|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กฎแห่งกรรม
สัตว์ทั้งหลายย่อมสำเร็จการกระทำ โดยอาศัยธรรมชาติใด ธรรมชาติที่เป็นเหตุให้สำเร็จการกระทำนั้น ชื่อว่า กรรม หรือหมายถึงการกระทำ ที่ประกอบด้วยความตั้งใจหรือจงใจที่จะทำ กรรม เป็นคำกลางๆที่ใช้ประกอบกับคำอื่น และแสดงความหมายไปตามคำนั้น เช่น กุศลกรรม แปลว่า กรรมดี อกุศลกรรม แปลว่า กรรมชั่ว เป็นต้น ในฉักกนิบาตอังคุตร พระบาลีแสดงว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหตุที่บุคคลมีความตั้งใจ เป็นเครื่องกระตุ้นแล้ว กระทำการงานนั้นสำเร็จลง ด้วยกายบ้าง ด้วยวาจาบ้าง ด้วยใจบ้าง ด้วยเหตุนี้ ตถาคต จึงกล่าวว่า เจตนานี้เป็นตัวกรรม ทางแห่งการทำกรรม จำแนกตามคุณภาพ หรือตามธรรมชาติที่เป็นมูลเหตุมี 2 อย่าง คือ 1.กรรมฝ่ายไม่ดีคือกรรมชั่ว เรียก อกุศลกรรม หรือ อกุศลกรรมบถ 2.กรรมฝ่ายดี เรียก กุศลกรรม หรือ กุศลกรรมบถ คำว่า อกุศลกรรมบถ แยกศัพท์ได้ คือ อ = ไม่ กุศล = ดี, ฉลาด กรรม = การกระทำ บถ = ทาง รวมเรียกว่า ทางแห่งการทำวความไม่ดี หรือ ไม่ฉลาด มี 10 อย่าง ซึ่งฝ่ายดีที่เรียก กุศลกรรมบถ ก็มี 10 อย่าง เช่นเดียวกัน ในที่นี้จะกล่าวเพียงการกระทำฝ่ายที่ชั่วที่เรียกว่า อกุศล ซึ่งเหตุต้นที่ก่อให้เกิดผลของกรรมที่เรียกกันติดปากโดยทั่วไปว่า กรรมเวร หรือเวรกรรม ตามความรู้สึกโดยทั่ว ๆ ไป เมื่อกล่าวคำว่า กรรม เพียงคำเดียว คนทั้งหลายจะหมายถึงผลแห่งการกระทำที่ออกมาไม่ดี ขอได้โปรดศึกษา ดังต่อไปนี้
Create Date : 30 ตุลาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 30 ตุลาคม 2551 6:59:05 น. |
Counter : 334 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: fleuri 30 ตุลาคม 2551 7:27:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัสติสะ 30 ตุลาคม 2551 7:29:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ได้เห็นได้รับฟังมา ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนะคะ