IVF : เตรียมผนังมดลูกโดยใช้ยา
อุ้มบุญ
^0^ Opanks on the way being a mother of four.
การเตรียมผนังมดลูกโดยใช้ยา
ต้นปี 64 เราก็เข้าขบวนการทำเด็กหลอดแก้วตามปกติ
เมื่อมีตัวอ่อนคัดโครโมโซมผ่านแล้ว
ก็เข้าสู่วิธีการเตรียมผนังมดลูกโดยใช้ยา และภาวนาเยอะๆ
ตามปกติคนที่ทำเด็กหลอดแก้วคุณหมอจะให้เราใช้ยาเพื่อกระตุ้นผนังมดลูกให้หนาพอที่จะฟังตัวอ่อนโอก็ทำเช่นกันในการวางตัวอ่อนรอบแรก
ปรากฏว่าเราได้ผนังมดลูกหนาแค่ 5- 6 มิลลิเมตร คุณหมอต้องการ 8-12 มิลลิเมตร เลยต้องเพิ่มยาให้เต็มขีดสุด โดยให้เพิ่มยาก่อนนอนอีกสองเม็ด แล้วนัด ultrasound อีกหนึ่งอาทิตย์
ระยะนั้นแม่ก็ขุนตัวเองสุดฤทธิ์ จน นน.เกือบ 50
เตรียมพลีพุงเพื่อการท้องแบบไม่เสียดายหุ่น
กินยาบำรุงทุกสูตรที่ว่าดี โปรตีน น้ำมะกรูด ผงอะไรก็กรอกลงร่างไป
บำรุงเต็มที่มาก
ซึ่งครั้งนี้หมอบอกว่าผ่านวางตัวอ่อนได้
แล้วเราก็ได้ยาสอดเพิ่มมาอีกหนึ่งชนิด เป็นยาสอดแห่งความขยันคือสอดแล้วห้ามนอนต้องเดินให้แว็กซ์มันละลาย ยาจะได้ออกมา
การสอดยามีเรื่องให้ตื่นเต้น และกังวลมากมาย เพราะโอเคยทำเด็กหลอดแก้วไม่สำเร็จครั้งแรกเนื่องจากสอดยาไม่เป็น
มันต้องมีมนุษย์เช่นโอสิ เค้าเลยพัฒนายาสอดให้เป็นแท่งที่อัดอากาศแล้วให้บีบเพื่อที่จะดันยาออก เหมาะกับคนนี้ไม่เคยสอดยามาเลยในชีวิตเช่นโอตอนนั้น
ฤกษ์งามยามดี โอก็ได้วางตัวอ่อน หนึ่งตัว
โอท้องนะคะ ขึ้นสองขีด จางๆแล้วพอวันนัดตรวจเลือด ก็หายไป
อาจเพราะความซนของโอซึ่งตอนนั้นก็ยังคงดูแลลูกทั้งสามคนด้วยความประมาทว่าก็ติดง่ายนี่นา
ขึ้นสองขีดแล้ว ซน ไม่พัก ช่วงนั้นมีทั้งตรุษจีน วาเลนไทน์ อีเว้นมากมายในชีวิต ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะบอกตัวเองว่า พักนะ
ไม่มีอะไรคุ้มกับสิ่งที่จะสูญเสีย 😔😔
พอรู้ว่าลูกหลุด เราก็เสียใจเหมือนดังไบโพล่าร์
คือต้องแอบร้องไห้ไม่ให้ลูกทั้งสามคนเห็นเพราะเราไม่อยากให้เค้าเศร้าแล้วเค้าก็เด็กเกินจะรับรู้กับคำว่าสูญเสีย
ส่งลูกไปโรงเรียนก็มานั่งร้องไห้คนเดียว
แต่พอลูกกลับมาถึงบ้านด้วยความ energy + ของโอ โอก็จะยิ้มแย้มสดใสร่าเริงพยายามขับเคลื่อนเค้าไปครั้งหน้า
โอเสียศูนย์อยู่พักนึงจนกว่าจะกลับเข้ามาที่เดิมแล้วทำใจปล่อยไป วางลงได้
เราก็เข้าไปถามหมอเพื่อต้องการสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น
พอไปถามหมอเค้าบอกว่าพลังชีวิตของตัวอ่อนน่าจะไม่พอ 😞
โอก็ค้นคว้าทันทีเรื่องพลังชีวิตของตัวอ่อนทั้งวิทยาศาสตร์ จีน ไทย
ถ้าทางวิทยาศาสตร์โอก็น่าจะพลังชีวิตอ่อนด้วย ด้วยความที่ความดันต่ำมาก เป็นพาหะเธารัสซีเมีย
หมอให้ทานน้ำและเกลือมากขึ้น รวมถึงออกกำลังกาย อย่านั่งนิ่งนิ่งให้พยามขยับตัวเองตลอด
เพื่อไม่ให้ความดันตก
ส่วนทางหมอจีนเค้าแมะ จับดูชีพจรแล้วบอกว่าพลังชีวิตน้อย เป็นธาตุน้ำ ให้ทานยาบำรุงกับฝังเข็ม
ส่วนด้านไทยก็พยามทานสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ร้อนทำให้ตัวอุ่น
