Group Blog
 
 
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 

‘ธนินท์ เจียรวนนท์’ ฟันธง! 3 ปัจจัยทางรอดประเทศไทย

เห็นว่าเป็นมุมมองที่น่าสนใจ เก็บไว้เป็นคลังข้อมูลครับ

--------------------------------- 

เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ให้สัมภาษณ์สื่อ ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2563 นำเสนอมุมมองการพัฒนาเมืองไทยท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยแนะนำว่าหากรัฐบาลทำ 3 เรื่องนี้ ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งแห่งหนึ่งของโลก

เรื่องแรกที่เจ้าสัวซีพีวิเคราะห์คือ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี

 
“อีอีซีจะทำให้เมืองไทยกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งกฎหมายต้องพิเศษ บางกฎหมายอาจต้องวัดตัวตัดสูทให้เหมาะกับนักลงทุน โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ต้องถามเขาว่าต้องการอะไร แล้วธุรกิจเขามาทำประโยชน์ให้กับประเทศไทยอย่างไร ก็เหมือนกับซื้อขายกัน เราจะผลิตอะไรต้องไปถามคนซื้อก่อนว่าคุณต้องการสินค้าชนิดไหน เหมือนกัน เราดึงเขามาลงทุน เอาเงินมาลงทุนที่นี่ มาผลิตสินค้าที่นี่เอาไปขายทั่วโลก เขาต้องการอะไร เราก็ให้เขา เมืองไทยวันนี้อยู่ในฐานะที่ใครๆ ก็ชอบเรา และถ้าเรารู้จักใช้อีอีซีไปดึงเอาคนทั่วโลกมาลงทุน ดึงเอาคนเก่งในโลกนี้มาทำธุรกิจในเมืองไทย ใครก็อยากจะมาถ้าอีอีซีเกิด อย่าไปเข้าใจผิดว่าเฉพาะสินค้าไฮเทคจะได้ประโยชน์ พอตัวนี้เกิด เงินตราเข้าประเทศ การจ้างงานมหาศาล ธุรกิจบริการเกิด อสังหาริมทรัพย์เกิด โรงแรมเกิด ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นไปอีก ได้ภาษีเพิ่มขึ้นอีก”
 
“วันนี้คนเก่งเราไม่พอ ทำยังไงจะเอาคนเก่งในโลกนี้มาใช้ ประเทศอื่นไม่มีโอกาส เขาไม่ไปหรอก เขาไม่มีวัฒนธรรมแบบไทย เพียงแต่เขาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วสร้างประเทศไทย เขาได้เราก็ได้ ผมพูดกับทีมงานว่า กำไรน้อยขายมากไม่ได้หมายความว่ากำไรน้อย กำไรมากขายน้อยไม่ได้หมายความว่ากำไรมาก คุณขาย 10 บาท กำไรร้อยเท่า ผมขาย 1 บาท กำไรล้านเท่า ต้องคิดกันใหม่”
 

เรื่องที่สอง : การท่องเที่ยว

  
“ผมพูดได้เลยว่า วันนี้เราเป็นเบอร์ 1 ของโลก ใคร ๆ ก็อยากมาเที่ยวเมืองไทย ไม่ต้องกลัวหรอก เขาเอาเงินมาให้เรา ฝรั่งเศสรวยไหม วันนี้คนขายของพูดภาษาจีนเป็นทุกคน เราต้องเปิดรับ ของเรานี่คนยุโรปก็ชอบ รัสเซียก็ชอบ อินเดียก็ชอบ อเมริกาก็ชอบ แต่คุณรู้ไหมว่า คนอเมริกาสัดส่วนเยอะมากที่ไม่เคยออกนอกประเทศ เพราะประเทศเขายิ่งใหญ่พอ อุดมสมบูรณ์ จึงไม่ต้องออกไปต่างประเทศ แต่คนจีนไม่ใช่ คนจีนมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายประเทศไม่ต้องใช้วีซ่า ขนาดญี่ปุ่นเขามีแผนจัดนักท่องเที่ยว 4 ล้านเป็น 30 ล้านคน เขาตั้งเป้าไปถึง 60 ล้านคน ของเราต้องตั้งเป้า 120 ล้านคน ต้องทำยังไง ต้องมีงบประมาณ ต้องเตรียมพร้อมหรือยัง ฐานของเราเยี่ยมจริง ๆ ประชาชนมีส่วนช่วยกัน ถ้ารัฐบาลเข้าใจแล้วส่งเสริมเต็มที่ วางแผนทั้งประเทศเลยว่า จะให้ไปเที่ยวที่ไหน ห้องน้ำ โรงแรม อาหาร การขนส่ง ความปลอดภัย ความสะดวก ต้องวางแผน ที่ท่องเที่ยวต้องสะอาด ซึ่งรัฐบาลต้องลงทุน บีโอไอต้องส่งเสริม จะให้ incentive อย่างไร”
 
