|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 16 : ขอให้รักของฉัน อยู่กับเธอตลอดไป เล่ม 1 - 3 โดย ภูระริน

16
พระบวชใหม่ห่มจีวรแล้วงดงามจับตา ท่านเดินเรียบร้อย สีหน้าไม่ฉายแววขี้เล่นเหมือนก่อน แต่ก็ดูเป็นมิตร อย่าจำวัดดึกนัก พรุ่งนี้จะได้มารับบาตรได้ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พี่บอลก็ขับรถดี ๆ นะคะ มารดาเตือนด้วยความเป็นห่วง
แม่ครับ พอแล้วครับ ไปเทศน์พระมันไม่งาม เข้านอนนะครับ เดี๋ยวลูกกลับมา ไม่ได้ไปต่างประเทศ กลับคืนนี้แน่นอน ปรเมษฐ์เย้ามารดาเล่น
เอ๊ะ ! พ่อคนนี้นี่ มาขัดแม่
ถ้ายังได้ยินเสียงอยู่บอลจะเอากับข้าวไปเททิ้งให้หมด ไม่ให้มีของใส่บาตรเลยพรุ่งนี้ ปรเมษฐ์หัวเราะอารมณ์ดี จนพระบวชใหม่อดอมยิ้มไปด้วยไม่ได้
คุณมาลิดาหน้างอเพราะถูกลูกชายขู่ เงียบไปเลยค่ะลูก แม่ไปแล้วจ้ะ ไม่ต้องห่วงนะคะท่าน ทำใจให้สบาย อย่ามีกังวล ภูสิตารีบยกมือไหว้ลาคุณมาลิดาเช่นกัน ขับรถกันดี ๆ นะลูก แล้วเจอกันจ้ะ ท่านลาทุกคน
รถวิ่งไปได้ไม่นานก็กระตุก เครื่องยนต์ดับลงไม่มีปี่มีขลุ่ย คนขับเริ่มหมดแรง แทบจะฟุบไปทีเดียว ไหวไหมโยมพี่ เรานั่งใกล้กันเกินไป ?
ปรเมษฐ์กุมศีรษะหน้าซีด ไหวครับไม่เป็นไร อีกนิดเดียว
ฉันขับเองดีกว่านะ คุณออกไปก่อน ดูอยู่ห่าง ๆ ก็ได้ ฉันไปเอง
จริงของโยมภูสิตา ออกไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วง ดีขึ้นแล้วค่อยเข้ามา ไปส่งอาตมาให้พ้น ๆ ไปก่อน
ไปเถอะค่ะ อย่าดื้อเลย วันนี้คุณทนมานานแล้ว
ก็ได้ แต่แน่ใจนะว่าพอผมหายไป คุณจะไม่เป็นลมแล้วให้พระขับรถเอง มันไม่งามนะ จงตั้งสติดี ๆ ก่อนนะครับ
ภูสิตายิ้มกับอารมณ์ขันของเขา ถ้าเป็น ก็คงแล้วแต่พระแล้วล่ะค่ะ ไปเถอะนะ
