstein 
day 4 : Freiburg Germany   
day 5 : Pilatus + Rigi   
day 6 : Strasbourg  France 
day 7 : St.Gallen + Appenzell  
day 8 : FIFA world football museum  Zurich 
day 9 :  Innsbruck Austria 
day 10 : Colmar France
day 11 : Zermatt-Gornergrat 
day 12 : Titlis
day 13 : Milano Italy
day 14 : Zurich - BKK 
------------------------------------------
สายการบิน : Emirates Airline 
เวลาในswitzerland : ช้ากว่าเมืองไทย5ชม.
ค่าเงินในทริป 2016
CHF x 36.9 บาท 
URO x 40.05 บาท
AED x 9.92บาท 
-------------------------------------

ทักทายเริ่มต้นการเดินทางในทริปใหม่ของเรา ปี2016 จุดหมายปลายทางหลัก คือ ประเทศ Switzerland และ ประเทศข้างเคียง Germany, France, Italy, Austria และ Liechten Stein


การเที่ยวครั้งนี้ เป็นการพาลูกท่องยุโรปเองเป็นครั้งที่2
หลังจากไปมาแล้วเมื่อปี2014 ครบรอบ2ปีพอดี  คิดถึงswitzerland ประเทศสวยงามที่เที่ยวกี่ครั้งก็ยังมีความสุข  รอบนี้เที่ยวกันเอง4คนพ่อแม่ลูกเหมือนเดิม ตามสไตล์การท่องเที่ยวของเรา การเที่ยวของเราเป็นการไปเที่ยวกันเองทุกทริปทั้งในและนอกประเทศ  ไม่เคยไปเที่ยวทริปไหนโดยซื้อทัวร์เลยสักครั้ง เราชอบความอิสระ ต้องการท่องเที่ยวเดินทางเอง การเที่ยวด้วยตัวเองเปรียบเสมือนการค้นพบโลกด้วยตัวเองในแบบที่ต้องการ 

การเที่ยวเองต้องมีการเตรียมตัวมาก ต้องศึกษาข้อมูลสถานที่เที่ยวอย่างหนัก ต้องศึกษาหารายละเอียดจากแหล่งข้อมูลหลายที่  ทุกทริปเตรียมเองทุกอย่างตั้งแต่ซื้อตั๋วเครื่องบิน ขอวีซ่า จนจบการเที่ยวในแต่ละทริป  โดยเฉพาะ การเดินทาง เส้นทางไปยังสถานที่เที่ยว การขึ้นรถลงเรือต่อรถไฟ  แต่ละทริปเราดูเเผนที่จนเเทบจะทำแผนที่ได้เองแล้วรวมทั้งเส้นทางรถไฟต่างๆ ไม่เฉพาะสถานที่เที่ยวยังต้องหาข้อมูลรวมไปถึงร้านอาหารหรือแหล่งอาหารในแต่ละที่ พาลูกเที่ยวเองต้องเตรียมตัวเตรียมข้อมูลอย่างละเอียด   ระหว่างเส้นทางอาจต้องผ่านการหลงทาง การลองผิดลองถูก เป็นเรื่องปกติในการเดินทางเที่ยวเอง จนได้ข้อมูลและประสบการณ์มาเขียนบันทึกในบล็อคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้ผู้ที่รักการเที่ยวเองแบบเราได้เดินทางตามไปเที่ยวกัน

บล็อคนี้ ขอรีวิวเบาๆเกี่ยวกับขั้นตอนการขอเชงเก้นวีซ่า และแนะนำเวบไซด์หาตั๋วเครื่องบิน  ต่อด้วยบล็อคหน้าถึงจะเริ่มเดินทางเที่ยวไปด้วยกัน 
 

------------------------------------------------------------------

ขั้นตอน การขอเชงเก้นวีซ่า (schengenvisas)

1.ในการขอวีซ่าเพื่อท่องเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์หรือยุโรป ต้องขอเป็น เชงเก้นวีซ่า (schengenvisas) เพื่อการเข้าออกยุโรปได้ใน26ประเทศ (ยกเว้น อังกฤษ ไอร์แลนด์ บัลแกเรียและโรมาเนีย)  โดยเชงเก้นวีซ่าสามารถเดินทางโดยเสรีไปยัง26ประเทศในเขตเชงเก้นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแยกเป็นประเทศๆ

2. การขอวีซ่าควรขอที่สถานฑูตประเทศที่เราจะไปอยู่นานที่สุด ในทริปนี้ เรากำหนดพักที่สวิตเซอร์แลนด์นานที่สุด ก็ต้องขอกับสถานฑูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย แต่ เดี๋ยวค่ะ คิวสถานฑูตมีคิวให้วันละไม่กี่สิบคน ปัจจุบัน มีการมอบอำนาจให้เราไปดำเนินการขอวีซ่าได้ที่ ศูนย์  TLS contact Switzerland ซึ่งจะดำเนินการเรื่องเอกสารและส่งต่อไปยังสถานฑูตอีกที สะดวกดีมากๆ ( รวมทั้งประเทศอื่นๆนะเช่นเยอรมัน ฝรั่งเศส ค้นหาศูนย์TLSประเทศนั้นๆเลยค่ะ )

