เมื่อเด็กสร้างบ้าน เจอ ผู้ใหญ่สร้างบ้าน
บริษัท habita วันนี้ได้รับ mission ให้ไปตามหา "สถาปนิก Idol รุ่นพี่ลาดกระบัง" โดยไปทำความรู้จัก เพื่อสร้าง Connection ที่มากกว่า 10 รุ่น เพื่อให้รู้สึกภูมิใจ ในวิชาชีพ และภูมิใจในความเป็นพี่น้อง สวนรวงผึ้ง ของพวกเราแล้วก็ได้ทำการ Connection เยอะสมใจเลยที่เดียวตั้งแต่เริ่มถามจากพี่รหัสก่อนเลยรหัสเอารุ่นใกล้ๆกันเนี่ยแหละ สุดท้ายก็สาวไปจนถึงรุ่นใหญ่ๆต่อไปพี่กุลพี่รหัสปี9เมื่อครั้งนเราอยู่ปี1ได้แนะนำพี่โขมาให้เรา เอาหล่ะมุ่งสู่บริษัท Habita architects เพื่อไปเจอพี่โข หรือพี่สุโขกันพอถึงบริษัทเจอพี่โข น้องครับพี่จบไม่น่าถึง10ปีนะ (อ้าวหนูก็ว่าหน้าพี่ไม่ค่อยแก่อะ55) แต่ว่าที่นี่รุ่นพี่ลาดกระบังเยอะเด๋วพี่ไปหาให้ (เออะ หาง่ายอย่างนั้นเลยเหรอคะ แสดงว่ามหาลัยเราเจ๋งจริง55)ไปตามหาตัวมาได้ รุ่นพี่ของเรา พี่ปฏิเวช ชัยโสต ที่หล่อๆในรูปนี่แหละค่ะแอบตื่นเต้นไม่ค่อยได้เจอรุ่นพี่ พี่เค้าชื่อเล่นชื่อพี่สัญ เข้ามารหัส 37 รุ่นเดียวกับอาจารย์อมร อาจารย์ปูรณ์ ว่าแล้วคุยกันนิดหน่อยเราก็เริ่มทำ mission ค่ะ ด้านซ้ายเนี่ยพี่โข ส่วนด้านขวาพี่สัญ1.ประวัติส่วนตัวเล็กน้อยพี่สัญก็จบทำงานมา 11 ปีแล้วค่ะ มาทำงานที่นี่ได้4ปีแล้ว งานที่ทำตอนนี้ก็เป็นงานออกแบบ ที่ผ่านมาก็เคยรับงานอิสระประมาณ3ปี ทำsite architect บ้างปนๆกันไป 2.มาทำงานแล้วมีอะไรเล่าให้น้องๆฟังบ้างตอนที่จบมา มหาลัยก็ไม่ค่อยจะได้มีการเตรียมพร้อมถึงการจบออกมาทำงาน ไม่ค่อยมีดอกาสรับฟังประสบการณ์จากคนทำงานจริงเท่าไหร่นอกจากอาจารย์ บางที่ทำให้เราไม่ค่อยเข้าใจการทำงานจริง ต้องออกมาเรียนรู้อีกซํกปี-2ปี เหมือนเริ่มใหม่ ในตอนที่เรียนมันเป็นขั้นตอนการออกแบบก็จริง แต่พอทำงานจริงเราไม่ได้ทำแค่งานออกแบบ มันต้องเกี่ยวกับการสร้างจริงต้องทำไงบ้าง ไม่ได้ว่าเป็นแบบแล้วจบ แต่ที่ลาดกระบังนั้นก็ถือว่าจริงจังแล้วเมื่อเทียบกับที่อื่น3.ตัวอย่างผลงานที่เป็นแบบอย่างงานก็มีหลายงานที่ทำมามีงานบ้านส่วนใหญ่ มาอยู่นี่ก็ทำงานรีสอร์ท แต่ละงานข้อจำกัดก็ต่างกัน อย่างบ้านจัดสรรก็ต้องคำนึงถึงเรื่องประหยัด เซฟ พอมาทำงานรีสอร์ทหรูๆก็จะอีกแบบนึงเรื่องเงินก็จะไม่ค่อยนึกถึง ต้องทำให้มันเกินไปนิดนึงเพราะเป็นรีสอร์ทราคาแพงอย่างอันนี้ก็เป็นตัวอย่างผลงานของพี่สัญค่ะ LATITUDE LAAMN ที่ MALDIVES เห็นแล้วน่าไปจริงๆ อิอิภาพงาน latituda laamn ที่ maldivesสถาที่ตั้งโครงการบาร์ชิวๆห้องพักสบายๆภาพภายนอกในการออกแบบ4.