ชายหนุ่มยิ้มจางให้ภูสิตาก่อนที่จะค่อย ๆ เลือนหายไปต่อหน้าภูสิตาและพระน้องชาย นี่เป็นครั้งแรกที่ภูสิตาได้เห็นเรื่องเหลือเชื่อ แม้ตัวเองจะเคยโดนหาว่า หลง หรือ บ้า อยู่ในโลกส่วนตัวหรือเพราะโรคซึมเศร้ามาจากปากของเพื่อนรักและหมอ แต่ภาพที่เห็นชัดตรงหน้าว่าคนที่เธอรู้จักหายตัวได้ก็ทำเอาเจ้าตัวมือเท้าเย็น หน้าซีด ขนลุกซู่ไปหมด พระบวชใหม่อมยิ้มคนเดียว โยมไม่เป็นไรใช่ไหม ? มันเหมือนภาพในทีวีอย่าคิดมาก ค่อย ๆ หายใจช้า ๆ
ค่ะ ๆ ดิฉันมาไกลเกินกว่าจะกลัวแล้ว แต่เหมือนพึ่งจะแน่ใจก็วันนี้ ไปค่ะไป
เดี๋ยวก่อนโยมพี่ ! อย่าพึ่งกลับมาตอนนี้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นโยมภูสิตาอาจจะแย่ ไปรอที่กุฏินะ แล้วคอยขึ้นรถพร้อมกัน อย่าได้โผล่มาตอนอยู่บนรถ พอสิ้นเสียงพระ เสียงแตรรถยนต์ก็ดังขึ้น ทั้ง ๆ ที่ภูสิตายังไม่ได้แตะต้องอะไรเลย
โอ๊ย ! ตายแล้ว ภูสิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ มือไม้สั่นพลางหัวเราะ เล่นอะไรของคุณ ? ดูสิคะท่าน
ไม่เป็นไร เขาคงอยากให้โยมพี่รู้สึกผ่อนคลาย ไปเถอะ
พอภูสิตาขับรถไปถึงก็เห็นพ่อตัวดีนั่งรออยู่แล้ว เขาลุกขึ้นยกมือไหว้พระอย่างนอบน้อม ทำใจให้สบายนะครับ ผมดูแลตัวเองได้ ไว้มีอะไรจะฝากให้ภูสิตามาบอก ปรเมษฐ์พูด พระบวชใหม่พยักหน้ารับพลางออกเดินไป
บรรยากาศในยามค่ำคืนรอบ ๆ ตัว ทำให้ภูสิตารู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว หญิงสาวรีบเดินวนมาขึ้นรถที่นั่งข้าง ๆ คนขับ
ไง สนุกไหมคุณ ? ปรเมษฐ์ถามแล้วรีบขับรถไปทันที
ก็พอทนค่ะ อย่างคุณนี่เขาเรียกว่าผีหรือเปล่า ฉันก็ชักไม่แน่ใจ
อย่างผมเนี่ยหนึ่งในพันหรือมากกว่านั้นเลยนะ ที่สามารถกลับมาหาคนที่นี่ได้ และผมก็ภูมิใจอย่างยิ่ง ชายหนุ่มยิ้มกระจ่างอย่างคนขี้เล่น
คุณจะอยู่อย่างนี้ได้ ไม่ตลอดไป
ทำไมจะไม่รู้ มีอะไรที่ผมต้องกลัวอีกเหรอ ? น้ำเสียงของเขาเบาลง หากแต่ก็ยังพยายามฝืนยิ้ม ไม่เอาละ คุยมากเดี๋ยวคุณไม่สบายใจ พ่อกำลังหาทางอยู่ เมื่อกี้ก็เรียกมา วันนี้ท่านออกมาทำบุญให้
คุณรู้ได้ยังไง ?