กรณี switzerland ตามเราไปเข้าเวบไซด์เพื่อลงทะเบียนเพื่อขอวีซ่าที่ TLS contact Switzerlandกันก่อนเลย

3. เข้าหาเวบของ TLScontact switzerland กันได้เลย ( เข้าgoogle แป๊บเดียว)ต้องไปลงทะเบียนในเวบ และนัดวันสัมภาษณ์ที่นั่นค่ะ การลงทะเบียน เมื่อลงทะเบียนแล้วต้องทำการกรอกข้อมูลใบสมัครให้ครบถ้วนภายใน15วัน ไม่เช่นนั้นทางศูนย์จะตัดข้อมูลออกต้องไปกรอกใหม่อีกรอบเสียเวลานะคะ อย่าลืม มีเวลาให้15วัน ( และใครที่เคยขอวีซ่ามาแล้ว ให้จำวันที่มาสแกนนิ้วไว้ด้วยนะคะ มีข้อหนึ่งถามวันที่เคยมาสแกนนิ้วมือ ถ้าจำได้ก็ยิ่งสะดวกในการค้นหาข้อมูลเก่าของเราค่ะ ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร)

4. เมื่อเข้าเวบไซด์ให้ลงทะเบียนและทำตามขั้นตอนการกรอกข้อมูลในนั้นให้ครบถ้วน เมื่อลงทะเบียนเสร็จให้ปรินท์ใบลงทะเบียนเพื่อนำไปส่งในวันขอทำวีซ่าที่ศูนย์ทีแอลเอส   วันเวลานัดหมายจะอยู่ในขั้นตอนการลงทะเบียน เลือกวันเวลาที่สะดวก แนะนำให้นัดรอบเช้าๆเลยค่ะเสร็จเร็วดี เรานัดช่วงเวลาเช้าๆใช้เวลาดำเนินการชั่วโมงกว่าๆก็เสร็จแล้ว  ใบนัดถ้าเป็นกลุ่มเช่นเรา 4คนพ่อแม่ลูก จะมีใบนัดรวมที่มีbarcode1ใบเป็นใบรวมเวลาการขอวีซ่า  และ ใบbarcodeแต่ละคนตามใบสมัคร อย่าลืมปรินมาให้ครบด้วยนะคะ

5. ในการนัดยื่นเอกสารที่ศูนย์ TLS contact switzerland ที่ตั้ง อยู่บนชั้น12 อาคารสาทรซีตี้เซ็นเตอร์  เขตสาทรใต้ มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน B2 จอดเสร็จขึ้นบันไดแคบๆข้างตัวตึก ขึ้นมาชั้นบน จะมีเคาท์เตอร์ให้แลกบัตรเพื่อสแกนเข้าบนตึกอีกทีค่ะ ใครหิวมีศูนย์อาหารชั้นใต้ดินค่ะB1 ใครเอกสารไม่ครบมีที่ถ่ายเอกสาร ถ่ายภาพที่ชั้นใต้ดินที่เดียวกัน B1

6. ขึ้นลิฟท์มาเลย ชั้น12 ศูนย์TLS contact switzerland ให้ยืนรอเวลาสำนักงานเปิด8.00น นะคะ คิวแรกสุดที่จองได้คือคิว8โมง เราจองคิว8.30น ก็รอประตูเปิดพร้อมๆกัน ข้างนอกไม่มีที่นั่งรอ ต้องยืนรอต่อแถวกันยาวเลยค่ะ  การเข้าไปจะเช็คตามรอบที่จองไล่ตามเวลามาเรื่อยๆ ใครมีมือถือ ต้องฝากไว้ด้านนอกที่เจ้าหน้าที่รับฝากนะคะ ห้ามนำเข้าไปด้านใน (อันนี้เพิ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อ2ปีก่อนยังนำมือถือเข้าไปได้)

ด่านแรก ต้องผ่านการสแกนตัว ตรวจกระเป๋า ห้ามนำมือถือเข้า ตรวจเสร็จเข้าไปด้านใน

ด่านสอง มีเจ้าหน้าที่รอตรวจเอกสารคร่าวๆพร้อมดูใบคิวเวลาการขอวีซ่า (อย่าลืมจะมีใบบาร์โค้ด คิวการขอวีซ่า ของเรากลุ่ม4คนพ่อแม่ลูก จะมีใบคิวเวลาที่นัดเป็นบาร์โค้ดกลุ่ม1ใบ เอามาให้ตรงจุดนี้ตรวจค่ะ) ไปเช้า จากจุดนี้เจ้าหน้าที่เรียกเข้าช่องทำวีซ่าได้เลย

ข้อแนะนำ * จองเวลาขอทำวีซ่าช่วงเช้าๆดีกว่าสาย จะรอไม่นาน เวลา 8.00 /8.30ก็ดีค่ะ เมื่อสองปีก่อนที่มาทำจองคิวช่วงสาย รอนานมากเพราะบางคนนาน รอคิวกันเยอะ

