ขอบคุณวันเวลาที่ทำให้เธอผ่านเข้ามาในชีวิต

 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 มีนาคม 2553
 

~*~ความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร~*~

ความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขความคุ้มครองของการประกันภัยรถยนต์ ทั้งประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท โดยนำหลัก Cash before cover คือ กรมธรรม์ประกันภัยจะเริ่มมีผลคุ้มครองก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ชำระดอกเบี้ยประกันภัยเรียบร้อยแล้ว และการเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองที่เอาประโยชน์แก่ผู้ทำประกันภัย โดยลดความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) 1.000 บาท จากเดิมที่กำหนดไว้ 2,000 บาท ของการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งมีเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 เท่านั้น

ความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก เป็นการให้ผู้เอาประกันภัยร่วมรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมรถยนต์เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหาย ในกรณีที่เกิดการชนขึ้นจริง แต่ไม่สามารถระบุคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งให้บริษัทที่รับประกันภัยทราบได้ หรือกรณีที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ เช่น จอดรถไว้ข้างถนนแล้วมาพบภายหลังว่ารถถูกชน กันชนท้ายและตัวรถเกิดความเสียหาย คิดเป็นมูลค่า 10,000 บาท กรณีนี้ ผู้เอาประกันภัยจะต้องร่วมรับผิดชอบในการจ่ายค่าเสียหาย 1,000 บาท ส่วนอีก 9,000 บาท บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายดังกล่าว

กรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิอชอบค่าเสียหายส่วนแรก คือ

- เกิดการชนกับรถ (ทุกประเภท) และไม่สามารถแจ้งรายละเอียดของรถคู่กรณีได้ เช่น ทะเบียนรถ
- เฉี่ยวกิ่งไม้ต้นไม้ กองวัสดุ หรือวัตถุใดๆ ที่ทำให้รถเป็นรอยครูด หรือขีดข่วน
- ไถลตกข้างทาง
- ถูกขีดข่วน หรือกลั่นแกล้ง
- โดนหิน หรือวัตถุอื่นๆ กระเด็นใส่ หรือตกใส่รถ ทำให้พื้นผิวสีของรถเสียหาย
- ถูกสัตว์กัดแทะเป็นรอยขีดข่วน
- ถูกละอองสีหรือปูน วัสดุอื่นๆ ตกใส่ โดยไม่ทราบผู้กระทำ
- ตกหลุมและครูดไปกับพื้นถนน ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถ
- ไม่สามารถแจ้งลักษณะการเกิดเหตุได้ชัดเจน
- ไม่สามารถแจ้งวัน เวลา และสถานที่ ที่รถได้รับความเสียหายได้อย่างชัดเจน
- ถูกทุบกระจกรถ โดยไม่สามารถแจ้งคู่กรณีหรือผู้ที่กระทำได้

ส่วนกรณีที่ผู้เอาประกันไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก คือ

- ชนคน สุนัข และสัตว์อื่นๆ
- ชนเสา ประตู รั้ว ต้นไม้ เสาไฟฟ้า กำแพง หรือวัตถุอื่นๆ จนทำให้ตัวรถและอุปกรณ์ต่างๆ บุบ แตก ร้าว อย่างชัดเจน
- ชนราวสะพาน ขอบทาง ทางเท้า หรือกองดิน ทำให้รถมีรอยบุบยุบ
- พลิกคว่ำ พลิกตะแคง ตกข้างทาง
- ถูกโจรกรรม ลักทรัพย์อุปกรณ์ภายในรถ
- ไฟไหม้ตัวรถและอุปกรณ์ภายในรถ
- กระจกรถแตก ร้าว โดยสามารถแจ้งสาเหตุของการแตกร้าวนั้นได้
- ภัยน้ำท่วม และลมพายุ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถที่ทำประกันภัยทุกครั้งควรแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบทันที ไม่ว่าจะเสียหายมากน้อยเพียงใดก็ตาม และต้องแจ้งวัน เวลา สถานที่ให้ชัดเจน รวมทั้งลักษณะความเสียหาย เพื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยจะได้ดำเนินการตรวจสอบความเสียหาย หรือมีข้อมูลได้อย่างครบถ้วน จากนั้นจึงสามารถนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการซ่อมทันที

ขอขอบคุณ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ที่มา: นิตยสาร Honda Automobile 4/2009



Create Date : 12 มีนาคม 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2553 19:15:03 น. 3 comments
Counter : 421 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ครับ
 
 

โดย: WishRich วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:19:38:28 น.  

 
 
 
รถโดนเผาประกันจะรับผิดชอบอย่างไร
 
 

โดย: 00 IP: 114.128.198.176 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:13:45 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ ประกันภัยรถยนต์
 
 

โดย: natterwoods วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:15:02:02 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Pikless
 
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ความรักเปรียบเสมือนเงา ยิ่งวิ่งไล่ยิ่งหนีห่าง
แต่ถ้าเราวางเฉย มันอยู่ใกล้ๆเรานี่เอง
[Add Pikless's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com