space
space
space
 
มีนาคม 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
22 มีนาคม 2567
space
space
space

นิพพานเป็นอย่างไร กระทู้สนทนา ติดตามแล้ว ศาสนาพุทธ ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 0 0 ความคิดเ นิพพานเ
นิพพานเป็นอย่างไร กระทู้สนทนา ติดตามแล้ว ศาสนาพุทธ ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 0 0 ความคิดเ

 

นิพพานเป็นอย่างไร


กระทู้สนทนา

ศาสนาพุทธ

ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า
0
 
0
 


ความคิดเห็นที่ 1.

นิพพานเป็นอย่างไร
กระทู้สนทนา
ติดตาม
ศาสนาพุทธ
ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า
0 0
สมาชิกหมายเลข 7881572
1 ชั่วโมงที่แล้ว

------


https://pantip.com/topic/42367614/desktop
.
.

จุดหมายปลายทางของศาสนาพุทธ คือไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว หมายถึงไปนิพพานใช่ไหม

ครัย 

--------- ความจริง เป้าหมาย  คือ การพ้นทุกข์ทั้งมวล

คือ พ้นทั้งทุกข์ทางใจ ในชาติปัจจุบัน และพ้นทุกข์ทั้งทางกายและใจ ในอนาคต




และนิพพานอยู่ที่ไหน อยู่บนสวรรค์

---------- นิพพาน คือ สภาวะสงบ สันติสุข 

       ที่รับรู้ด้วยจิตใจ 


(เหมือนที่ใจ การรับรู้ความสุข ความทุกข์)




    คือ เมื่อ จิต มีสติ ดู ร่างกาย หรือจิต(เวทนา จิต ธรรม(สิ่งที่เกิดขึ้นในใจ)

     เห็นการเกิดดับ ไม่คงที่ตลอดเวลา 

     จึงรู้ว่า กายและจิต ไม่คงที่ ไม่คงทน(วิปัสสนาญาณ) จะนับ ณ กายหรือจิตใดๆ ณ เวลาใดๆ ส่าเป็นตัวตนก็ไม่ได้



    เมื่อ เห็นความจริง จิตก็ ปล่อยวาง ความยึดถือผิดว่า กายและจิต เป็นตน

      มรรค 8 ประการ รวมตัวกันในจิต

(มัคคสมังคี, มัคคจิต, มัคคญาณ),  

   ตัดกิเลส ที่มีในจิต แต่ละขั้น(4ขั้น)


     แล้วจิต  รับรู้ สภาวะสงบสันติสุข (นิพพาน) นี้ (ผลจิต, จิตญาณ) ทันที

      เมื่อตัดกิเลส 4 ขั้นแล้ว ก็ไม่มีความยึดถือที่ผิดว่ากายและจิตเป็นตน  จิตใจสงบร่มเย็นเย็นตลอดเวลา(เพราะไม่มีเหตุ ทำให้เกิดความทุกข์ใจเลย)

      เป็นบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นและสังคมสูงสุด 

     เพราะไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย  ทำประโยชน์แก่คนอื่น

 




--------

(มรรค(มีองค์ประกอบด้านจิตใจ 8 ประการ)รวมกันในจิตใจเป็นหนึ่งเดียว(มัคคสมังคี, มัคคจิต, มัคคญาณ(อ่านว่า  ยาน)) ตัดกิเลส แต่ละขั้น 4 ขั้น

มรรค(มีองค์8) เป็นสภาวะทางจิต  จึงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในจิตได้ เช่น

 เจตนา ละเว้นจากการ...ทำผิดทางกาย วาจา



https://abhidhamonline.org/aphi/p9/099.htm

(หน้านี้ คือหน้าที่99)




     แล้วจิต สัมผัสรับรู้ความสงบสันติสุข(นิพพาน)(จากการหมดความเร่าร้อนของกิเลสและผลของกิเลส) ทันที

(ผลจิต, ผลญาณ(อ่านว่า ยาน), บรรลุธรรม)


https://abhidhamonline.org/aphi/p9/100.htm

(หน้านี้ คือหน้าที่100)

----------

.

.




