|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เนื้อหา
ฝ่ายพระพรตและพระสัตรุตเห็นว่าครบกำหนดสิบสี่ปีแล้ว พระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ยังไม่เสด็จกลับ ก็ไปทูลมารดาลาไปปลงพระชนม์ โดยการลุยไฟตามที่ได้ปฏิญาณไว้ หนุมานกับกุขันก็มาถึงก่อนได้เข้าไปห้ามไว้ หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็พาพระมารดาไปพบกับพระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ที่อาศรมฤาษี แล้วทูลเชิญเข้าไปครองเมือง ต่อมาได้จัดพิธีอภิเษกขึ้นครองราชสมบัติ โดยมีพระอินทร์เหล่าเทวดาและบรรดาเหล่าฤาษีมาเป็นเกียรติ แล้วพระรามได้ออกขุนนางปูนบำเหน็จความดีความชอบของเหล่าทหาร พระลักษมณ์ให้ครองเมืองโรมคัล พระพรตและพระสัตรุต ให้เป็นอุปราชอยู่ในกรุงศรีอยุธยา หนุมานแบ่งกรุงศรีอยุธยาให้ครองกึ่งหนึ่ง แล้วตั้งชื่อให้ใหม่ว่าพระยาอนุชิต สุครีพนั้นให้มีชื่อว่า พระยาไวยวงศา ครองเมืองขีดขิน พิเภกให้ชื่อว่า ท้าวทศคิริวงศ์ ไปครองเมืองลงกา องคตให้ชื่อว่า พระยาอินทรนุภาพศักดา เป็นฝ่ายหน้าเมืองขีดขิน ชมพูพานให้ไปครองเมืองปางตาล สุรเสนไปครองเมืองสัทธาสูร ชมพูวราช นิลราช นิลนนท์ เป็นอุปราชทั้งหมด โดยให้ชมพูวราชเป็นฝ่ายหน้าเมืองปางตาล นิลราชเป็นฝ่ายหน้าเมืองอัสดงค์ นิลนนท์เป็นอุปราชเมืองชมพู ไชยามและโคมุท เป็นมหาเสนาซ้ายขวาที่เมืองขีดขิน สัตพลีให้เป็นอาลักษณ์ ส่วนพลลิงอื่น ๆ ก็ให้ยศฐาบรรดาศักดิ์ตามสมควร ฝ่ายหนุมานทูลคัดค้านว่า เมืองโรมคัลเป็นเมืองยักษ์ ไม่ควรให้พระลักษมณ์ไปครอง แต่ควรจะอยู่ใกล้ชิดพระรามจะดีกว่า ส่วนพระพรตกับพระสัตรุต นั้นควรจะให้ไปอยู่ที่เมืองไกยเกษ พระรามเห็นด้วย ได้ให้สุรกานต์ไปครองเมืองโรมคัล แล้วให้ศรรามเป็นมหาอุปราช กุขันพรานป่าให้เป็นพระยากุขันธิบดินทร์ ครองบุรีรัม สำหรับพิเภกนั้นเป็นผู้ไม่มีความชำนาญการรบและไม่มีฤทธิ์ หากมีศัตรูมารุกราน ให้เขียนสาสน์แขวนศรมา เมื่อพระรามแผลงศรมาถามข่าว
Create Date : 08 กันยายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 8 กันยายน 2551 15:53:37 น. |
Counter : 369 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|