กรกฏาคม 2548
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 กรกฏาคม 2548
 
 

นายอำเภอสุดหล่อกับหลานสาวผู้ว่าสุดซ่าส์ ตอนที่ 5 มาแ

ตอนที่ 5

ขณะที่ดอกหญ้ากำลังจะเดินออกจากโรงพยาบาลเธอก็บังเอิญไปเห็นหมอสาวคนหนึ่งที่เหมือนเป็นคนที่เธอรู้จักเธอก็เลยเดินเข้าไปทักหมอคนนั้น

“เอ่อ......สวัสดีค่ะพี่ตะวันใช่หรือเปล่าค่ะ” ดอกหญ้าเอ่ยถามหมอสาวคนนั้นพร้อมกับยิ้มอย่างยินดีเมื่อหมอสาวคนนั้นตอบว่าใช่

“ใช่ค่ะ....ดอกหญ้าใช่มั้ยเนี้ยไม่ได้เจอกันตั้งนานโตเป็นสาวขึ้นเยอะเลยนะเราเนี้ย”

คนถูกชมยิ้มแก้มแทบผลิ

“พี่ตะวันมาเป็นหมอที่นี้เหรอค่ะ”

คนอายุน้อยกว่าเอ่ยถามหญิงสาวอีกคน ซึ่งมีอายุแก่กว่าตัวเอง

“ค่ะ......พี่ย้ายมาประจำที่นี้ได้ 2 อาทิตย์ กว่าได้แล้วแหละว่าจะเข้าไปเยี่ยมดอกหญ้าที่ บ้านแต่พี่ก็ไม่ว่างสักที

ไม่เป็นค่ะ.....ไว้พี่ตะวันว่างไหนก็ไปหาดอกหญ้าได้เลยนะดอกหญ้าจะรอค่ะ หญิงสาว ตัวเล็กกว่าเอ่ยบอกทันที

“แล้ว.........มาทำอะไรที่โรงพยาบาลเหรอดอกหญ้า” หญิงสาวเอ่ยถามคนตัวเล็กที่รัก เหมือนน้องสาวแท้ๆๆๆคนหนึ่งของเธอ

“คือว่า......หญ้ามาทำแผลนิดหน่อยนะค่ะเมื่อเช้าออกมาวิ่งออกกำลังกายแต่ไม่ทันระวัง เลยไปสะดุดเอากับเข้าหินสภาพก็เลยเป็นแบบนี้แหละค่ะ” ดอกหญ้าเอ่ยตอบตะวันเสียงอ่อย

“เอาจากนี้แหละกันเดี่ยวพี่ไปส่งเราที่บ้านนะ เห็นสภาพเราแล้วพี่อดเป็นห่วงไม่ได้”

ตะวันสายหัวเล็กน้อยที่ได้เห็นความซุ่มซ่ามของน้องสาวนอกไส้ของเธอแล้วเธอก็กำลังจะเปิดประตูรถให้ยายน้องสาวซุ่มซ่ามเข้าไปนั่งแต่เสียงใสๆๆก็ขัดขึ้น

“ขอบคุณค่ะพี่ตะวัน” ดอกหญ้ายกมือไหว้ขอบคุณตะวัน

“แต่หญ้าไม่รบกวนพี่ตะวันดีกว่าค่ะเดียวหญ้าเดินกลับเองดีกว่าแค่นี้เอง”

ดอกหญ้าเอ่ยตอบปฏิเสธหญิงคนที่เธอรักเหมือนพี่สาว

“งั้นพี่ไปก่อนน่ะดอกหญ้า” ตะวันเอ่ยลาดอกหญ้าพร้อมกับขึ้นรถของตัวเองแล้วขับออกไป

“ดอกหญ้า.........”เสียง ๆๆๆหนึ่งดังขึ้นทำให้ดอกหญ้าที่กำลังยืนมองรถของตะวันอยู่ต้องหันหลังกลับไปมองทางเสียงที่ดังขึ้นแล้วเธอก็ได้เห็นว่าคนที่เรียกชื่อเธอนั้นเป็นใคร ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก้ออีตานายภาคินนั้นแหละ “ไงบอกว่ากลับไปแล้วแต่อยู่ดี อีตานี้ดันมาโผล่ที่นี้อีกได้ว่ะ” ดอกหญ้าคิดในใจขณะที่กำลังมองหน้าภาคินอย่างสงสัย