เอาเป็นว่าผมรู้ ได้รับแล้วด้วย มีแรงอยู่กับคุณต่อได้อีกนานเลยล่ะ
หยุดพูดเสียที ฉันอยากกลับบ้านเร็ว ๆ ภูสิตารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ความในใจไม่อาจพูดและถามออกมาอย่างที่ใจต้องการได้ เหลือเชื่อเหลือเกินที่ได้มีวันนี้
ได้ งั้นหลับตา พอถึงแล้วผมจะปลุก ภูสิตาหลับตาลงอย่างว่าง่าย ผ่อนลมหายใจสั้นยาว ปรารถนาจะให้ลมหายใจเข้าออกนั้น ช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดในใจออกไป ทุกเรื่องที่เธอรับรู้ตอนนี้ยิ่งกว่าความฝัน
ท่าทางของคนที่รักข้างตัว ปรเมษฐ์เข้าใจในแววตาและเสียงเรียกร้องในหัวใจของเธอ ทุกครั้งที่เขาหลับตาลงและปรารถนาจะได้ยินเสียงหัวใจของภูสิตา เขาก็จะได้ยินทุกอย่าง ผมรู้ว่าคุณเจ็บปวดแค่ไหน แต่เราไม่มีทางเลือก สิ่งเดียวที่ทำได้คือ คุณต้องอยู่กับปัจจุบันและยอมรับมันให้ได้ เราโชคดีกว่าใคร ที่ยังได้กลับมาเจอกันในวันที่ผมไม่มีแรงจะหายใจแล้ว เขาปรารถนาจะให้เธอได้ยินความในใจของตัวเอง แต่ไม่เป็นผล ภูสิตาหลับสนิท หางตาของชายหนุ่มมองผู้หญิงข้าง ๆ ด้วยความรู้สึกชื่นใจยิ่งนัก
หาอะไรลูก ? เสียงผู้เป็นบิดาถามเมื่อเห็นภูสิตาเดินวนไปมารอบรถ ลูกสาวของท่านกำลังจะเดินทางไปงานบ้านคุณมาลิดาที่พึ่งบวชลูกชายไปเมื่อวาน วันนี้มีเลี้ยงพระทำบุญบ้านกัน
พอดีลูกถอดสร้อยพระออกแล้วจำไม่ได้ว่าเอาไว้ที่ไหนค่ะ
ถอดทำไมล่ะลูก ? จะไปทำบุญ ใส่ไว้ก็ดีแล้ว
สร้อยมันไม่ค่อยเข้ากับชุดค่ะ นี่ไงเจอแล้ว ! งั้นลูกฝากพ่อไว้นะคะ นี่ด้วยยันต์อะไรเนี่ยเต็มรถไปหมด ? ภูสิตารื้อของในรถออกมา พบว่าตัวเธอก็ศรัทธาในพระพุทธศาสนาไม่น้อยเหมือนกัน หนังสือพระและหนังสือสวดมนต์เต็มไปหมด แต่เครื่องรางของขลังอีกหลาย ๆ อย่างน่าจะมีใครบางคนแถมมาให้ คนดูอยู่นี่แหละ
แล้วกัน ! เลยรื้อออกมาหมด ไปเจอของดีวัดไหนมาล่ะลูก ถึงต้องโละของเก่าออก ? ที่พ่อได้มาดี ๆ ทั้งนั้นเลยนะ ท่านหัวเราะ
พระอยู่ในใจค่ะพ่อ ไม่ต้องพกก็ได้ ภูสิตาหัวเราะเมื่อนึกถึงภาพ เงา หมดแรงเมื่อคืน จะห้อยพระได้อย่างไร ในเมื่อหัวใจเธออยู่กับอีกคน เขากลายมาเป็นคนที่เธอต้องปกป้อง ไม่ว่าใครจะเรียกสิ่งนี้ว่าผีหรือคนก็ตาม ภูสิตาอมยิ้มกับตัวเอง
ก็คงจริงลูก เห็นลูกยิ้มแบบนี้แล้วก็ดีใจ ปกติหนูไม่เคยยิ้มแบบนี้นะ สงสัยจะเข้าถึงธรรมะ ใช้ได้ ๆ
ที่ไหนกันล่ะพ่อจ๋า ถ้ารู้ว่าลูกเป็นขนาดนี้แล้ว พ่ออาจจะต้องพาไปรดน้ำมนต์ก็ได้ แต่คงต้องพาไปหลายคนทีเดียว เพราะเห็นกันทุกคน ต้องรีบไปดูหน่อย ไม่รู้จะมีแรงออกมาเดินหรือเปล่า ไม่อยากจะคิดเลย ถ้าปรเมษฐ์ต้องออกมาใส่บาตรพระน้องชาย
พอไปถึงบ้านของปรเมษฐ์ ก็เห็นเขายุ่งอยู่กับการต้อนรับแขกกับมารดา หน้าไม่ซีดแล้ว คงไม่เป็นไร ภูสิตาพูดคนเดียวเบา ๆ
ภูสิตาโมรีไปไหนครับ ?
