ตอนที่ 6


อายาโตะก้าวออกจากรถไฟเรียบร้อยแล้วสถานีอากิฮาบาระเนื่องแน่นไปด้วยผู้คนจริงๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศไม่ผิดหรอกคนไทยมาเที่ยวที่นี่เยอะจริงๆไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ได้ยินสำเนียงภาษาไทยทำให้อายาโตะอดหันไปมองไม่ได้เพราะไม่ได้เจอภาษาไทยนานแล้ว

นอกจากหลงกับอชิแล้วก็ไม่มีใครพูดภาษาไทยกับตนเลยพอได้ยินสำเนียงที่คุ้นเคยก็ทำให้เขาอดคิดถึงเมืองไทยไม่ได้วากาชิหันไปจับมืออายาโตะเพราะกลัวคนร่างเล็กจะหลงพร้อมกับออกแรงดึงให้เดินไปข้างหน้า

“คนเยอะเนอะ” อายาโตะหันไปคุยด้วย วากาชิที่ปกติไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ ก็หันมาพยักหน้า

“ตั้งแต่ฟรีวีซ่า นักท่องเที่ยวก็เลยเยอะน่ะโดยเฉพาะคนสัญชาติเดียวกับนาย”

วากาชิพูดยิ้มๆอายาโตะเองก็ยิ้มไปด้วย ก่อนเดินตามร่างสูงออกไปยังทางออกสถานี

ย่านอากิฮาบาระเป็นสถานที่ขึ้นชื่อที่ของโตเกียวมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่มากเช่นกันเพราะเป็นย่านของอิเล็กทอนิกส์และของเล่นเหล่าโอตาคุ สาววาย คอเกมส์เมอร์ ต่างก็ชอบมาย่านนี้นี่ถ้าลูกพี่ลูกน้องเขาที่เป็นสาววายรู้ว่าเขามาย่านนี้สงสัยต้องฝากซื้อของและให้ส่งกลับไปทางเครื่องบินเป็นแน่

“เดี๋ยวเราหาไรกินก่อนดีกว่าเนอะ” วากาชิบอก อายาโตะพยักหน้าตอนนี้เขาหิวมากแล้วเช่นกัน

“อื้อ เอาสิ ว่าแต่จะกินอะไรล่ะ” อายาโตะถามพร้อมกับเดินตามร่างสูงไปเรื่อยๆก่อนหน้าที่จะเดินท่องเที่ยวก็ต้องเติมกระเพาะให้เต็ม

“กินไรดีล่ะ เอาง่ายๆ ดีกว่าเนอะ แฮมเบอร์เกอร์ดีไหม” วากาชิถามอายาโตะบอกอะไรก็ได้แต่แล้วเมื่อทั้งคู่ผ่านร้านราเมงกลิ่นหอมหวนส่งออกมาทำให้ทั้งสองหยุดชะงักพลางยิ้มให้กัน

“ร้านนี้และโอเคเนอะ” อายาโตะถามขึ้นก่อนรู้อยู่ในใจแล้วว่าวากาชิต้องเลือกเหมือนตนแน่

“อื้อ กลิ่นน่ากินดี” วากาชิตอบก่อนเดินเข้าไปในร้านทันที

หลังจากที่วากาชิและอายาโตะทานราเมงเรียบร้อยแล้วทั้งสองก็เดินออกมาเที่ยวต่อในย่านโอโตเมะโร้ด สาเหตุก็ไม่พ้นที่อายาโตะเผลอแชร์สถานที่ในเฟสบุ๊คทำให้ลูกพี่ลูกน้องสาวที่เป็นสาววายกรี๊ดกร๊าดถึงขั้นส่งรายแถมยังโทรข้ามประเทศมาสั่งการให้เขาไปย่านโอโตเมะโร้ดเพื่อซื้อของที่ต้องการและส่งมาทางเครื่องบินให้

อายาโตะมองหน้าวากาชิก่อนจะขำออกมากับรายการสั่งของของลูกพี่ลูกน้องสาวถ้าหากหล่อนรู้ว่าเขามีแฟนเป็นผู้ชายสงสัยจะกรี๊ดกร๊าดหนักกว่าเดิม

