เรื่องของความสุข
หนุ่มเมืองจันท์ //www.facebook.com/boycitychanFC มี"คนดัง" คนหนึ่งเคยบ่นว่าชีวิตส่วนตัวของเขาหายไปทันทีเมื่อ "โทรศัพท์มือถือ" ถ่ายรูปได้ครับ สำหรับ "คนดัง" หรือพวกดาราทั้งหลายรายได้ของเขาขึ้นอยู่กับ "ความดัง" ยิ่งดังเท่าไร เป็นที่รู้จักมากเท่าไรก็ยิ่งกอบโกยเงินทองมากเท่านั้นดูอย่าง "ณเดชน์" ตอนนี้สิครับดูรายการโทรทัศน์ 1 รายการ จะต้องเจอโฆษณาสินค้าอย่างน้อย 1 ชิ้น ที่มีพรีเซ็นเตอร์ชื่อ "ณเดชน์"ถี่ยิบยิ่งกว่า "เคน" ธีรเดช เมื่อ 1-2 ปีก่อนอีก และเป็นสัจธรรมที่ว่าเมื่อ "ความดัง" วิ่งเข้ามา"ความเป็นส่วนตัว" ก็วิ่งหนีไปทันที ดังนั้น เมื่อบริษัทโทรศัพท์มือถือผลิต "มือถือ"ที่มีกล้องถ่ายรูป ทุกอิริยาบถของ "คนดัง" ที่คิดว่าเป็นส่วนตัวจึงไม่เป็นส่วนตัวอีกต่อไป แค่ยก "มือถือ" ขึ้นมาแล้วกด "แชะ""เรื่องส่วนตัว" ก็กลาย "สาธารณะ" ทันทีคาดว่า "คนดัง" ทุกคนถ้าได้พรวิเศษสัก 5 ข้อข้อหนึ่งที่เขาเลือกก็คงจะเป็นขอให้โทรศัพท์มือถือไม่มีกล้องถ่ายรูป โอมเพี้ยง !!!ครับ โลกนี้มี "รายรับ" และ "รายจ่าย"ใครที่รับมาก ก็ต้องจ่ายมากศิลปินทุกคนเมื่อมี "รายรับ" คือ "ชื่อเสียง"เขาก็ต้องมี "รายจ่าย" คือ "ความเป็นส่วนตัว"เป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนแม้ว่าศิลปินทุกคนดูเหมือนจะมี "ความสุข"กับชื่อเสียงและเงินทอง แต่พอถามถึงเวลาแห่ง "ความสุข" ของชีวิตแทบทุกคนจะหวนระลึกถึงอดีตที่ยังไม่มีชื่อเสียง ถามถึงสถานที่ที่มีความสุขถ้าไม่ตอบว่าการไปเที่ยวต่างประเทศที่เขาจะเป็นอิสระ ไม่มีใครรู้จักกว่าเขาเป็นใครบางคนก็ตอบว่า "บ้าน"เพราะเป็นสถานที่เดียวที่เขาไม่มี "ชื่อเสียง"และเสียงกรี๊ด ไม่มี "ณเดชน์" ไม่มี "เคน" ไม่มี "เบิร์ด" ฯลฯมีแต่สถานะของ "พ่อ-แม่" หรือ "ลูก"ในพื้นที่ที่อิสระต่อ "ชื่อเสียง" เขามี "ความสุข" มาก ยิ่ง "ไม่มี"ยิ่ง"มี" มีเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากเป็นเรื่องของ พี่วินทร์ เลียววาริณผมไม่ได้อ่านเอง แต่มีเพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังคาดว่าคงเป็นเรื่องสั้นแนวทดลองถ้าผิดเพี้ยนอย่างไร ให้พี่วินทร์ถือเป็นความผิดของเพื่อนผมนะครับ ผมไม่เกี่ยว...