|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 20 : ขอให้รักของฉัน อยู่กับเธอตลอดไป เล่ม 1 - 3 โดย ภูระริน

20
สุนันทานั่งพับเพียบอยู่ตรงพื้นใกล้ที่นั่งของปรเมษฐ์ บอลจริง ๆ นะ หญิงรู้สึกมาตั้งแต่เรายังเล็ก ๆ แล้ว หญิงรักบอลจริง ๆ เธอเอื้อมมือไปจับมือของชายหนุ่มอย่างอ้อนวอน ปรเมษฐยิ้มที่มุมปาก รู้จักเราดีแค่ไหน ? แล้วคิดว่าจะรับได้เหรอ ? มันไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวคิดหรอกนะหญิง คนที่หญิงเห็นมาตั้งแต่เล็กกับคนที่นั่งอยู่ตรงนี้
แล้วไงล่ะคะ ? บอลก็เหมือนเดิมนี่ อีกอย่างคุณป้ากับคุณลุงต้องเห็นด้วย บอลคงไม่รังเกียจหญิง เธอสบตาเขาอย่างผู้ชนะ
คุณเอาภูสิตาไปไว้ที่ไหน ?
สุนันทาลุกขึ้นยืนทันที อะไรนะ ! ? พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า ? นี่ตัวเอาแม่นั่นมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไร หญิงคิดว่าตัวไม่ได้จริงจังอะไร เพราะมันก็ผ่านมานานแล้ว ตัวไม่เคยสนใจใคร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแม่คนนี้ ?
สุนันทาครับถ้าไม่เลิกเรียกคนอื่นว่าแม่นั่นแม่นี่ ก็อย่ามาคุยกัน พูดจบเขาก็เดินออกไปจากบ้านทันที สุนันทานั่งลงระงับสติอารมณ์ เธอรู้สึกโกรธจนมือไม้สั่น ถ้าลองปรเมษฐ์เรียกเธอ เต็มยศ แบบนี้ ก็อย่าได้พูดอะไรต่ออีกเลย
เขาโกรธเธอ !
อากาศภายนอกเริ่มเย็นพร้อมกับฟ้าที่มืดลงแล้ว ปรเมษฐ์จอดรถอยู่ข้างทาง ไม่ห่างจากบ้านของภูสิตามากนัก เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังสับสนกับชีวิตในตอนนี้ ถ้าปรมัตถ์อยู่ด้วยก็คงจะดีจะได้ช่วยกันคิดว่าควรดำเนินชีวิตอย่างไร
เขาคิดถึงลูกสาวบ้านนี้ ทำยังไงดี ?
เขารู้สึกว่าตัวเองให้ความสำคัญกับภูสิตามากและเจ้าตัวดูจะรู้เรื่องดีทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นคงไม่กอดตอบ แต่ประตูหัวใจเธอก็ปิดสนิทจนไม่รู้จะเข้าไปครอบครองได้อย่างไร คิดว่าตัวเองชนะแต่ก็ไม่กล้าเชื่อทุกอย่างที่เห็น นี่ขนาดเขาทำได้ทุกอย่างที่ตัวเองต้องการในสภาพที่เหนือมนุษย์ แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่กับภูสิตา
แล้วร่างที่นอนอยู่ทางโน้นจะทำอะไรได้ จะทำให้เธอบอกว่ารักสักคำก็ทำไม่ได้ น่าขายหน้าจริง ๆ เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น ชายหนุ่มจึงเลื่อนกระจกลง ครับ ?