และนิพพานอยู่ที่ไหน อยู่บนสวรรค์ หรือไม่มีที่อยู่ 

-----------       นิพพาน เป็น สภาวะสงบสันติสุข รับรู้ด้วยใจ

(เหมือนความสุข ทุกข์ ที่รับรู้ด้วยใจ)




(หลังการตัดกิเลสแต่ละขั้น หรือ เมื่อต้องการรับรู้อีก ก็เข้า ผลฌาน)




           และจิตใจ ที่รู้ความจริง ตัดกิเลส(และรับรู้ นิพพาน)

แล้ว 

      เมื่อออกมาสู่ ภาวะปกติ  ก็ไม่มีความทุกข์ร้อนใจ(ว่ามีอะไรมากระทบตน)

     ใจสงบร่มเย็น

    ทำภาระกิจ ต่างๆ ด้วยความมีสติ ให้ถูกต้อง ตลอดเวลา 
 




นิพานคือที่ที่มีแต่ความสุข หรือที่ที่มีแต่ความว่างเปล่า

------- เป็น สภาวะสงบ สันติสุข  ที่รับรู้ด้วยใจที่ตัดกิเลสแต่ละขั้นแล้ว หรือ เข้าผลญาณ

.


.
แก้ไขข้อความเมื่อ 10 มกราคม เวลา 18:50 น.
ตอบกลับ
0
 
1
 

วงกลม  
10 มกราคม เวลา 18:46 น.
Mahasati Neo ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 2เป็นความสุข ถาวร ตลอดกาล
โดยที่ไม่มีวันลดน้อยถอยลง
ไม่มีความทุกข์หลงเหลืออยู่อีกเลย
และเป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้
ประจักษ์แจ้งได้ด้วยตัวเราเอง

ลองมาปฏิบัติธรรมตามนี้ครับ
https://www.dhamma.com/
ตอบกลับ
0
 
1
 

เมฆน้อยคอยดาว 
10 มกราคม เวลา 18:47 น.
Mahasati Neo ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 3อันนี้ฟังมาจากครูบาอาจารย์นะครับ

นิพพาน

สงบ
เย็น
สันติ
สว่าง
ว่างไม่มีขอบเขต
เป็นอิสระ
สะอาด
บริสุทธิ์
มีความสุข
ไม่เกิดไม่ดับ
เป็นสภาวะที่อยู่เหนือเหตุผลของมนุษย์
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 1261517 
10 มกราคม เวลา 18:50 น.
ความคิดเห็นที่ 4...นิพพาน..คือ การหมดกิเลสโดยสิ้นเชิง ความทุกข์สิ้นสุด ไม่เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิใดๆอีก...
ตอบกลับ
0
 
0
 

ผีเสื้อพเนจร 
10 มกราคม เวลา 19:07 น.
ความคิดเห็นที่ 5เพี้ยนปักหมุด
ตอบกลับ
0
 
0
 

นักลงทุนไวไว 
10 มกราคม เวลา 19:16 น.
ความคิดเห็นที่ 6ไม่มีใครรู้หรอกครับ   เพราะทุกคนที่ยังมีชีวิตก็ไม่เคยนิพพาน   คนที่นิพพานไปแล้วก็ไม่เคยกลับมาบอกได้ว่าเป็นอย่างไร
ตอบกลับ
0
 
0
 

zodiac28 
10 มกราคม เวลา 20:12 น.
ดู 1 ความเห็นย่อย
ความคิดเห็นที่ 7ที่ตรงกันคือ  หมดทุกข์ในใจโดยสิ้นเชิง และไม่ต้องมาเกิดอีก   นอกจากนั้นไม่ค่อยจะตรงกัน
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 5727294
10 มกราคม เวลา 21:27 น.
ความคิดเห็นที่ 8พระพุทธเจ้าสอนว่า ไม่ต้องทุกข์อีกแล้ว คือการพ้นทุกข์ถาวร ไม่ทุกข์ทางใจ ไม่ทุกข์ทางร่างกาย หรือทางอื่นๆอีกเลย
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 1101943 
10 มกราคม เวลา 22:06 น.
ความคิดเห็นที่ 9...นิพพาน ไม่ใช่สภาวธรรมที่จะเจอหลังจากตายไปแล้ว ...การเจอนิพพานจะเจอในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เท่านั้น แต่บางคน เมื่อเจอนิพพานเรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะตายทันที ก็พอมีบ้าง
...การเจอสภาวนิพพาน เรียกว่า ได้บรรลุมรรคผล คือ จิตเห็นนิพพานปรากฏ กิเลสก็ถูกทำลายไปพร้อมๆกันในขณะนั้น  เช่น ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้บรรลุธรรมในตอนเช้าวันวิสาขะ เป็นพระพุทธเจ้า ..นั่นแหละ ตอนนั้นพระองค์ได้เห็นนิพพานแล้ว  หลังจากนั้น ทรงมีพระชนมายุต่อมานานอีก ๔๕ ปี
ตอบกลับ
1
 