อ้าว ! ไม่ได้มากับกรกฎหรอกเหรอ ? เมื่อคืนเราก็ไม่ได้นัดกันเลยไม่รู้จ้ะ
เขางอนเรานะสิ เลยกลับบ้านไม่ลาใครเลย
แล้วกันเห็นบอกมีธุระ ที่ไหนได้ บอกได้ไหมว่าเรื่องอะไร เผื่อจะช่วยได้ ?
ก็เขาคุยกับคุณหญิง แล้วคนนั้นบอกว่าจะรีบเร่งให้ปรเมษฐ์บวชบ้าง เพราะจะได้รีบ ๆ แต่งงานกัน คุณโมเธอก็ย้อนให้ว่า เขามาขอหรือยัง หรือว่าคิดไปเอง แขวะกันไปมา โมรีโมโหเลยกลับไปเลย แล้วมาพาลหาว่าผมไม่ช่วยพูดอะไรเลย
โธ่ ! เรื่องแค่นี้เอง
ว่าอะไรนะตาล เรื่องแค่นี้เหรอ ? ฉันว่าจะไม่ขุดมาพูดแล้วนะ เหม็นหน้าคน เสียงโมรีแทรกขึ้นมา ความจริงเธอแอบอยู่ไม่ห่าง จึงได้ยินคนทั้งสองคุยกันโดยตลอด ถ้าตัวเห็นหน้าแม่นั่นตอนนั้น อาจจะมีฟ้าผ่าได้ สีหน้าโมรีดูยังโกรธอยู่มาก
ภูสิตาอมยิ้ม เห็นจ้ะ เห็นชัดด้วย เขาไปควงแขนให้ฉันดูเต็มสองตาเลยเมื่อคืน
แล้วคิดยังไงครับ ?
เรื่องของเขาค่ะ มันอยู่ที่คนนั้นต่างหาก เราฟังแต่เพื่อนของเราดีกว่านะโม
เชอะ ! หมอนั่นมันจะทำอะไรได้ ฉันเห็นสีหน้าเขาขาว ๆ ซีด ๆ เป็นช่วง ๆ ถึงจะไม่ได้แลแม่นั่นเลย แต่เขาก็เดินเอาหน้ามานำเสนออยู่ทุก 5 นาที น่าเกลียดชะมัด นี่ไม่นับหน้าอกหน้าใจนะ ฉันกลัวใจนายบอลจริง ๆ
โมรีสังเกตเห็นเหมือนกันหรือนี่ ภูสิตาคิดในใจ เขาคงนอนน้อยนะโม เธอรีบออกความเห็น มากกว่าจะสนใจเรื่องกิริยาของสุนันทา
คุณก็พูดเกินไป กรกฎตำหนิโมรีตรง ๆ ทั้งสองติดต่อกันเป็นการส่วนตัวได้สักระยะแล้ว การคบหาอยู่ในสายตาของทุกคน โมรีเป็นคนตรงไปตรงมา และเธอก็สามารถวกไปวนมาได้เช่นกัน กรกฎอาจจะยังไร้สถานะอย่างเป็นทางการ แต่ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้เลยคือ ความเป็นเพื่อนระหว่างเรา
เงียบเลยนะ ! พวกผู้ชาย ไว้ใจไม่ได้หรอก
พอแล้วโมอายเขา นี่ไม่ใช่บ้านเรานะ ภูสิตากระซิบที่ข้างหูเพื่อน เพราะคนเริ่มมองมาที่พวกเธอมากขึ้น โมรีหน้าบอกบุญไม่รับ กอดอกมองไปที่อื่นเสีย ปรเมษฐ์เห็นเพื่อน ๆ สนทนากันอยู่อย่างออกรส แต่สีหน้าของภูสิตากลับดูกังวล
หลับตาลง ภูสิตาหลับตา ชายหนุ่มพยายามสั่งอยู่ไกล ๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ภูสิตายังคุยกับทุกคนไม่หยุดการเคลื่อนไหว ปรเมษฐ์เป่าลมออกไปตรงหน้า ทำให้เกิดลมพัดแรงผ่านมาระลอกใหญ่ ภูสิตาไม่ทันระวังทำให้ฝุ่นพัดเข้าตา โอ๊ะ ! อะไรเข้าตา ? เธอพยายามใช้ผ้าซับออกไปทำให้ต้องหลับตาลง
ถ้าโมจับได้คงแย่ แล้วสุนันทาเอาที่ไหนมาพูด ? บอลจะแต่งงานทำไมไม่บอก ?ปรเมษฐ์อมยิ้มกับเรื่องที่ได้ยินจากความคิดของภูสิตา ยายตัวป่วนทั้งสอง กำลังทำเรื่องให้ตาลทุกข์อีกแล้ว ไวเท่าความคิดเขาก็เดินเข้ามาสมทบกับเพื่อน ๆ แล้วมองหน้าคนตั้งคำถามในใจอย่างเอ็นดู คุยอะไรกัน หน้ามุ่ยเชียว ?
