ไปเที่ยว Kawagoe ดีกว่า (ตอนที่ ๒)
ระหว่างที่จะเดินไปชมวัด Kita-in Temple สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุม ทำให้เย็นสบายสามารถเดินชมธรรมชาติได้อย่างมีความสุข ในภาพจะเป็นสัญลักษณ์ชินโตเล็กๆ ในป่าใหญ่ เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ เนื่องจากว่าเราไม่ได้เดินเข้าทางหน้าวัด เป็นทางเดินเชื่อมต่อกัน เพราะอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันค่ะ อ่างล้างมือด้านหน้าวัด รูปมังกรคู่พ่นน้ำ กระถางธูปตั้งเด่นเป็นสง่า มีกระจกกั้นไม่ให้คนเข้าด้านนี้ค่ะ แต่สามารถมองเห็นได้จากด้านนอก แต่เดี่ยวจะเข้าชมข้างในค่ะ ตอนนี้ขอเก็บบรรยากาศด้านนอกก่อน (เสียค่าเข้าชม ๑๐๐ เยนต่อคน ทางเข้าจะเป็นอีกที่นึงค่ะ) ป้ายนี้ก็จะเขียนสื่อความหมายว่า เมื่อก่อนมีคนมานั่งสวดมนต์ทำสมาธิกันเป็นจำนวนมาก แล้วเกิดได้ยินเสียงคล้ายๆ เป็นเสียงของคลื่นทะเล อาจจะสอดคล้องกับเมื่อก่อนเมืองนี้อยู่ใกล้ทะเลมาก ความเงียบก็อาจจะทำให้ได้ยินเสียงคลื่นก็เป็นได้ ท้องฟ้าสดใส แดดร้อนกำลังดี ได้ถ่ายจากระยะไกล ถ่ายมุมใกล้ๆ มุมใกล้กว่า ทางเข้าอยู่ตรงนี้ค่ะ เสียค่าเข้าชมคนละ ๑๐๐ เยน จากนั้นก็เข้าไปชมสถานที่แสดงช่วงวัยชีวิตของโชกุนตั้งแต่เกิดจนตายว่าเป็นอย่างไรบ้าง ข้างในจะมีห้องหับต่างๆ ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านในค่ะ ห้องแรกเป็นสถานที่โชกุนเกิดหรือห้องคลอดนั่นเอง มีอุปกรณ์ทุกอย่างเหมือนในอดีต มีของเด็กเล่น ม้าจำลองสำหรับเด็ก ลูกศรที่มีสำหรับซ้อมตั้งแต่เล็กจนโต หนังสือที่เรียน ตำราพิชัยสงคราม เมืองจำลองเพื่อให้รู้อาณาเขตที่ต้องปกครอง ประวัติของโชกุนในตระกูล ทุกวันโชกุนต้องได้รับการตรวจสุขภาพโดยดูลักษณะของการขับถ่าย จะมีหมอมาเช็ครายละเอียดทุกสิ่ง สี กลิ่น ลักษณะต่างๆ ว่าผิดปกติหรือไม่ที่ห้องสุขา และจะมีการจดบันทึกเอาไว้ทุกวันเช่นกัน ถัดมาจะเป็นห้องแต่งตัว ห้องนอน ห้องของภรรยาโชกุน รวมทั้งเครื่องแต่งกายตามฤดูกาลต่างๆ อลังการงานสร้างมากๆ ค่ะ สวยๆทั้งนั้นเลย ที่ห้องรับแขก หรือห้องให้คนเข้าพบ จะกั้นเป็นห้องๆ ในวังโชกุนแห่งนี้เราได้พบวาดภาพนึงที่ที่ติดอยู่ข้างฝาคิดว่าน่าจะส่งมาจากไทยในสมัยนั้น เป็นรูปหนุมานแต่เป็นภาพวาดเก่า ลายเส้นและลักษณะภาพเหมือนศิลปะของไทยมากเพราะมีลายกนก ลายไทยผสมอยู่ น่าจะได้มาตอนสมัยกรุงศรีอยุธยา คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ มีสะพานทางเดินเชื่อมต่อไปยังวัด เพื่อสะดวกในการสวดมนต์ภาวนา ภายในวัดนี้บนเพดานจะมีตราสัญลักษณ์ของโชกุนยุคสมัยต่างๆ เหมือนเป็นการสืบทอดรุ่นต่อรุ่น หลังจากที่ชมด้านในจนจุใจแล้วก็เดินออกมาเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ บริเวณวัด เพื่อจะได้ไปยังจุดหมายต่อไป ส่วนของสะพานเชื่อมต่อเป็นทางเดินไปหอสวดมนต์ ตอนที่ได้เดินผ่านทำให้นึกถึงถ้าเราได้อยู่ในสมัยนั้นจะเป็นยังงัยนะ จะเหมือนในฉากละครหรือเปล่า ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี ติดกับร้านขายของที่ระลึกมีสุสานพระที่ร่วมกันสถาปณาวัดนี้ (Statues of Rakan) เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ผ่านการบูรณะมาหลายครั้ง ในที่นี้มีพระอยู่ประมาณ ๕๐๐ รูป แต่เขาว่าจริงๆแล้วมีอยู่ ๕๔๐ รูป แต่ละรูปจะมีลักษณะไม่เหมือนกันเลยมีเอกลัษณ์เฉพาะ ถ้าใครสัมผัสรูปปั้นไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกอุ่นหรือร้อนแสดงว่าพระรูปนั้นยังมีชีวิตอยู่ ป้ายแกะสลักหินที่มีอักษรโบราณ ได้เขียนเรื่องราวต่างๆ บันทึกเอาไว้ ในสถานที่แห่งนี้จะมีรูปปั้นพระจำนวน ๕๐๐ รูป นั่งสวดมนต์ภาวนาอยู่ ด้านหน้าของวัด แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ตามจุดจอดต่างๆ ต่อไปเราจะไปเที่ยววัด Renkeji ซึ่งไม่ไกลจากนี้ เดินประมาณ ๕ นาทีก็ถึงค่ะ สุดท้าย ขอขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้ แล้วพบกันใหม่ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 16 กันยายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 18 กันยายน 2555 2:10:48 น. |
Counter : 2467 Pageviews. |
|
|
|