1
 

ผีเสื้อพเนจร 
10 มกราคม เวลา 22:51 น.
วงกลม ซึ้ง
ความคิดเห็นที่ 10คือความว่างเปล่า
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 2009943  
10 มกราคม เวลา 23:30 น.
 
ความคิดเห็นที่ 11สวัสดีครับ
  
     "นิพพานเป็นอย่างไร"        

       จขกท.เคยดีใจอะไรมาก ๆ หรือเปล่า เช่น กลัวสอบตก  แต่ผลออกมา
"สอบผ่าน ได้ขึ้นชั้น" หรือกังวลอะไรหนัก ๆ  แล้วปัญหา ได้รับการแก้ไข คลี่คลาย
จะเกิดอารมณ์ ดีใจ โล่งใจ  ปลอดโปร่งใจ   ปิติ  ชื่นใจ...

       นิพพานอารมณ์จะเป็นอย่างนั้น   แต่มันจะมากกว่านั้นอีกหลายเท่า  ภาษาธรรมเรียก
ว่า "วูปสโม สุโข" แปลกันว่า "สุขที่ยิ่งกว่าสุข" และอาการอย่างนั้นมันจะอยู่กับเราแบบ
ยาวนานตลอดไป  (เพราะทุกข์ตัวสุดท้ายมันหมดแล้ว และจะไม่เกิดทุกข์ขึ้นมาอีก)
        นิพานเป็นอย่างนี้แหละ....โดยประมาณ
............................................................................................................................
       ทางคำภีร์  "นิพพาน"  จะแบ่งเป็น 2 อย่าง(สองช่วง) คือ

     1.ยังมีชีวิตอยู่เหมือนคนปกติ แบบเรา ๆ แต่สภาวะจิตใจหมดทุกข์แล้ว มีอารมณ์เหมือนที่กล่าวแล้ว เรียก "สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ"
     2.ต่อมาคนนั้น "ตาย" จริง ๆ  ไม่มีลมหายใจ ตายแบบร่างกายเน่าเปื่อย เรียก "อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ"  และคนนี้จะไม่มาเกิดอีกแล้ว

      ปล.จะมีอารมณ์ "นิพพาน" ได้ต้องปฎิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธอย่างถูกต้อง  หลัก ๆ คือ ต้องพบสัตบุรุษ(ครู อาจารย์) ที่สอนให้
เรารู้จักทำใจ ในใจ(เรียก โยนิโส มนสิการ) เป็น

             ขอบคุณครับ
ตอบกลับ
0
 
0
 

จุ๊ด.จุ๊ด 
10 มกราคม เวลา 23:48 น.
ความคิดเห็นที่ 12คือความอมตะ ในพระไตรปิฎก มีคำนี้เยอะมาก ความอมตะ
ตอบกลับ
0
 
1
 

สมาชิกหมายเลข 5993621
11 มกราคม เวลา 00:17 น.
Mahasati Neo ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 13นิพพาน คือคำที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ และหากศึกษาดี ๆ เราจะพบว่า การจินตนาการถึงนิพพานไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้น เราจึงต้องมาดูสิ่งอื่นประกอบด้วย เช่น ผู้เข้าถึงนิพพานนั้นเป็นอย่างไร

อันดับแรก นิพพานไม่ใช่การดับสูญ หากนิพพานเป็นการดับสูญ แล้วทำไมจึงต้องมาสอนให้นิพพานกัน และทำไมเมื่อมีผู้กล่าวว่าพระพุทธเจ้าสอนการขาดสูญ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่าพระองค์สอนการขาดสูญของกิเลสเท่านั้น การกล่าวว่าพระองค์สอนการขาดสูญจึงเป็นเรื่องผิด

