|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ต้นฉบับวรรณกรรมแบบไหนบ้าง ที่ไม่ควรเอามาทำเป็นหนัง
เหตุเกิดเพราะดันไปเจอกระทู้คนกัดกันเรื่องของหนัง แถมไม่พอ ดันไปกัดเจ้าของ Blog ที่เค๊าเขียนวิจารณ์หนัง
(เฮ้อ Blog มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวนะ ไปกัดเค๊าถึงในที่ มันควรไหมหน๋อ)
ไอ้หนังที่ทำให้คนมันกัดกัน ก็เรื่อง Twilight New Moon อ่ะแหละ
"ส่วนตัว ไม่ขอบหนังเรื่องนี้นะ เพราะดูภาคแรก แล้วหลับไปตั้งแต่ยังไม่ถึงกลางเรื่องเลย และมารู้ตอนหลังว่าเป็นหนังจากนิยาย ก็เลยถึงบางอ้อ โธ่ ที่แท้ก็เป็นนิยายรักเพ้อฝันแนว Romio & Juliet นี่เอง ถึงได้เป็นไปได้ซะขนาดนั้น (หลับแบบไม่อยากตื่นเลย)"
ทีนี้ ก็เลยมานึกได้ว่า เคยคุยกันกับเพื่อน ๆ ในวงเหล้า ว่าประเภทของวรรณกรรมแบบไหนบ้าง ที่ไม่ควรนำมาทำเป็นหนัง หรือหากถ้าจะเอามาทำเป็นหนังจริง ๆ มันก็ควรจะต้องมีการปรับ เปลี่ยน สอดใส่ ตกแต่ง อย่างรุนแรง จนเรียกว่า อาจจะต้องเหลือเค๊าโครงของต้นฉบับไว้อ้างอิงเท่านั้น ที่สุปกันได้แบบเมาหยำเป ก็มีหลัก ๆ ดังนี้แหละ
1. การ์ตูนญี่ปุ่น ทำไมต้องการ์ตูนญี่ปุ่นด้วยล่ะ เหอ ๆ ก็การ์ตูนของประเทศนี้ มันจะเขียนโครงเรื่องให้หลุดออกไปจากความเป็นจริง แบบสุดโต่ง และนิยมสอดแทรกมุขตลกแบบ เด็ก ๆ เรียกว่า โคตรเด็กน้อย เอาไว้ในเนื้อเรื่องด้วย อยากรู้ไหม ตัวอย่างหนังที่ว่าเอามาจากหนังการ์ตูนญี่ปุ่น มีตัวอย่างดังต่อไปนี้คร้าฟ - Dragonball (เห็นหนังหรือยังล่ะ เป็นไง เหอ ๆ เด็กน้อยโคตร ๆ) - Konan The Movie (เปิดตัวออกมาก็พยายามที่จะตลกเลย แต่ทำไมคนนั่งดูกับผม ไม่ตลกด้วยนะ นั่งดูกัน 4-5 คน ไม่ตลกเลย) - Maruko (อันนี้เอาไปทำเป็น Series เลย แต่สำหรับผม ผมว่าสนุกนะ เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ ผู้เขียนเค๊าเขียนมาจากชีวิตจริงในวัยเด็กของเค๊า มันเลยมีกลิ่นไอของความเป็นหนังอยู่ในเรื่อง)
2. นิยายบางเรื่อง พระเอกของเรา ที่ทำให้เกิดการกัดกันได้มากที่สุดระหว่างแฟน ๆ นิยายเรื่องนั้น ๆ กับคนที่ไม่ได้เสพนิยายมาก่อน
สงสัยกันไหม ทุกครั้ง ที่มีหนังที่สร้างจากนิยายขึ้นมาทีไร มักจะมีคนกัดกันให้เห็นอยู่ร่ำไป ตั้งแต่ Harry Potter จนมาถึง Twilight มักจะมีคนโผล่มาด่ากันสนุกสนาน ด้วยเหตุที่ว่า แฟนจ๋าของวรรณกรรมนั้น ๆ เค๊าอ่านแล้วชอบ ก็อินไปกับสิ่งที่ได้เสพกันไปแล้ว พอถึงเวลาที่เป็นหนังใหญ่ ก็ต้องดูดี ในสายตาของพวกเค๊า ถึงแม้ว่าจะทำออกมาห่วยแตกขนาดไหน ก็ต้องมีแฟนคลับทุกครั้งไป กับอีกกลุ่ม ที่ไม่เคยได้เสพวรรณกรรมแบบแฟนคลับพวกนั้น คนกลุ่มนี้ เค๊าก็จะต้องมองน้ำหนักของเนื้อเรื่อง ความสมเหตุสมผล ความพอดีในทุก ๆ ด้าน ในสิ่งที่พวกเค๊ากำลังเสพ (ในที่นี้พูดถึงคนที่ได้มีโอกาสเสพเฉพาะหนังอย่างเดียว) ฉะนั้น เมื่อไปเจอตัวหนัง ที่ทำอิงมาจากวรรกรรมที่แต่งได้สุดติ่งทางด้านใดด้านหนึ่ง มักจะรับไม่ได้เป็นธรรมดา
