Group Blog
 
 
มีนาคม 2563
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 

3 วิธี แปลเอกสารขอวีซ่าไปต่างประเทศ


สำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศ จำเป็นต้องเตรียมแปลเอกสารขอวีซ่า เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขออนุญาตเข้าประเทศจุดหมายปลายทาง
เอกสารขอวีซ่าและหนังสือเดินทางจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศ เพราะจะใช้บอกถึงระยะเวลาที่เราสามารถอาศัยอยู่ภายในประเทศนั้นได้ในช่วงระยะเวลาจำกัด ซึ่งแต่ละประเทศจะมีเงื่อนไขการใช้วีซ่าที่แตกต่างกัน บางครั้งจำกัดจำนวนครั้งการใช้งานวีซ่า
ดังนั้นวีซ่าจะมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับบความต้องการที่เราจะเดินทางไปยังประเทศนั้น เพื่อทำอะไร ท่องเที่ยว เรียนต่อ หรือทำงาน
วีซ่าถือว่าเป็นหลักฐานเอกสารสำคัญในการขออนุญาตเข้าประเทศนั้นๆ สำหรับชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าไปยังประเทศจุดหมายปลายทาง
แต่สำหรับบางประเทศไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ก็สามารถเดินทางผ่านเข้าประเทศนั้นได้เลย ช่วยประหยัดเวลา และสะดวกสบาย เหมาะสำหรับสำหรับนักท่องเที่ยว แต่มีเงื่อนไข สำหรับประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า จะจำกัดจำนวนวันที่เราสามารถอยู่ในประเทศนั้นๆ  ยกตัวอย่างเช่น กัมพูชา เมียนมา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน มัลดีฟส์ฮ่องกง เกาหลี และบราซิล

แปลเอกสารขอวีซ่าไปต่างประเทศ

หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต (Passport) ก็คือ บัตรประชาชนของนักท่องเที่ยวที่จำเป็นต้องใช้ยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศนั้นๆ
หนังสือเดินทางจะประกอบกันอยู่หลายหน้า ภายในเล่มจะมีข้อมูลแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของเรา อาทิ เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ สัญชาติ ศาสนา อาชีพ พร้อมกับการลงลายมือชื่อของเรา ซึ่งกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้ที่ให้บริการออกหนังสือเดินทางให้กับเรา เท่านั้น
ดังนั้นหนังสือเดินทางของเราจำเป็นที่จะต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เพราะจะต้องนำไปใช้ยังหลายประเทศทั่วโลก ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวของเราทั้งหมด จะต้องแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากลใช้กันทั่วโลก
หลังจากที่ข้อมูลของเราเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องแล้ว จะต้องผ่านการรับรองความถูกต้อง จากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งก่อนจะผ่านขั้นตอนนี้ เราจะต้องมีการลงนามรับรองคำแปลถูกต้องจากผู้แปลภาษาที่เชี่ยวชาญ

วิธีแปลเอกสารขอวีซ่า

3 วิธี แปลเอกสาร ให้ถูกต้องและรวดเร็ว
1.ใช้บริการแปลภาษาออนไลน์  Google Translate ซึ่งการแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง อาจจะเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างค่อนข้างเยอะพอสมควร เพราะจะต้องมีพื้นฐานหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ หรือ Grammar (แกรมม่า) วิธีนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ต้องใช้ระยะเวลา และไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นแปลเอกสาร เพราะอาจเกิดความผิดพลาด ส่งผลทำให้เอกสารแปลผิด จึงไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เราสูญเสียไป จึงแนะนำให้ไปดูวิธีที่ 3
2. หาแบบฟอร์มแปลเอกสาร แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากหนังสือเดินทางใช้เฉพาะภาษาอังกฤษในการกรอกข้อมูล ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาระดับสากล ดังนั้นแบบฟอร์มรูปแบบการใช้คำศัพท์จึงมีความเหมือนกัน อาจจะต่างกันตรงข้อมูลและรายละเอียดส่วนตัวของเราเท่านั้น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้มีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับค่อนข้างดี
3.ใช้บริการร้านรับแปลเอกสารที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่า คำถามแรกคือ แล้วเราจะเลือกใช้บริการจากร้านไหนดี ?? หากใช้บริการเป็นครั้งแรก ก็แนะนำว่า ควรเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้เราเกิดความรู้สึกมั่นใจว่า จะได้รับงานแปลที่มีคุณภาพและตรงเวลา ซึ่งเราสามารถนำราคางานแปลเอกสารของแต่ละร้านที่เราหาได้ มาทำการเปรียบเทียบราคาในเบื้องต้นก่อน เพื่อดูว่าความเหมาะสมและความคุ้มค่า และการติดต่อกับผู้ให้บริการแปลเอกสารจะต้องสะดวกและรวดเร็ว
ซึ่งในปัจจุบันนี้จะพบว่า มีบริษัทและร้านรับแปลเอกสาร เพิ่มจำนวนขึ้น เนื่องจากผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ ต้องการเดินทางไปยังต่างประเทศเพื่อ ท่องเที่ยว เจรจาทำธุรกิจ รวมถึงการศึกษาต่อในต่างประเทศ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการสื่อสารที่มีความรวดเร็ว ทำให้การแปลภาษาเป็นเรื่องง่าย

 




 

Create Date : 24 มีนาคม 2563
0 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2563 15:02:27 น.
Counter : 923 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 3510700
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3510700's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.