ว่าไงพ่อนักเรียนนอก จะลงมาไหม ? นั่งอยู่นานแล้วเนี่ย นายนี่นะมาจอดซุ่มเป็นโจรอยู่ได้ เดี๋ยวยายตาลมันแจ้งตำรวจก็ซวยกันพอดี ภูสิตาอยู่เข้าไปเถอะ โมรีพูดพลางกอดอกหัวเราะในการกระทำของเพื่อน ปรเมษฐ์ยิ้มให้โมรีเหมือนเด็ก ๆ
ก็คิดว่าเขาไม่อยู่ ไม่ได้นัด ก็เลยไม่อยากกวน
โมรีส่ายหน้า เออ ๆ รู้แล้ว เข้าไปเถอะ เขาอนุญาตทั้งนั้นแหละ นายไม่รู้เหรอ ว่ายายภูสิตามันหมดท่าไปตั้งแต่นายไปละ แล้วโมรีก็เดินนำเข้าไปในบ้าน
ปรเมษฐ์ยิ้มพลางถอนใจเบา ๆ ให้มันได้อย่างนี้สิโมรี
พอเดินเข้าไปในรั้วบ้านชายหนุ่มก็ต้องชะงัก ใครบางคนยืนจังก้าอยู่ที่หน้าบ้าน
มาทำไม ? ! ผู้หญิงสองคนนุ่งโจงกระเบนสีเข้มห่มสไบสีเหลืองยืนเท้าสะเอวอยู่ สายตาที่มองมาไม่เป็นมิตรเลยสักนิด คิดว่าตัวเองเป็นใคร จะเข้าออกบ้านใครก็ได้อย่างนั้นหรือ ? ปรเมษฐ์เม้มปาก เขาไม่ได้คิดจะโต้ตอบเลย ได้แต่หันรีหันขวาง ไม่ใช่คนสินะ เจอเจ้าที่เข้าให้แล้ว !
อะไรบอล ? ก็ตามเข้ามาสิ รออะไรอยู่
เอ่อโทษทีโม ลืมไปมีธุระด่วน ต้องไปรับคุณแม่ งั้นผมกลับก่อนดีกว่า วันหลังค่อยมาใหม่ พูดจบเขาก็เดินออกมาทันที ทำให้ผู้หญิงทั้งสองที่ยืนดูอยู่ยิ้มอย่างมีชัย
ปรเมษฐ์โบกมือให้โมรีพลางวิ่งขึ้นรถยนต์ทันที
เขาตบที่พวงมาลัยอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ให้มันได้อย่างนี้สิวะ ! ใจของชายหนุ่มร้อนเป็นไฟ ใครจะคิดว่าผีบ้านผีเรือนจะดุแบบนี้ ปรเมษฐ์ไม่ได้รู้สึกกลัว แต่เกรงใจท่านมากกว่า ผีบ้านผีเรือนบ้านตัวเองยังคุยกันรู้เรื่องหน่อย ไว้มีโอกาสและแรงมากกว่านี้หน่อยจะเจรจาก็แล้วกัน
อะไรของเขาตานี่ ? ทำท่าอย่างกับกลัวผี โมรีบ่นกับตัวเองพลางเดินเข้าบ้าน พอเข้าไปในบ้านโมรีก็เล่าให้ภูสิตาฟังอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่คนฟังพูดอะไรไม่ออก
กลัวผีเหรอ ผีที่ไหนโม ?
ไม่รู้สิ พอจะเดินเข้ามา พี่แกก็หยุดเอาเสียเฉย ๆ โมรีไม่นั่งอยู่นิ่ง ๆ แต่จับโน่นจับนี่ในห้องนอนของเพื่อนดูอย่างสนใจ
เจ้าที่ ! สงสารปรเมษฐ์จับใจ เธอเองก็ลืมคิดว่าเรื่องแบบนี้มีจริง ๆ แล้วเขาเป็นอะไรมากไหมโม ?
จะเป็นอะไร ฉันก็เห็นเหยียบคันเร่งเสียเหมือนคนโมโห สงสัยแม่จะโทรมาเร่งไม่รู้โกหกหรือเปล่า ไปรับคุณแม่หรือแม่คุณก็ไม่รู้
เขาบอกโมไหมว่ามีธุระอะไร ?