อีกทั้งนิพพานนั้นมีคุณสมบัติอันวิเศษหลายประการ เช่น มีความเป็นอมตะ มีความเที่ยงแท้ เป็นบรมสุข (ไม่ใช่ไม่มีสุขไม่มีทุกข์) ผู้ที่เข้าถึงนิพพานก็กลับเป็นผู้เบิกบาน มีสติ มีปัญญาเหนือกว่าคนทั่วไป ซึ่งไม่น่าจะเป็นคุณสมบัติของความขาดสูญที่ไม่ควรจะมีอะไรเลย แต่ปรากฎว่าผู้ที่ถึงฝั่งพระนิพพานแล้ว มักมีคุณสมบัติที่เลิศกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ เช่น มีความประพฤติดี มีปัญญาดี มีฤทธิ์ มีความแตกฉานด้านภาษา เป็นต้น

ฉะนั้น ดูจากผู้ที่เข้าถึงนิพพานมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น นิพพานย่อมไม่ใช่อะไรที่เลวร้ายหรือน่ากลัวอย่างที่หลายคนจินตนาการ เพราะพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้เข้าถึงนิพพาน ล้วนเป็นผู้มีอัธยาศัยอันดีงามและเบิกบาน ไม่ใช่ห่อเหี่ยวไร้อารมณ์ อีกทั้งไม่ใช่การสูญหายไปเฉย ๆ เป็นการสูญหายของเหตุและปัจจัยเท่านั้น สิ่งที่เกิดแต่เหตุ สิ่งนั้นย่อมดับ นั่นคือทุกอย่างที่เรารับรู้ในโลกนี้ แต่นิพพานไม่เคยเกี่ยวข้องกับโลกนี้ นิพพานไม่มีเกิด จึงไม่มีการดับ ทว่านิพพานก็คือนิพพาน ไม่ใช่ความดับสูญและไม่ใช่ตัวตนด้วย เพราะตัวตนมันเกิดได้และดับได้

ในหลายพระสูตรมีการแจกแจงไปว่า ผู้คนยึดตัวตนเพราะเป็นสัตว์บ้าง เป็นมนุษย์บ้าง เป็นรูปพรหมบ้าง เป็นอรูปพรหมบ้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีวิญญาณเป็นเครื่องรู้ และการยึดตัวตนก็สุดเพียงแค่นี้ แต่พอเลยจากอรูปพรหมไปถึงนิพพานก็ไม่มีการยึดตัวตนแล้ว ที่ไม่ต้องยึดเพราะนิพพานไม่มีปัจจัยใด ๆ ให้หลงผิด ไม่มีปัจจัยใด ๆ ให้สมมติ มันเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ถึงจุดนี้เพราะการจินตนาการของคนธรรมดาไปไม่ถึง จึงมีวาทะต่าง ๆ กันไป แปลตำราต่าง ๆ กันไป หรือมีผลการปฏิบัติต่าง ๆ กันไป แต่ไม่จำเป็นต้องไปกล่าวถึงจุดนั้น รู้แค่ว่านิพพานนั้นดีจริงก็พอ เพราะผู้ที่บรรลุถึงนิพพานแล้ว ย่อมเห็นด้วยตนเองว่าไม่มีสิ่งใดเปรียบได้ ไม่ใช่แค่ความดับสูญอย่างที่เราจินตนาการ ไม่ใช่อะไรสักอย่างที่เราจินตนาการจากสิ่งที่เราเคยพบเห็น พระพุทธเจ้าจึงทรงปฏิเสธทิฎฐิของนักปราชญ์ทั้งหลาย เพราะการจินตนาการใด ๆ ในโลกมันไปเทียบเคียงนิพพานไม่ได้นั่นเอง

ถ้าจะกล่าวโดยสรุป นิพพานนั้นคือจุดหมายปลายทางของทุกคน และเป็นทุกสิ่งที่ทุกคนต่างแสวงหา ไม่มีใครเลยที่ไปถึงนิพพานแล้วจะไม่พอใจ ไม่ว่าเราจะปรารถนาอะไรในโลกนี้ พอถึงนิพพานแล้วย่อมพอใจเฉพาะนิพพานนั้น เพราะไม่มีอะไรเปรียบได้ แต่ที่เรายังไม่เข้าใจหรือยังไม่อยากปรารถนานิพพาน เพราะเราเคยชินกับสภาพของใจที่มีกิเลสสิงอยู่ในใจ ซึ่งกิเลสคือโลภ โกรธ หลง จะคอยสอนให้เราพอใจและชอบใจกับสิ่งอื่นที่มีสุขเป็นประตูแต่มีปลายทางเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป

