Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
ประวัติศาสตร์อินเดีย

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุเป็นอายรธรรมโลหะอารยธรรมแรกของอินเดีย เป็นอารยธรรมสำริด รุ่งเรืองเมื่อประมาณ 2600 ปีถึง 1900 ปีก่อนค.ศ. มีการขุดค้นพบแหล่งอารยธรรมสินธุขนาดใหญ่ที่สำคัญที่เมืองฮารัปปา และโมเฮน-โจดาโร อารยธรรมสินธุมีการสร้างบ้านด้วยอิฐ มีระบบผังเมืองและชลประทานที่ก้าวหน้า

สาเหตุที่อารยธรรมสินธุจบสิ้นลงมีหลายข้อสันนิษฐาน ข้อสันนิษฐานแรกคือถูกชาวอารยันรุกราน โดยชาวอารยันนั้นด้อยวัฒนธรรมกว่าจึงทำให้อารยธรรมสินธุเสื่อมลง อีกข้อสันนิษฐานคือ ในบริเวณนั้นมีแม่น้ำสรัสวตี ที่เปลี่ยนทางเดินและตื้นเขินลง ทำให้ชาวสินธุอพยพไปอยู่ที่อื่นและอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย อารยธรรมสินธุจึงด้อยและเสื่อมลงในที่สุด

สมัยพระเวท

ประมาณ 2000 ถึง 1500 ปีก่อนค.ศ. ชาวอินโด-อารยันจากเอเชียกลางอพยพเข้ามาในอินเดีย และพบกับอารยธรรมสินธุ ทั้งสองอารยธรรมผสมผสานรวมกันเป็นอารยธรรมพระเวท เป็นอารยธรรมเหล็ก หลักฐานที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมนี้คือพระเวท เป็นวรรณกรรมทางศาสนาในภาษาสันสฤต อันเป็นที่มาของชื่อสมัยนี้

ช่วงแรกของสมัยพระเวท เรียกว่า สมัยฤคเวท เป็นสมัยที่ชาวอารยันเข้ามาในอินเดียใหม่ๆ เป็นชนเผ่าเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ คัมภีร์ฤคเวทเป็นพระเวทที่เก่าแก่ที่สุด ต่อมีจึงปรากฏมียชุรเวท สามเวท และอาถรรพเวท มีการเปลี่ยนแปลงทางภาษาหลายครั้ง ตามมาด้วยคัมภีร์เสริมอื่นๆ ได้แก่ สามหิตา อรัญญิก อุปนิษัท และพราหมณ์

มหากาพย์ทั้งหลาย ได้แก่ รามายณะและมหาภารตะ ถือกำเนิดในช่วงประมาณพุทธกาล ตอนปลายสมัยพระเวท ชาวอารยันในอินเดียอยู่กันเป็นเผ่า เลี่ยงสัตว์เร่ร่อนแต่ต่อมาเริ่มรู้จักเพาะปลูกตั้งรกราก มี การค้าขายทำให้บางเผ่ารวบรวมตั้งตนเป็นอาณาจักรใหญ่ได้ และเริ่มมีระบบวรรณะ ชัดเจน

มหาชนบท

ปลายสมัยพระเวทประมาณ 600 ปีก่อนค.ศ. ชาวอารยันในอินเดียสามารถรวมตัวเป็นอาณาจักรเล็กๆประมาณ 16 อาณาจักรได้ แต่ละอาณาจักรเรียกว่า มหาชนบท ตามลุ่มแม่น้ำคงคา-สินธุ ชุมชนเมืองเติบโตอีกครั้งหลังจากการล่มสลายของอารยธรรมสินธุ ทั้ง 16 มหาชนบทมีการปกครองที่แตกต่างกัน บางอาณาจักรปกครองโดยกษัตริย์ บางอาณาจักรปกครองโดยสภาเมือง เป็นสาธารณรัฐ