ไปไกล ๆ เลยแก ฉันกำลังอารมณ์เสีย โมรีค้อนขวับ
อ้าว ! โกรธใครก็ว่าไป เผื่อฉันจะช่วยได้ ปรเมษฐ์หัวเราะ
ไม่มีอะไรหรอก บอลไปช่วยคุณป้าเถอะ
ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว หรือจะให้ไปใส่บาตร ?
เออ ! บอลทำบุญก็ดี มันจะได้ช่วยให้คนมองนายได้ชัดมากขึ้น นี่เขากำลังเข้าใจผิดกันอยู่ ว่านายจะแต่งงาน กรกฎพูดตรงอย่างที่คิด เขาไม่อยากพูดเรื่องที่มันไม่จริงและอยากทำให้โมรีหายหงุดหงิด
ไม่นี่ ! จะแต่งได้ยังไง ใครจะมารักฉัน ไม่เคยมีใครบอก ? เขายิ้มเศร้า ภูสิตาดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยได้ยินคำอธิษฐานของเธอแน่ ๆ ถึงได้พูดอย่างนี้
พอใจหรือยังโม ? ภูสิตาอยากจะปลอบใจเพื่อนรัก
ถ้าแกพอใจ ฉันก็พอใจ โมรีหัวเราะออกมาได้อย่างมีความสุข แต่ภูสิตาทำหน้าไม่ถูก เล่นแรงนะยายโม แกจะฆ่าฉันหรือไง เขายืนอยู่ตรงนี้ หมดกัน ! ภูสิตาคิด
ผมก็พอใจ แล้วภูสิตาว่าไงครับ ? กรกฎอยากรู้จริง ๆ
ถามฉันทำไมคะ ? ไม่ใช่เรื่องของฉันเสียหน่อย เลิกคุยเรื่องนี้เถอะ พระมาโน่นแล้วค่ะ ปรเมษฐ์ได้แต่มองเพื่อน ๆ ไปมา เขาทำได้แค่ชำเลืองดูคนปากแข็งตรงหน้าเท่านั้น ภูสิตายังเหมือนเดิม ไม่พูดแต่คิดทุกเรื่อง
พอพระบวชใหม่เดินเข้ามา ท่านมองมาที่พี่ชายแล้วหันมาที่เธอเล็กน้อย ภูสิตารู้สึกเหมือนถูกทวงคำสัญญาตอนที่ปลงผมให้ท่าน หญิงสาวพนมมือไหว้พลางหลับตา เอาไว้ก่อนนะคะท่าน ดิฉันคงยังมีเวลา อย่างน้อยวันนี้ก็เป็นวันแรกหลังจากที่รับปากไป พี่ชายของท่านยังไม่รู้ก็คงยังไม่ไปไหน สาธุ ! เธอพูดในใจ
ปรเมษฐ์เม้มปากอมยิ้มให้พระบวชใหม่ ท่านสบตาตอบ ดวงหน้าท่านสงบนิ่ง หากแต่หัวคิ้วที่ว่างเปล่าเหมือนมาจรดกันอย่างไม่ตั้งใจ
ดูเอาก็แล้วกัน จะรับเป็นพี่สะใภ้ไหวไหม ผัดผ่อนไปเรื่อย เสียงพี่ชายดังขึ้นในหัวของท่าน ท่านก้มหน้าซ่อนแววตาไว้
แหม ดูท่านสบายดีนะคะ อาจารย์ว่าอย่างนั้นไหมคะ ? เพื่อนของแม่ทักขึ้นเมื่อเห็นหน้าพระบวชใหม่