วากาชิจูงมืออายาโตะเดินไปทางถนนดังกล่าวระหว่างทางอายาโตะเดินดูของซื้อโน้นซื้อนี้เล็กๆ น้อยๆเช่นเสื้อยืดลายการ์ตูนน่ารักๆ แบบเป็นคู่เพราะคิดว่าถ้าดีแลนใส่คู่เขาคงจะน่ารักพิลึกร่างบางอมยิ้มพลางยื่นตังค์ให้คนขาย

“ซื้อไปให้แฟนเหรอ” วากาชิถามขึ้นเพราะมันดูน่ารักเกินกว่าที่เจ้าตัวจะใส่อายาโตะชะงักไปเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับอย่างเขินอาย

“อื้อ ก็... นิดหน่อย”

“น่ารักดีนะ” วากาชิพูดขึ้นลอยๆ อายาโตะคิดว่าวากาชิหมายถึงเสื้อ

“เสื้อเหรอ”

“นายน่ะ น่ารักดี”

“อ่ะ...” อายาโตะอึ้งกับคำชม แต่เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มๆของวากาชิอายาโตะก็หลุบตาลงอย่างเขินอาย

“ขอบใจนะที่ชม แต่วันหลังบอกว่าหล่อสิ”

“อย่างนายน่ะ น่ารักถูกแล้ว”

“เอ่อๆ ไปๆ เหอะได้ของแล้ว” อายาโตะดุนหลังวากาชิที่หัวเราะร่วน ร่างบางไม่คิดอะไรกับวากาชิเกินกว่าเพื่อนแต่ก็อดเขินอายไม่ได้

ทั้งสองเดินไปจนถึงย่านโอโตเมะโร้ด อายาโตะถึงกับหน้าแดงกับย่านดังกล่าว ทั้งๆที่ภูมิต้านทานสาววายเขาเยอะพอสมควรแต่พอมาเจอแบบนี้ก็เล่นเอาเขินเมื่อกันยิ่งเมื่อต้องไปเดินซื้อหนังสือหรือของเล่นที่เรียกว่าฟิกเกอร์ให้ลูกพี่ลูกน้องเขาก็แทบจะแทรกแผ่นดินหนีอาจด้วยเพราะเดินมากับผู้ชายสองต่อสองเลยทำให้คนมองพวกเขามากขึ้นไปอีก

“อายเหรอ” วากาชิถาม อายาโตะเม้มปาก พลางพยักหน้า

“ก็นิดหน่อยวะ ไม่คิดว่าจะขนาดนี้”

อายาโตะมองไปรอบๆโปสเตอร์ชายรักชายถูกติดไว้ตามกำแพง ไม่พอยังมีป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดแขวนไว้แล้วก็ยังป้ายคัทอีก อายาโตะอ้าปากเหวอไปเลยวากาชิขำกับสภาพของอายาโตะพลางยกมือขึ้นตบบ่าปุๆ

“ทำใจ มาย่านนี้”

อายาโตะพยักหน้ารับก่อนเดินเลือกของตามที่ลูกพี่ลูกน้องสั่งทันทีโดยไม่รู้ว่าตอนนี้ดีแลนแทบจะเดือดพล่านไปด้วยอารมณ์เมื่อเห็นคนรักแสดงความสนิทสนมกับเพื่อนชายในตอนนี้

หลังจากอายาโตะเดินจนพอใจแล้ววากาชิก็เดินไปยังถนนใหญ่เพื่อนั่งแท็กซี่ไปส่งอายาโตะที่คฤหาสน์ของดีแลนในตอนแรกอายาโตะอยากนั่งรถไฟฟ้าอีกแต่วากาชิบอกไว้วันหลังเพราะวันนี้ของในมืออายาโตะค่อนข้างจะเต็มไม้เต็มมือความจริงแล้วเขาจะเรียกรถจากที่บ้านมารับเขาเพื่อไปส่งอายาโตะก็ได้แต่ก็กลัวอายาโตะคิดมากจึงตัดความคิดนี้ทิ้งไปเสีย

"ความจริงวากาชิไม่ต้องไปส่งเราก็ได้นะ"

อายาโตะบอกเพราะเห็นว่าทางกลับบ้านก็คนละทางกลัววากาชิจะเสียเวลาที่ต้องไปส่งเขาแล้วต้องวกกลับบ้านอีกวากาชิลูบศีรษะอายาโตะอย่างเอ็นดู