7.การยื่นเอกสาร จะมีเคาท์เตอร์แยกเพื่อขอวีซ่า รอดูชื่อเราบนจอว่าต้องเข้าช่องไหน บริเวณด้านในมีที่นั่งเยอะค่ะแอร์เย็นสบาย ดีมากๆนั่งรอดูจอเรียกคิว รอบนี้เราคิวเช้า พนักงานเรียกเข้าช่องเลย เร็วดี 

รอบนี้เรายื่นขอวีซ่า 4คนพ่อแม่ลูก พ่อกับแม่เข้าไปเท่านั้นลูกไม่ต้องสัมภาษณ์ นั่งรอโซฟาแอร์เย็นๆรอได้เลย  การเตรียมเอกสารแนะนำว่ามีเอกสารอะไรให้เตรียมมาให้หมดค่ะ xerox ไว้เผื่อเลย เผื่อเจ้าหน้าที่ขอเอกสารเพิ่มเติม มีอะไรเตรียมไปให้หมด รอบนี้เอกสารดูละเอียดมากขึ้นกว่าสองปีที่แล้ว เนื่องจากปัญหาคนเข้าเมืองมากขึ้นและเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยอื่นๆ สตริคมากขึ้นเยอะเลย

*เอกสารที่ต้องเตรียม จะมีรายการให้ตั้งแต่ลงทะเบียนนะคะ ขอเล่าสรุปข้อมูลเพิ่มเติมไว้ท้ายสุดของบล็อคนี้นะคะ*

การยื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่า หลักๆตามที่ศูนย์TLSแจ้ง เจ้าหน้าที่ตรวจใบสมัคร เอกสาร รูปถ่าย และเอกสารอื่นๆ เมื่อสองปีก่อนให้เราลองเล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษแต่ไม่ซีเรียส  รอบนี้ไม่ต้องแค่เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ภาษาไทยเฉยๆ เหมือนคุยให้ข้อมูลกัน สำหรับเอกสารลูก ไม่ต้องเข้ามาสัมภาษณ์ค่ะให้พ่อกับแม่เซ็นชื่อในใบสมัครแทนได้เลย(สองปีก่อนลูกต้องเข้ามาเขียนชื่อเอง) ก็เปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆค่ะ รอบนี้สะดวกดี อาจเพราะเราเคยได้วีซ่าครั้งก่อนมาแล้ว รอบนี้เลยง่ายขึ้น

8.ขั้นตอนสแกนนิ้วมือ

หลังจากยื่นเอกสาร ชำระเงินที่เคาท์เตอร์ข้างๆกัน มารอเพื่อสแกนนิ้วมือต่อค่ะ ขั้นนี้ให้รอดูหน้าจอทีวีเหมือนเดิมว่าชื่อเราเรียกเข้าห้องสแกนนิ้วหมายเลขอะไร การเข้าสแกนนิ้ว ถ้าเคยสแกนนิ้วแล้วภายใน5ปี ศูนย์จะมีข้อมูลลายนิ้วมืออยู่แล้ว ไม่ต้องสแกนนิ้วใหม่ ผ่านขั้นนี้เลยดีจัง แค่นั่งนิ่งๆให้ถ่ายภาพอีกทีเพื่อใช้ลงในวีซ่าก็พอแล้ว ( เล่านิดนึง การสแกนนิ้วจะใช้ทุกนิ้วซ้ายขวาค่ะ ไม่นาน)

จากขั้นตอนตั้งแต่ที่เริ่มผ่านประตูเข้ามาจนเสร็จห้องสแกนนิ้ว ใช้เวลา1.15ชม เท่านั้นเร็วมากๆ การขอวีซ่าที่ศูนย์TLS contact Switzerland สะดวกรวดเร็ว ที่นั่งดี แอร์เย็นดีมากๆ

จำนวนวันทราบผล

เอกสารของเรา หลังจากศูนย์TLS ดำเนินการส่งต่อที่สถานฑูตสวิต วันเดียว เรื่องก็กลับจากสถานฑูตมาที่ศูนย์TLSแล้วค่ะ  อาจเพราะเคยได้วีซ่ามาแล้ว ข้อมูลการพิจารณาต่างๆเลยง่าย ( รอบก่อนขอครั้งแรก พิจารณาประมาณ2-3วัน ) รออีกสามวันพาสปอร์ตส่งกลับมาบ้าน พร้อมใบประทับ schengenvisas ผ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ พร้อมที่จะลุยในทริปเที่ยวเองแล้วจ้า

--------------------------------------------------------------

เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอวีซ่า 

จุดประสงค์ในการขอวีซ่าครั้งนี้ : เราขอแบบ Visit familyค่ะ ไปเยี่ยมน้องสาวที่ซูริคพร้อมพักที่นั่นตลอดทริปนี้ด้วย จริงๆไปเที่ยวนั่นล่ะ แต่เรามีสปอนเซอร์ที่พักคือน้องสาว วัตถุประสงค์ก็ต้องลงในเอกสาร คือ visit family เยี่ยมญาติ เอกสารอาจแตกต่างจากการขอเพื่อไปเที่ยวเอง แต่เล่าไว้เป็นไอเดีย ในการเตรียมเอกสารขอวีซ่าสำหรับครอบครัวที่อยากพาลูกๆไปเที่ยวเองแบบเรา

เอกสารตัวเอง

- ใบสมัครขอวีซ่า ... ปรินส์ออกมาได้เลยหลังกรอกข้อมูลสมัครในเวบTLSเสร็จ เดิมสองปีก่อน เราต้องเขียนลายมือในใบสมัครเอง ต้องเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ด้วยนะ แต่ปีนี้กรอกข้อมูลและปรินส์มาเตรียมไว้ได้เลย

- รูปถ่ายสี 3.5x4cm จำนวน2รูป ไปถ่ายที่ร้าน กำหนดพื้นหลังสีขาว (รูปต้องเปิดผมให้เห็นใบหูด้วยนะ) เวลาถ่ายภาพก็เลือกสีเสื้อที่ตัดๆกับสีขาวสักหน่อยก็ดีค่ะ อย่าใส่เสื้อขาวไปเชียว บางร้านถ่ายไม่ได้ขนาดใช้ในการสมัครไม่ได้ก็มี ต้องมาถ่ายใหม่ ที่ศูนย์TLSมีเครื่องถ่ายภาพอัตโนมัติด้วยเผื่อใครรูปถ่ายไม่ผ่าน

-หนังสือเดินทาง passport ระวังต้องมีอายุเหลือเกิน6เดือน ในวันที่ยื่นขอวีซ่า ถ้าเหลือไม่ถึงต้องไปทำpassportใหม่  และในการยื่นเอกสารขอวีซ่าให้นำพาสปอร์ตเล่มใหม่และเล่มเก่าส่งไปคู่กัน ถ้ามีประวัติเคยขอวีซ่าได้แล้วจะง่ายมากเป็นใบผ่านทางที่ดี -

- ประกันการเดินทาง ในขั้นตอนการทำประกันการเดินทาง จะมีรายชื่อบริษัทที่ได้รับการยอมรับในการทำประกันเพื่อยื่นขอวีซ่า เป็นบริษัทประกันภัยที่มีการจดทะเบียนในเขตประเทศเชงเก้น เลือกดูได้ในรายชื่อที่กำหนด ทุนประกัน1.5ล้านบาท จำนวนเบี้ยที่จ่ายตามจำนวนวันที่ขอวีซ่า จะมีให้เลือกเป็นช่วง  เลือกบริษัทได้ตามต้องการ

-เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ยังไม่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินก่อน แต่สามารถจองตั๋วเครื่องบินเพื่อนำใบจองมายื่นขอวีซ่าได้ เราเลือกจากเอเยนซี่ที่เคยใช้ในการจองตั๋วเพื่อยื่นขอวีซ่าในครั้งก่อน เชื่อถือได้ แต่ใครมีตั๋วเครื่องบินแล้วก็นำมายื่นได้เลย

-ในกรณีผู้สมัครกับผู้เชิญมีความสัมพันธ์ทางครอบครัว ต้องแสดงเอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางครอบครัวด้วย (เน้นเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด)

ได้แก่ ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส โดยรอบนี้ที่ไปยื่นต้องนำเอกสารที่แปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด รอบก่อนเป็นภาษาไทยให้ผ่านแต่รอบนี้เอกสารทุกอย่างต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ

- จดหมายเชิญ

กรณีเยี่ยมญาติ ต้องมีจดหมายเชิญ ที่ลงลายมือชื่อจริงๆ(ส่งไปรษณีย์จากสวิตมาเลย) โดยจดหมายเชิญจะมีตัวอย่างการกรอกข้อมูลในเวบTSL มีให้เลือกภาษาเยอรมันหรือฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษไม่มี โดยจดหมายเชิญต้องเเยกเชิญเป็นรายบุคคลตามชื่อที่เรายื่นขอวีซ่า เช่นครอบครัวเรา4คน ต้องมีจดหมายเชิญ4ใบแยกบุคคล จดหมายเชิญที่ส่งทางอีเมล์ใช้ไม่ได้ต้องเป็นลายมือฉบับจริง

เอกสารอื่น ได้แก่

-ใบรับรองการทำงานจากที่ทำงาน (ฉบับภาษาอังกฤษ)

-สเตทเม้นธนาคาร ย้อนหลัง6เดือน ควรเลือกธนาคารที่มีเงินเข้าสม่ำเสมอเช่น ธนาคารที่เงินเดือนเข้า หรือมีหลายแบงค์ก็นำไปให้หมดก็ดี ไม่แน่ใจว่าจำเป็นหรือปล่าวแต่เราก็ยื่นไปด้วย (ตัวนี้เพื่อดูรายรับที่มีสม่ำเสมอ และจำนวนเงินที่น่าจะไปเที่ยวได้ : ) เคยมีคนเขียนลงในเวบว่า ให้เอาจำนวนวันที่จะไปเที่ยวx1000บาท จะได้จำนวนเงินที่น่ามีในสเตทเม้นเพื่อไปยื่นขอวีซ่า ข้อมูลนี้ไม่ยืนยัน เหมือนเคยอ่านเจอ สเตทเม้นนี้ ถ่ายเอกสารไปได้เลยไม่ต้องแปล