“คุณไม่ต้องสงสัยหรอกว่าผมกลับมาที่อีกทำไมนะ พอดีผมมีธุระแถวนี้น่ะ” ภาคินเหมือนรู้ความคิดในใจของหญิงสาวตรงหน้าของเขาเลยตอบออกไปอย่างนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้มีธุระอะไรที่นี้เลยนั้นเป็นแค่ข้ออ้างของเขาเท่านั้นเองจะให้บอกไปตามตรงได้ไงล่ะว่าเขาเป็นห่วงตัวเจ้าหล่อนนั้นแหละเลยต้องขับรถย้อนมาดูอีกครั้ง ถ้าเกิดบอกไปตามความจริงมีหวังได้เกิดเรื่องแน่

“แล้วนี้คุณจะกลับบ้านแล้วเหรอคุณจะไปยังไงน่ะ”

“ก็เดินไปสิคุณ........หรือว่าคุณจะให้ฉันบินไปนะ”คนตัวเด็กตอบสียงสะบัดพร้อมกับประชดนิดหน่อย

“คุณเดินไหวเหรอ” ภาคินหันไปถามคนตัวเด็กด้วยความเป็นห่วง

“ไวสิ.......เดินไม่เท่าไรก็ถึงบ้านฉันแล้วแหละบ้านฉันอยู่ไม่ห่างจากที่นี้เท่าไรหรอก

“งั้นผมไปส่งดีกว่ามั้ง....ดูท่าทางคุณยังเจ็บเขาอยู่เลย” ภาคินอาสาไปส่งแต่ดอกหญ้าก็ ปฏิเสธทันที

“ไม่ต้อง ฉันไปเองได้”

น่า.........ให้ผมไปส่งน่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเถียงอยู่กันนั้นรถยนต์คันหนึ่งก็เข้ามาจอดใกล้บริเวณกับที่คนทั้งสองกำลังยืนเถียงกันอยู่

แล้วคนที่อยู่ในรถก็ลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปหาดอกหญ้าด้วยความดีใจ

“อ้าว.........คุณดอกหญ้ามาทำอะไรแถวนี้ครับผมหากันแทบตาย”

“ตามหาดอกหญ้าทำไมเหรอน้า”

ดอกหญ้าถามคนขับรถของท่านผู้ว่าด้วยความสงสัยว่าทำไมท่านต้องตาหาเธอด้วย คือท่านเป็นห่วงคุณดอกหญ้านะครับเห็นจิ้มมันบอกว่าคุณหญ้าออกจากบ้านตั้งแต่เช้าท่านเลยเป็นห่วงเลยให้ผมออกมาตามนะครับ

“อืม.........อั้นเรากลับกันเถอะค่ะ”ดอกหญ้าบอกพร้อมกับเปิดประตูรถเข้าไปนั่งในรถแต่เธอก็นึกขึ้นได้ยังมีผู้ชายอีกคนที่ยังยืนอยู่ข้างรถๆๆๆเลยโผล่หน้าออกไปดู

“งั้นนายก็ไม่ต้องไปส่งฉันแล้วน่ะขอบคุณมาก ที่คิดจะไปส่งแต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วแหละ”

“ครับ......นึกว่าลืมเสียซะอีกว่ายังมีหัวหลักหัวตอยืนอยู่ตั้งคน”

ภาคินบ่นเสียงดังๆๆๆเพื่อแกล้งให้คนที่นั่งอยู่ในรถได้ยิน

“อ่ะ....นายว่าอะไรน่ะ” ดอกหญ้าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่ภาคินพูดออกมา

“งั้นฉันไปแล้วน่ะ บาย”

“พลาดอีกแล้วกูแล้วเมื่อไรจะรู้สักทีว่าบ้านยัยเด็กแสบคนนี้อยู่ที่ไหนสักที”

