ดินสอสีชมพู
งานเขียน
นิทาน
ไดอารี่-สีชมพู
<<
กุมภาพันธ์ 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
9 กุมภาพันธ์ 2553
ความสุขเล็กๆบนเส้นทางสายเดิม
ลมสงบ
ความสุขเล็กๆบนเส้นทางสายเดิม
พี่ชายสีขาว
ความสุขเล็กๆบนเส้นทางสายเดิม
ความสุขเล็กๆบนเส้นทางสายเดิม
ในชีวิตของฉัน แต่ละวันที่ผ่านมาไม่มีอะไรที่แตกต่างเลย ทุกวันเป็นไปอย่างเรียบง่ายและคงเดิมทุกวัน
ในทุกๆวันชีวิตของฉันเต็มไปด้วยความเร่งรีบและอ่อนล้า เริ่มต้นจากเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกของฉันดังขึ้น ฉันก็รู้สึกอ่อนแรงเกินที่จะหยุดเสียงดังอันรบกวนนั้น ฉันหลับต่อโดยทิ้งให้เสียงของนาฬิกาปลุกยังดังอยู่อย่างนั้นนานนับ 10 นาที หลังจากนั้นฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา เสียงของนาฬิกาปลุกยังดังอยู่อย่างเดิม ฉันเหลือบมองดูนาฬิกาแล้วตกใจมาก แย่แล้ว สายแล้ว ฉันบ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด ที่ฉันตื่นสายกว่าเวลาที่ฉันตั้งปลุกเอาไว้ แล้วฉันก็รีบดีดตัวเองขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว รีบอาบน้ำแต่งตัว รีบออกจากห้องพัก
โดยนั่งมอเตอร์ไซด์มาที่วินรถตู้ ฉันยื่นเข้าแถวสักพัก พอรถตู้มาจอดเทียบท่าทุกคนต่างรีบเดินเบียดกันขึ้นรถตู้จับจองที่นั่งของตนเอง คราวนี้ถึงคราวฉันเบียดขึ้นไปได้บ้าง คนขับตะโกนไล่หลังมาว่า น้องเต็มแล้ว รอคันหลังเดี๋ยวมา โอ้! อะไรกันเนี๊ย ? เข้าแถวรอตั้งนาน รอคันหลังอีกนานกว่าคนจะเต็ม ฉันบ่นในใจอย่างหงุดหงิด ฉันยืนรอรถตู้อยู่นานรถก็มา ฉันนั่งในรถตู้ที่เบียดกัน 4 คน ทั้งๆที่แถวตรงกลางนั่งได้ 3 คนก็ลำบากแล้ว จนตัวฉันถูกเบียดติดกระจกแทบจะทะลุออกไปนอกตัวรถเลยที่เดียว แอร์ก็ไม่เย็นหายใจแทบก็ไม่ออก ระหว่างการเดินทางมาทำงาน
ฉันรู้สึกว่าฉันรีบเร่งทำทุกอย่างแต่ทำไมวันนี้ทุกอย่างถึงได้สายไปหมดเสียทุกอย่าง ฉันได้แต่รู้สึกแย่ในใจรู้สึกโกรธทุกคนรอบกายและ...รู้สึกโกรธตัวเอง
ฉันมาทำงาน ได้ทันเวลาเข้างานพอดี แต่ฉันรู้สึกไม่มีความสุขเลย ทั้งๆที่ฉันเร่งรีบตลอดเช้านี้เพื่อมาให้ทันเข้าทำงาน ระหว่างวันฉันรู้สึกเบื่อกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ฉันรู้สึกไม่มีความสุข และเมื่อถึงเวลากลับบ้านฉันก็อ่อนล้าและหมดแรง
ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกชีวิตของฉันไม่มีอะไรที่แตกต่างเรื่องราวชีวิตของฉันที่เผชิญอยู่ น่าเบื่อ จำเจ ซ้ำซาก ฉากชีวิตเดิมๆซ้ำๆก็วนไปวนมา จนฉันเองได้กลายเป็นเนื้อเดียวกันของฉากชีวิตแห่งนี้ที่มีฉันร่วมแสดงด้วยในทุกบทบาท
ในเช้าวันนี้เป็นเช้าของวันทำงานเหมือนทุกๆวัน แต่ในเช้านี้ไม่มีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอีกแล้ว...มีเพียงเสียงของนกตัวน้อยๆร้องเพลงบนยอดไม้ ทักทายแสงแรกของวันใหม่ ที่ดังแว่วผ่านช่องว่างของหน้าต่างเข้ามาขับกล่อมฉันถึงในห้องนอน ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของวันใหม่ และกลิ่นอุ่นของไอแดดของยามเช้า ฉันเดินเท้าเปล่าไปนั่งที่ม้านั่งในสนามหญ้าข้างบ้าน ฉันนั่งหลับตาอยู่เงียบๆตามลำพัง สัมผัสกับสิ่งต่างๆรอบๆตัว และจมดิ่งกับความห้วงความคิดของตนเอง