-ทะเบียนบ้าน และทะเบียนสมรสของเรา (ฉบับแปลภาษาอังกฤษ)

เอกสารลูก  ใช้เอกสารเหมือนพ่อแม่และมีเพิ่มเติม คือ

- เอกสารการรับการเข้าเรียน ขอเอกสารได้ที่โรงเรียนลูก ระบุชื่อสกุลชั้นเรียน ใบรับรองการเป็นนักเรียน (ฉบับภาษาอังกฤษ)

- สูติบัตรลูก ฉบับจริง และ ฉบับแปลภาษาอังกฤษ (รอบก่อนไม่ต้องใช้แต่รอบนี้ต้องใช้)

- เอกสารอื่นๆ เหมือนของพ่อกับแม่

--------------------------------------------------------------------

ข้อมูลในการยื่นขอวีซ่าแบบเที่ยวเอง พ่อแม่ลูก ทริปfamilyของเราก็คงเป็นประโยชน์สำหรับการเริ่มต้นวางแผนเที่ยวเอง และอาจไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ทำตามนี้รับรองวีซ่าผ่านแน่นอน ไม่ต้องจ้างเอเยนซี่ทำให้แพงๆหลายพันต่อคน ทำเองก็ได้ง่ายนิดเดียว

-----------------------------------------------------------------

  ตั๋วเครื่องบิน 

ลุ้นตั๋วเครื่องบิน6วันก่อนเดินทาง ( ลุ้นระทึกมาก)

ด้วยอาชีพของคุณพ่อบ้าน ลืมไปได้เลยเรื่องจองตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่นล่วงหน้าเป็นปี  ทุกทริปที่ผ่านมามีเวลาจำกัดในการจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พัก  เราจะวางแผนได้คร่าวๆ เช่นการขอวีซ่า รอบนี้เราขอวีซ่าไว้21วัน ( สุดเขตช่วงทำประกันห้วง21วัน ถ้าเกินนี้ราคาประกันจะขึ้นอีกlevel ) จริงๆตามแผนคือไปได้2สัปดาห์ แต่เผื่อวันที่ขอวีซ่าไว้กว้างๆเผื่อเปลี่ยนแปลงวันเดินทาง  เราวางแผนไปสวิสแค่เพียงช่วงสงกรานต์หยุดยาว ไม่อยากไปช่วงนี้แต่ไม่มีทางเลือก ต้องลาให้น้อยวันที่สุด  ขอวีซ่าเราวันเดียวทราบผล ได้วีซ่ามากอดไว้ตั้งแต่กลางเดือนก.พ.59  แต่วันเดินทางแน่นอนยังไม่ได้  วันลาได้ที่แน่นอนทราบแน่ๆก่อนเดินทางประมาณ2สัปดาห์ เหลือเวลาหาตั๋วก่อนเดินทาง ประมาณสิบกว่าวัน โปรโมชั่นต่างๆของสายการบินหมดไปแล้ว (มีสายการบินของประเทศอื่นๆที่ราคาถูกก็มีแต่เราดูแล้วไม่อยากไป ที่เล็งไว้หลักๆมีแค่2-3สายการบินที่อยากบินด้วย)(หรือใครสะดวกบินจากประเทศหนึ่งกลับอีกประเทศราคาตั๋วก็จะถูกแต่เราไม่เลือก ไม่สะดวก)
 

แนะนำเวบไซด์หาตั๋วเครื่องบิน

momondo.com *****

เวบนี้แนะนำเลย เป็นเวบรวบรวมค้นหาเที่ยวบินทุกสายการบินและทุกเอเยนซี่ หาง่าย เร็ว ใส่ตัวกรองและบันทึกเที่ยวบินที่เคยหาไว้ได้ มีการเปรียบเทียบให้เห็นเที่ยวบิน3กลุ่มในวันที่หา- เที่ยวบินถูกสุด(cheapest)/เที่ยวบินเวลาดีสุด(Quickest)/เที่ยวบินดีที่สุด(best) ระบบทำการค้นหาครอบคลุมน่าจะกว้างสุดแล้ว มีลิงค์เข้าไปสายการบินและทุกเยนซี่  ดูง่ายหาง่าย มีกราฟแท่งเปรียบเทียบราคาในแต่ละช่วง ที่เจอสายการบินทั้งทริปก่อนและทริปนี้ก็หาเจอที่momondoนี่ล่ะ ทริปก่อนได้ตั๋วswiss air ถูกลงเกือบหมื่นบาทในแค่ข้ามวันก็จากเวบmomondo (รีบจองใหม่เลยจ้า) ทริปนี้หาตั๋วemirateได้ก็จากที่นี่ สุดยอดมาก 

