|
ตอนที่ 12 : ขอให้รักของฉัน อยู่กับเธอตลอดไป เล่ม 1 - 3 โดย ภูระริน

12
ไม่นานนักรถก็จอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่เพียงลำพัง มีต้นไม้ขึ้นอยู่โดยรอบให้ร่มเงาเย็นสบาย ปรเมษฐ์ดับเครื่องยนต์แล้วหันหน้ามาดูเธอ คิดไว้หรือยังว่าจะตอบคำถามว่ายังไง ? น้ำเสียงนุ่มแต่คนฟังเย็นวูบไปทั่วกาย
เขาให้เวลาภูสิตาคิด แต่เจ้าตัวทำหน้างง ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ ปรเมษฐ์ใช้มือลูบปลายจมูกของตัวเองอย่างเคยชิน พลางเดินลงจากรถทันที ลงมา เขาเดินมาเปิดประตูให้เธอ แล้วมือใหญ่ก็ฉุดเธอให้ลงจากรถและออกเดิน
เขาเดินนำเข้าไปในบ้านที่เปิดไว้แล้วก่อนจะปล่อยมือภูสิตา ข้างในบ้านจัดไว้น่ารัก เฟอร์นิเจอร์สีครีมอบอุ่น อยู่ที่นี่กับผมสัก 2 -3 วัน แล้วจะพาไปส่ง เขาพูดหน้าตาเฉยแล้วก็นั่งลงที่โซฟา ที่ภูสิตาไม่เคยได้เห็นเลยคือ ตอนนี้เขานั่งไขว่ห้างอย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนทำ กางเกงยีนที่ใส่มาทำให้เขาดูผ่อนคลาย ท่าทางนั้นงดงามอย่างประหลาด
จะบ้าเหรอ ! ฉันมีพ่อแม่นะ
ผมก็มี แล้วไง ?
ฉันว่าคุณต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ จะเอาลูกเขามาขังไว้ได้ยังไง ?
ตาลคุณยังเดินไปไหนมาไหนได้ ถ้ามีผมอยู่
บ้า ! ทำอย่างนี้ไม่ได้หรอก ฉันจะกลับบ้าน ภูสิตาชักควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เดินออกไปที่ประตูทันที
หยุด ! ฟังนะภูสิตา ตัวไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว เลิกดื้อเสียที เขาลุกขึ้นไปจับมือทั้งสองของหญิงสาวไว้แน่นพลางดึงตัวหล่อนกลับมา ภูสิตาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมน้ำตาเธอไหลออกมา
นายไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉัน !
ทำไมจะไม่มี ? สัญญาอะไรไว้ ทำไมจำไม่ได้ เขาพูดเสียงดัง ใช้แรงบีบมือทั้งสองของหล่อนไว้ไม่ให้ล้มลงไป เมื่อภูสิตาพยายามดิ้นสุดกำลังที่จะอยู่ให้ห่างเขา
คุณสัญญาว่าจะไม่ลืมผม แล้วยังไง ?
เสียงของปรเมษฐ์ก้องดังอยู่ในหัวราวกับเสียงฟ้าผ่า ภูสิตาหยุดแล้วยืนนิ่ง เธอไม่อาจสบตาของเขาได้เลยในตอนนี้ ลมเย็นวูบหนึ่งปะทะผ่านกาย ร่างบางสั่นเทา เจ็บปวดรวดร้าวราวกับถูกบีบด้วยแรงมหาศาลจากสายลม เสียงของชายหนุ่มยังดังก้องแม้คนพูดจะค่อย ๆ เอ่ยมันออกมา คุณรู้ไหมคนที่มีชีวิตอยู่ทุกวันด้วยการรอคอยมันเป็นยังไง ? แค่จดหมายฉบับเดียวคุณก็ตอบไม่ได้ ทำไมไม่ตอบบอกมาซิ ? ! เสียงของปรเมษฐ์ค่อย ๆ ดังขึ้นตามอารมณ์ เขาไม่ได้ปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระแม้แต่วินาทีเดียว บ่าของภูสิตาถูกบีบอย่างไม่ได้ตั้งใจด้วยแรงของชายหนุ่ม บอกให้พูดไง ! เสียงทุ้มที่ดังออกมาและสายตาที่มองเห็นคุ้นเคยนัก หากแต่ไม่อ่อนโยนอย่างที่เคยเห็น
ทำไมฉันต้องตอบในเมื่อฉันเป็นคนถูกทิ้ง ! ภูสิตาแผดเสียงออกมาพร้อมกับน้ำตาทั้งหมดที่เธอจะกลั่นมันออกมาได้ หญิงสาวร้องไห้ตัวโยน คุณนึกจะไปไหนก็ไปแล้วฉันทำอะไรได้ คุณลาฉันทั้งที่หน้ายังยิ้ม แล้วนึกถึงใจฉันบ้างหรือเปล่า ?