ไม่นี่ เห็นมาจอดรถอยู่ ฉันจำได้ก็เลยไปทักเท่านั้นเอง
ภูสิตาไม่อยากให้โมรีผิดสังเกตจึงชวนคุยเรื่องอื่นและเป็นฝ่ายฟังโมรีมากกว่า
จนเพื่อนรักกลับไปจึงได้คิดเรื่องปรเมษฐ์อีกครั้ง ก่อนเข้านอนภูสิตาเดินไปมาอยู่หลายรอบ อยากจะออกไปหาเขา แต่ก็ไม่มีข้ออ้างอะไร จนเวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน เธอก็ยังนอนไม่หลับกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงเฮ้อ ! เป็นอะไรนะเรา หญิงสาวลุกขึ้นนั่งชิดติดหัวเตียง ชำเลืองไปดูที่ขวดยาเล็ก ๆ ที่หมอเคยให้ไว้ ทว่าก็หันหน้าหนีทันที ทำไมต้องกิน ? ไม่ได้ร้องไห้แล้วสักหน่อย ไม่ปวดหัวด้วย ที่เป็นอยู่ก็เกินจะเรียกว่าบ้าแล้วพี่หมอ เธอจับมือตัวเองลูบไล้ไปมา ผมที่ยาวสยายคลุมหลังทำให้รู้สึกร้อนขึ้นมา แต่ใจต่างหากที่ร้อนยิ่งกว่า ภูสิตาก้มลงกราบที่หมอนทันที แล้วล้มตัวลงนอน
ใจเธอคิด ท่านเจ้าที่เจ้าทางเจ้าคะ ลูกนอนไม่ได้ ไม่ทราบเป็นอะไร รู้แต่ว่าคิดถึงเขาผู้ชายชื่อปรเมษฐ์คนนั้น คิดถึงมาก ขอให้เมตตาลูก อนุญาตให้เขาเข้ามาหาลูกได้ด้วยเถอะนะเจ้าคะ ลูกอยากให้เขาเข้ามา ไม่ใช่แค่เพียงในฝันอย่างที่เคย ช่วยลูกด้วย !
คำร้องขอของเจ้าตัวทำให้ ท่าน ที่มองอยู่ที่ปลายเตียงหันมองหน้ากันอย่างสงบ ภูสิตารู้สึกสบายใจและอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อล้มตัวลงนอน
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ครึ่งหลับครึ่งตื่นภูสิตารู้สึกอึดอัดเหมือนจะต้องทำอะไรสักอย่าง แล้วเจ้าตัวก็เดินออกไปเปิดแล้วปิดประตูห้องนอน ก่อนจะเดินกลับมาล้มตัวลงนอนอีกครั้ง คุณนิดาเดินผ่านมาเพราะกระหายน้ำกลางดึก แต่เห็นเจ้าตัวโผล่หน้าออกมาแค่นิดเดียวแล้วก็เดินกลับเข้าไป จึงอดสงสัยไม่ได้ เอาอะไรไหมคะ ? ท่านพูดพลางเคาะประตูห้องของลูกเลี้ยง เปิดประตูห้องทำไมคะ ?
ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ หากแต่หูของภูสิตาได้ยินชัดว่าท่านถามว่าอะไร ได้ยินไหมคะ เป็นอะไรหรือเปล่า ภูสิตาเปิดทำไม เอาอะไรคะ ? คุณนิดาเสียงเบาลง เพราะเห็นคนข้างในไม่ตอบ สงสัยจะละเมอนะเนี่ย พอพูดจบท่านก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป ภูสิตาลืมตางัวเงีย เปิดประตูทำไม ? เปิดให้ใคร ? เมื่อกี้ไม่เห็นมีใครเลย
ปรเมษฐ์ยืนยิ้มอยู่ที่มุมห้อง เขาเดินวนไปรอบ ๆ ห้องนอนของหญิงสาวอย่างเป็นสุข นี่เราเข้ามาใกล้ตัวหล่อนได้ขนาดนี้ ก็เพราะเจ้าตัวเต็มใจล้วน ๆ นะเนี่ย
หญิงสาวที่หลับอยู่ ไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่แสดงว่าเธอกำลังเป็นทุกข์เหมือนที่เจ้าตัวเก็บอาการมาตลอด ตอนนี้ภูสิตาดูมีความสุขมาก ชายหนุ่มนั่งลงลูบที่ศีรษะภูสิตาอย่างทะนุถนอม ผมจะอยู่กับคุณได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้ แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างที่เราเคยคิดหรือเปล่า ? ไร้เสียงใด ๆ ในความมืด เพราะคนคิดเพียงรำพึงกับตัวเองในใจ