3. สร้างจากเนื้อเรื่องของเกมส์ เกมส์ ผลิตออกมาเพื่อสร้างความมันส์ให้กับผู้เสพสื่อนั้น ๆ อยู่แล้ว และเนื้อของของเกมส์บางเกมส์ ก็สมควรเป็นแค่เกส์ต่อไป ไม่ควรจะออกมาเป็นหนังใหญ่ให้ได้ชมกัน เพราะบางครั้ง มันออกจะเหวอ เพราะหากคนทำหนังไม่เก่งจริง ทำมั่ว ๆ ตามเนื้อเรื่อง มีอันได้เสพหนังแล้วเกิดอาการงุนงง อะไรหว่า ทำไมมันมั่วตั้วอย่างนี้
ทั้งนี้เนี่ย หนังที่สร้างจากเนื้อเรื่องของเกมส์หลายเรื่อง ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนะ แต่ที่สำเร็จเนี่ย อย่างที่เค๊า ๆ ทำกัน เค๊าไม่ได้พุ่งเป้าเข้าไปที่เนื้อเรื่องหลักที่เป็นบทเดินเรื่องในเกมส์นั้น ๆ แต่เค๊าเอาเนื้อเรื่องพวกนั้น วางกองไว้หมดเลย แล้วหยิบเอาตัวละครหลักออกมา เขียนบทใหม่ซะจนเค๊าโครงเดิมของเนื้อเรื่องหายไป และเก็บความมันส์ในการเล่นเกมส์มาผสมกันในเนื้อเรื่องที่ทำเป็นหนังเรื่องนั้น ๆ
ตัวอย่างหนังจากเกส์ที่ประสบความสำเร็จก็เช่น - Resident Evil (อันนี้เห็น ๆ เลย ว่าเนื้อเรื่องแทบจะไม่ได้เอามาจากเรื่องหลักในเกมส์เลย แต่เอามาแค่สถานที่หลัก, เหตุ-ผล และความมันส์ที่เป็นแอคชั่นในเกมส์นั้นมา) - Doom (เรื่องนี้ก็ดึงเนื้อเรื่องบางส่วน และเน้นความมันส์จากแอคชั่นในเกมส์ มาเป็นตัวชูโรง ก็ทำให้หนังสนุก มันส์ ตามแบบฉบับหนังแอคชั่นดี ๆ เรื่องหนึ่งเลย) - Final Fantasy : Spirit Within (ผู้สร้างฉลาดมาก ที่ไม่เอาเนื้อเรื่องของ FF ภาคใดภาคหนึ่งมาทำ แต่เล่นสร้างขึ้นมาใหม่เลย และใช้ชื่อเรื่องเป็นชื่อของเกมส์ แต่กระนั้น ก็ยังไปสะดุดขาด้วยแนวคิดเรื่องของ จิตวิญญาณ)
ตัวอย่างหนังจากเกมส์ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็เช่น - Alone In The Dark (อันนี้ตายเพราะเนื้อเรื่องของเกมส์โดยแท้ เพราะเนื้อเรื่องหลัก มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรดึงมาสร้างเป็นหนังเลย) - Dune (เรื่องนี้เก่ามาก ผู้สร้างดันยกเกมส์มาทั้งดุ้น เอามาทำเป็นหนัง สุดท้าย เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ)