(รอบนี้หาเที่ยวบินจากmomondo ลิงค์ไปยังสายการบินEmiratesเช็คราคาจริงๆด้วยนะ เพราะบางทีสายการบินปรับราคาแต่หน้าจอยังไม่อัพเดต ระวังเรื่องการปรับราคา Emiratesปรับราคาช่วง5โมงเย็นบ้านเรา ถ้าเจอราคาดีอย่ารอนาน ให้รีบจองก่อน17.00น )

google flight *****

เทพแห่งการหาตั๋วเครื่องบิน มีเปรียบเทียบทุกอย่าง มีกราฟเปรียบเทียบราคา เลือกเช็คได้ทุกสายการบิน ทุกช่วงเวลา ข้อมูลแน่นมาก เป็นเวบแนะนำ สุดยอดมาก

skyscaner ****

อีกเวบที่ตั้งแจ้งเตือนเพื่อเช็คทุกวัน จะมีเมล์แจ้งเตือนช่วงเย็นทุกวัน เวบรวมสายการบินเปรียบเที่ยบราคาแต่ละเอเยนซี่ในหน้าเดียวให้เห็นเพื่อคลิกลิงค์ไปยังสายการบินหรือเอเยนซี่  ตั้งแจ้งเตือนไปยังE-mailเราได้ ความครอบคลุมจะน้อยกว่าmomondo ใช้ของskyscannerอีกที่ในการแจ้งทางเมล์

cheapticket***

เปรียบเทียบราคาอีกเวบ คล้ายskyscaner

Expedia****

อีกเวบที่เช็คทุกวัน แคบลงมา มีสรุปสายการบินและราคาที่ดี เปรียบเทียบมาแล้ว ราคาค่อนข้างดี ที่เลือกดูเวบนี้เพราะทริปปีก่อนไปเลโก้แลนด์ มาเลเซีย เวบนี้มีครอบคลุมทุกอย่างทั้งตั๋วเครื่องบิน ตั๋วสวนสนุก ราคาดี ครบเลย เป็นอีกเวบที่ชอบ call centerดี ให้ข้อมูลดี





   เลือกบินสายการบินไหนดี 

เส้นทางการเดินทางของเรา  BKK - ZRH  สวิตเซอร์แลนด์ ระยะเวลาบินตรงต่ำสุดคือ 11.45ชัวโมง สายการบินตรง ที่บินโดยมีเวลานี้คือ สวิสแอร์ และการบินไทย แต่ทริปนี้เราไม่อยากบินตรง เลยวางแผนหาสายการบินอื่นที่มีแวะเปลี่ยนเครื่อง มีสายการบินที่ดูไว้ตามนี้ 

- Emirates airline 

เอมิเรตส์แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)  เป็นสายการบินที่ติดอันดับ10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกโดยการจัดอันดับจาก Skytraxทุกปี โดยได้รับอันดับ5ในปี2015 และขึ้นสู่สายการบินที่ดีที่สุดในโลกในปี2016
 เอมิเรตส์แอร์ไลน์ มีเส้นทางบินไปยังสวิตเซอร์แลนด์ โดยทำการบิน2ช่วง ช่วงละ 6ชม. กรุงเทพBKK-DXBดูไบ/ดูไบDXB-ZRHซูริค มีไฟท์บินให้เลือกเยอะหลายช่วงเวลา  เวลาเดินทางมีตั้งแต่ ค่ำถึงบ่าย ค่ำถึงดึก /เปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบที่มีชื่อเสียงเรื่องความใหญ่โตและทันสมัย / มีระบบเอนเตอร์เทนเยี่ยมซึ่งเป็นจุดเด่นของสายการบินโดยมีช่องรายการความบันเทิงมากกว่า2000ช่องรายการ / เอมิเรตส์แอร์ไลน์ มีเครื่องบินลำใหญ่เป็นAirbus380 มากกว่าสายการบินอื่น/ ราคาตั๋วโดยสารไม่แพง  การจองไม่ยากมีเวบไซด์และแอพพิเคชั่น Emirates  จัดการการจองได้เอง เลือกที่นั่งได้เอง จองโดยตรงกับสายการบินได้เลย ซื้อตั๋วออนไลน์ ตัดเงินผ่านบัตรเครดิตไม่มีชาร์ทเหมือนซื้อกับเอเยนซี่   สรุปว่าเป็นสายการบินที่มีครบตามความต้องการ
ตกลงทริปนี้ เราบิน Emirates Airlines

-
Qatar airways

การ์ตาร์แอร์เวย์ สายการบินประเทศการ์ตา มีฐานอยู่ที่กรุงโดฮาร์ เป็นสายการบินที่ติดอันดับสายการบินที่ดีที่สุดในโลก1ใน5แทบทุกปี  เครื่องใหญ่ทันสมัย เด่นที่ตัวเครื่อง เวลาการเดินทางดี แวะพักเครื่องที่ doha แต่สนามบินไม่เลิศเท่าดูไบ  ชอบที่ตัวเครื่องอยากบินการ์ตาร์ แต่หาตั๋วไม่ได้ มีโปรก่อนหน้านี้ราคาดีแต่จองไม่ได้วันเดินทางยังไม่สรุป มาหาในวันใกล้เดินทางตั๋วไม่มีแล้ว 