ภาคินบ่นอย่างไม่จริงจังหนักเมื่อรถของดอกหญ้าเคลื่อนออกไป

คุณหญ้าค่ะ......คุณหญ้าข้า...........คุณหญ้า

เสียงแหลมๆๆที่ตะโกนขึ้นเป็นผลให้ดอกหญ้าที่กำลังนอนอยู่ต้องโซเชลุกขึ้นจากเตียงเดินมาเปิดประตูห้องนอน หญิงสาวขยี่ผมยุ่งๆๆ ของตัวเองอย่างหงุดหงิดทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนเรียก “อะไรของเธอนะจิ่ม ดาราคนไหนมาโผล่ที่หน้าของเราอีกล่ะคราวนี้”

ใบหน้าของคนที่โดนประชดไม่ส่อเค้าว่าจะไม่พอใจกับคำที่เธอว่าประชดไปนั้นเลย กลับยิ้มรับเหมือนกับว่า หนุ่ม ศรราม ดาราหนุ่มชื่อดังมาปรากฏที่หน้าจริงๆๆนั้นแหละ

“เอ้า ยิ้ม!!! อยู่นั้นแหละ เธอมาปลุกฉันตอนหกโมงเช้าวันอาทิตย์เพื่อให้ฉันตื่นขึ้นมาดูเธอยิ้มเหรอจ๊ะหนูจิ่ม”

ดอกหญ้าเอ่ยถามคนใช้คนสนิทของเธออีครั้งพร้อมคำแหน็บอีกหนึ่งคำ

“คือว่า......มีจดหมายส่งมาถึงคุณหญ้าเมื่อวานนี้คุณหญ้าได้อ่านหรือยังค่ะ

คนถูกถามขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย แล้วถามออกไป

“จดหมายอะไรเหรอ”

“ก็จดหมายจากคุณกล้าส่งมาถึงคุณหญ้านะค่ะจิ้มเอาไปวางไว้บนโต๊ะของคุณหญ้านะค่ะ

ดอกหญ้า

เมื่อรู้คำตอบว่ายั้ยจิ้มมาปลุกเธอทำไมตั้งแต่เช้าแล้วก็ตอบยั้ยจิ้มไปว่า

“อ้อ.....ยังหรอกเดียวค่อยอ่าน”

“อ่านเลยค่ะคุณหญ้าจิ้มอยากรู้”

จิ้มคนรับใช้คนสนิทของดอกหญ้าเอ่ยขอร้องแกมบังคับเพราะเจ้าหล่อนไม่ยอมลุกออกไปจากห้องของดอกหญ้าถ้าเกิดดอกหญ้าไม่ยอมอ่านจดหมายให้เธอฟังเสียก่อน

ดอกหญ้าหยิบเอาจดหมายมาเปิดอ่านแล้วก็ต้องกระโดออกมาอย่างดีใจเป็นดีสุด ก็ในเนื้อความของจดหมายมันเขียนบอกมาว่า ชาติกล้า หรือ ต้นกล้า พี่ชายสุดเลิฟของเธอจะกลับมาจากเมืองนอกใน สัปดาห์นี้ จากการที่ชาติกล้าต้องไปเรียนเมืองนอกเป็นเวลา 10 ปี เธอก็เลยดีใจเป็นที่สุดที่พี่ชายของเธอจะกลับมาอยู่กับเธอสักที

“คุณกล้าเขียนมาว่าไงบ้างค่ะคุณหญ้า”

เสียงของจิ้มสาวใช้คนสนิทของดอกหญ้าดังขึ้น

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพียงแต่พี่กล้าเขียนมาบอกว่าจะกลับมาบ้านอาทิตย์นี้ให้ไปรับที่สนามบินด้วย”

“จริงๆๆๆเหรอค่ะคุณหญ้า”

จิ้มถามย้ำ อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก็ยั้ยคนนี้แอบปลื้มต้นกล้าหรือชาติกล้าพี่ชายของดอกหญ้าจะตายขนาดไม่เคยเห็นตัวจริงเลยนะเห็นแค่ในรูปถ่ายยังเป็นไปได้ขนาดนี้ถ้าเกิดยายนี้ได้เห็นตัวจริงไม่เป็นลมเลยเหรอ

“จริงๆๆๆสิ จะโกหกทำไมล่ะ”

“งั้นจิ้มขอตัวก่อนนค่ะคุณหญ้า จิ้มจะไปป่าวประกาศให้ทั่วทั้งบ้านเลยว่าคุณต้นกล้าจะกลับมาแล้ว