ในโลกนี้ เรื่องบางอย่างเป็นกฎ เรื่องบางอย่างเป็นทฤษฎี ทุกเรื่อง มีกฎของความพอดี สอดแทรกอยู่ในนั้น การจะทำอะไรให้มันพอดี ๆ มันก็จะดูดี แต่ถ้าทำอะไรที่มันสุดโต่ง มันก็เกิดผลเสียหาย เรื่องของการสร้างหนังก็เหมือนกัน หนังที่สร้างโดยอิงกฎหรือทฤษฎี ความพอดี ก็ไปได้รุ่งโรจน์ แต่หนังเรื่องใด ที่สร้างโดยไม่สนใจกฎแห่งความพอดี ก็มีอันต้องเจ็บตัวไป
การ์ตูน นิยาย เกมส์ ล้วนเป็นแหล่งสิ่งสถิตย์ของกฎแห่งความไม่พอดี คือจะทำให้สุดโต่งก็ทำได้ ให้เหมือนจริง ก็ทำได้ เพราะเป็นแหล่งรวมจินตนาการของผู้สร้าง (ถ้าว่ากันตามหลักศาสนา ก็จะว่าเป็นแห่งกล่อมสังขารขันธ์ = ความคิดปรุงแต่ง) เมื่อจะทำสิ่งเหล่านี้ ออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ก็ต้องทำการปรับแต่ง ให้มีความพอดี ถึงจะไปได้รุ่ง และถ้าจะให้โฟกัสไปที่นิยายนะ ผมว่า เป็นอะไรที่ยากที่สุดแล้วสำหรับคนทำหนัง เพราะถ้าปรับมาก แฟนคลับก็ไม่พอใจ ปรับน้อย ก็โดนคนที่ไม่ใช่แฟนคลับด่าว่าเพ้อฝัน
สำหรับคนที่อยากดูคนกัดกัน ก็ตามไปดูได้ที่ต้น Blog ที่ผมไปอ่านมา เป็นเรื่องของคนที่เค๊าไม่ชอบ Twilight : New Moon ซึ่งตอนนี้กำลังกัดกับแฟนคลับอย่างจมเขี้ยว ฝุ่นคลุ้ง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noon0072&month=11-2009&date=27&group=1&gblog=19
Create Date : 02 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 15:28:37 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2785 Pageviews. |
|
|
|
โดย: dfh วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:14:15:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนแว่วเสียงเรไรก็โอเค น่ากลัวดีแต่ก็ยังไม่สุด ที่ชอบคือ rookies กับ อีกา ที่ทำออกมาได้ฮาและเคสติ้งนักแสดงออกมาได้เหมือน และที่สำคัญที่สุด 20 th century boy เรื่องนี้ขอชมมากๆ ถอดออกมาจากในหนังสือเลยทั้งฉากทั้งตัวละคร หน้าให้โดนใจมากๆ และก็ยังชอบเพลงกูตาลาลาอีกด้วย จะรอฟังภาค 3
แต่เราเองยอมรับเราชอบการ์ตูนเรื่อง 20 th century boy มาก แต่ว่าทำเป็นหนังดีแค่ภาค 2 ภาคที่ 2 ห่วยเพราะว่าตัดอะไรออกไปเยอะมาก ถ้าใครมาด่าเราก็ไม่ว่าอะไรเพราะว่ามันห่วยจริง แต่มันไม่ได้ห่วยที่ตัวละครมันห่วยที่ฉากไม่ต่อเนื่องต่างหาก
แต่เรื่อง newmoon นี่ดีหมดยกเว้นตัวละครซึ่งเป็นตัวเอก เราเลยยอมรับไม่ได้ที่ว่านี่คือหนังกระแสหรอเนี่ย ยแต่ถ้าเป็นคนไทยทำเราด่าคงไม่มีใครออกมาปกป้องหรอก คิดว่างั้นนะ ส่วนแฮรี่เราก้ว่าไม่ได้ดีเลิศแต่มันมีประเด็นอื่นที่ยังให้ข้อคิดอะไรอยู่เลยไม่ด่าเท่าไหร่ คือถ้ายังไม่แย่ถึงที่สุดคงไม่ออกมาพูด
ส่วนที่มาจากเกมส์อันนี้ถ้าดูดูเอามัน ถ้าไม่มันก็เสียดายตัง เนื้อหาสาระอะไรไม่สนอยู่แล้ว