ปรเมษฐ์มองใบหน้าหญิงสาวที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา เธอเหมือนเด็กที่กำลังเสียใจอย่างรุนแรง ฉันต้องอดทนกับจดหมายกองโตของคุณ ในขณะที่ตัวคุณไม่อยู่แต่สมองฉันจำฉันเห็นทุกอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ รู้ไหมฉันอยู่ได้ยังไง ? อยู่มาได้ยังไง ? ! หญิงสาวตะโกนเสียงดัง ปรเมษฐ์ยกมือขึ้นปล่อยเธอให้เป็นอิสระแล้วหันหน้าหนี
ภูสิตาสุดจะทนกับภาพที่เห็น หยุดนะ ! อย่าหันหลังให้ฉัน ! ไปให้พ้นกลับมาทำไม ? คุณไม่เคยสูญเสียคุณไม่มีวันรู้มารู้จักมาดีกับฉันทำไม คุณทิ้งเพื่อนได้ยังไง ? เอาความสุขของฉันคืนมา ปรเมษฐ์เอาคืนมา ! หญิงสาวกรีดร้องรวดร้าวเจ็บปวด สุดแรงสุดกำลังเท่าที่มี เธอฟาดไปที่หลังของชายหนุ่มไม่ยั้ง ปรเมษฐ์หันหน้ามารวบมือของเธอไว้ ภูสิตายังคงดิ้นรน น้ำตาไหลของชายหนุ่มอาบแก้มไม่น้อยไปกว่าภูสิตา
ตาล หยุดตาล เราไม่ได้ไปไหน อยู่กับตัวตลอด เขาพูดเบา หากแต่หญิงสาวไม่ได้ยินแล้ว ภูสิตาหมดสติไปในอ้อมแขนเขานั่นเอง
กลิ่นอะไรแตะจมูก ปวดหัวจัง ภูสิตพูดเบาจนแทบไม่มีใครได้ยิน
ก็ไม่น่าพามา อยู่กันสองคนจะมีใครห้าม เจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่
ใครพูดอะไรกัน ? ภูสิตาได้ยินแต่จับใจความไม่ได้ ชายหนุ่มร่างโปร่งอีกคนเดินวนไปมาในห้อง ปรเมษฐ์มองหน้าน้องชายอย่างจนใจ ฉันรอไม่ได้ นายก็รู้
ใจร้อนไม่เข้าท่า แล้วนี่ตื่นขึ้นมาจะเอายังไง ? ปรมัตถ์ส่ายหน้า
ภูสิตาขยับตัว ใครพูดอะไรกัน ? กลิ่นกำยาน .จุดธูปทำไมกัน ?
ใครจะรู้ว่าเขาจะโกรธฉันขนาดนี้ ?
เคยบอกแล้วว่าเขาเองก็ไม่รู้ตัว พอเจอแบบนี้ก็คงช็อก
อย่าขอให้ฉันไปส่ง ฉันจะอยู่กับเขาให้ครบ 3 วัน ปรเมษฐ์ยืนกราน
ไอ้บ้า แม่เอาตายถ้าจับได้ มีที่ไหนจะมาอยู่กับผู้หญิง 3 วัน 3 คืน
กลัวที่ไหน อย่ามาห้าม กลับไปได้ เดี๋ยวฉันจัดการเอง
แล้วเรียกมาทำไม ? เออ ! แต่เขาสวยนะ สวยจนจำแทบไม่ได้ คนพูดยังมีแก่ใจชื่นชม เขาพิจารณาหญิงสาวที่ยังนอนหลับตาอยู่อย่างละเอียด
อย่ามาคิดอกุศล ไปได้แล้ว สั่งอะไรไว้ไปทำเสียให้เรียบร้อย
รู้แล้วน่า ปรมัตถ์ยิ้มให้ก่อนจะออกจากบ้านไป โดยมีพี่ชายเดินตามไปส่ง
ปรเมษฐ์เดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง เห็นภูสิตาลุกขึ้นนั่งรออยู่แล้ว ดีขึ้นไหม ? คุณคงนอนน้อย ชายหนุ่มเข้ามานั่งข้าง ๆ เธอ หญิงสาวขยับตัวออกห่าง
อย่าบอกนะว่าจะพาฉันกลับบ้าน คุณคงไม่ใจดีขนาดนั้น ภูสิตาประชดพลางลูบหน้าลูบตาตัวเอง สายตาของชายหนุ่มอ่อนลง เมื่อมองเห็นท่าทางอิดโรยนั้น
ไม่ทำอะไรหรอกน่า ก็แค่อยากเห็นหน้านาน ๆ
แล้วบอกพ่อแม่ฉันหรือยัง ว่าจะพาลูกเขาไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหน ?
