สวัสดีค่ะ วันนี้มาพบกับคอนเทนต์ความงานอีกเช่นเคย จะมาบอกว่าก่อนเจาะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หลังเจาะแล้วควรทำความสะอาดแผลอย่างไร อาหารแสลงมีผลต่อแผลจริงไหม เตรียมตัวอย่างไรในวันไปเจาะ..... สิ่งที่ควรทำ -
ถ้าเป็นไปได้ควรโทรนัดช่างไว้ก่อนเพื่อความสะดวก -
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ -
กินอาหารมื้อก่อนหน้าให้เรียบร้อย -
ทำความสะอาดบริเวณที่ไปเจาะด้วย จะได้ไม่อายเขา อิอิ -
ถ้าเจาะปาก คาง จมูก หรือบริเวณนั้น ควรโกนหนวดและกำจัดสิวเสี้ยนออกเสียก่อนด้วย -
ถ้าเจาะหู ควรทำผมที่เหมาะกับการเจาะในบริเวณมา จะได้ไม่เป็นปัญหาหลังเจาะ -
ถ้าเจาะตามร่างกายก็ควรแต่งตัวให้เหมาะกับการเจาะบริเวณนั้นๆ ไม่รุ่มร่าม ไม่เกี่ยว -
ถ้ากินยาบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรงดก่อนอย่างน้อยหนึ่งมื้อก่อนหน้านั้น สิ่งที่ไม่ควรทำ -
ไม่ควรเจาะในช่วงที่มีประจำเดือน เพราะสัมผัสจะไวขึ้น อาจทำให้รู้สึกเจ็บกว่าปกติ -
อย่าอดอาหารมื้อก่อนหน้า -
ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาที่มีแอลกอฮอล์ก่อนหน้าการเจาะอย่างน้อย 24 ชั่วโมง -
อย่าทาครีมในส่วนที่ต้องการเจาะ ปล่อยให้ผิวเกลี้ยงตามธรรมชาติจะดีกว่า -
อย่าใส่จิลหรือตุ้มหูที่อาจขัดขวางการเจาะบริเวณใกล้เคียง การดูแลทำความสะอาดแผลหลังเจาะ อย่าใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดแผลเจาะทุกส่วนอย่างเด็ดขาด! เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อสูง มันจะทำลายเนื้อเยื่ออ่อนตรงแผลของเราด้วยและยิ่งทำให้แผลยิ่งคงสภาพความเป็นแผลไว้ตลอดไม่หายสักที เพราะมันกัดแผลอยู่แล้วนั่นเอง ถ้าใช้แค่ตรงlobeหรือติ่งหูนั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่ห้ามเด็ดขาดกับcartilageทุกส่วน รวมไปถึงพวกไฮโดรเจนเพอร์ออกไซต์ ยาหม่อง แซมบัค บัวหิมะทั้งหลาย เพราะฉะนั้น ห้ามเด็ดขาดเลยนะคะกับสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด การทำความสะอาดแผลที่ถูกวิธีควรทำอย่างนี้ค่ะ การทำความสะอาดที่ถูกวิธี การทำความสะอาดแผลเจาะที่ถูกวิธีควรใช้แค่สบู่ anti-bacteria เท่านั้นก็พอแล้ว โดยฟอกเป็นฟองแล้วทำความสะอาดบริเวณแผลทุกครั้งหลังอาบน้ำ สระผม ล้างหน้า ทิ้งไว้3-5นาทีเพื่อให้แผลเข้าถึงอย่างทั่วกัน ในช่วงแรกไม่ต้องสัมผัสแผลโดยตรง แต่เืมื่อแผลแห้งเริ่มเข้าที่แล้ว ก็เริ่มขยับจิลให้น้ำสบู่เข้าไปถึงข้างใน การทำความสะอาดอย่างนี้เป็นการทำความสะอาดแผลโดยตรงที่สุด ช่วยทำให้คราบหนองหลุดออกได้ง่ายขึ้น ที่ต้องใช้สบู่ anti-bacteria ก็เนื่องจากมันทำความสะอาดเชื้อโรคได้ดีกว่า และต้องเลือกสูตรธรรมดาที่สุดเท่านั้น พวกที่มีกลิ่น ผสมมอยซ์เจอไรเซอร์พวกนั้นไม่ต้องซื้อมาค่ะ ในตอนแรกที่แผลยังสดอยู่มาก ช่วง3-4วันแรก