-Etihad airways

เป็นสายการบินแห่งชาติ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)  เปลี่ยนเครื่องที่สนามบินอาบูดาบี  หาเที่ยวบินใกล้เดินทางแทบไม่มีเลย

- Swiss  International Air Lines

สายการบินแห่งชาติสวิส ทริปก่อนเราบินสายการบินนี้ มีเส้นทางบินตรงถึงสวิสเลยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง ใช้เวลาสั้นสุด 11.45ชม. เที่ยวบินเวลาดี บินดึกถึงสวิสเช้า ประมาณ6โมงเช้า นอนยาวในเครื่อง ถึงสวิสเที่ยวได้เลย สะดวกดีเพราะรอบก่อนคุณยายวัย73ปีไปด้วยต้องเน้นความสะดวกสบาย แต่เราไม่ชอบเพราะบินยาวเกือบ12ชม. นั่งเมื่อยขามาก เครื่องเป็นโบอิ้ง คนแน่นทุกที่นั่ง รู้สึกอึดอัด  รอบนี้ไม่เลือก ราคาตั๋วโดยสารช่วงใกล้บินราคาแพงมากด้วย

- Singapore airlines

สายการบินสิงคโปร์ มีเส้นทางการบินไปยังสวิส แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยาน Changi  เป็นอีกสายการบินที่ดูเผื่อไว้  บินจากไทย2ชม.ไปสิงคโปร์ เปลี่ยนเครื่องและบินยาวอีก12ชม.จากสิงคโปร์ไปซูริค บินยาวเหมือนสวิสแอร์นานเหมือนกัน รวมๆ14ชม.++ ยังไม่รวมเวลารอเปลี่ยนเครื่อง ราคาตั๋วโดยสารไม่แพง แต่เสียเวลามากและนั่งยาวนานเกินไป   

- Cathay airline

สายการบินประจำชาติฮ่องกง มีเส้นทางบินไปสวิส  แวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกลและบินยาว  ระยะเวลาพอๆกับสิงคโปร์ ยิงยาวจากฮ่องกงไปซูริค นั่งเหนื่อยพอๆกัน มีไฟล์เหลือในวันใกล้เดินทาง อีกทางสำรองของเรา

-------------------------------------------------------------------------

เวบไซด์เลือกที่นั่งในเครื่องบิน

ในการเลือกเที่ยวบิน ถ้าอยากรู้ที่นั่งตำแหน่งดีๆในสายการบิน แต่ละเที่ยวบิน สามารถหาได้ที่เวบไซด์นี้

seatguru.com

มีรายละเอียดทุกเที่ยวบิน ทุกไฟท์ ตำแหน่งที่นั่งในแต่ละไฟท์ ที่นั่งดีหรือไม่ดี และตำแหน่งดีที่สุดในเครื่องบิน ไว้เมื่อเราต้องเลือกที่นั่งเอง หรือถ้าจองกับเอเยนซี่จะได้สามารถบอกตำแหน่งที่เราต้องการได้ เราใช้เวบนี้ในการดูผังที่นั่งเพื่อเลือกที่นั่งเวลาบินทุกครั้ง

จบข้อแนะนำในการยื่นขอวีซ่าและซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยตัวเอง บล็อคหน้าเราจะเริ่มรีวิวการเดินทางด้วยสายการบินที่เราเลือกบินครั้งนี้  สรุป เราเลือกสายการบิน Emirates Airline
ส่วนที่พักในสวิส เนื่องจาก เรามีที่พักบ้านน้องสาวที่เมือง Zurich การเดินทางเที่ยวสวิสทุกครั้งจึงไม่มีรีวิวที่พักในสวิตเซอร์แลนด์เหมือนทริปประเทศอื่นๆ

แนะนำเดินทางเที่ยวแบบครอบครัว 
หากครอบครัวไหนที่รักการเดินทาง อยากพาลูกเที่ยวเอง สามารถตามทริปเราเพื่อเดินทางพาลูกเที่ยวเองได้ไม่ยาก  ทุกทริปของเราเริ่มจากพาลูกเที่ยวเองลากกระเป๋าเที่ยวกันเองตั้งแต่อยู่อนุบาล   ทริปง่ายสุดเราเริ่มพาลูกลุยสิงคโปร์เป็นทริปสั้นๆ3วัน เที่ยวกันเองด้วยรถไฟใต้ดินสิงคโปร์ ไปก่อนสอบ เอาหนังสือไปอ่านสอบที่สนามบินกันเลยทีเดียว  หลังจากนั้นก็เที่ยวกันมาทุกปีเก็บสะสมประสบการณ์พัฒนาจนเริ่มมาลุยยุโรปในช่วงอยู่ประถมเมื่อ2ปีก่อน 