"ไม่เป็นไรหรอก เราอยากไปส่งอายาโตะเองก็ไม่สันทัดเรื่องถนนหนทางในญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ"

อายาโตะส่งยิ้มฝืดไปไม่ใช่เขาโคตรจะไม่สันทัดเลย ก็ไปไหนมากไหนดีแลนก็พาไปตลอด

"เอ้ารถมาแล้ว ขึ้นเถอะ" วากาชิตัดบทเมื่อเห็นรถแท็กซี่ที่เรียกมาแล้ว

แท็กซี่ที่นี่ต่างจากแท็กซี่ที่ประเทศไทยเยอะมากทั้งประตูที่เปิดเองได้และมารยาทของคนขับที่สุดจะนอบน้อม มีมารยาทการแต่งกายก็เป็นเอกลักษณ์โดยที่เห็นส่วนมากก็มักจะใส่สูทผูกไทป์ ดูภูมิฐานแต่ยังไม่ทันที่อายาโตะจะได้ขึ้นรถแท็กซี่ดีแลนก็ให้คนรถขับเข้ามาเทียบท่าและเปิดกระจกลงเรียกอายาโตะเสียก่อน

"อายาโตะขึ้นรถสิ ฉันมารับแล้ว"

อายาโตะหันไปมองดีแลนอย่างเหวอๆจนเมื่อมีเสียงจึงรีบวิ่งไปที่รถพลางส่งยิ้มอย่างดีใจเพราะไม่คิดว่าดีแลนจะมาอยู่แถวนี้

ดีแลนเห็นสีหน้าดีใจของอีกฝ่ายอารมณ์มาคุก็ลดลงไปเล็กน้อยขอบอกว่าแค่เล็กน้อยนะไม่ใช่ทั้งหมด ก็ตลอดเวลาที่คนตัวเล็กเดินกับอีกฝ่ายไม่จับมือก็โอบไหล่ ไม่โอบไหล่ก็ลูบหัว มันทำให้ต่อมมาคุของเขาพลุ่งพล่านไปไม่น้อย

"คุณดีแลนมารับผมเหรอ"อายาโตะถามเสียงใส หน้าชื่นเหงื่อบ่งบอกว่าดีใจมากที่เห็นอีกฝ่ายใส่ใจตน

"อื้อพอดีงานเสร็จเร็วนะ"

ดีแลนโกหกความจริงเขาแทบจะยกเลิกการประชุมธุรกิจแสนล้านเพราะคนตัวเล็กคนเดียวแต่ด้วยความที่มีสปิริตบวกเอียนที่บังคับให้เขาเข้าประชุมธุรกิจครั้งนี้ให้ได้เลยทำให้เขาต้องเร่งการประชุมและลงนามในสัญญาอย่างรวดเร็วแบบไม่เคยมีในประวัติการทำงานมาก่อนและมาโพล่ในที่นี่ในเวลาอันรวดเร็ว

"ถ้างั้นคุณดีแลนไปส่งวากาชิด้วยได้ไหมครับ"อายาโตะยังไม่ลืมเพื่อน

ดีแลนจ้องหน้าเด็กวากาชิก่อนหันไปพยักหน้ากับอายาโตะถึงเขาจะโมโหเจ้าเด็กวากาชิที่บังอาจแตะเนื้อต้องตัวอายาโตะสุดที่รักของเขาแต่เขาก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ละนะ

"เอาสิรีบขึ้นมาเถอะ รถเริ่มติดแล้ว"

ดีแลนบอกอายาโตะหันไปดึงมือวากาชิพลางพยักหน้าให้ไปกับตัววากาชิที่ตอนแรกคิดว่าจะปฏิเสธกลับเปลี่ยนใจตอบรับในทันที

ก็ยั่วให้คนชื่อดีแลนโมโหหึงมันสนุกกว่าเป็นไหนๆ

วากาชิพยักหน้ารับหันไปส่งเงินให้แท็กซี่ที่ตนเองเรียกเพื่อเป็นมารยาทคนขับแท็กซี่ก็ไม่มีท่าทีโมโหที่เรียกรถตนแต่ไม่ไปแต่อย่างใดแถมปฏิเสธไม่รับเงินดังกล่าวอีก แต่วากาชิก็ยังยืนยันที่จะให้คนขับแท็กซี่ดังกล่าวจึงน้อมรับเงินที่ส่งให้อย่างไม่บิดพริ้วอายาโตะอมยิ้มกับมารยาทของคนขับอย่างชอบใจจนดีแลนต้องเร่งอีกฝ่ายให้รีบขึ้น รถ

