รู้สึกแต่ไม่บอก...มีไรปะ
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
5 มิถุนายน 2550

อนิจจังพระสงฆ์ไทย

ได้เห็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้แล้วรู้สึกสลดกะสังคมไทยเข้าอย่างจัง
ถึงขนาด พระสงฆ์ออก มานั่งอดข้าวประท้วงแล้วหรือนี่
นี่สังคมเราไม่รู้ว่าอะไรคือหน้าที่ของตนเองแล้วหรือ
จำได้ว่าตอนประถมเคยท่องหนังสือว่า
พระสงฆ์มีหน้าที่ทำนุบำรุงสืบทอดพระพุทธศาสนา
แล้วนี่อะไรกัน กิจของสงฆ์หรอที่มานั่งอดข้าวประท้วง
มันอะไรกันนี่ หรือว่ายุคสมัยเราจะไม่มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้วจริงๆ
ขนาดพระสงฆ์ยังก้าวข้ามหน้าที่ของตนมายุ่งเรื่องการเมืองเลย
เราเป็นคนพุทธคนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้ระบุ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญหรอก
เพราะว่าไม่มีความจำเป็นเลยที่เราจะต้องประกาศให้โลกรู้ว่าเราเป็นอะไร
ถ้าเพียงแต่เราปฏิบัติดีไว้ไม่ต้องไปบอกคนอื่นหรอก คนอื่นเค้าเห็นเอง เค้ารู้เอง
แต่นี่อะไร ได้แต่ออกมาพูดปาวๆว่านี่เมืองพุทธ
แล้วการกระทำล่ะดูเอาเถอะท่าน ควรแล้วหรือ
จะไปประกาศให้เค้าเห็นว่าเมืองพุทธเมืองนี้มันอัปยศเช่นไร
ระอายกันบ้างเถอะ
แค่นี้บ้านเมืองก็แย่พอแล้ว เพราะคนไม่รู้จักหน้าที่ของตน ชอบก้าวก่ายหน้าที่คนอื่น
พอเถอะ หันมาทำหน้าที่ของตนเองให้ดีกันเถอะ




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2550
7 comments
Last Update : 5 มิถุนายน 2550 15:41:04 น.
Counter : 529 Pageviews.

 

ใช่ค่ะ

 

โดย: meaw_1985 5 มิถุนายน 2550 16:14:48 น.  

 

เรื่องนี้แม้ว่าค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ว่าถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปตามวิถีที่พุทธทำนาย คือ มีเกิด ย่อมมีดับ ผมตามข่าวแล้วก็ได้แต่รู้สึกสังเวชใจ เหตุไฉนเราถึงยุคไม่ฟังปราชญ์กันถึงเพียงนี้

มองด้านสังคม คนทั่วไป แล้วเขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นหรือตื่นตูมอะไรกับปรากฎการณ์ดังกล่าว หลายๆ คนยังมองด้วยความเข้าใจ และมองอย่างมีคำถามถึงความชอบธรรมและเหมาะสมของการกระทำดังกล่าว สังคมสงฆ์นั้น อย่างที่เราทราบกัน ปล่อยปละละเลยกันมานานแล้ว ไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่จะส่งเสริมให้พระสงฆ์ทำตามหลักวินัยที่ถูกต้อง วัดแต่ละวัดเป็นเอกเทศ หาได้กระทำตามกฎที่ทางมหาเถรสมาคมได้ออกประกาศไม่

สามสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากดูข่าวบ้าง ผมก็ตามอ่านงานของปราชญ์หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อปัญญา พระไพศาล หรือ ท่านว. วชิราเมธี กระทั่ง ศิลปินแนวพุทธอย่าง เนาวรัตน์ อ่านแล้วตาสว่าง มองเห็นอีกมุมจริงๆ หลวงพ่อปัญญานั้นไม่ต้องพูดถึง หยิบเอาแก่นศาสนามาเปรียบเทียบกันเลย พูดถึงการยึดมั่นถือมั่น ส่วนพระไพศาล มองถึงว่า รัฐศาสนานั้นเป็นตัวอย่างที่มีบทเรียนถึงความแตกแยกมาแล้วหลายประเทศ

ท่านนักปราชญ์เหล่านี้ ซึ่งมีวัตรปฎิบัติ มีภูมิรู้พระไตรปิฏก ออกมาสรุปว่า ไม่เห็นควรจะต้องบรรจุเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ [b] จะทำอย่างไรให้คนใช้ธรรมะ ให้มากที่สุด [/b] โดยไม่คำนึงว่าเป็นศาสนาใด ขอให้เอาหลักมาใช้ มาปฏิบัติ คำถามที่ท่านถามถึงสังคม คือ ถามถึงหนทางและวิธีการ