ภาษาที่ใช้ของชาวอารยันในหมู่ชนชั้นสูงคือภาษาสันสกฤต ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ภาษาบาลี กำเนิดศาสนาสองศาสนา คือ พระพุทธศาสนา โดยเจ้าชายสิทธัตถะ โคตมะ และศาสนาเชน โดยมหาวีระ ทั้งสองศาสนาเน้นเรื่องการละความสุขทางโลก และสอนเป็นภาษาบาลี จึงเข้าถึงผู้คนได้มาก

พ.ศ. 23 พระเจ้าดาริอุสแห่งเปอร์เซียแผ่อิทธิพลเข้ามาในปัญจาบและคันธาระ และใน พ.ศ. 209 พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเข้าบุกอินเดียและเอาชนะพระเจ้าปุรุแห่ง แคว้นเปารพที่แม่น้ำไฮดาสพ์ (Hydaspes) พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ตั้งข้าหลวง (Satrap) ปกครองแคว้นต่างๆ รวมถึงอินเดีย แคว้นคันธาระจึงกลายเป็นเบ้าหลอมทางวัฒนธรรมระหว่างกรีกและอินเดีย ทำให้เกิดอารยธรรมอินเดีย-กรีก และศิลปะพระพุทธศาสนาแบบกรีก เกิดพระพุทธรูปเป็นครั้งแรกและส่งอิทธิพลอย่างมากต่อพัฒนาการทางศิลปะของพระพุทธศาสนา

ราชวงศ์โมริยะ (พ.ศ. 220 - พ.ศ. 385)

ประมาณพ.ศ. 200 แคว้นมคธภายใต้ราชวงศ์นันทาแผ่อิทธิพลไปทั่วอินเดียเหนือกลืนกินมหาชนบททั้งหลายจนหมดแล้ว แต่ในพ.ศ. 223 โกติลยะ จนักขยะ ปราชญ์คนหนึ่งได้ขอเข้ารับราชการกับทางแคว้นมคธ แต่พระเจ้าธนาแห่งนันทาทรงปฏิเสธ ทำให้โกติลยะแค้นจึงยุยงเจ้าชายจันทรคุปต์ โมริยะ เข้ายึดบัลลังก์จากราชวงศ์นันทา ตั้งราชวงศ์โมริยะ พระเจ้าจันทรคุปต์ทรงขับพวกกรีกออกจากปัญจาบและคันธาระ และได้ดินแดนจากเปอร์เซียมาบางส่วน และบุกลงไปทางใต้ ยึดได้อินเดียเกือบทั้งทวีป ยกเว้นกลิงครัฐ

ต่อมาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงมุ่งมั่นมากที่จะยึดกลิงครัฐ ประมาณพ.ศ. 270 จึงทรงทำสงครามอย่างหนักทำให้ชาวแคว้นกลิงครัฐตายเป็นเบือ พระเจ้าอโศกทรงสำนึกและหันเข้าหาพระพุทธศาสนาเพื่อชดเชยบาปที่ทรงเคยก่อ หลักฐานที่สำคัญในสมัยพระเจ้าอโศกคือเสาต่างที่พระเจ้าอโศกทรงให้สลักพระราช โองการลงไป เรียกว่า เสาพระเจ้าอโศก ซึ่งกระจายทั่วอินเดีย พระเจ้าอโศกทรงส่งสมณทูตออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามดินแดนต่างๆ เป็นการแพร่กระจายพระพุทธศาสนาไปยังดินแดนอื่น

ราชวงศ์คันธาระ (พ.ศ. 313 - 763)

ประมาณพ.ศ. 300 อิทธิพลของราชวงศ์โมริยะในอินเดียใต้เสื่อมลง ทำให้อาณาจักรต่างๆตั้งตนเป็นอิสระอีกครั้ง ราชวงศ์คันธาระ ตั้งประเทศขึ้นในอินเดียกลางในพ.ศ.ดเดเดเดเดเดเ วงศ์โจฬะ]] และราชวงศ์ปัณฑยะ

