Welcome(ยินดีต้อนรับ)
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
เช็กโทรศัพท์สามี : ชนวนความขัดแย้งชีวิตคู่ / สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ธันวาคม 2552 10:41 น.


คอลัมน์ พ่อแม่ลูกปลูกรัก

เมื่อไม่นานนี้ดิฉันได้อ่านพบข้อความหนึ่งเขียนถึงเรื่องผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมักจะชอบเช็คโทรศัพท์มือถือของสามี ตัวเลขวิจัยพบว่าสูงถึง 90% ด้วยสาเหตุเพราะอยากรู้ว่าสามีแอบไปมีกิ๊กนอกบ้านหรือไม่

ทีแรกเห็นบทความชี้ว่าตัวเลข 90% ก็ยังไม่อยากเชื่อ ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ จนกระทั่งมีเพื่อนโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่าสามีของเธอจับได้ว่าเธอไปเช็คโทรศัพท์มือถือ และโกรธมาก ถึงขั้นจะขอเลิกกันอีกต่างหาก เธอตกอกตกใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องนี้จะขยายผลไปจนถึงขั้นขอแยกทางกัน

เดชะบุญ…เธอยังไม่มีลูก แต่เธอก็รวดร้าวใจเหลือเกิน และเธอก็บอกว่าเรื่องเช็คโทรศัพท์ของสามีเป็นเรื่องปกติ เพราะใครๆ ก็ทำกัน…!!

จากนั้นดิฉันก็นึกคึก ลองสอบถามเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วถึงเรื่องการเช็คโทรศัพท์มือถือของสามีประมาณ 10 คน

ไม่น่าเชื่อ…ทุกคนตอบตรงกันว่า เคยเช็คมาแล้วทุกคน ต่างกันก็ตรงที่ใครเช็คมาก ใครเช็คน้อย บางคนก็บอกว่าเป็นการเช็คเล่นๆ เพื่อความสบายใจ แต่เธอไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพียงแต่ไม่ให้สามีรู้เด็ดขาด เพราะถ้ารู้ล่ะก็…เป็นเรื่อง

จริงล่ะหรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา…!!

ว่าแล้วก็ต้องกลับไปอ่านบทความชิ้นนั้น ซึ่งมี คุณหมอประเวช ตันติพิวัฒนสกุล จิตแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็น เช่น เช็คโทรศัพท์มือถือหรือกระเป๋าสตางค์ของแฟน สามี หรือภรรยา แสดงถึงความระแวง ซึ่งแต่ละคนจะมีมากน้อยต่างกัน แต่ส่วนมากผู้หญิงจะเป็นมากกว่าผู้ชาย เพราะโดยวิวัฒนาการ สัตว์เพศผู้ถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่แพร่สายพันธุ์ของตนเองให้ดำรงต่อไป ในขณะที่สัตว์เพศเมียมีธรรมชาติในการคัดเลือกสัตว์เพศผู้ คือเลือกความมั่นคงให้กับตนเอง เพื่อช่วยเหลือในการดูแลลูกให้อยู่รอดปลอดภัย


ด้วยธรรมชาติตรงนี้ ผู้ชายจึงมักจะไปมีกิ๊กมากกว่าผู้หญิง การมีกิ๊กสำหรับผู้ชายเป็นเรื่องสนุกสนานตื่นเต้น แต่ผู้หญิงถือว่าพฤติกรรมอย่างนี้เป็นการคุกคามอย่างมาก

ประกอบกับสมองของผู้หญิงนั้นสามารถเชื่อมสมองซีกซ้ายขวา เชื่อม
โยงความคิดได้ดี และใช้ความรู้สึกมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจึงมีแรงจูงใจที่ทำให้เกิดความระแวงมากกว่า เราจึงพบว่าถ้ามีโอกาส ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายที่ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ชาย