ไม่ควรแตะต้องอะไรมันเลย อย่าไปจับไปคลำไปหมุนอะไรทั้งสิ้น หลังจากนั้นถึงค่อยเริ่มขยับเพื่อทำความสะอาดแผลได้อย่างทั่วถึง แม้ช่วงแรกจะรู้สึกตึงขยับแล้วไม่เจ็บ แต่ไม่เจ็บก็ไม่ได้แผลว่าไม่กระทบกระเทือน ดังนั้นควรรอให้แผลเซ็ตตัวดีก่อนถึงขยับได้ ในประเทศไทย สบู่anti-bacteria ที่ค่าสูตรเป็นกลาง ผสมอะไรต่อมิอะไรน้อยที่สุดแล้วก็น่าจะเป็นสบู่ Protex hand soap สูตร family bump หรือ bubble ที่ว่า มันคือตุ่มที่งอกออกมาจากแผลเจาะ บางคนอาจเรียกว่าคีลอยล์ เป็นอาการที่เนื้อมันเจริญเติบโตไปตามปกติ หลังจากที่ร่างกายเกิดแผล เนื้อจะมีการงอกออกมาเพื่อปิดแผลที่ว่า ถ้าเราทำความสะอาดไม่ถูกวิธีหรือไม่เพียงพอ ไม่ขยับหรือยุ่งกับมันมากจนเกินไป ก็สามารถเกิดขึ้นได้และอยู่เรื่อยๆ ในช่วงแรกเราอาจรู้สึกเจ็บหรือคัน แต่มันไม่มีอันตรายใดๆกับร่างกาย แค่ทำให้แผลดูไม่สวยเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ควรไปบีบหรือแกะมันอย่างเด็ดขาด อาจทำให้เชื้่อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเล็บและนิ้วมือได้ การกำจัด bubble ออกไปคือการใช้คัตตอนบัตแต้มน้ำมัน tea tree oil ให้พอเหมาะ แล้วทาตรงบริเวณที่เป็น ทาแค่อาทิตย์ละ 2-3 หนก็พอ ไม่งั้นแผลจะแห้งจนเกินไป วิธีนี้ต้องอาศัยเวลาและความอดทน มันจะค่อยๆยุบลงไปภายใน 3 เดือน สามารถใช้ได้กับ bubble จากทุกส่วนของร่างกายค่ะ จำเป็นต้องใส่ก้านกระเทียมหรือเปล่า หนึ่งในความเชื่อเรื่องการเจาะหูของคนไทยที่มีมานานมากๆคือ ใครที่เจาะบริเวณlobe ต้องเหลาก้านกระเทียมให้เล็กแล้วใส่ที่รูเจาะเพื่อป้องกันหูหนองหูเน่า แต่บางรายใส่แล้วก็ยิ่งเน่า แผลยิ่งแฉะไม่แห้งไม่หายสักที ช่างเจาะหลายๆคนจากต่างประเทศก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องการใส่ก้านกระเทียมเลยว่าจะช่วยให้แผลดีขึ้นจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้น เราไม่ควรเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อให้แผลให้มากยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็น หากเราทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ก็ไม่จำเป็นต้องหาอะไรอย่างอื่นมาใส่ที่หูเราให้มากมาย อาหารแสลงทั้งหลายแหล่ ไม่มีของแสลงสำหรับคนเพิ่งเจาะหูมาค่ะ อยากกินอะไรก็กินโลด แผลจะเน่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาดของเราทั้งนั้น ต่างชาติเขาเจาะกันมาแล้วไม่เป็นอะไร กินอะไรได้เราก็กินได้ทั้งนั้นค่ะ ไม่ว่าจะไข่ ข้าวเหนียว ส้มตำ ยำ ของดอง ซัดให้เรียบค่ะ สิ่งที่ควรทำความสะอาดเพิ่มเติม -
ควรซักและเปลี่ยนปลอกหมอนทุกสัปดาห์เพื่อความสะอาด หรือจะหาผ้าอย่างอื่นที่ซักแล้วมาปูทับปลอกหมอนอีกทีก็ได้ -
ควรทำความสะอาดหวีด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับแผลแล้วติืดเชื้อ -