ส่วนราชวงศ์โมริยะเองก็ถูกโค่นไปในพ.ศ. 358 โดยราชวงศ์สังกะ อำนาจของแคว้นมคธอ่อนแอลง พระเจ้าเดเมตริอุสที่ 1 แห่งแบคเทรีย เป็นพันธมิตรกับราชวงศ์โมริยะจึงนำทัพเข้าบุกอินเดีย ตั้งอาณาจักรกรีกขึ้นในแคว้นปัญจาบ ต่อมาพระเจ้าเมนันเดอร์ (พระเจ้ามิลินท์) สามารถยกทัพบุกปาฏลีบุตร เมืองหลวงของแคว้นมคธได้ อาณาจักรกรีก-อินเดียรุ่งเรืองภายใต้พระเจ้าเมนันเดอร์ ศิลปะแบบกรีผสมผสานกับพระพุทธศาสนากลายเป็นพระพุทธรูปองค์แรก

ในทางกลับกัน ราชวงศ์สังกะกลับกดขี่พระพุทธศาสนา ทำให้ชาวพุทธจำนวนมากหนีไปอยู่ที่อาณาจักรกรีก-อินเดีย ประมาณพ.ศ. 400 ราชวงศ์คันธาระบุกปาฏลีบุตร และยึดมัธยประเทศได้ ราชวงศสังกะจึงถูกราชวงศ์คันวะ ล้มในพ.ศ. 468 ราชวงศ์คันวะอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกล้มโดยราชวงศ์คันธาระในพ.ศ. 1517

ประมาณพ.ศ. 500 พวกซิเทียน (Scythians) จากเอเชียกลางบุกเข้าอินเดีย ทำลายอาณาจักรกรีก-อินเดีย และยึดลุ่มแม่น้ำคงคาได้ ชาวอินเดียเรียกว่าซิเทียนว่าพวกสักกะ (Sakas) จนพวกสักกะตั้งอาณาจักรย่อยมากมายเรียกว่ากษัตริย์ตะวันตก (Western Kshatrapas หรือ Western Satraps) ทางตะวันตกของราชวงศ์คันธาระในแคว้นมัลละ

ราชวงศ์คันธาระถูกพวกสักกะรุกรานอย่างหนัก จนพระเจ้าโคตรมีบุตร สัตตการณ์ แห่งคันธาระ เอาชนะพวกสักกะได้ในพ.ศ. 621 แต่ต่อมาพ.ศ. พระเจ้ารุทราดามันของพวกสักกะก็เข้าถล่มราชวงศ์คันธาระจนย่อยยับ ประมาณพ.ศ. 700 อำนาจของราชวงศ์คันธาระเสื่อมลง อาณาจักรต่างๆแยกตัวออกไป

ราชวงศ์กุษาณะ (พ.ศ. 600 - 918)

พวกเย่จื่อ (Yuezhi) เป็นชนเผ่าทางตะวันตกของจีน เร่ร่อนอ้อมเทือกเขาหิมาลัยจนมาถึงอินเดียประมาณพ.ศ. 600 กุจุฬา กุษาณะ รวบรวมเผ่าเย่จื่อ หรือพวกกุษาณะ ขึ้นเป็นอาณาจักร พวกกุษาณะพบกับชาวกรีก-อินเดีย จึงรับอารยธรรมกรีกและพระพุทธศาสนา ราชวงศ์กุษาณะเรืองอำนาจสมัยพระเจ้ากนิษกะ พ.ศ. 670 แผ่อิทธิพลไปทั่วทั้งลุ่มแม่น้ำคงคา ขับพวกสักกะลงไปทางใต้

แต่พ.ศ. 783 ราชวงศ์ซาสสานิด (Sassanid dynasty) จากเปอร์เซียเข้าบุกยึดอินเดียและขับพวกกุษาณออกไปทางเหนือ พระเจ้าชาร์ปูร์แห่งเปอร์เซียตั้งข้าหลวงปกครองอินเดีย เรียกว่า กุชานชาห์ (Kushanshah) แปลว่า เจ้าแห่งกุษาณ