เมื่อคิดว่าเคลียร์ตัวเองเสร็จแล้วแม่ก็พร้อมที่จะเตรียมวางตัวอ่อนในรอบที่สอง
ก่อนที่จะตั้งท้องทุกครั้งสิ่งที่โอทำเสมอคือการไปตรวจสุขภาพร่างกายว่าทุกอย่างโอเค
ปรากฏว่าไม่โอเค
เพราะจากการใช้เพราะจากการใช้ยาที่ผ่านมา
ยาทำให้เรามีผลกระทบบางอย่าง
ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว โอยังต้องเป็นแม่ของลูกทั้งสามคน
ตอนฟังผลตรวจนึกภาพลูกทั้งสามคนลอยขึ้นมาอย่างแรกว่าถ้าแม่ไม่อยู่ลูกจะอยู่กับใครเพราะฉะนั้นถ้าเราเดินหน้าต่อแล้วเสี่ยงที่จะเกิดอะไรขึ้น เราขอไม่ทำดีกว่า
กลับไปปรึกษากันที่บ้านว่าเราจะทำอย่างไรต่อ
ความคิดเรื่องอุ้มบุญจึงปรากฏขึ้นมาเพราะว่าสุขภาพแม่ไม่สามารถจะใช้ยาบางตัวในการเตรียมตั้งครรภ์ได้ เราจะใช้เหตุผลนี้เพื่อไปขอดำเนินการอุ้มบุญแบบถูกกฎหมาย
เนื่องจากเรามีตัวอ่อนของเราอยู่แล้ว และมีพี่ที่พร้อมอุ้มบุญให้
การอุ้มบุญไม่ใช่เรื่องง่ายแต่นั่นแหละมันคือการปกป้องเด็กที่จะเกิดขึ้น
ด้วยความมั่นหน้ามันโหนก บ้าหรือมุทะลุไม่รู้โอก็ปรึกษาหมอทุกคนรอบด้าน
หอบเอกสารการรักษาของตัวเองไปให้คุณหมอ เพื่อยื่นความประสงค์ดำเนินการอุ้มบุญ
แต่ปรากฏว่าเมื่อลอง ปรึกษาหมอแล้ว
เราไม่อยู่ใน หลักเกณฑ์ผู้ที่สามารถให้คนอื่นอุ้มบุญได้เนื่องจากยังมีมดลูกอยู่
แม่ก็อกหักเดินคอตกกลับบ้าน แล้วเราก็พักโครงการมีลูกกันไปเป็นปี
เจ้าตัวอ่อนสามตัวที่เหลือของแม่ก็นอนกอดกันกลมอยู่ในตู้แช่ต่อไป 🫥🫥
แต่แม่ก็ไม่ละความพยามที่จะเดินหน้า ใช้เหตุจากผลการตรวจที่มียื่นแพทย์สภาเพื่อขออุ้มบุญ
เพราะเราเชื่อว่าเราจะรัก และเลี้ยงดูลูกได้อย่างมีคุณภาพและเต็มศักยภาพ ครอบครัวเรารักเด็กมากๆ
เวลาผ่านไป โอก็ไปตรวจติดตามสุขภาพตัวเองอีกรอบ
ปรากฏว่า ผลการตรวจออกมาดีมาก
อะไรที่เคยเจอก็ไม่เจอ และไม่อยากเจอ ร่างคือเคลียร์ สุขภาพแข็งแรงมากๆ 😊
ก็เลยถามสามีอีกรอบว่า อยากมีลูกอยู่ไหมถ้าอยากมีมีเลยนะเพราะโอแก่แล้ว ขอคำตอบสุดท้าย
จะทำอะไรก็ทำ ให้มันสุด
ถ้าจะหยุดก็หยุด เพราะลูกทั้งสามคนเราก็น่ารัก
สามีก็อั้มอึ้ง โอรู้นิสัยพี่ยศดีว่าเป็นคนเด็ดขาดมาก
แสดงว่าเค้าอยากมี แต่ห่วงสุขภาพเรา
โอเข้าไปปรึกษาหมออีกรอบ คราวนี้ได้ทางสว่างว่าเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนในการกระตุ้นผนังมดลูก
เลี่ยงการใช้เอสโตรเจน มาใช้ผนังมดลูกในรอบธรรมชาติและฮอร์โมนของตัวเอง
ซึ่งการวางตัวอ่อนรอบธรรมชาติ ไม่ง่ายแน่ๆ
แต่โอก็พยามให้กำลังใจตัวเองว่า เราเคยมีลูกได้เองอยู่แล้วโอกาสที่ใช้รอบธรรมชาติน่าจะสำเร็จสูง
เมื่อเราเลือกเดินต่อไปข้างหน้า แม่ก็พร้อมลุยเสมอ 😎😎😎😎
แต่ขอเวลาพักฟื้นฟูร่าง เที่ยว เปรี้ยวให้สุดก่อนท้องอีกครั้ง
เพราะชีวิตคือความยืดหยุ่น อย่าไปหมกมุ่นจนเสียสุขภาพจิต
และสังเกตว่าลูกแม่โอชอบมาตอนแม่อารมณ์ดี มีความสุข
"ตอนนั้นคิดว่าตัวเองค่อนข้างพร้อมแต่ก็ต้องมาเจอบททดสอบต่อไป....."