“ไม่ค่อยโอ้.....เหว่อเลยนะยายคนนี้ ดอกหญ้าบ่นกับตัวเองเบาๆๆๆเมื่อสาวใช้คนสนิทออกจากห้องไป”

“ท่าอากาศยานกรุงเทพ”

วันนี้สนามบินคนมากเป็นพิเศษ(มันก็มากแบบนี้ทุกวันแหละย่ะ) หญิงสาวตัวเล็กๆๆกำลังยืนรอรับพี่ชายของตัวเองอย่างตื่นเต้น และเธอก็ไม่ต้องยืนรอนานเพราะคนที่เธอกำลังรออยู่นั้นกำลังเข่นรถที่บรรทุกกระเป๋าเดินทางกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ

พี่กล้า.....เมื่อเห็นว่าพี่ชายของตัวเองกำลังจะเดินมาถึงที่จุดรอรับผู้โดยดอกหญ้าก็วิ่งกระโดดเข้ากอดพี่ชายของตัวเองอย่างแรง โดยไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาคู่หนึ่งที่กำลังมองมายังเธอและพี่ชายด้วยสายตาแทบไม่กระพริบ

“เบาๆๆๆๆๆๆหน่อย...เจ้าหญ้านี้มันสนามบินนะไม่อายคนอื่นเขาบ้างเหรอ”

ชาติกล้าผละน้องสาวออกจากอ้อมกอดของตัวเองเมื่อเห็นคนมองกันใหญ่แล้ว

“ก็คนมันคิดถึงนี้ กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้”

ดอกหญ้าทำเสียงบ่นๆๆนิดแต่ก็แกล้งบ่นให้คนเป็นพี่ชายได้ยิน

“โอ้น้องรัก....อย่างอนเลยน่ะเดียวกลับถึงบ้านจะให้กอดจนหายคิดถึงเลยเอาไหม”

ค่ะ...คนที่กำลังงอนอยู่เงยน่ามามองพี่ชายแล้วก็เอ่ยชวนพี่ชาย

“งั้นเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”

เมื่อสองพี่น้องพากันเดินจูงมือกันเดินออกจากสนามบินไปแล้ว ภาคินที่ยืนมองบุคคลทั้งคู่อยู่ตั้งแรกๆๆก็เอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆๆ ไอ้หมอนั้นเป็นใครกันว่ะทำไมถึงได้สนิทกับยั้ยเด็กดอกหญ้าขนาดนั้นจัง

“เฮ้ย.......ไอ้คินมองอะไรอยู่ว่ะ”

เสียงของภานุเพื่อนของภาคินปลุกให้ภาคินที่ตอนนี้กำลังงงๆๆอยู่หันมามองเพื่อน

“ป่าว....ว่ะไม่ได้มองอะไร แต่เมื่อกี้แก่เห็นผู้ชายกับผู้หญิงที่ยืนกอดกันเมื่อกี้มั้ยว่ะ”

ภาคินเอ่ยถามเพื่อนของตัวเอง

“เห็นว่ะ.....ทำไมเหรอ”

“แก...ว่าระหว่างคนสองคนนั้นเป็นอะไรกันเหรอ”

ภาคินหันมาถามเพื่อนของตัวเองและก็ยืนรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ

“ข้าว่าเขาต้องเป็นแฟนกันแน่ๆๆๆเลยว่ะ แกไม่เห็นเหรอเขากอดกันกลมกันขนาดนั้นนะ”

“แกชอบผู้หญิงคนนั้นเหรอ ภานุถามเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างไม่จริงจังหนัก

“เอ่อ...ว่ะข้าชอบเขาว่ะชอบมาตั้งแต่แรกเห็นเลยแหละ”

“แต่....ข้าว่าเอ่งทำใจเสียเถอะว่ะ”

ภานุเอ่ยบอกเพื่อนพร้อมตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนที่กำลังหกจะหักอยู่ตอนนี้






 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2548
1 comments
Last Update : 18 กรกฎาคม 2548 12:28:22 น.
Counter : 418 Pageviews.

 

 

โดย: WangAnJun 18 กรกฎาคม 2548 17:23:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

จริงใจแต่ไม่จริงจังสักที
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add จริงใจแต่ไม่จริงจังสักที's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com