เมื่อภาพและความรู้สึกเดินทางมาทับซ้อนกันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวความฝันเมื่อคืนก่อนที่ฉันฝันเห็นตัวเองที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางอันยาวไกลไม่มีจุดสิ้นสุด เพียงลำพัง โดยไม่มีรู้จุดมุ่งหมายว่าฉันกำลังเดินไปที่แห่งใดและเพื่ออะไร ฉันรู้สึก อ่อนแรง กลัว และโดดเดียว
ระหว่างทางฉันเจอกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่กับการเก็บดอกไม้หลากสีสันในทุ่งกว้าง เสียงหัวเราะของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ช่างสดชื่น สดใส และมีความสุข จนฉันเองรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงหัวเราะนี้เหลือเกินแต่ฉันเองจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินจากที่ไหนและเมื่อไหร่ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นวิ่งเข้ามาจับมือฉัน พร้อมกับพูดว่า พี่สาวค่ะ มาจับผีเสื้อด้วยกันไหมค่ะ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆพูดเชิญชวนพร้อมกับจูงแขนของฉันให้เดินไปข้างหน้า ฉันหัวเราะในความไร้เดียรสาของเด็ก แล้วพูดว่า เด็กน้อย จะจับผีเสื้อได้อย่างไร พวกผีเสื้อมันมีปีก เราวิ่งไล่จับมัน มันก็บินหนีเราไป อย่างนี้วิ่งไล่จับจนเหนื่อยก็ไม่ได้ผีเสื้อสักตัว เราอย่าเสียเวลาเลยวิ่งไล่จับเลยนะ ฉันตอบเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆด้วยความมั่นใจในความถูกต้องของสิ่งที่ฉันพูด
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หยุดเดินและหันมามองหน้า ดึงแขนฉันให้ฉันนั่งลงกับพื้น แล้วเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆก็เด็ดดอกไม้ที่อยู่รอบๆกายขึ้นมา ฉันรู้สึกแปลกใจและสงสัยในสิ่งที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆกำลังทำอยู่ ฉันกำลังจะเอ่ยปากถาม เธอก็เอานิ้วชี้เล็กๆ มาแตะที่ริมฝีปากของฉัน เพื่อบอกให้ฉันเงียบเสียงและให้ฉันนั่งนิ่งๆ สักพักก็มีผีเสื้อบินเข้ามาเกาะที่ดอกไม้ที่ละตัวจนเต็มไปหมดทุกดอก เด็กหญิงตัวเล็กๆ หันมายิ้มให้ฉันอย่างมีความสุข ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้สามารถจับผีเสื้อได้โดยที่ไม่ต้องวิ่งไล่จับ และตอนนี้ผีเสื้อทุกตัวต่างโบยบินเข้ามาหาเธอ
พี่สาวค่ะ ผีเสื้อพวกนี้ชอบดอกไม้ค่ะ เมื่อก่อนหนูไปวิ่งไล่จับผีเสื้อที่สวนดอกไม้ของคนอื่น แต่ทุกวันนี้หนูไม่ต้องต้องออกไปวิ่งไล่จับผีเสื้อที่สวนดอกไม้ของคนอื่นแล้วค่ะ ผีเสื้อชอบดอกไม้ หนูก็เลยปลูกดอกไม้เยอะๆ พวกผีเสื้อก็พากันเข้ามาอยู่ที่ทุ่งดอกไม้ของหนูเต็มไปหมดเลยค่ะ พี่สาวมาช่วยกันปลูกดอกไม้กันไหมค่ะ
ไม่หรอกจ๊ะพี่คงไม่มีเวลามากขนาดนั้น พี่ยังต้องรับผิดชอบอะไรตั้งหลายอย่าง ที่สำคัญในชีวิต ไม่มีเวลาที่จะมานั่งปลูกดอกไม้หรอกจ๊ะ ที่ฉันตอบปฏิเสธเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆไปตามรูปแบบของการตอบคำถามที่แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ ที่ต้องรับผิดชอบเรื่องใหญ่โตมากมาย ไม่มีเวลามาไร้สาระกับการปลูกดอกไม้เพื่อที่จะเรียกผีเสื้อเหมือนเด็กๆ