ค่ะ ท่านคงอยู่ได้นานจนหมดพรรษา นี่พ่อท่านก็โทรมาว่าเสียดายที่ต้องทำงานสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงมางานลูกแน่ ๆ คุณมาลิดาพูดพลางยิ้ม
งามขนาดนี้ ไม่ยักเห็นมีสาว ๆ มางานบวชนะคะ
อ๋อ ท่านว่ายังไม่อยากมีห่วงค่ะ ให้พี่บอลมีก่อนจะดีกว่า
พอพระฉันเช้าเสร็จ รถก็มาจอดรอรับส่งพระอยู่แล้ว คงเหลือแต่พระบวชใหม่ที่ขอนั่งถามสารทุกข์สุกดิบของมารดาและญาติ ๆ ก่อน โยมแม่อย่าขยันมาก ปล่อยงานให้คนอื่นทำแทน เดี๋ยวจะไม่สบาย
ค่ะ แม่ทราบแล้ว จำวัดเป็นอย่างไรบ้างคะ แปลกที่บ้างหรือเปล่า ?
สบายดี ไม่ต้องห่วงอาตมา โยมพี่นอนดึกไหมเมื่อคืน ?
ก็ไม่นะคะ แม่เห็นกลับมาแล้ว ก็เข้าห้องนอนเลย เรียกมาถามไหมคะ ?
ท่านส่ายหน้าช้า ๆ คงเพราะความเคยชิน แต่ก็หยุดทันทีเหมือนกันก่อนจะก้มต่ำมองที่พื้น ไม่ต้องโยมแม่ อย่ากวนโยมพี่มาก ให้เขาพักผ่อนให้มาก ๆ อยู่โน่นเขานอนน้อย อยากให้เขาพักมาก ๆ ท่านเม้มริมฝีปากอาการสำรวม
ได้ แม่จะไม่กวนค่ะ
ช่วยเรียกคุณภูสิตาให้ที มีเรื่องจะไหว้วาน
คุณมาลิดาอดสงสัยไม่ได้แต่ก็ต้องเรียกให้ อยากถามแต่ก็ไม่กล้า พอภูสิตารู้ก็คลานเข้ามาหา แล้วกราบลงอย่างนอบน้อม โยมภูสิตา ขับรถเก่ง ช่วยพาโยมพี่ไปธุระหน่อย อาตมาไม่อยากให้เขาขับรถไกล ๆ คนเดียว
ได้ค่ะ ที่ไหนคะ ? เธอหันไปดูปรเมษฐ์ที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อน ๆ อีกฝั่ง ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ท่าทางมีความสุข พระปรมัตถ์หันไปดูพี่ชายตามเธอด้วย
ไว้ เขาจะบอกเองนะ แล้วก็อย่าลืมที่ขอไว้ด้วย
ภูสิตายิ้มเจื่อน ก่อนจะก้มกราบ
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2563 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2563 10:44:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 163 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]

|
คนเขียน..เป็นคนธรรมดา เราเขียนทุกอย่างเพราะอยากเขียนเท่านั้นเอง เป็นงานอดิเรก...ไม่ใช่มืออาชีพ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|