เป็นเรื่องของแม่ค้าผักคนหนึ่งกลุ้มใจที่ขายของไม่ดี เธอจึงขอความช่วยเหลือจากป้าที่ขายของชำในร้านใกล้กัน เธอถามป้าว่ารู้จักวิธีโกงตาชั่งไหมป้าพยักหน้า แล้วกระซิบบอกวิธีการปรับตาชั่ง แม่ค้าคนนั้นกลับบ้านก็ปรับตาชั่งใหม่จากวันนั้น เป็นต้นมา กิจการของแม่ค้าคนนั้นก็ขายดิบขายดี ที่สำคัญ ไม่มีลูกค้าคนใดมาโวยวายเรื่อง"ตาชั่ง" เลย แม้จะขายดี แต่เธอกลับไม่มีความสุข เพราะยังรู้สึกอยู่เสมอว่าเธอโกงตาชั่งลูกค้า แต่จะให้ปรับตาชั่งให้เหมือนเดิม เธอก็กลัวว่าจะกำไรน้อย จนวันหนึ่ง เธอตัดสินใจถามลูกค้าขาประจำว่าทำไมจึงมาซื้อผักที่ร้านเธอตลอด คำตอบที่ได้รับทำให้เธออึ้ง"ก็เธอขายของถูกกว่าทุกเจ้าในตลาด"เย็นนั้น เธอกลับไปรื้อตาชั่งออกมาดูครับ แม่ค้าปรับตาชั่งผิดวิธีตัวเลขบนหน้าปัดน้อยกว่าความเป็นจริงแม้จะรู้ว่าผิดพลาด แต่เธอก็ไม่เปลี่ยนยังคงปรับตาชั่งให้เป็นไปแบบเดิมแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ "ความสุข" ในการขาย แม่ค้าคนนั้นขายผักอย่างมี "ความสุข"ทุกวัน เพราะเธอรู้แล้วว่า "กำไร" ที่น้อยลง กลับทำให้ "ความสุข" ของเธอเพิ่มขึ้น ยิ่งไม่ต้องการยิ่งได้รับ อาจเป็นเพราะเขียนเรื่อง "ความสุข" อยู่บ่อยๆตั้งชื่อหนังสือก็มีคำว่า "สุข" หรือ "ความสุข"อยู่หลายเล่ม "ไม่ตั้งใจแต่ทำไมจึงสุข"หรือ "ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่"ในเฟซบุ๊ก หรืออีเมล หรือบางคนที่มาคุยส่วนตัว หลายคนชอบถามเกี่ยวกับความสุขในชีวิตตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้างดำน้ำบ้าง โทรศัพท์สายหลุดบ้างไม่รู้เป็นอย่างไร พอมีเรื่องอะไรที่เริ่มตอบไม่ได้ โทรศัพท์มักจะสายหลุดอยู่เรื่อย แปลกจริงๆผมเชื่อว่า "ความสุข" นั้นเป็นสมบัติส่วนตัว ของใครของใคร"ความสุข" ไม่เคยมีแบบ "สำเร็จรูป"ประเภทเทใส่ชาม เติมน้ำร้อนแล้วโซ้ยแบบ"มาม่า" ไม่มีหรอกครับทุกคนมีแบบเฉพาะเป็นของตัวเองจนวันหนึ่ง ผมก็ได้พบกับวิธีการหาความสุขรูปแบบใหม่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา พูดในงานIgnite Thailand "ผู้อาวุโส" นั้น กาลเวลาจะทำให้เขาตกผลึกทางความคิด ใช้ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ แต่ลุ่มลึกอย่างยิ่ง"ดร.อาจอง" พูดถึงวิธีการค้นหาความสุขแบบง่ายๆ ท่านบอกว่าเวลาใครพูดว่า "ฉันต้องการความสุข" และถามว่าจะทำอย่างไรคำแนะนำของท่านก็คือ...ให้ตัดคำว่า "ฉัน"และ "ต้องการ" ออกo"ความสุข" ก็จะมาเอง--จบ-- --มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 พ.ค. 2554--
Create Date : 11 พฤษภาคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2554 14:30:57 น. |
Counter : 535 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: SassymOn 30 พฤศจิกายน 2554 1:07:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ติดแก๊ส
ขาย iphone
เช่าคอนโด
roll up
เว็บขายของ