น่าเสียดายว่า ยุคที่มีปราชญ์พอควร ก็มีพาลมากเกินควร ก็เลยเกิดการไม่เชื่อฟัง งัดข้อ เล่นแง่ ฟังดูเถิดครับ นี่แหละประเด็นของความแตกแยก เมื่อพาลไม่รู้ตัวว่าเป็นพาล ปราชญ์ก็อยู่ไม่ได้ ปราชญ์ก็ไร้คุณค่า เพราะพาลไม่ฟัง พาลไม่มีสติปัญญาพอจะฟัง

คำว่าไม่มีสติปัญญา มันอาจจะเกิดเพราะความมีมิจฉาทิฎฐิ มีความเห็นผิด ตรงนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่าน ว่าอะไรผิดอะไรถูก สำหรับผมแล้ว เห็นด้วยกับ จขบ. ในเรื่องที่พระสงฆ์กลุ่มหนึ่งไม่รู้หน้าที่ แต่ถ้าว่าให้ลึก มันก็แสดงถึงความเสื่อมอย่างหนึ่ง สังคมที่บูชาอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่แก่นศาสนาพุทธ ย่อมส่อให้เห็นว่าเราห่างไกลศาสนาไปทุกที

การบรรจุใน รธน. จะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากเราไม่บรรจุในหัวใจ (ไม่ได้พูดเองนะ แต่จำไม่ได้ว่า ปราชญ์ท่านใดกล่าวไว้)

 

โดย: นอนเปล (ชายลังเล ) 5 มิถุนายน 2550 16:25:03 น.  

 

อยู่ดีๆ พระจะมาอดข้าวประทัวง ท่านคงต้องมีเหตุลล่ะครับ

เพียงแต่ในด้านของผลกระทบทางกฎหมายกับคำว่า

พระพุทธศาสนาเป็นศานาประจำชาตินั้น

การที่ใครจะรับรู้ความลึกซึ้งของการมีและไม่มีคำนี้ในรัฐธรรมนูญ ก็ต้องลองคุยกับชาวพุทธที่อยู่ทางใต้ที่ถูกศาสนาอื่นยิงทิ้งไปวันละคนสองคนดูน่ะครับ แล้วจะเข้าใจ

ในทางสังคมนั้น เวลาจะตัดสินว่าอะไรถูก-ผิด เราก็ต้องมาเริ่มดูกันที่กฎหมายก่อน

บางท่านที่ไม่ใช่นักกฎหมายก็อาจจะมองแค่ว่า ตัวอักษรไม่กี่ตัวจะมีผลอะไรกับการรักษาศาสนา

แต่ในทางกฎหมายแล้ว มีผลอย่างมากครับ

ที่สำคัญก็คือ ผมอยากให้ลองเสิร์ชหาข่าวประเทศที่มีอิสลามเป็นคนกลุ่มน้อยในหลายๆ ประเทศมาอ่านดูนะครับ

สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกประเทศมีปัญหาเดียวกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้แต่จีนก็ต้องส่งทหารไปสู้รบกับกองกำลังอิสลามที่ซินเกียง พม่าก็ต้องสู้รบกับอิสลามในบังคลาเทสที่อยู่ทางเหนือ

ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าอิสลามเป็นศาสนาเชิงการเมือง แล้วเขามองว่าโลกนี้ต้องมีศาสนาเดียวเท่านั้น คือ อิสลาม

เขาไม่ได้คิดแบบพุทธหรอกครับ ที่ใจดีให้ต่างศาสนามาอยู่ด้วยกันได้

ลองหาประวัติมหาตมคตานธีมาอ่านดูครับ ว่าท่านตายยังไง ตายด้วยน้ำมือใคร ตายด้วยเรื่องอะไร แล้วปากีสถานเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

มหาตมคานธีช่วยปลดแอกอินเดียจากอังกฤษแท้ๆ ทำให้ชาวฮินดูและชาวอิสลามในอินเดียพ้นจากความเป็นเมืองขึ้น แต่พอปลดแอกเสร็จ อิสลามก็ส่งคนมาฆ่าคานธีเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการแยกประเทศอิสลามจากอินเดีย

นี่ล่ะครับ แนวคิดของศาสนาเชิงการเมือง

ผมคิดว่าก่อนจะตัดสินการเคลื่อนไหวของพระท่าน ลองหาข้อมูลปัญหาอิสลามกลุ่มน้อยในประเทศต่างๆ มาอ่านดูนะครับ แล้วก็จะพบว่าเวลาอิสลามจะเข้าไปยึดครองประเทศไหน ก็จะส่งคนเข้ามาในเชิงการเมืองแบบนี้ มุ่งที่การแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ เหมือนที่เจออยู่ตอนนี้ล่ะครับ