ฉันนั่งมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆออกไปวิ่งเล่นกับผีเสื้อในสวนดอกไม้ เธอหันมามองฉันด้วยสายตาแห่งความเศร้า ฉันสัมผัสได้ถึงแววตาแห่งความอาทรและความห่วงใย ก่อนที่เธอจะวิ่งไกลอกไป ไกลออกไป ทุกดอกไม้และผีเสื้อติดตามเธอไป แล้วทุกอย่างก็จางหายไป มีเพียงฉันที่อยู่บนเส้นทางอันยาวไกลไร้จุดสิ้นสุดที่รอบข้างเพียงความมืดปกคลุม ความรู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจ
จนฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก พบตัวเองนอนหลับอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งชุดทำงาน ในหอพักห้องเล็กๆกลางเมืองใหญ่ ฉันรู้สึกสงสารตัวเองเหลือเกินจนต้องร้องไห้ออกมา มีคำถามต่างๆมากมายเกิดขึ้นในในหัวของฉัน ฉันกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ และสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่นี้เพื่อใครกัน เป็นคำถามที่ฉันถามตัวเองอยู่เสมอ แต่ไม่เคยหาคำตอบให้ตัวเองเลยสักครั้ง
ในค่ำคืนนั้นฉันบอกกับตัวเองว่าคงต้องลองหาคำตอบให้กับตนเองสักครั้ง ฉันเตรียมเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋า ฉันจะกลับบ้าน บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก แต่ฉันก็เลือกที่จะย้ายมาอยู่ที่หอพัก ด้วยเหตุผลที่จะทำให้ฉันได้มาอยู่ใกล้ที่ทำงานมากขึ้น แต่ฉันก็ไม่เคยตื่นทันเพื่อที่จะกินข้าวเช้าเลยสักวัน และไม่ค่อยกลับบ้านเพราะฉันต้องทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมาเร่งรีบ และทุ่มเทให้กับสิ่งที่เรียกว่า ความสำเร็จ แต่ทุกครั้งที่ฉันผ่านจุดแห่งความสำเร็จแล้วฉันก็จะดิ้นรนเพื่อไปสู่ความสำเร็จอีกจุดหนึ่งอยู่ร่ำไป ทุกๆความสำเร็จ ที่เป็นเหมือนความสำเร็จรูปที่ทุกๆคนใฝ่ฝันจะไปถึงนั้น ฉันไม่พบความสุขอยู่เลย
ที่ม้านั่งตัวเดิม....ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น ฉันมองเห็นโลกใบนี้อย่างที่เป็น ฉันไม่ได้คาดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้เป็นดังใจที่ฉันต้องการ ฉันเพียงแต่หยุดเดินอย่างรีบเร่ง เพื่อที่จะทำให้ฉันได้มีเวลาทบทวนชีวิตของฉันเอง
ในเช้าวันพรุ่งนี้ ...บนเส้นทางแห่งชีวิตของฉันยังคงดำเนินต่อไป หากแต่บนเส้นทางแห่งนี้ฉันเริ่มที่จะปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขเอาไว้ด้วย หวังว่าสักวันเหล่าผีเสื้อตัวน้อยจะพาเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่สดใสและมีความสุข กลับมาเยือนฉันอีกครั้ง...
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 24 มีนาคม 2553 12:05:17 น.
1 comments
Counter : 395 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
nompiaw.kongnoo
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:52:09 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
pinktaka
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
coffeespoon
BabyBooks
วัดชิ
littlelotus
Webmaster - BlogGang
[Add pinktaka's blog to your web]
หนังสือน่าอ่าน
ดินสอสีชมพู
ครอบครัวตัวต่อ
Bloggang.com