|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 23 : ขอให้รักของฉัน อยู่กับเธอตลอดไป เล่ม 1 - 3 โดย ภูระริน

23
โมรีหันมาพลางยิ้มหวานผิดธรรมดา แหม ๆ คุณปรเมษฐ์ ไม่อยู่ที่โต๊ะระวังจะโดนฉีกอกนะคะ มานั่งใกล้เพื่อนรักของฉัน ระวังจะหลงรักไม่รู้ตัว หล่อนหัวเราะเสียงดังเพราะเริ่มเมาเช่นกัน ภูสิตาใช้มือปิดปากเพื่อนรักไว้ทันที ไม่อาว ! ไม่ต้องมาปิด วันนี้นะฉันอยากให้ทุกคนมีความสุข ว่าไหมคะกฎ ? น้ำเสียงอู้อี้เมื่อเจ้าตัวพยายามแล้วเธอก็งัดมือเพื่อนออก ปรเมษฐ์หันหน้ามายิ้มให้โมรีทันที
หมดกัน ! ลิปสติกฉัน อิจฉากันไม่เลิก เอะอะลบของฉันตลอดแกนี่ ! โมรีกอดคอเพื่อนรักอย่างรักใคร่ ปรเมษฐ์ชำเลืองมาดูหน้าคนที่เขาเบียดอยู่ ภูสิตาไม่พูดอย่างที่เขาสั่งจริง ๆ แต่ยิ้มออกมา หล่อนน่าดูที่สุด ไม่มีมารยา ไม่มีเก็บอาการ
ไม่รู้เป็นเพื่อนภาษาอะไรของมันนะ กฎคะดูสิ เอาอีกแล้วภูสิตาเล่นเราอีกแล้ว กรกฎหัวเราะออกมาอย่างเข้าใจ ใคร ๆ ก็รู้ว่าอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนวิธิตไม่ใช่ใคร แต่เป็นภูสิตานี่แหละที่คอยลบลิปสติกของเพื่อน ๆ ที่สนิทกันออกเสมอ โมรีโดนลบทุกวัน จนเธอเบื่อจะทะเลาะกับเพื่อนรัก
ถูกต้องโมรี นาน ๆ เจอกันที มันก็ต้องมีความสุข เดี๋ยวเราไปต่อกันนะ ไปด้วยกันนะบอล เอกรินทร์พูดขึ้นพลางยกแก้วมาชนกับโมรีและกรกฎ
ปรเมษฐ์ร่วมวงชนแก้วกับเขาด้วย ได้อยู่แล้ว ชายหนุ่มหัวเราะอย่างมีความสุข ช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย พอได้ฟังเพื่อน ๆ คุยกันก็อดที่จะอิจฉาไม่ได้ เขาเงียบฟังอย่างตั้งใจเมื่อเอกรินทร์เริ่มโม้ และคนที่เขานั่งเบียดอยู่ก็ทำให้เขารู้สึกสุขอย่างประหลาด หากหลับตาอยู่ในความฝัน ก็ขอให้ฝันนั้นมีผู้หญิงคนนี้อยู่ข้าง ๆ อย่างนี้ตลอดไปด้วยเถิด
พอทุกคนเผลอ ปรเมษฐ์ก็หันหน้ามากระซิบที่ข้างหูของภูสิตาเบา ๆ อย่าไปไหนนะ ไปรถผม นี่คือคำสั่ง พูดจบเขาก็หันไปหัวเราะร่วมวงกับเพื่อน ๆ ต่อ
เดี๋ยวเลิกงานไปรอที่ผับเลยนะ เดี๋ยวตามไป ปรเมษฐ์บอกเอกรินทร์ จากนั้นก็ลุกขึ้นกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ไม่มีใครสนใจเขาเพราะทุกคนกำลังสนุกสนาน
เป็นอะไรของแกยายตาล ไม่พูดไม่จา ? เมาได้ที่แล้วใช่ไหมเนี่ย ? อย่างนี้ทุกที เมาแล้วเป็นใบ้ แกนี่ ! โมรีส่ายหน้า แต่ภูสิตายิ้มเจื่อนแทนคำตอบใด ๆ