เปรียบเหมือนโจรที่มีความสุขกับทรัพย์ที่ขโมยมาได้ แต่ก็ต้องคอยหนีตำรวจ คอยหลบซ่อน คอยวางแผนปล้น เอาชีวิตไปเสี่ยงตายกับทรัพย์จำนวนไม่มาก ย่อมไม่เข้าใจความสุขของคนที่ทำมาหากินสุจริตจนฐานะมั่นคงและไม่ต้องคอยระวังตำรวจฉันใดฉันนั้น ความสุขที่มนุษย์แสวงหาก็ฉันนั้น เมื่อเทียบกับนิพพานแล้วเทียบไม่ได้เลย เหมือนฝุ่นที่ปลายเข็ม ไม่สามารถเทียบกับผืนปฐพีอันกว้างใหญ่ได้เช่นนั้น ดังนั้น นิพพานจึงกล่าวได้ว่าเป็นเลิศที่สุด เป็นยอดที่สุด ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนได้ และแน่นอน ที่มันเป็นเช่นนั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่มีสาระ ไม่ใช่สิ่งที่ไร้สาระเหมือนความคิดที่ว่านิพพานแล้วจะดับสูญเหมือนการตายแล้วสูญ เพราะความดับสูญมันหาสาระไม่ได้ ซึ่งตรงข้ามกับนิพพานเลย ความจริงคือทุกสิ่งที่ดับสูญไปล้วนไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานไม่มีการเกิดและไม่มีการดับ แต่ทว่ามีการเข้าถึงได้อยู่
ตอบกลับ
0
 
0
 

พักผ่อน  
11 มกราคม เวลา 00:34 น.
ความคิดเห็นที่ 14ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรหรอก  แต่เข้าถึงได้ยาก
ตอบกลับ
0
 
0
 

สะพานหมุนติ้ว 
11 มกราคม เวลา 01:29 น.
ความคิดเห็นที่ 15มีแต่ ใครๆ จะเอา นิพพาน
          
             แต่.

   นิพพาน      ไม่เอาใคร
ตอบกลับ
0
 
0
 

ผ่าน 
11 มกราคม เวลา 05:52 น.
ความคิดเห็นที่ 16“ธรรมชาตินี้สงบ ธรรมชาตินี้ประณีต :
คือภาวะที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง
เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความคลายกำหนัด
(วิราคธรรม) เป็นความดับ .

ธรรมเป็นที่ดับแห่งทุกข์ทั้งปวงโดยไม่เหลือ
🔥เพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง

🌍🌏🌎
ธรรมเครื่องสลัดตนออกจากโลก.

นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ ฯ"
(เพราะนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง)
ตอบกลับ
0
 
1
 

สมาชิกหมายเลข 3459975 
11 มกราคม เวลา 07:12 น.
Mahasati Neo ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 17นิพพานคือ​ อมตะ​ เพราะไม่เกิด​ ไม่แก่​ ไม่เจ็บ​ ไม่ตาย
ตอบกลับ
0
 
2
 

สมาชิกหมายเลข 7326608
11 มกราคม เวลา 11:34 น.
Mahasati Neo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3402001 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 18ต้องการนิพพานต้องรู้ถูก
https://pantip.com/topic/30134196/comment5

สีเล ปติฐาย นโร สปญฺโญ
จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาวยํ
อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ
โส อิมํ วิชฏเยชฏํ



ความว่า นรชาติชายหญิง ผู้มีปัญญาแต่กำเนิด
มีความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลสมีปัญญาบริหารจิต
เห็นภัยในการเวียนว่ายตายเกิด ตั้งมั่นในศีล
อบรมสมาธิและวิปัสสนาปัญญาเท่านั้น นรชนชาติชายหญิงนี้เท่านั้น
จึงจะสามารถสางรกชัฏที่เป็นเสมือนข่ายคือ ตัณหาออกได้


ความหมายของพระนิพพานจาก พระไตรปิฏก อรรถกถา
https://pantip.com/topic/31817916/comment1

https://pantip.com/topic/33679699/comment15

นิพพานมี ๒  ประเภท
                  นิพพาน  เมื่อกล่าวโดยปริยายแห่งเหตุ(การณูปจารปัจจัย)แล้ว มี  ๒  ประเภท  คือ
                 ๑. สอุปาทิเสสนิพพาน   ได้แก่  นิพพานที่เป็นไปกับขันธ์ ๕    = ทิฏฺฐธมฺมนิพฺพานํ
                  ๒. อนุปาทิเสสนิพพาน   ได้แก่  นิพพานที่ไม่มีขันธ์ ๕