แม้บางครั้งการตรวจสอบเป็นครั้งคราว เพื่อความสบายใจ แต่บางครั้งก็เกิดปัญหาความสัมพันธ์ เช่น ผู้ชายไม่ได้มีกิ๊ก แต่ผู้หญิงไม่ยอมหยุดเช็ค หรือเช็คบ่อยๆ ซ้ำๆ มากเกินไป ก็เกิดเป็นปัญหาเรื่องล้ำเส้น จากเรื่องเล็กๆ กลายเป็นระหองระแหง

จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะบ้านเราเท่านั้นที่ภรรยาชอบเช็กโทรศัพท์ของสามี ล่าสุดแม่บ้านชาวญี่ปุ่น 61% ของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ววัย 20-39 ปี จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 500 ราย ยอมรับว่าได้เช็กการใช้โทรศัพท์มือถือของสามี เพราะต้องการตรวจสอบว่าสามีได้ปกปิดหรือซุกซ่อนอะไรเป็นความลับไว้หรือเปล่า โดยเช็กบันทึกการใช้โทรศัพท์ การส่งข้อความอีเมล และการบันทึกข้อมูลต่างๆ ตามฟังก์ชันการใช้งานของโทรศัพท์ที่อาจแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อและรุ่น

ผู้หญิงจำนวน 35% ให้เหตุผลว่าต้องการสืบดูว่าสามีแอบไปมีกิ๊กหรือเปล่า 28% เพื่อเช็คว่าสามีได้ปกปิดอะไรไว้เป็นความลับหรือไม่ และอีก 34% บอกว่าทำไปเพราะความอยากรู้อยากเห็น ไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือที่พัฒนารุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะในญี่ปุ่น จึงเป็นเรื่องยากที่ฝ่ายหญิงจะจับได้ไล่ทันฝ่ายสามี เพราะปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเกือบทุกรุ่นในญี่ปุ่นจะมีโหมดเก็บความลับ “secret mode” ซึ่งสามารถเลือกซ่อนข้อมูลต่างๆ ได้ ทั้งเรื่องบันทึกการใช้โทรศัพท์ การส่งข้อความ และอีเมล ไว้อย่างมิดชิด ชนิดที่บางยี่ห้อรับรองได้ว่าไม่มีทางเช็คเจอแน่นอน

และอีกสิ่งหนึ่งที่บรรดาฝ่ายหญิงไม่มีทางรู้เลยก็คือ คุณสามีส่วนใหญ่มักแอบมีโทรศัพท์มือถือเครื่องที่สองพกติดตัวไว้
แล้วเหตุใดทำไมผู้หญิงต้องเช็กโทรศัพท์มือถือสามี ทั้งที่การกระทำ แบบนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งในชีวิตคู่

ความจริงกฎของการใช้ชีวิตคู่ เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องมี แม้จริงอยู่ฝ่ายหญิงมักเกิดความอยากรู้อยากเห็น และมักจะเป็นฝ่ายคิดมาก มีอะไรมาสะกิดใจก็มักจะจินตนาการเกินกว่าความเป็นจริง

แต่หลักการครองเรือนก็จำเป็นต้องมีอยู่ ถ้ามีการสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ก็เป็นเรื่องที่ดียิ่งสำหรับชีวิตคู่ แต่ทั้งสิ้นทั้งปวงต้องอยู่บนพื้นฐานความรัก ความผูกพัน รวมถึงความเข้าใจ

เรื่องที่ควรรู้ของคู่รัก ก่อนเช็กโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่าย

หนึ่ง พื้นฐานของมนุษย์ไม่ชอบให้ใครแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ หรือแสดงความไม่วางใจ ถ้ามีการล่วงรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามหรือแอบเช็กข้อมูลของอีกฝ่าย รับรองว่าเขาจะแสดงความไม่พอใจอย่างแน่นอน เพราะรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายกำลังล้ำเส้น และหากอีกฝ่ายไม่ได้มีอะไรผิดปกติ เรื่องการเช็คโทรศัพท์ก็จะเป็นชนวนเหตุของการใช้ชีวิตคู่ต่อไป