ภูสิตารู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน เงาที่คุ้นเคยนั่งอยู่ข้าง ๆ เตียง เธอยิ้มอย่างเป็นสุขเหมือนทุกครั้งที่ฝันถึง หากแต่ครั้งนี้เกินฝัน เพราะคนที่รอคอยมาอยู่ตรงนี้ด้วยจิตแล้ว
กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยแตะจมูกเมื่อภูสิตาเปิดประตูออกมา
ว่าไงลูกเมื่อคืนละเมอเหรอ มาเปิดประตูห้องทำไมดึก ๆ ดื่นๆ ? บิดาถามเมื่อก้าวออกมาแล้วพบลูกสาวในตอนเช้า ภูสิตากำลังจะวิ่งลงบันไดก็ต้องชะงัก
เหรอคะ ? ไม่รู้ค่ะ ลูกจำไม่ได้
ท่านเดินเข้ามาโอบบ่าเธอ แล้วกัน ! จำไม่ได้ เป็นปลาทองหรือไงลูก ความจำสั้นนะเรา ท่านเย้าเธอเล่นอย่างอารมณ์ดี
ท่าทางจะใช่ค่ะพ่อ พักนี้หลง ๆ ลืม ๆ ภูสิตาหัวเราะร่วน
พอมาถึงโต๊ะอาหาร คุณนิดาก็มองลูกเลี้ยงอย่างพิจารณา ตาลคะ เมื่อคืนมีอะไรไหม ทำไมอยู่ดี ๆ ลุกมาเปิดประตู ? น้าเรียกหนูก็ไม่ขาน
ภูสิตากำลังตักข้าวเข้าปาก เธอส่ายหน้าแล้วยิ้มหวานให้ท่านแทนคำตอบใด ๆ
มีอะไรเหรอคุณ เห็นถามย้ำมาตั้งแต่เมื่อคืน ?
ก็คนเก่าคนแก่เขาถือค่ะ ดึก ๆ ดื่น ๆ มาเปิดประตู เหมือนรับผีเข้าบ้านนะคะ
ตาลไม่ถือหรอกค่ะ จะผีหรือคน ถ้าเขามาดีตาลก็จะรับ ภูสิตาหัวเราะ ก่อนจะตักข้าวต้มเข้าปากอีก เธอไอออกมาเบา ๆ เพราะสำลักอะไรบางอย่าง
อ้าว ! รีบร้อนข้าวติดคอเลยลูก
ภูสิตายังไอไม่หยุด มือคว้ากระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาคายอาหารออกจากปากทันที
ก้างเหรอคะ ? ไม่มีนะคะน้องตาล น้าดูดีแล้ว คุณนิดาร้อนรน ภูสิตาสบตาท่านแล้วส่ายหน้า พลางเช็ดปากอีกที ไม่มีค่ะ ไม่ใช่ แต่ตาลมีปัญหากับปลามาหลายครั้งแล้วค่ะ ไปตรวจหาก้าง หมอก็บอกไม่มี นี่ก็ไม่ทันได้เคี้ยวดี ไม่น่าจะใช่ก้างค่ะ
อาการมันเป็นยังไง ? บิดาถาม
เหมือนมีก้างติดคอทุกทีที่ทานปลาค่ะพ่อ เหมือนโรควิตกจริตยังไงไม่รู้ เธอหัวเราะร่วนแล้วทิ้งกระดาษทิชชู่ลงขยะไป
งั้นต่อไปน้าไม่ทำปลาให้ทานค่ะ จะได้ไม่เป็นอีก คุณนิดาหน้าเสีย เธอรู้สึกเป็นห่วงลูกเลี้ยงอย่างประหลาด
ภูสิตายิ้มกว้างให้ เรื่องเมื่อคืนไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตาลคงละเมอ ไปแล้วนะคะพ่อ น้าคะข้าวต้มปลาอร่อยมาก แล้วภูสิตาก็เดินตัวปลิวออกไปทันที
ภูสิตาขับรถออกจากบ้านอย่างเร็วเท่าที่สุดเท่าที่การจราจรจะอำนวย จุดหมายของเธอคือบ้านหมอวิทวัส พอไปถึงหมอหนุ่มก็นั่งดื่มกาแฟอยู่อย่างใจเย็น พอเห็นเธอเขาก็ยิ้มให้ เพราะวันนี้คนไข้บุกมาเองโดยไม่ได้นัดหมาย แถมเจ้าตัวก็แต่งตัวสวยผิดปกติ
ลมอะไรพัดมาคะน้องตาล ?