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สภาพของนิพพาน
https://abhidhamonline.org/aphi/p6/084.htm

อาจารย์ผู้บอกกรรมฐานอย่างน้อยที่สุด
ก็ต้องเป็นผู้ไม่เลอะเลือนทั้งในพระไตรปิฎกและอรรถกถา
https://pantip.com/topic/38517496/comment9
ตอบกลับ
0
 
1
 

สมาชิกหมายเลข 3402001  
11 มกราคม เวลา 12:54 น.
Mahasati Neo ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 19กรณีธรรมกลาย
https://www.watnyanaves.net/th/book_detail/10

https://dharmasamathi.wordpress.com/2013/05/17/%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA/


นิพพานเป็นอนัตตา…..42
นิพพาน ไม่ใช่ปัญหาอภิปรัชญา…..42
แหล่งความรู้ที่ชัดเจนมีอยู่ ก็ไม่เอา กลับไปหาทางเดาร่วมกับพวกที่ยังสับสน…..47
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แน่นอนเด็ดขาด ว่าลัทธิถืออัตตาไม่ใช่คำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า…..50
พระไตรปิฎกและอรรถกถาระบุว่า นิพพานเป็นอนัตตา…..53
การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา…………60
การใช้ตรรกะที่ผิด เพื่อให้คิดว่านิพพานเป็นอัตตา…..64
การจับคำความที่ผิดมาอ้างเป็นหลักฐาน เพื่อให้นิพพานเป็นอัตตา…..66
เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็หาทางทำให้สับสน……68
เมื่อหลักฐานก็ไม่มี ตีความก็ไม่ได้ ก็หันไปอ้างผลจากการปฏิบัติ…..71
เพราะไม่เห็นแก่พระธรรมวินัย จึงต้องหาทางดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นสัจจะ…..73
ความซื่อตรงต่อหลักพระศาสนา และมีเมตตาต่อประชาชน คือหัวใจของการรักษาระบบไตรสิกขาไว้ให้แก่ประชาสังคม…..75

คณะธรรมกลาย คณะแอบจิตและ จิตเที่ยง เป็นอมตะ มหานิรันดร์กาล
ตั้งกระทู้ เลี่ยงพระบาลี บิดเบือนพระธรรมวินัย ครับ
ให้ จิตเที่ยง และ นิพพาน  เป็นอัตตา ตัวตน
https://pantip.com/topic/39040011/comment6

ความเห็นผิดสุดโต่ง ๒ สาย (ธรรมกลาย&มโนอิทธิ, พุทธทาส+นักบวชคึก+สันติอโศก)
https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y2639614/Y2639614.html
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 3402001  
11 มกราคม เวลา 12:55 น.
ความคิดเห็นที่ 20คือความดับ สุข สงบเย็น
ยิ้ม
https://m.pantip.com/topic/37487612?

ตอบกลับ
0
 
0
 

Mahasati Neo  
11 มกราคม เวลา 13:13 น.
ความคิดเห็นที่ 21คือ บรมสุข
ไม่มีสิ่งปรุงแต่งให้เกิดขึ้น เมื่อไม่เกิดก็จะไม่เสื่อมสลาย และไม่มีการดับสูญ
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 869744
11 มกราคม เวลา 14:52 น.
ความคิดเห็นที่ 22ถามเรื่องที่เป็นอจินไตย ยิ่งถามยิ่งบ้า เพราะที่อยู่กันในโลกนี้ ไม่เคยมีใครเห็นนิพพาน ถามได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ อย่าว่าคำตอบมโนเลย คำถามก็มโนเพ้อเจ้อ
เจ้าหอบเงิน
แก้ไขข้อความเมื่อ 12 มกราคม เวลา 19:34 น.
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 5107524 
12 มกราคม เวลา 12:24 น.
ความคิดเห็นที่ 23ขอบคุณครับ



Create Date : 22 มีนาคม 2567
Last Update : 22 มีนาคม 2567 6:22:01 น. 0 comments
Counter : 12 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 7881572
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 7881572's blog to your web]
space
space
space
space
space