พวกนักเขียนนี่ไม่น่าพูดเก่งขนาดนี้นะ ภาษาของคุณดีขึ้นจนเขียนเรื่องได้แล้วเหรอ ? เขาประชดไม่แพ้กัน แต่เห็นเธอไม่เล่นด้วยจึงเปลี่ยนเรื่อง บอกแล้วครับ บอกว่าคุณไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างจังหวัด
ใครเป็นคนบอก ?
ปูนาไง
ภูสิตาหน้างอ อยากจะฆ่าปูนาเสียจริง ๆ ทำไมเข้าข้างเขาตลอด สมแล้วที่รักกันเหลือเกิน แล้วจะเอายังไงกับฉันมิทราบ ?
อยากให้ทำยังไงก็ลองว่ามาสิ จะได้จัดให้ถูกใจ
อย่ามาพูดอะไรที่ทำไม่ได้
ปรเมษฐ์อมยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวพูดจาจริงจัง หิวไหม ? คุณหลับไปนานเลย หายโกรธหรือยังครับ ? ภูสิตาจ้องหน้าเขามั่นคง ดวงตาคู่นั้นทำเอาเธอรู้สึกประหม่า
ฉันเป็นแค่เพื่อนคุณ ทำไมต้องโกรธ ?
คุณนี่ขี้ลืมจังนะ เมื่อกี้ยังด่าแทบฟังไม่ทัน เสียงดังจนตกใจ ใจยังสั่นอยู่เลยเนี่ย เขาหัวเราะหากแต่สายตาของเขาเศร้าสร้อยนัก
ฉันพูดอะไร ?
ปรเมษฐ์ยิ้มกับตัวเอง ลืมได้ก็ดี คุณฝันนะ เหมือนที่ผมฝัน เราตื่นแล้วภูสิตา ชายหนุ่มนั่งมองคนตรงหน้าอย่างสงบ ภูสิตาในเวลานี้เหมือนตอนเด็กไม่มีผิด ทำเข้มแข็งหากแต่เธออ่อนแอยิ่งกว่าใคร กลับกันเถอะ ผมล้อเล่น ผมจะขังคุณไว้ทำไมกัน ? ผมรู้แล้วว่าตอนนี้คุณเป็นยังไง แค่นี้ก็พอใจแล้ว
ภูสิตาฟังเขาพูดไปอย่างนั้นเอง หญิงสาวไม่อยากคิดอะไรนอกจากควบคุมตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เธอเดินไปรอบ ๆ ห้องอย่างสงบ หาอะไรครับ ? ปรเมษฐ์ลุกขึ้นเดินตามพลางเท้าสะเอวมองไปรอบ ๆ ตัวเช่นกัน
ฉันได้กลิ่นธูปกำยานตอนที่หลับ คุณจุดธูปทำไม ?