อย่ามามองแบบนี้นะคะ เหมือนจะจับผิดอีกแล้ว
ชายหนุ่มหัวเราะอารมณ์ดี แล้วกัน ! คนทักดี ๆ เป็นอะไรจ๊ะ ? ยาหมดเหรอ หายไปพักใหญ่ คิดว่าลืมพี่หมอแล้ว
ภูสิตานั่งลงข้าง ๆ ดูเจ้าตัวทั้งอึดอัดและลังเล พี่หมอคะตาล....
วิทวัสยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขาลุ้นรอให้เจ้าตัวเล่าเหมือนรอฟังเด็ก ๆ ที่กำลังจะเล่าเรื่องที่ตื่นเต้น ว่าไงคะภูสิตา ? ว่าไป ๆ
ว้า ! ไม่บอกได้ไหมคะ ?
วิทวัสหยุดยิ้ม แล้วรวบมือหญิงสาว ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรครับ แต่ให้พี่หมอเดาได้ไหม ? ภูสิตาใจชื้นขึ้น พยักหน้าให้เขาช้า ๆ เวลานี้หมอวิทวัสไม่ใช่แค่หมอส่วนตัวของเธอเท่านั้น แต่ภูสิตารับรู้ถึงความหวังดีและเมตตาในตัวของชายหนุ่มเป็นอย่างดี
กี่ครั้งที่ร้องไห้ต่อหน้าหมอ กี่ครั้งที่หมอไม่ได้แนะนำแค่วิธีการเยียวยาทางการแพทย์ แต่หมอให้แง่คิดกับเธอในมุมมองที่แตกต่าง ภูสิตาเป็นลูกคนเดียว ตั้งแต่ปรเมษฐ์จากไปเรียนต่อ ภูสิตาไม่เคยคิดจะผูกพันกับใครอีกเลย จนเมื่อมาถึงเวลาที่แย่ที่สุดที่ได้รู้ว่าเขาเจ็บ ภูสิตาก็มีหมอวิทวัสที่คอยให้กำลังใจอย่างพี่ชายคนหนึ่ง
มีอะไรเกี่ยวกับคุณปรเมษฐ์ ที่ทำให้คุณดีใจ แต่บอกผมไม่ได้
หญิงสาวพยักหน้า แววตาเศร้าของหล่อนทำให้อีกคนก้มต่ำ ปัญหาของคนมีทุกวัน แต่หมอวิทวัสรู้วิธีจัดการกับความกังวลของคนตรงหน้าเสมอ ตาล
คิดว่าตัวเองกำลังหลงทางอยู่หรือเปล่าครับ ?
ภูสิตาสบตาเขา ตาลไม่ได้กินยามานานแล้วค่ะ หญิงสาวคลายมือของหมอออกจากมือเธอพลางถอนใจ ยิ่งกว่าฝันค่ะพี่หมอ แต่บอกไปพี่หมอก็จะหาว่าบ้า เอาเป็นว่าช่วยดูตาลหน่อยนะคะ บางทีก็กลัวตัวเองจะหลง เพราะทำอะไรแปลก ๆ อย่างที่ไม่เคยทำ เช่น ละเมอค่ะ
เข้าใจ แล้วจะให้พี่หมอช่วยอะไรจ๊ะ ?
ไม่มีค่ะ แค่อยากจะบอกใครสักคนไว้เท่านั้นเอง พี่หมอไม่ต้องห่วงนะคะ ตาลจะดูแลตัวเองดี ๆ
ชายหนุ่มหัวเราะ มาบอกแค่เนี้ย ?
ภูสิตาลุกขึ้นยืนพลางยิ้มให้เขา ค่ะ บอกได้เท่านี้ แล้วจะมาหาใหม่นะคะ
วิทวัสมองตามหญิงสาวที่วิ่งออกไป เขารู้สึกเหมือนหล่อนกำลังได้ของเล่นถูกใจ คนมองตามรู้สึกใจหาย เกิดอะไรขึ้นกับคุณนะ แล้วจะปล่อยให้ตัวเองหลงทางต่อไปอย่างนั้นหรือภูสิตา ?