“ผมว่าเมืองไทยจะก้าวกระโดด และเรามีแหล่งท่องเที่ยวหลายเกรด พวกเกรดสูง ๆ มีเงินเยอะ ๆ ชอบภูเก็ต เราจะทำยังไงให้สนามบินภูเก็ตรองรับ ถ้าเขาอยากมา แต่ต้องมาแออัดที่สนามบิน ก็ไม่อยากมาแล้ว เครื่องบินส่วนตัวจอดได้ ต้องมีหลายเรื่องที่จะไปเปลี่ยนแปลง มีนโยบายชัดแล้วไปส่งเสริม เราต้องให้คนทุกเกรดมาเที่ยวเมืองไทยแล้วพอใจ แม้กระทั่งพวกที่มาแล้วไม่ใช้จ่ายก็อย่าไปมองข้าม วันนี้เขายังเด็กอยู่ แต่เมื่อไหร่เขามีเงิน เขาจะกลับมาเที่ยวใหม่ พูดกันปากต่อปาก ทำให้คนยิ่งอยากมาเที่ยว ยิ่งกว่าเราไปโฆษณาอะไรทั้งสิ้น นักท่องเที่ยวมาถึงเปลี่ยนเป็นเงินบาท ก็เข้ากระเป๋ารัฐบาลแล้ว เหมือนกับคนมาซื้อทุเรียน ไปกลัวอะไร มาเลย ส่งเสริมเลย ถ้าใครจะมาช่วยซื้อทุเรียนจากสวน ช่วยเราขายไปทั่วโลก เราไปห่วงอะไร เราก็เก็บภาษี ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น ทำให้เงินตราต่างประเทศเข้ามามากขึ้น”
เรื่องที่สาม : เกษตรกรรม
เรื่องเกษตรสำคัญที่สุดสำหรับประเทศไทย พวกคุณรู้ไหมว่า ประเทศในอาหรับเขามีน้ำมันใต้ดิน เรามีน้ำมันบนดิน จนกว่าคนที่มีน้ำมันใต้ดินได้ยังไง เพราะอะไร เพราะเราต้องการคนกินข้าวถูก กินสินค้าเกษตรถูก เพื่อดัชนีค่าครองชีพต่ำ ต้องทำยังไงให้สินค้าเกษตรแพง ถ้าเกษตรกรร่ำรวยขึ้นมาเมื่อไหร่ อะไรทุกอย่างคึกคักหมด เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของชาติ”
“สินค้าเกษตรทำเป็นน้ำมันก็ได้ แต่สำคัญที่สุดต้องเลี้ยงชีวิตมนุษย์ และมนุษย์นี่สำคัญกว่าเครื่องจักรไหม แต่คนที่ผลิตสินค้าเพื่อเลี้ยงมนุษย์จนกว่าคนที่ผลิตสินค้าให้เครื่องจักร มันถูกต้องที่ไหน ถ้าเกษตรกรร่ำรวยขึ้นมา มีเงินจับจ่าย ใครได้ประโยชน์คนแรกรู้ไหม แม่ค้าตลาดสด แม่ค้าหาบเร่ได้ก่อน สินค้าโอทอป ธุรกิจจิ๋ว เล็ก กลาง ได้ก่อน เพราะเขาเป็นกำลังซื้อของกลุ่มสินค้าเหล่านี้ ไม่ใช่ไปบอกว่าเราต้องขายข้าวเป็นที่ 1 ของโลก เป็นที่ 1 ของโลกแล้วเกษตรกรยากจนขายไปทำไม”
“พอผมพูดว่าทำให้สินค้าเกษตรราคาแพง เขานึกว่าสร้างประโยชน์ให้ผม แต่จริง ๆ ผมพูดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ แถมผมยังเสียก่อน เพราะถ้าข้าวราคาแพง ผมขายข้าวไปทั่วโลกขาดทุนทันที แต่ไม่เป็นไร เรามีธุรกิจอีกเยอะ ก็ค่อยปรับตัวในส่วนตรงนี้ใหม่ พวกไฮเทคพวกทันสมัยเราไม่ได้แพ้ใคร ตึกที่ยอดเยี่ยมเราก็มี รถยนต์แพงที่สุดในโลกเราก็มี โรงแรม 6 ดาวเราก็มี แต่เกษตรกรยิ่งทำยิ่งจน หนี้สินยิ่งมาก เพราะไม่ทันกับสังคม อันตรายที่สุด”

---------------------- 
ที่มา: Salika  

  




 

Create Date : 18 มีนาคม 2563
0 comments
Last Update : 18 มีนาคม 2563 15:11:12 น.
Counter : 524 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


สมาชิกหมายเลข 5768756
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5768756's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.