ชายหนุ่มส่ายหน้าพลางยิ้มจางให้ เปล่า จะจุดทำไม ? คุณฝันไปผมบอกแล้ว เขาเดินไปจูงมือภูสิตาออกเดิน อยากให้เธอได้รับอากาศบริสุทธิ์ จะได้คลายทุกข์ในใจลงบ้าง ภูสิตาสะบัดมือเขาออก สายตาเธอเอาเรื่อง เขาจึงได้ปล่อย
ผมรู้เรื่องคุณตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา แต่ปูนาบอกว่าคุณไม่เคยแม้แต่จะฟังเรื่องของผม ชายหนุ่มพูดเบาเหมือนรำพึงกับตัวเองมากกว่า ปรเมษฐ์ดูเป็นผู้ใหญ่มากในเวลานี้ จริงอย่างคนเขาว่ากัน เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน
ภูสิตาถอนใจยาว ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่าอะไรมันทำให้เราเจ็บ แล้วไม่ไปสะกิดมัน มันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เราแก้ปัญหาไม่เหมือนกันตาล คุณหนีแต่ผมวิ่งเข้าหา เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
งั้นเราก็ไม่ควรตำหนิกันค่ะ ภูสิตายิ้มให้อย่างเป็นมิตร ทำให้ปรเมษฐ์หัวเราะออกมาได้ ได้ ! ยังไงจดหมายผมก็มีค่าอยู่บ้าง อย่างน้อยคุณก็รับรู้ว่าผมไม่เคยลืมคุณเลยและคุณไม่ได้ทิ้ง
ฉันไม่สัญญาว่าจะอ่านมันนะคะ
ก็ได้ภูสิตา บางทีตอนนี้การไม่รับรู้อะไรเลย ดูจะดีที่สุดสำหรับเรา
เมื่อได้พูดอย่างที่ใจต้องการ ภูสิตาก็รู้สึกปลดปล่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ที่รอมา 10 ปี ก็ได้พบกันแล้ว แม้เขาจะเปลี่ยนไปแต่เธอรู้สึกเหมือนเราอยู่ในวัยเด็กอีก
แล้วกัน ! นายปรเมษฐ์นี่ ทำฉันเสียหายไป 10 ล้านปี เรื่องอะไรไปเล่าให้ยายตาลฟัง แล้วตัวก็มาใจอ่อนเสียเอง ล้มเลิกแผนกลางคัน ปูนาบ่นเมื่อเห็นหน้าเพื่อนรัก
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างจนใจ ขอโทษที เห็นหน้าเขาแล้วใจอ่อน ปูนาก็รู้ว่าภูสิตาทิฐิแรงแค่ไหน ไม่อยากทำให้เขาทุกข์อีก
ปูนาส่ายหน้าพลางถอนใจยาว ครับผม ดีครับท่าน ไม่น่าขี้ขลาดเลยนะแก ไม่บอกเขา เดี๋ยวเขาไปแอบมีใครอยู่ล่ะ จะยุ่งกว่าเดิม
ไม่หรอกปูนา ฉันเชื่ออยู่อย่างว่า ของฉันก็ต้องเป็นของฉัน
เชอะ ! ใครบอกแกว่าเขาเป็นของแก นี่ถ้าไม่โผล่ไปแบบนั้น รับรองเขาจะหนีนายตลอดชาติ ปูนาเหยียดริมฝีปากเล็กน้อย ออกจะโมโหที่เพื่อนไม่ได้ดั่งใจ ทั้ง ๆ ที่ได้นัดหมายกันไว้แล้ว ปูนามีครอบครัวแล้วจึงทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าปรเมษฐ์ในยามนี้ ไม่มีใครบอกแต่รู้สึก ปรเมษฐ์หัวเราะเสียงดัง เขายังขี้เล่นเหมือนเด็ก ๆ
ป่านนี้โมรีคงรู้เรื่องหมดแล้ว เจอกันคราวหน้า she เอาฉันตายแน่ ปูนายังรู้สึกกลัวโมรีเสมอ แม้โมรีจะยังสดใสเหมือนเดิม แต่เวลาเอาเรื่องขึ้นมาเธอก็ไม่ธรรมดา
ไม่หรอกน่า โมรีเขาคงไม่คิดอะไรมากหรอก
ถนนหน้าบ้านที่บัดนี้พื้นถนนเปลี่ยนเป็นลาดด้วยปูนซีเมนต์ไปหมดแล้ว ปรเมษฐ์ยืนมองลงมาดูทางเดินนั้นอย่างสุขใจ แต่ก็ต้องหยุดคิดเมื่อเสียงฝีเท้าดังสม่ำเสมอใกล้เข้ามา มานั่งรำลึกความหลังอะไร ? ทำเสียแผนหมด ทีหลังเบสไม่เล่นด้วยนะ แม่ซักฉันใหญ่ว่า ไหนบอกว่านายไปต่างจังหวัด ปรมัตถ์หัวเราะ
ปรเมษฐ์ยิ้มจางให้น้องชาย Sorry อย่างที่นายว่า ฉันใจร้อน ทำอะไรไม่คิดก่อน พอเห็นตอนเขาตื่นขึ้นมาก็ใจอ่อน
แล้วมันทำให้นาย หายคิดถึงเขาหรือยังล่ะ ?