อุปสรรคในการทำงานต้องมีอยู่แล้วทุกงานมีปัญหาหมด อยู่ที่เราจะจัดการปัญหาอย่างไร อย่างพอเราออกแบบเราก็นึกได้เต็มที่เลยแต่พอออกมาทำแล้ว มันจะทำให้เรารู้เลยว่าเราสามารถจะจัดการปัญหาได้ดีแค่ไหน เพราะก่อนเสร็จเราต้องต่อรองเจ้าของงานผู้รับเหมาพยามให้มันออกมาใกล้เคียงกับแบบที่เราจะทำมากที่สุด เมื่อเราจะดูว่าใครเก่ง อาจจะไม่ได้ดูแค่ที่ว่าเค้าออกแบบเก่งนะ แต่ดูว่าสุดท้ายแล้วงานที่เสร็จออกมาสามารถจัดการให้มันคงอยู่เหมือนแบบที่คิดได้แค่ไหนยังไง การต่อรองการจัดการปัญหาทำได้ดีแค่ไหน การทำให้แบบยังดีอยู่โดยที่ตอบโจทย์ของคนอื่นได้ซึ่งก็มีหลายเรื่อง ทั้งเวลาเราอยากได้อย่างนี้แต่เจ้าของไม่ชอบจะอธิบายยังไงแล้วเราจะเข้าใจเค้าได้ยังไง เราก็ต้องรู้จักจัดการและเข้าใจตรงจุดนี้5.ข้อคิดในการทำงานเคยได้ยินตลอดว่า คนอื่นจะมองคนที่จบลาดกระบังว่าคือ ทำงานได้จริง ทำได้เลย เพราะเราถูกฝึกให้เป็นแบบจริงจัง เป็นจุดเด่นของเราเลยเรื่องความเป็นจริงเป็นจังมากเนี่ย อย่างเราจะเรียนคอนกันเยอะมาก ซึ่งก็ดีนะ แต่บางที่เราก็จะเกิดข้อด้อย พอพูดถึงการ ออกแบบเราก็จะติดเยอะพี่ก็เป็นปัญหานึงที่ติดเหมือนกัน แบบพอเวลาที่คิดงานก็จะคิดว่าสร้างยังไงและยิ่งพอความรู้ด้านการก่อสร้างของเราน้อย มันจะทำให้มีกรอบในการออกแบบที่แคบลงไปอีก เพราะเมื่อเราคิดว่าสร้างได้ยังไงมันก็มีไม่กี่อย่างที่เรานึกออก ซึ่งจริงๆในการก่อสร้างมีวิธีมากมาย ออกแบบไปเถอะยังไงมันก็ต้องสร้างจนได้ แต่บางที่เราไม่รู้และยึดติดเพราะเราถูกกล่อมเกลามาแบบนี้ อาจารย์มักจะถามว่าตรงนี้สร้างยังไง บางคนละเอียดถึงขั้นผูกเหล็กยังไงเลยที่เดียว แต่มันก็เป็นข้อดีนะเราก็สามารถทำงานได้เร็วเขียนแบบมาเยอะ แต่พอแนวคิดที่มันไม่เป็นจริงเป็นจัง เช่นพวกจิตวิญญาณอะไรเงี้ยเราก็จะคิดว่ามันไม่ได้ ซึ่งบางครั้งทำให้การเกอดกรอบนี้กลายเป็นจุดด้อยของเราไป6.