Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 ธันวาคม 2560
 
All Blogs
 

การวัดคลอรีนโดยใช้เครื่องวัดคลอรีน




มีหลายเหตุผลสำหรับการวัดสารฆ่าเชื้อต่างๆ ที่ถูกใช้งานที่แตกต่างกัน
โดยเฉพาะคลอรีนโดยการใช้เครื่องวัดคลอรีน เพราะเป็นสารฆ่าเชื้อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายโดยมากที่สุด โดยเฉพาะน้ำดื่ม รวมถึงบ่อน้ำส่วนตัวและแหล่งน้ำสาธารณะ
เจ้าของบ้านโดยปกติจะไม่ได้ตรวจสอบน้ำของตน เหมือกับการประปา
เจ้าของบ้านอาจจะวัดระดับคลอรีนหากสังเกตเห็นคลอรีนมีกลิ่นในน้ำ แต่การประปาจะวัดคลอรีนเพื่อรักษาระดับสารฆ่าเชื้อในน้ำโดยเฉพาะ
พวกเขามักจะวัดระดับสารฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่องโดยโดยใช้เครื่องวัดคลอรีนแบบอินไลน์

วิธีการวัดคลอรีน
1. กระดาษวัดค่าคลอรีน
มีหลายวิธีที่ใช้ในการวัดคลอรีน สำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการทราบระดับคลอรีน มีกระดาษวัดค่าคลอรีนสำหรับจุ่มลงในน้ำ และเปลี่ยนสีตามระดับของคลอรีน จากนั้นคุณสามารถเปรียบเทียบสีกับแผนภูมิเพื่อกำหนดระดับคลอรีน
เช่นเดียวกับเครื่องวัดคลอรีนที่ใช้สำหรับการใช้งานสระว่ายน้ำ นี่เป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับคลอรีน
2. Colorimeter
เครื่องวัดคลอรีนแบบ Colorimeter หรือ เครื่องวัดค่าสีที่ใช้วิธีการ DPD ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ในกระดาษวัดค่าคลอรีน
วิธีการ DPD เป็นตัวบ่งชี้ทางเคมีที่ทำปฏิกิริยากับคลอรีน โดยจะย้อมสีน้ำให้เป็นสีชมพูซึ่งจะบ่งบอกระดับคลอรีน สำหรับการวัดคลอรีน
3. Photodiode
การวัดคลอรีนแบบอินไลน์จะใช้ Photodiode (โฟโตไดโอด) ทำให้การวัดมีความถูกต้องมากขึ้น ลำแสงจาก Photodiode จะถูกส่งผ่านน้ำตัวอย่างและปริมาณของแสงที่ส่งขึ้นอยู่กับปริมาณของสีในน้ำตัวอย่าง เช่นถ้าน้ำตัวอย่างมีสีเข้ม แสงผ่านได้น้อยจะบ่งบอกถึงคลอรีนในปริมาณสูง ในขณะที่สีอ่อน จะทำให้มีแสงสว่างมากขึ้น แสดงถึงระดับคลอรีนที่ต่ำกว่า




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2560
0 comments
Last Update : 19 ธันวาคม 2560 9:38:46 น.
Counter : 2279 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


สมาชิกหมายเลข 2736295
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2736295's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.