ปรเมษฐ์ส่ายหน้า ฉันกลัวเขามาก เขาเหมือนมี 2 บุคลิกในตัว
ก็นักเขียน ตอนเด็ก ๆ เบสก็เห็นเขาไม่ค่อยพูดอยู่แล้วนี่นา
ไม่ใช่ ๆ เขาหลุดปากออกมาว่าเขาทรมาน พอเลิกร้องไห้ เขาก็เหมือนลืมที่พูดมาทั้งหมด
แล้วไง ? กลัวของนายคืออะไร ?
ดูเขาไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไงให้ถูกใจเขา เวลาที่เราห่างกันมันนานฉันเริ่มต้นไม่ถูก ปรเมษฐ์มองออกไปที่หน้าต่างเลื่อนลอย พระอาทิตย์กำลังเคลื่อนคล้อยลงเรื่อย ๆ สีหน้าของพี่ชายจริงจัง
ปรมัตถ์เห็นสีหน้าของพี่ชายแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ปกติเขาทำอะไรด้วยความมั่นใจเสมอ แต่กับแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวทำให้เขาพูดคำว่า กลัว ออกมาได้
ค่อย ๆ ดูกันไปก็ได้นี่ ถามใจนายดูว่าอยากทำอะไร นายร้อนและรอมาตลอดเพื่อจะได้เจอเขา ทำไมแค่นี้ทำไม่ได้ ?
คำพูดของน้องชายปลอบประโลมหัวใจของปรเมษฐ์ได้ดียิ่งนัก ร่างบางที่ได้พบ มือเล็ก ๆ ที่ได้จับ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน ปรเมษฐ์กำมือของตัวเองแน่น หวังจะให้ความทรงจำในอดีตหวนคืนกลับมาอีกครั้ง เรามาไกลเหลือเกินปรเมษฐ์ ไกลจนน่าใจหาย หากลมพัดพาเราแยกจากกันอีกครั้ง คุณจะเป็นอย่างไรหนอภูสิตาคนดี ?
ใบเหลือง ๆ ของต้นมะลิซ้อนถูกเด็ดออกทีละใบ คนเด็ดยังใจลอย ทำให้ใบสีเขียวถูกเด็ดออกมาด้วย ใจเย็นคุณนาย กะจะล้างเผ่าพันธุ์มันเลยหรือไงกัน ? เสียงโมรีใกล้เข้ามาในสวนมะลิที่ภูสิตานั่งอยู่ อะไรของเธอ มานั่งบนหญ้า มาแนวไหนเนี่ย ?
คนถูกแซวยิ้มหวาน บ้า ! ฉันก็แค่อยากทำสวน ไม่มีอะไรหรอก
แล้วไป ! แล้วเรียกมาแต่เช้า หาข้าวไว้ให้ฉันหรือยัง ? ฝนทำท่าจะตกแล้วด้วย โมรียังอารมณ์ดีเหมือนเดิม คำพูดทุกคำของเพื่อนคนนี้ ทำให้ภูสิตารู้สึกผ่อนคลาย อย่างน้อย ๆ โลกของโมรีก็น่าตื่นเต้น แม้จะเป็นแค่คำพูด
มีแค่ข้าวเกรียบปากหม้อ ฉันออกไปซื้อมาเมื่อเช้ามืด กินไปก่อนได้ไหม ?
สบายมากแล้วจะลุกได้หรือยัง ? พอโมรีเร่ง ภูสิตาก็วางมือ
Create Date : 30 ตุลาคม 2563 |
|
0 comments |
Last Update : 30 ตุลาคม 2563 18:04:28 น. |
Counter : 168 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]

|
คนเขียน..เป็นคนธรรมดา เราเขียนทุกอย่างเพราะอยากเขียนเท่านั้นเอง เป็นงานอดิเรก...ไม่ใช่มืออาชีพ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|