ทำความสะอาดผ้าเช็ดผมและผ้าเช็ดหน้าเช่นกัน -
พยายามตัดเล็บมือให้สั้น เพราะเราต้องใช้มือทำความสะอาดแผลตลอด จะได้ไม่เป็นแหล่งหมกหมมของเชื้อโรค นานแค่ไหนกว่าแผลจะหาย อันนี้ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนนะคะ ส่วนใหญ่แผลเจาะที่lobeจะหายไวที่สุดเพราะมีแค่เนื้อ อยู่ที่ระยะเวลา 6-8 สัปดาห์แผลก็แห้งสนิทแล้ว แค่ล้างแผลด้วยสบู่anti-bacteriaวันละสองครั้งแผลก็จะหายในเร็ววันแล้ว หากใครใช้เวลาเกินกว่านี้แล้วแผลยังไม่แห้งยังไม่หาย ก็อย่าเพิ่งไปโทษของแสลงค่ะ ย้อนดีตัวเองก่อนเลยว่าเจาะมาอย่างถูกต้องไหม ล้างแผลอย่างถูกวิธีไหม ส่วน cartilage แผลจะหายช้ากว่าเพราะเป็นการเจาะที่กระดูกอ่อน ใช้เวลาอยู่ที่ 3เดือนไปจนถึง 1ปี แต่สุดท้ายก็อยู่ที่แต่ละคนนะคะ บางคนแค่เดือนกว่าๆก็หายแล้ว แค่ต้องหมั่นทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธีเท่านั้น เปลี่ยนตุ้มหูหรือจิลได้เืมื่อไหร่ เมื่อแผลหายก็เปลี่ยนได้เลยค่ะ หากเป็นการเจาะที่lobeก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนเองได้เลยเพราะไม่มีอะไรซับซ้อนมาก แต่หากเป็นการเจาะบริเวณอื่นควรให้ช่างเปลี่ยนให้ดีกว่า ช่างจะได้ให้คำแนะนำในการเปลี่ยนครั้งต่อไปได้ด้วย ทำความสะอาดตุ้มหูหรือจิลอย่างไร ไม่มีอะไรยากค่ะ แค่ใช้สบู่ตัวเดียวกับที่ใช้ล้างแผลมาแช่ไว้สัก 10-15 นาทีก็พอ วิธีนี้ใช้ได้กับเครื่องประดับอย่างอื่นได้ด้วยนะคะ ข้อควรระวัง -
ไม่ควรใช้ cotton ball หรือสำลีใช้ทำความสะอาดแผลเด็ดขาด เพราะใยของมันอาจไปติดแผลได้ ไม่เหมือน cotton bud ที่ปลายแหลมกว่าผิวสัมผัสน้อยกว่าเลยส่งผลกระทบต่อแผลน้อยกว่า -
ระมัดระวังการสระผมหรือหวีผม รวมถึงการเข้าร้านทำผมด้วย ควรบอกช่างทำผมก่อนว่าเราเพิ่งไปเจาะหูมา เพื่อเขาจะได้ระมัดระวังมากขึ้น -
ถ้าไมจำเป็น ในช่วงสองสัปดาห์แรกอย่าเพิ่งไปสระว่ายน้ำรวมหรือซาวน่ารวม เพราะที่เหล่านี้มีเชื้อโรคแอบแฝงอยู่ทุกที อย่าเสี่ยงเป็นดีกว่า และข้อที่อยากให้ระวังในการเจาะที่สุดนะคะ คือ เจาะด้วยปืนนั้นอันตราย เนื่องจากปืนนั้นผู้เจาะไม่สามารถกะแรงได้ สามารถก่อความกระทบกระเทือนต่อแผลทั้งระยะสั้นและระยะยาว คุณคงไม่อยากเสี่ยงสักกับเครื่องใช่ไหมละคะ เช่นเดียวกัน การเจาะคือศิลปะอย่างหนึ่ง ควรเจาะด้วยมือคนเท่านั้น หากจะเจาะด้วยปืนจริงๆ อนุโลมให้ที่lobeอย่างเดียวพอค่ะ นอกจากนั้นห้ามอย่างเด็ดขาด ข้อทิ้งท้ายมีเท่านี้นะคะ การเจาะไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะหากคุณดูแลแผลอย่างถูกวิธี
Credit : https://sarannooch.blogspot.com/2012/12/blog-post.html รอสั่งซื้ออยู่นะ Click! หรือติดต่อทางfacebookก็มีนะจ้ะ Click!
Create Date : 29 มีนาคม 2561 |
Last Update : 29 มีนาคม 2561 14:50:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 791 Pageviews. |
|
|