น้องแทนไท กองทัพ ปีนี้อยู่ ม.1และป.5แล้ว โตขึ้นเยอะ การพาลูกเที่ยวเองตั้งแต่เด็ก อาจเป็นการฝึกความอดทนและการปรับตัวให้กินอยู่ง่ายไปในตัว แทนไท กองทัพเป็นเด็กที่กินง่ายอยู่ง่าย ไปไหนก็ไปกัน  กินอะไรได้หมด  ทุกการเดินทางไม่เคยเห็นลูกๆบ่นเหนื่อยหรือหิวหรืออยากได้อยากซื้ออะไร เดินเที่ยวตามพ่อกับแม่ไปเรื่อยๆ  ทุกวันเราจะกำหนดเวลาเริ่มการเดินทาง  เด็กๆจะรู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ตื่น เตรียมพร้อม เพื่อออกเที่ยวกันทุกวันตามเวลา เด็กๆมีความกระตือรือล้นในการเดินทาง  ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดีทั้งคู่ ระหว่างการท่องเที่ยวพี่แทนจะคอยดูแลน้องทัพ  เดินไปด้วยกันชมวิวทิวทัศน์คุยกันไปเรื่อยสองพี่น้อง เป็นภาพความสุขทุกครั้งที่แม่แอบมองลูกๆ เด็กดูมีความสุขทุกการเดินทาง  วันไหนลูกเหนื่อยก็จะนั่งหลับกันระหว่างนั่งรถไฟ ถึงที่หมายตื่นขึ้นมาสดชื่นกระฉับกระเฉงเหมือนเดิม  
   ถ้ามีโอกาส เราสนับสนุนให้พาลูกๆเดินทางท่องเที่ยว   ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างทาง ได้เห็นโลกที่อื่นในมุมต่างๆ  เด็กๆจะได้เห็นโลกกว้างมากขึ้นทุกปี  ประสบการณ์ต่างๆที่ได้รู้ได้เห็น เราว่าจำเป็นมากกว่าการที่ลูกได้เห็นโลกแค่ในห้องเรียน จึงเป็นที่มาของทริปเที่ยวเองของเรา ตอนนี้ยังไปไม่ได้ไกลไปยังไม่เยอะ แต่หากมีโอกาสเราก็จะพาลูกเดินทางไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำประสบการณ์การท่องเที่ยวมาแบ่งปันในบล็อคนี้ต่อไป

สำหรับคุณแม่ที่ชอบพาลูกเที่ยว ติดตามทริปเที่ยวของเราพาลูกๆเที่ยวเองได้เลยไม่ยาก พร้อมแล้วตามไปเที่ยวด้วยกันในทริปตะลุยสวิสปี2กันได้เลย     

เที่ยวเอง14days in Switzerland 2016 ปี2 :
7-20 April 2016

 แนะนำวิธีขอ Schengen Visa 2016 & แนะนำเวบไซด์หาตั๋วเครื่องบินเอง 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-04-2016&group=24&gblog=2

  Review :: Emirates Airline 2016 /ประสบการณ์7ชม.ในสนามบินDubai

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=20-07-2016&group=24&gblog=4

 Day1 : BKK-ZRH Zurich  Switzerland 2016/

 แนะนำswiss pass / เที่ยวZurichวันแรก

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=24-07-2016&group=24&gblog=6

 Day2 :  Stein AmRhine Switzerland 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=31-07-2016&group=24&gblog=8

Day2 : Schaffhausen Switzerland 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-08-2016&group=24&gblog=10

 Day3:  Leictenstein 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=03-08-2016&group=24&gblog=12

 Day4: Freiburg Germany2016

10 April 2016 เยือนเมืองแห่งแสงอาทิตย์ Freiburg เยอรมัน

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-08-2016&group=24&gblog=14

 Day5: Mt.Pilatus & Mt.Rigi Luzern Switzerland 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=22-08-2016&group=25&gblog=1

 Day6: Strasbourg France 2016

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tantailovegongtup&month=09-2016&date=08&group=25&gblog=6

 Day7: St.Gallen & Appenzell Switzerland 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=30-08-2016&group=25&gblog=3

 Day8: FIFA football museum 2016 & Zurich Switzerland

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=02-09-2016&group=25&gblog=4

 Day9:  Innsbruck  Austria 2016 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-09-2016&group=25&gblog=5

 Day10: Colmar France2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=25-09-2016&group=25&gblog=8

 Day11: Zermatt Switzerland / Gornergrat 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-10-2016&group=25&gblog=11

 Day12: Titlis switzerland 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-11-2016&group=25&gblog=15

 Day13: Milano Italy 2016

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=11-11-2016&group=25&gblog=16

 Day14: Zurich  Switzerland 2016 / ZRH-BKK / Emirates Airlines 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-12-2016&group=25&gblog=17

Switzerland 2016

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

Day2 :Schaffhausen Switzerland 2016

.

.

Day3: Leictenstein 2016

.

.

.

Day4: Freiburg Germany 2016

.

.

.

..

.

.

Day5: Pilatus & Rigi , Luzern  Switzerland 2016

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

. 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ทริปเที่ยวเอง17days in Switzerland 2014 : 5-21 April 2014