พอปรเมษฐ์กลับมาที่โต๊ะ เขาก็หันกลับไปมองภูสิตาอีกครั้ง แก้มของหญิงสาวแดงเหมือนลูกตำลึง แต่เธอก็ไม่ได้ขยับตัว ปรเมษฐ์อมยิ้มอย่างมีชัย สั่งแล้วได้ดังใจ
ไม่นานสุนันทาก็กลับมา เจ้าตัวก็เมาไม่ใช่เล่น หญิงสาวซบที่บ่าของปรเมษฐ์ที่นั่งนิ่งอยู่อย่างสุขใจ บอล...หญิงอยากกลับบ้านแล้ว ไม่ไหวแล้วจะอ้วก พวกนั้นให้ดื่มอะไรก็ไม่รู้ ปรเมษฐ์นิ่งฟังอยู่ เขาหันหน้าไปดูกลุ่มเพื่อนที่สุนันทาจากมาแล้วก็พอจะเข้าใจ กลุ่มนั้นมีแต่เพื่อนผู้ชาย โชคดีที่เขามาด้วย ไม่อย่างนั้นสุนันทาอาจจะถูกหิ้วไปไหนก็ไม่รู้ได้ โอเคครับ งั้นกลับ เขาลุกขึ้นทันทีพลางพยุงหญิงสาวให้ออกเดิน
ช้า ๆ หน่อยสิคะ หญิงจะล้มแล้ว โอ๊ย ! สุนันทาเกาะแขนเขาไว้พลางยกชายกระโปรงขึ้นอย่างหงุดหงิด แต่มันก็ไม่พ้นส้นรองเท้าสักที จนปรเมษฐ์ต้องก้มลงช่วยดึงออกให้ สูทสีดำที่พาดอยู่ที่บ่าของเขาตกลงมาที่พื้น ชายหนุ่มต้องนั่งลงเก็บทั้งเสื้อและจูงทั้งสุนันทาออกเดินไปอย่างทุลักทุเล ไร้เสียงใด ๆ ปรเมษฐ์ทำหน้าที่ดูแลสุนันทาได้อย่างไม่มีที่ติ ภูสิตาเห็นทุกอย่าง เชอะ ! ไปรถผม เธอบ่นออกมาเบา ๆ รู้สึกว่าตัวเองใจหวิว ๆ ชอบกล คงไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ หญิงสาวแอบผ่อนลมหายใจออกทางปากเพื่อระบายอารมณ์ที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ
ไปโว้ย ! กองทัพออกเดิน ตาลต้องไปบอกคุณพ่อก่อนไหม ? โน่นกำลังสนุกเลย
ไม่ต้องเอก รีบไปก็ดี ภูสิตาลุกขึ้นยืนทันที หางตาของเธอเห็นคนใส่เสื้อสีขาวอยู่ไกล ๆ เธอดึงแขนเอกรินทร์ออกเดินทันที
พอทุกคนเดินออกมาจากงานก็เห็นรถคันใหญ่จอดรออยู่
ข้ามีคนขับรถมาโว้ย เอกรินทร์ยืนเท้าสะเอวคุยโวพลางหัวเราะ
ดีแล้ว เมากันแล้วมั้งเนี่ย ยังจะไปต่ออีก
กฎจะบ่นทำไมคะ ? ดีออกไม่เปลืองเหล้า ไปถึงร้านก็กินต่อกันไม่ได้แล้ว คนเขาแค่อยากไปรำลึกความหลังแค่นี้เอง ตาแก่เอ๊ย ! โมรีตำหนิ
กรกฎอมยิ้ม ไปครับ ๆ ไม่บ่นแล้ว
อ้าว ! ยายตาลหาย โมรีหันรีหันขวาง ทำให้ทุกคนมองหาภูสิตาไปด้วย มองไปก็เห็นเจ้าตัวกำลังเดินกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงคนเดียว อะไรของมัน ลืมอะไรอีกล่ะ ประจำเลยคนนี้ ไป ๆ ขึ้นรถไปก่อน เดี๋ยวก็วิ่งมา โมรีบ่น
ภูสิตาเดินกลับมาที่ห้องจัดเลี้ยงเพราะเธอลืมประเป๋าถือ คิดว่าคงไม่หายเพราะเพื่อนบางคนยังนั่งอยู่ เธอเร่งฝีเท้า แต่ก็เหมือนยิ่งเดินยิ่งช้า หญิงสาวหันมาดูเพื่อน ๆ ที่หน้างาน รถยังจอดอยู่ ภูสิตารีบวิ่งเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันที ร่างบางปะทะอะไรบางอย่าง โลกมืดลงทันที
ภูสิตาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ข้างตัว งัวเงียขึ้นมามองไปนอกรถ ชุดราตรีสั้นคลุมเข่าที่ใส่อยู่ร่นขึ้นมาเหนือเข่า คงเพราะเธอดิ้น เจ้าตัวจึงดึงลงให้เข้าที่เมื่อค่อย ๆ มีสติ หันไปมองคนข้าง ๆ ก็เห็นปรเมษฐ์นั่งขับรถอยู่ ท่าทางเขาเหมือนไม่ได้สนใจอะไรเลย มองออกไปตรงหน้าอย่างตั้งใจเหมือนคนไม่เคยขับรถมาก่อน
ฉันมาได้ยังไง ? เธอถามอ้อแอ้
น่าเกลียด ผู้หญิงอะไรดื่มจนปล่อยให้ตัวเองเมา คนพูดหน้านิ่ง
ภูสิตาถอนใจแรง ก็แล้วจะทำไม ? ! ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้
เขายิ้ม แววตาเป็นประกายสดใส ไม่สูบบุหรี่ให้ประชาชีดูด้วยล่ะ จะได้ครบสูตร
ฉันสูบไม่เป็นย่ะ เธอตอบพลางหงุดหงิดกับเส้นผมที่ติดตามเนื้อตัวเพราะยาวมากแล้วนั่นเอง
อ๋อเหรอ ! ไม่รู้นี่ ขอโทษ
ภูสิตามองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ไม่นานนัก แล้วพาฉันออกมาได้ยังไงเนี่ย เพื่อน ๆ รอกันแย่แล้ว เธอถามพลางปลดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นหันหลังไปควานหาผ้าหลังรถเพราะรู้สึกเย็น เสื้อเกาะอกที่ใส่อยู่เป็นลูกไม้ กันลมไม่ได้เลย แต่ก็ไม่มีผ้าที่ต้องการ จำได้ว่าหยิบมาด้วยแล้วนี่นา นี่ก็รถของเธอเอง
เปิดแอร์เย็นทำไมนักหนา ! ฉันหนาวนะเนี่ย ปรเมษฐ์ยื่นมือซ้ายมาช่วยเธอให้นั่งลง เพราะเจ้าหล่อนเซไม่เป็นท่า ดี ๆ ช้า ๆ เขาหัวเราะในลำคออย่างคนประชด คุณนี่เอาเรื่องเหมือนกันนะ สงสัยอยู่กับโมรีขี้เมามากไป
หญิงสาวมองหน้าเขาทันที อย่ามาว่าเพื่อนฉันนะ ! ใครใช้ให้พาฉันออกมา ป่านนี้เพื่อน ๆ หากันให้ทั่วแล้ว รีบพากลับไปเลยนะ !
ปรเมษฐ์อมยิ้มอยู่คนเดียว พลางซบหน้าลงที่พวงมาลัย ไล้นิ้วไปมาเบา ๆ อย่างใช้ความคิด เขาทำเหมือนเขาอยู่คนเดียวในตอนนี้
นี่ ! ขับรถอยู่นะ จะซบหน้าลงทำไม อันตราย ! ภูสิตาตะโกนลั่น
ยังจะดื่มได้อีกเหรอ เมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ ? หรือจะรู้เรื่องนะ ? มีรู้จักคำว่าอันตราย เขาพูดเบา ๆ พลางหันไปดูคนข้าง ๆ มือก็จับพวงมาลัยรถเหมือนของเล่น
ไม่ไปไม่ได้หรอก ไม่งั้นโมรีจะบ่นไม่เลิก คุณก็บอกจะไปด้วยนี่ หายไปเขาจะคิดกันยังไง ?
ชายหนุ่มพยักหน้าช้า ๆ จริงของคุณ แต่ไม่ให้ไป มีอะไรไหม ?
ระวัง ! ภูสิตาร้องเตือนเมื่อเห็นรถอีกคันโผล่ออกมาจากสี่แยกกะทันหัน คงเพราะสัญญาณไฟจราจรไม่ทำงาน แต่ปรเมษฐ์ก็ไม่ได้สนใจ เขาเร่งความเร็วแล้วก็หันมามองหน้าเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ฉันจะไป ได้ยินไหม ? ไปเร็ว ๆ ด้วย จะบ้าหรือไงฉันกลัวนะ ขับรถไม่ดูทาง ทำบ้าอะไรของคุณ ? เสียงเธออ่อยลง พลางลูบแขนตัวเองป้อย ๆ
คิดว่าพูดกับใครอยู่เนี่ย หา ? เขาทำเสียงเข้ม ภูสิตาสบตาคนขับแล้วถอนใจ หางตายาว ๆ นั่นทำเธอใจสั่น หญิงสาวเงียบเพราะรู้ว่าพูดไปก็มีแต่จะเสีย อยากทำอะไรก็ตามใจ เล่นกับคนมีอิทธิฤทธิ์คงไม่สนุกนัก ปรเมษฐ์เห็นสายตาคนเอาเรื่องแล้วก็ได้แต่แอบยิ้ม จึงหันออกไปข้างประตูรถเสีย
ชายหนุ่มหันมาอีกครั้งพร้อมกับจับมือขวาของภูสิตาแน่น หนาวเหรอ ? กลับบ้านนะครับ ภูสิตาพยายามคลายมือเขาออกด้วยมืออีกข้างของหล่อน แต่แรงของเขามากกว่า ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ยื้ออะไรกันเลย น่ากลัวที่สุด ! ใช้อิทธิฤทธิ์นี่นา !
ก็แน่ล่ะ ! มีก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์สิ ไม่ใช้ก็โง่สิ ชายหนุ่มพูดขึ้นมาทันที เขาได้ยินความคิดเธอชัดเจน
ขี้โกง ภูสิตาบ่นออกมาเบา ๆ ไม่ยอมมองหน้าเขา
ไม่โกงจะอุ้มคุณขึ้นรถได้สบาย ๆ เหรอ ?
ภูสิตาหันหน้ามามองเขาทันที ปรเมษฐ์พยักหน้ารับช้า ๆ แล้วยิ้มกว้าง
ถูก....ต้อง ได้ยินไม่ผิดจ้ะ อุ้มขึ้นรถด้วยตัวเอง อยากลำบากด้วยตัวเองก็ตอนอุ้มคุณนี่แหละ เขาหัวเราะเสียงดังกังวาน เธอมองหน้าเขาด้วยความโกรธ แต่ก็มองเห็นภาพเลือนราง หญิงสาวหลับลงด้วยความเมาและอ่อนแรง ปรเมษฐ์ส่ายหน้าพลางยิ้ม
นั่นไงคะ ! รถน้องตาลกลับมาแล้วนี่ ไฟในห้องก็ปิดแล้ว ลูกคงมาถึงนานแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง หาแทบแย่ เห็นนั่งอยู่แท้ ๆ คุณนิดาถอนใจอย่างโล่งอก
อ้าว ! จะกลับก็ไม่บอก เห็นแวบ ๆ มองอีกทีหายไปเลย ทำเสียหน้าหมดลูกนี่ ก็บอกแล้วว่าจะพาคนมาแนะนำ อาคมบ่น
แต่จะว่าไปก็แปลกนะคะคุณ ตอนที่ฉันจะพาคุณเกียรติไปหาลูก ก็มองอยู่ว่าจะเข้าไปหาตอนที่แกไม่ได้คุยกับใคร พอหันไปอีกทีก็ไม่เห็นเสียแล้ว เห็นแต่เพื่อน ๆ เขายกแก้วดื่มกันยกใหญ่ ให้เด็กวิ่งไปหาในห้องน้ำก็ไม่มีวี่แวว
ไม่หรอก เขาคงเดินอยู่แถวนั้น คนมันเยอะก็อาจจะมองไม่เห็น
คุณนิดาไม่ตอบเพราะแน่ใจว่าหาทั่วแล้ว คงต้องถามโมรีเพราะเห็นโมรีพูดจาพยักพเยิดอยู่คนเดียวกับเก้าอี้ข้าง ๆ โมรีคุยกับใครกัน ? หรือหญิงสาวจะเมามาก