เพราะฉะนั้น การที่พระท่านออกมาเคลื่อนไหว ก็เป็นการต่อสู้เพื่อสืบทอดพระศาสนาเช่นกัน

แล้วถ้าไปดูในมหาปรินิพพานสูตร พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า ชาวพุทธมีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาจากการเบียดเบียนจากศาสนาอื่นครับ

ถ้ายังนึกภาพของผลทางกฎหมายไม่ออก ก็ลองนึกว่า ถ้าเรามีที่ดินอยู่ 1,000 ไร่ อยู่กันมาเป็นร้อยปีตั้งแต่ปู่ย่าตายา แต่ยังไม่ได้ไปทำโฉนดที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมาย แล้ววันหนึ่งเราคิดจะไปทำขึ้นมา ปรากฏว่าที่ดินพันไร่ได้กลายเป็นชื่อของคนอื่นไปแล้ว ตอนนั้นคุณจะคิดยังไง

การมีคำว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ก็เหมือนกับการออกโฉนดว่า พระพุทธศาสนาเป็นเจ้าของประเทศไทยนั่นเอง

แต่ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ก็ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าวันข้างหน้ามีคนมาเขียนในรัฐธรรมนูญว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติไทย คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าคุณไม่รู้สึกอะไร

ผมก็คงไปว่าอะไรไม่ได้ แต่ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากครับ เพราะมันเหมือนกับเราไม่สามารถรักษาพระพุทธศาสนาไว้ในประเทศไทยได้ แล้วชาวพุทธก็จะค่อยๆ กลายเป็นคนกลุ่มน้อยที่ไปอาศัยชาวมุสลิมอยู่เหมือนในบังคลาเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอีกหลายๆ ประเทศซึ่งแทบไม่มีสิทธิมีเสียงอะไรเลย

เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะตัดสินอะไรลงไป บางทีเราต้องหาข้อมูลจากประเทศที่เป็นอดีตเมืองพุทธ แต่ตอนนี้กลายเป็นประเทศอิสลาม แล้วเราจะรักพระพุทธศาสนามากขึ้นครับ

ที่สำคัญก็คือ การเห็นพระบางรูปประพฤติไม่เหมาะสม แล้วตัดสินเหมารวมว่าพระทั้งประเทศหลายแสนรูปแย่เหมือนกันหมด ก็ออกจะไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไหร่นะครับ

มันมีเรื่องของศาสนาอื่นในเชิงการเมืองที่จะตามมา มากกว่า การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยครับ ไม่ใช่แค่นี้ครับ

แล้วก็อย่าลืมว่า ประธาน คมช. ตอนนี้ ก็นับถือศาสนาอิสลาม สามจว. ใต้ ก็อิสลาม ผู้พิพากษาศาลปกครองหลายๆ คน ก็อิสลาม พูดง่ายๆ ก็คือ อำนาจการบริหารบ้านเมืองตอนนี้ อยู่ในมืออิสลามหมดแล้ว เหลือแค่ใส่ชื่อลงไปว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติเท่านั้น

พระท่านคงยอมไม่ได้หรอกครับ

จบดีกว่า...ชักพูดมากเกินไป...เพียงแต่เห็นข้อความของ จขบ. แล้ว อดแสดงความคิดเห็นไม่ได้ครับ

 

โดย: เสี่ยวเหลียงจือ 5 มิถุนายน 2550 16:50:49 น.  

 

พระสงฆ์ละแล้วทางโลก
การประท้วงอดข้าวเพียงให้
บรรจุข้อความหนึ่ง "ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ"
ไร้สาระเกินกว่าที่สงฆ์พึงปฏิบัติที่สุด

 

โดย: Yoawarat 5 มิถุนายน 2550 16:54:08 น.  

 

อับบลอกได้แล้วน้อง อิอิ

 

โดย: Gunnersaurus 13 สิงหาคม 2550 8:57:24 น.  

 

หลงเข้ามาครับ ^^"

อ้อ เห็นด้วยกับคุณเจ้าของบล็อก และ คุณชายลังเล ครับ

 

โดย: mancunian 13 สิงหาคม 2550 14:38:39 น.  

 

หลงเข้ามาเหมือนกันค่ะ ^^

ผีห้ามเข้า เศร้าจัง

 

โดย: ใครกัน...นั่งอยู่ตรงนี้ 16 สิงหาคม 2550 9:18:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


olive is scientist
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อีกหนึ่งวันที่เบื่อ ๆ
[Add olive is scientist's blog to your web]