ภูสิตาขับรถมาจนถึงอีกหนึ่งที่หมาย บ้านของปรเมษฐ์ดูเงียบเหงา คิดว่าเจ้าตัวและคนในบ้านคงไม่อยู่ ก็ไม่แปลก ในเมื่อเธอก็ไม่ได้นัดเขาไว้
คุณจะรู้หรือเปล่าว่าฉันมา ? เธอพึมพำกับตัวเอง อยากรู้ว่าเขาไปหาเธอที่บ้านทำไมกันและที่สำคัญเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า เธอแน่ใจว่าเจ้าที่ที่บ้านยอมให้เขาเข้ามาแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องทำไม
คนอย่างภูสิตาถ้าตั้งใจจะทำอะไร เธอจะพยายามให้ถึงที่สุด แม้จะต้องเล่นกับสิ่งที่มองไม่เห็น คำขอได้ผล มันก็น่าแปลกที่อยู่ดี ๆ เธอก็ลุกขึ้นมาเอง น่ากลัวเหมือนกันนะที่เจอเรื่องแบบนี้ นึกถึงสายตาของหมอวิทวัสแล้วคิดว่าว่าหมอรู้แน่ ๆ ว่ามีอะไรแปลก เกิดขึ้นกับเธอ เพียงแต่ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ล้วงความลับของเธอ
เข้ามาสิครับ เสียงปรเมษฐ์แทรกขึ้นในความคิดของภูสิตา ทว่าหันซ้ายขวาก็ไม่พบใคร คุณจะให้ผมเดินตากแดดออกไปงั้นเหรอ ?
ภูสิตายิ้มกับตัวเองทันที เมื่อได้ยินคำประชดของเขา เธอดับเครื่องยนต์ทันที
พอเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นปรเมษฐ์นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเพียงลำพัง วันนี้เขาใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนลายทหาร ทำให้เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นสดใส เขายิ้มให้เธองดงาม เข้ามาก่อนสิ มีอะไรเหรอ ? ดูหน้าตากังวลจัง
ภูสิตาไม่ตอบในทันที เธอมองหาคนในบ้านก่อนจะนั่งลงตรงกันข้ามกับเขา
อ๋อเห็นว่าคุณไปหาเมื่อคืน แต่คงเจออะไรดี ๆ เข้าเลยรีบกลับ
ปรเมษฐ์หัวเราะ ใช่ ๆ ผมก็ลืมคิด คิดว่าตัวเป็นคน เลยไม่ทันระวัง ไปจ๊ะเอ๋เจ้าที่เข้าให้ วิ่งหนีแทบไม่ทัน ภูสิตาอยากจะฟังให้มันเป็นเรื่องตลกอยู่หรอก แต่ก็นึกสงสารคนพูด ท่านดุขนาดนั้นเลยเหรอคะ ? คุณเคยบอกว่าเคยไปหาฉัน เข้าไปได้ยังไง ?
ใช่ แต่มีคนพาไป ไม่ได้ไปคนเดียว ผมอยากไปลาคุณเลยขอเขา แต่หลังจากวันนั้นก็อาศัยความต้องการส่วนตัวและสมาธิของพ่อบ้างของเบสบ้างเลยไปได้ ก็อย่างที่คุณเห็นแต่อยู่แค่ในฝันนะ นั่งอยู่ที่หัวเตียงคุณไง คุณมาเพราะเรื่องแค่นี้เองเหรอ ? เขาวางหนังสือลงแล้วจ้องหญิงสาวเขม็ง แววตาเขามีบางอย่างแฝง หรือว่ารู้สึกอะไรบ้างแล้วครับ ? เขาอมยิ้ม
คุณรู้ทุกอย่างที่ฉันคิดเลยเหรอ ฉันทำอะไรคุณรู้ทุกเรื่องเลยเหรอคะ ?
Create Date : 06 ธันวาคม 2563 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2563 22:32:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 172 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]

|
คนเขียน..เป็นคนธรรมดา เราเขียนทุกอย่างเพราะอยากเขียนเท่านั้นเอง เป็นงานอดิเรก...ไม่ใช่มืออาชีพ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|