อันที่จริงก็รู้ฤทธิ์เดชกันมาตั้งแต่ยังวัยรุ่นว่าเด็กทั้งสองไม่กลัวคน เฮไหนเฮนั่น พ่อเขาเลี้ยงลูกสาวเหมือนลูกชาย แต่เด็กทั้งสองก็ไม่เคยทำอะไรเสียหาย เพราะทุกที่ที่ไป ไม่มีพ่อก็มีแม่ไปด้วยทุกครั้ง หรือถ้าไม่ไปท่านก็เชื่อใจลูก บ่อยครั้งไปที่ต้องหาอะไรแก้เมาค้างให้เด็กทั้งสองดื่ม ให้พ่อเขาด้วยนั่นแหละ โมรีเมาหรือเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
ตาลครับ อย่าพึ่งหลับ มาคุยกันก่อน ชายหนุ่มเรียกภูสิตาเบา ๆ ข้างหู ขณะที่เจ้าตัวหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ปรเมษฐ์เดินวนมาอีกทาง คนสวยขี้เมาลุกขึ้นมาคุยกันก่อน ไม่ได้เรื่องคออ่อน เขายิ้มอย่างนึกสนุกพลางนั่งลงข้าง ๆ หญิงสาว
ปรเมษฐ์มองไปรอบ ๆ กายอย่างสุขใจ พอหันมาดูคนข้าง ๆ ภูสิตาก็ลืมตาขึ้นมา รู้สึกมึน ๆ แต่หูเธอได้ยินเขาเรียกชัด เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวชัดแม้ในห้องจะมืดมิด ภูสิตาเอื้อมมือไปจับที่คอเสื้อจนปรเมษฐ์ต้องโน้มตัวลงมาให้ อะไร ๆ ? เล่นอะไรจ๊ะ ? เขาหัวเราะ เมื่อเห็นภูสิตาเปลี่ยนเป็นคนละคน หญิงสาวจับปกเสื้อแน่น แล้วมือหล่อนก็หล่นลงที่เตียง แหวะ อืม เธอทำท่าจะอ้วกแล้วก็พลิกตัวนอนคว่ำหน้าทันที
มาทำเหม็น เป็นอะไรตาล ? ปรเมษฐ์หัวเราะร่วน พลางพยายามพลิกตัวเจ้าหล่อนกลับมา ผมยาวตรงสยายนิ่มมือ เหงื่อเจ้าตัวซึมออกมา นี่ถ้าไม่เมาจะว่าง่ายอย่างนี้ไหมเนี่ย ? หันมา ! โอย ! มาคุยกันก่อน เขายังหัวเราะขัน ไม่รู้นี่เรียกว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่ได้อยู่ใกล้เจ้าตัวโดยที่ไม่ทำให้เธอดูเสียหายในสายตาใครแบบนี้ เขานึกถึงสายตาของแม่เลี้ยงและบิดาของภูสิตาที่ชะเง้อมองหาลูกรักอย่างกังวล ท่านจะพาใครเข้ามาหาภูสิตา ? เรื่องอะไรจะให้เห็นกัน ! ปรเมษฐ์ยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ภูสิตาลืมตาแล้วมองเขาตาแป๋ว เอื้อมมือมาจับที่ใบหน้าของเขาทั้งสองมือ
บอลเหรอ ? ชายหนุ่มต้องก้มลงมาใกล้ใบหน้าเธอ ใช่ เวียนหัวไหม ? เขาลูบผมที่ปิดใบหน้าเธอออก ภูสิตายังลูบที่ใบหน้าของเขาเบามือ เราฝันใช่ไหมบอล ? มือนุ่มลูบที่ดวงตาของเขา ทำให้เขาต้องหลับตาลง มือของเขาคว้าอีกมือของหญิงสาวไว้
ฝันตลอดเลย....ได้แต่ฝัน เมื่อไรจะได้พบกัน ไม่มีทางเลยใช่ไหมจ๊ะ ? ภูสิตาพูดจาน่าฟัง เสียงเจ้าตัวอ่อนโยนและอ่อนหวาน ทำยังไงดี ? ทำยังไงเราถึงจะได้พบตัวสักที ทำไงดี ? ตาลต้องทำยังไงถึงจะได้พบบอล ต้องทำยังไง ? ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ปรเมษฐ์นิ่งไม่ตอบ เขากุมมือเธอแน่น ทำไงดีบอล ทำไง ? ชายหนุ่มก้มลงจูบที่หน้าผากของภูสิตาอย่างเอ็นดูเป็นที่สุด น้ำตาของหญิงสาวไหลลงอาบที่นอนนุ่ม