ราชวงศ์คุปตะ (พ.ศ. 863 - 1149)

เมื่อไม่มีพวกกุษาณะเป็นโอกาสให้แคว้นมคธเรืองอำนาจอีกครั้งภายใต้พวกลิจฉวี ในพ.ศ. 863 จันทรคุปต์ แต่งงานกับลูกสาวพวกลิจฉวี จึงได้ครองแคว้นมคธภายใต้ราชวงศ์คุปตะ พระโอรสคือพระเจ้าสมุทรคุปต์ แผ่ขยายอิทธิพลคุปตะไปทางใต้แทนที่ราชวงศ์คันธาระ ประมาณพ.ศ. 900 ราชวงศ์คุปตะก็ได้อินเดียไปครึ่งทวีป และพ.ศ. 952 พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 2 ปราบพวกสักกะในแคว้นมัลละได้หมด

สมัยคุปตะเป็นสมัยที่ศิลปวัฒนธรรมอินเดียรุ่งเรือง เป็นยุคทองของศาสนาฮินดูและพุทธ คัมภีร์ปุราณะก็ถือกำเนิดในสมัยนี้ แต่ราชวงศ์คุปตะก็เสื่อมลง ด้วยการรุกรานจากพวกหุนะ หรือ พวกฮั่น (Huns) หรือ เฮฟทาไลท์ (Hephthalites) จากเอเชียกลาง พวกหุนะบุกทะลุทะลวงเข้ามายึดได้ตั้งแต่เทือกเขาฮินดูกูชถืงแคว้นมัลละ ราชวงศ์คุปตะอ่อนแอลงและแตกออกเป็นอาณาจักรย่อยๆ ขณะที่ราชวงศ์คุปตะยังคงครองแคว้นมคธอยู่แต่สูญเสียการควบคุมอาณาจักรอื่น

ส่วนทางใต้ในพ.ศ. 888 ราชวงศ์คาดัมบา (Kadamba dynasty) เป็นราชวงศ์คันนาดา เป็นพวกฑราวิท ตั้งตนขึ้นมามีอำนาจแทนราชวงศ์คันธาระเดิมและต้านทานอินธิพลของราชวงศ์คุปตะ ได้ นอกจากพวกทมิฬแล้วราชวงศ์คาดัมบาเป็นราชวงศ์ดราวิเดียนราชวงศ์แรกที่ได้ ปกครองตนเอง ขณะที่พวกทมิฬก็สูญเสียเอกราขให้แก่ราชวงศ์กัลพร์ (Kalabhras)

Coaster Contemporary Style Solid Wood Bar Unit with Wine Rack, Deep Cappuccino Finish
Brazilian Keratin Hair treatment QOD MAX complete kit
GKI Bethlehem Lighting Pre-Lit 9-Foot PE/PVC Christmas Tree with 1,050 Clear Mini , Medium Canterbury
GKI Bethlehem Lighting Pre-Lit 9-Foot PE/PVC Christmas Tree with 700 Clear Mini , Slim Palisade
Nikon D90 DX 12.3MP Digital SLR Camera with 18-105mm f/3.5-5.6G ED AF-S VR DX Nikkor Zoom Lens + 8GB Deluxe Accessory Kit
Thule 686BXT Atlantis 1600 Rooftop Cargo Box (Black)
Vega D-48 48-Inch Professional Lathe Duplicator
TAG Heuer Men's WAJ2110.BA0870 Aquaracer Automatic 500M Calibre 5
Saeco Xelsis SS Automatic Espresso Machine, Stainless Steel









Free TextEditor


Create Date : 15 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2553 12:02:57 น. 0 comments
Counter : 627 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

reviews-news
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add reviews-news's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.