สอง ลองคิดดูว่าถ้าอีกฝ่ายก็แอบเช็คข้อมูลของเราเหมือนกัน เราจะรู้สึกอย่างไร เรายังไม่ชอบเลย เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องรักษาระยะห่างของพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองเอาไว้ด้วย

สาม ถ้าอดใจไม่ได้ จะเป็นจะตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้เช็กอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องทำให้แนบเนียนที่สุดที่จะไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ พร้อมทั้งเตรียมเผื่อใจรับไว้ด้วยว่า ถ้าหากวันใดที่อีกฝ่ายล่วงรู้ก็ต้องยอมรับถึงผลที่จะตามมาไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง

สี่ บางครั้งอีกฝ่ายทำตัวไม่ชอบมาพากล ก็เป็นธรรมดาที่อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจและเกิดความสงสัย รวมถึงพยายามจะหาวิธีล่วงรู้ให้ได้ว่าสามีมีอะไรปิดบังหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีเทคนิคในการจัดการในรูปแบบอื่นๆ ที่เนียนๆ ก็ได้ มีหลากหลายวิธีที่สามารถทำได้ โดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดจนเกินไป เพราะถ้าสิ่งที่อีกฝ่ายคิดมากเกินไป โดยที่อีกฝ่ายไม่มีอะไร จะกลายเป็นเรื่องล่อแหลมและระหองระแหงตามมาได้อยู่ดี

ห้า เชื่อเถอะค่ะ ว่าถ้าคุณเช็คโทรศัพท์ของคุณสามีที่สุดแสนจะเจ้าชู้แล้วเขาจับได้ เขาก็ต้องมีวิธีในการซุกข้อมูลอื่นๆ อยู่ดี เรียกว่าแล้วคุณจะไล่ตามไปถึงเมื่อไร เพราะสุดท้ายเมื่อเขาไม่ซื่อสัตย์ ทำอย่างไรก็ไม่ซื่อสัตย์ แล้วเราจะแบกความทุกข์วิ่งไล่ตามทำไม สิ่งที่ควรทำ คือลุกขึ้นมาพูดกันอย่างตรงไปตรงมาคือทางออกที่ดีที่สุด

หก การพูดกันตรงไปตรงมา การให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตคู่ มีหลายคู่มีสามีแอบไปมีกิ๊ก แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกราไปเอง เพราะต้องแพ้ทางและแพ้ใจอีกฝ่ายที่ปฏิบัติตัวด้วยความซื่อสัตย์ เต็มไปด้วยความรักและความจริงใจ

ใครก็อยากมีชีวิตคู่ที่ดี แต่หลักการครองเรือนไม่มีสูตรสำเร็จ เป็นเรื่องที่แต่ละคู่ก็มีเงื่อนไขและบริบทของชีวิตคู่ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะจัดการกับมันได้อย่างไร เพียงแต่อย่าให้ความอยากรู้อยากเห็นจนล้ำเส้น กลายเป็นชนวนของความขัดแย้งของครอบครัว


ที่มา:manager.co.th


Create Date : 23 ธันวาคม 2552
Last Update : 23 ธันวาคม 2552 17:27:17 น. 2 comments
Counter : 602 Pageviews.

 
ฤดูเปลี่ยนผันวันเปลี่ยนไป
ย่างเข้าปีใหม่สุขใจทุกวัน
ไม่ว่าปีไปวันไหม่เวียนผ่าน
กาลเวลาแสนนาน
ขอให้ยังเบิกบานในใจ

ขอให้มีความสุขตลอดปี
ไม่ว่าปีนี้หรือปีไหนๆวันเปลี่ยนเวียนไป
ขอให้สุขใจจริงเอย


โดย: chabori วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:17:45:37 น.  

 


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 23 ธันวาคม 2552 เวลา:21:10:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nunjoy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




การเป็นตัวของตัวเองอะแหละดีที่สู้ดดดดด!
Friends' blogs
[Add nunjoy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.