เรารักตัวเอง ได้ยินไหมตาล ? รักตั้งแต่วันแรกที่เห็น รักที่สุด เสียงทุ้มเงียบไปพร้อมกับริมปากบางของเขาที่ประทับลงที่ริมฝีปากเปื้อนยิ้มของภูสิตา ปรเมษฐ์บอกตัวเองต่อให้ตายไปตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เขาดีใจที่ได้บอกรักเธอแล้ว
ภูสิตาตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง ลูบต้นคอตัวเองเบา ๆ เมื่อลุกขึ้นจากที่นอน ชุดราตรีที่ใส่เมื่อคืนกลายเป็นชุดนอนกระโปรงผ้าฝ้ายสีขาวแขนยาวหลวม ๆ ยาวคลุมเข่า เธอจับศีรษะตัวเอง ผมยาวสยายยุ่งเหยิง เมื่อลูบลงให้เข้าที่แล้วจึงลุกขึ้นไปมองที่กระจก ใบหน้าอ่อนเยาว์ไร้เครื่องสำอางดูซีดเซียวกว่าทุกวัน เธอกลืนน้ำลายลงคอแต่ก็ทำได้ยากเย็น หรือจะเป็นหวัด ? ไม่ได้กินปลาด้วยนะ ไม่น่าจะมีอะไรติดคอ ริมฝีปากของหญิงสาวแดงระเรื่อ เจ้าตัวจับที่ริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา ภูสิตาอมยิ้มกับตัวเองในกระจก ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ได้ฝัน สัมผัสที่รู้สึกทำให้เป็นสุขอย่างที่สุด เธอได้ยินเขาบอกรักและเธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แล้วนี่เขาหายไปไหน ?
ตาลคะไหวไหมลูก ? นอนนานแล้วนะ ออกมาทานอะไรหน่อยนะคะ คุณนิดาพูดพลางเคาะที่ประตู ภูสิตามองซ้ายขวาอย่างร้อนรน ทำไมมาปลุกแต่เช้า ? พอมองไปรอบห้องก็สะดุดตาเสื้อเชิ้ตขาวที่ปรเมษฐ์ใส่เมื่อคืน วางอยู่ข้างหัวเตียง เธอวิ่งไปหยิบแล้วยัดส่ง ๆ เข้าไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าทันที
ตายแล้ว ! เขาทำอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย ? เขาถอดเสื้อทำไม ! ?
ตาลภูสิตาหิวไหม ? ออกมาเถอะค่ะ คุณนิดายังเรียกไม่หยุด น้ำเสียงของท่านไม่ได้ร้อนรน แต่คนฟังกำลังจะแย่ หญิงสาวจับที่ศีรษะตัวเองอย่างสับสน
บอล ! ถอดเสื้อทำไมกัน ตายๆ ๆ เธอลูบผมให้เข้าที่แล้วจึงเปิดประตูห้องนอนให้แม่เลี้ยง พยายามหายใจให้เป็นปกติที่สุด คุณนิดามองหน้าลูกเลี้ยงอย่างพินิจพิเคราะห์เมื่อเจ้าตัวเปิดประตูออกมา หิวหรือยังคะ ? ออกมาทานอะไรหน่อยนะ
ภูสิตายิ้มหวานให้ ค่ะ ๆ เดี๋ยวลงไปค่ะ อาบน้ำเดี๋ยวเดียวค่ะ
คุณนิดาพยักหน้า จ้ะ ๆ ออกมานะ
พอแม่เลี้ยงไปแล้วภูสิตาก็นั่งลงกับพื้น น้ำตาคลอเหมือนเด็ก ๆ ตายแล้วฉัน โดนปล้ำหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตาบ้านั่น ออกมานะ ! อยู่ที่ไหน ?
Create Date : 01 มกราคม 2564 |
Last Update : 1 มกราคม 2564 22:39:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 145 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]

|
คนเขียน..เป็นคนธรรมดา เราเขียนทุกอย่างเพราะอยากเขียนเท่านั้นเอง เป็นงานอดิเรก...ไม่ใช่มืออาชีพ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|