การเดินทาง... เริ่มต้นจาก กทม. การเดินทางในครั้งนี้เราใช้บริการรถทัวร์ กทม. (หมอชิด) - เลย เราออกเดินทางเวลา 22.30 น. ถึงสถานีขนส่ง จ.เลย เวลา 07.30 น. รถเลสบ้างไม่ว่ากัน โดยมีพี่ต้นมารอรับที่ขนส่ง

วันแรก +++ จากสถานีขนส่งจังหวัดเลย พี่ต้นก็พาเราไปทานข้าวเที่ยงที่โรงแรมเลยวิลเลจ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันแล้วก็ check out ออกจากโรงแรมเพื่อมุ่งหน้าไปพักการงเต้นนอนกันที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ 1 คืน โดยการเดินทางในครั้งนี้เราใช้รถยนต์ส่วนตัวของพี่ต้นค่ะเพื่อความสะดวก และเราก็ตั้งใจว่าจะขึ้นไปให้ถึงที่ทำการอุทยานที่กางเต้นก่อนค่ำ และระหว่างทางนั้นเราก็แวะกินข้าวเที่ยง ซื้อสะเบียงตุนไว้ไปกินบนภูเรือแบบง่ายๆ คือ มาม่าและขนมนั้นเอง เราเดินทางออกจากตัวเมือเลยตอนเที่ยงและมาถึงที่จุดหมายของวันนี้ก็ปาไป 5 โมงเย็นแล้ว ขึ้นมาอากาศก็ยังสัมผัสได้ถึงความหนาวแบบภาคเหนืออยู่ค่ะ อุณภูมิประมาณ 22 องศา ได้ ซึ่งเป็นอากาศที่กำลังสะบายและเสื้อผ้าที่เราเตรียมมาก็ยังพอรับได้อยู่ 

แต่*** เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือ เจ้าหน้าที่อุทยานมาแจ้งนักท่องเที่ยวที่มากางเต้นกันว่า  พยากรอากาศแจ้งว่าคืนนี้อาการจะลดลงมาก จึงให้นักท่องเที่ยวที่มากางเต้นเตรียมพวกเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกันด้วย แม่เจ้าเตรียมไงหละเพราะตอนที่เจ้าหน้าที่แจ้งนั้นก็ 6 โมงกว่าแล้วจะหาจากไหนได้ แล้วดูชุดและเสื้อผ้าที่เราเตรียมาสิ ต้อนรับ summer ทั้งนั้นที่พอจะช่วยได้ก็มีเพียงแต่ผ้าคลุมไหล่ที่พกติดมาด้วย 1 ผืน พร้อมกับถุงเท้าบางๆ 1 คู่ แต่ก๋ไม่คิดว่ามันจะหนาวได้เท่าไหร่เพราะช่วงเย็นก็ประมาณ 20-23 องศา เท่านั้นเอง เราก็ยังคงเพลิดเพินกับการกางเต้นอย่างสนุกสนาน เราเช่าเต้นของที่ทำการอุทยานค่ะ เขามีมาพร้อมกับถุงนอนให้ด้วย เราเช่า 2 เต้น ได้ถุงนอนมา 4 ถุง ค่ะ ก็ว่าโอเครแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปประมาณ 20.00 น. ก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่เพิ่มขึ้นปกติติีกเป็นคนขี้ร้อนชอบอยู่หนาวๆ แต่จิ๋วมันเป็นคนที่ทนความหนาวมากไม่ได้เพาะมันตัวเล็กมาก จิ๋วที่เอาผ้าที่มีในกระเป๋ามาใส่ซ้อนกันหลายชั้นแล้ว พอประมาณ 22.00 น. เราก็เริ่มรู้สึกหิวและบวกกับรู้สึกหนาวแล้วก็เลยหาวิธีแก้หนาวด้วยการต้มมาม่ากิน วันนั้นเราพึ่งพากาน้ำร้อนของเจ้าหน้าที่อุทยานกันค่ะ เขามีไว้บริการด้วยแต่เราเจอปัญหาว่า ต้มน้ำเท่าไหร่มันก็ไม่ร้อนสักที่ เพราะอากาศตอนนั้นวัดได้ที่ 13 องศา ใครจะคิด เราก็เลยได้กินมาม่าที่ต้มในน้ำอุ่นเท่านั้นเอง นี้เป็นประสบการที่จำได้ขึ้นใจเลยความลำบากของการขากน้ำร้อน 

และแล้วคืนแรกบนยอดภูเรือก็จบลงแบบหนาวสุดใจ (อุณภูมิต่ำสุดคืนนั้นอยู่ที่ 10 องศา) ต้องของคุณพี่เจ้าหน้าที่ที่ใจดีหาผ้าห่มและถุงนอนมาให้เราเพิ่ม พี่เขาคงเห็นจากชุดนอนที่เราใส่กันแล้วสงสาร เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ไม่รู้ลืม

วันที่ 2  +++ 

เช้านี้ตื่นตั้งแต่ตี 04.30 น. เพื่อจะไปดูพระอาทิตย์แรกของประเทศขึ้นบนยอดภู (เขาว่า) บอกเลยว่าเมื่อคืนนั้นอากาศหนาวเกินคาดหนาวถึง 10 องศา ตื่นขนาดนี้คงเดาไม่ยากว่าเราจะไม่อาบน้ำกัน ได้แค่บ้วนปากจริงๆ แล้วเราก็รีบไปต่อรถสองแถวขึ้นไปที่ผาโหล่นน้อยซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่งและทะเลภูเขา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 3 กิโลเมตร เดินทางจากที่ทำการอุทยานมาถึงผาโหล่นน้อย ก็ประมาณ 05.30 น. ค่ะ ก็นั่งรอบอกเลยขึ้นไปไม่เห็นหมอกน่ะเห็นแต่นักท่องเที่ยวที่มีเป้าหมายเดียวกันมานั่งรอดูแสงอาทิตย์แรกของวันนี้ (คนจะเยอะไปไหน) ติ๊กถ่ายภาพมาน้อยค่ะเพราะร่างกายยังไม่ตื่นเลย