การปฏิบัติตนต่อการทำงาน การปรับตัวงานก็ทำให้เราต้องปรับตัวอยู่แล้วนะ อย่างตอนเรียนพี่ก็ส่งเลท แต่พอมาทำงานจริงก็เลทได้นะมันต่อรองกันได้แหละ แต่จริงๆถ้ามีการวางแผนที่ดีจบในเวลามันก็ดีกว่าอยู่แล้ว แต่งานที่เราทำก็เป็นตัวฝึกเราอยู่แล้ว ว่าต้องรับผิดชอบ ต้องทำให้ทัน จริงๆพี่ก็ไม่ได้รู้ว่าปรับตัวอย่างไรแต่เหมือนงานก็จะเป็นตัวปรับให้เราอยู่แล้ว7.ความคิดเห็นเกี่ยวกับจรรยาบรรวิชาชีพมันก็เป็นข้อบ่งบอกว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ พี่ว่ามันก็เหมือนมรรยาทพื้นฐานในสังคมนะ มันก็ต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ทำก็เหมือนกับเราเป็นคนไม่ดี เราก็ต้องเลือกเอาว่าเราจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี ในจรรยาบรรก็เป็นเรื่องที่เราควรทำอยู่แล้ว อย่าง ทำงานอย่างเต็มความสามรถ ไม่โกงกับลูกค้า มันก็ต้องทำอยู่แล้ว แต่ลงในรายละเอียดแล้วบางเรื่องมันก็แล้วแต่สถานะการณ์8.สิ่งแวดล้อมการทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อมมันก็ดีอยู่แล้วแหละ แต่เด๋วนี้บางทีมันเป้นข้ออ้างซึ่งบางที่ก็เอามาใช้ปรโมทมากกว่า เพราะถ้าจะรักษาสิ่งแวดล้อมจริงๆนะไม่ทำหรอกพวกรีสร์อท เหมือนเอามาเป็นแค่เทรนมันก็ไม่รู้ว่าจะดีจริงหรือเปล่า ตกลงทำเพื่อสิ่งแวดล้อมหรือเอามาเป็นแค่ผลประโยชน์ บางทีมันก็เป็นแค่กระแส ขึ้นอยู่กับการโปรโมต จริงๆมันก็ดีทำมากไป ถ้าทำโดยไม่ต้องบอกมันควรจะอยู่ในงานออกแบบของเราอยู่แล้ว เช่น ใช้ลมธรรมชาติ ใช้แสงธรรมชาติ ไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศหรืออะไรแบบนี้ โดยที่ไม่ต้องไปรับรองอะไรมากมาย 9.ข้อคิดฝากถึงน้องๆ สจล.จุดเด่นของเราที่มีอยู่แล้วก็ให้รักษาเอาไว้ เช่น ขยัน ทำงานจริงได้ดี ไม่บ่น ไม่เรื่องมาก แล้วก็ไปเสริมส่วนที่ไม่ได้มีในตอนเรียน เช่น การพรีเซนต์ การจัดองค์ประกอบ ที่มันขาดไปก็ต้องขวนขวายเอา ต้องขยัน ดูเยอะๆ สังเกตเยอะๆพี่โขเสริมต่อ : ข้อดีของลาดกระบังคือ เรื่องความรักในวัฒนธรรม รักในธรรมชาติ เวลาทำงานเราค่อนข้างจะคำนึงถึงเรื่องพวกนี้ เราจะสอดแทรกเรื่องพื้นที่ อย่างไปทำที่ไซต์ไหน ก็จะเอาวัฒนธรรมเค้ามาเชื่อมโยง ซึ่ง อ.จิ๋ว ท่านปูพื้นมาค่อนข้างชัด ก็ขอให้น้องๆรักษาเอาไว้...นอกจากนี้ การไปครั้งนี้ ยังได้เจอพี่ๆ สจล. อีกหลายคน นับได้ว่าเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์จากพี่สู่น้องที่เป็นประโยชน์จริงๆค่ะ
อ่านเพลินๆ จ้ะ