"ขึ้นรถได้แล้ว"

"ครับ...ขึ้นแล้วครับ"

อายาโตะรีบวิ่งมาที่รถในมือยังจูงมือวากาชิไม่ปล่อยทำเอาเส้นขมับของดีแลนเต้นปุๆเขาอยากจะกระชากตัวเด็กหนุ่มแล้วถามว่าทำไมถึงไปจับมือถือแขนอีกฝ่ายแบบนั้นแต่ก็ต้องระงับไว้เพราะรู้ว่าอายาโตะคงไม่ได้ตั้งใจ

วากาชิเห็นดีแลนทำท่าจะกินหัวเขาก็ยกยิ้มมุมปากอย่างสะใจถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดกับอายาโตะในเชิงชู้สาวเพราะสถานภาพของตนเองและอายาโตะเทียบเท่ากันและยังมีความสัมพันธ์บางอย่างที่ทำให้คิดแบบนั้นไม่ได้ด้วย แล้วแต่การที่แกล้งดีแลนให้ดิ้นพล่านๆ แบบนี้ก็สนุกดีวากาชิยกมือขึ้นโอบไหล่อายาโตะอย่างถือดี

ตลอดทางอายาโตะผูกขาดการสนทนาโดยไม่ค่อยให้ความสนใจดีแลนเท่าที่ควรเขาเอาแต่พูดคุยกับวากาชิเพราะกลัวว่าวากาชิจะรู้สึกเกร็งที่ต้องมานั่งกับ ดีแลนคนตัวเล็กเริ่มรับรู้ถึงรังสีอำมหิตจากอีกฝ่ายแต่ก็พยายามไม่สนใจกะว่าพอกลับไปถึงบ้านจะเอาใจดีแลนให้มากๆ ชดเชยที่เขาหนีมาเที่ยวและยังเอาใจคนอื่นมากกว่าดีแลน

จวบจนรถคันหรูของดีแลนแล่นมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่วากาชิบอกให้มาส่งอายาโตะจึงหันไปโบกมือลาอีกฝ่ายบ้านที่วากาชิให้มาส่งความจริงเป็นบ้านของลูกน้องที่อยู่ในสังกัดพรรคของเขาตอนแรกอายาโตะแสดงความแปลกใจที่ตอนแรกเขาเคยบอกอีกฝ่ายว่าอยู่หอพักและกำลังหารูมเมทอยู่แต่อยู่แล้วไม่สบายจึงย้ายกลับมาอยู่บ้านด้วยไม่อยากให้อายาโตะรู้ฐานะที่แท้จริงจึงไม่ยอมให้ไปส่งที่คฤหาสน์ตระกูลทากะนั้นเอง

"ไว้วันหลังมาอีกนะ"อายาโตะบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสดใส เขาอยากเดินเที่ยวแบบนี้อีกแต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือไม่

วากาชิส่งยิ้มอ่อนโยนให้พลางลูบศีรษะทุ่ยเขาชอบลูบหัวอายาโตะเพราะผมที่นุ่มนิ่มราวขนแมวนั้นหาไม่ได้จากคนที่เขารู้จักเมื่อนึกถึงคนๆนั้นวากาชิก็เหลือบไปมองร่างๆหนึ่งในเหงามือที่ทอดสายตามองมาเห็นทีเขาคงไม่ต้องกลับคฤหาสน์ตระกูลทากะแล้วคงได้นอนค้างที่นี่ก่อนออกไปเรียนในวันรุ่งเช้า

"อื้อแล้วไว้ไปอีกวันหลัง อายาโตะยังไม่เคยไปดิสนีย์แลนด์ใช่ไหม เราจะได้พาไป"

อายาโตะตาโตพยักหน้าทันทีตั้งแต่มานอกจากบ้านกับมหาวิทยาลัยและภัตตาคารที่ดีแลนพาไปแล้วแล้วเขายังไม่เคยไปไหนเลยถึงแม้แว่วๆ ว่าดีแลนจะพาไปโตเกียวสกายทรีในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ก็ตามที

"โอ เคงั้นไว้รอบหน้าไปดีสนีย์แลนด์ เชิญคุณดีแลนไปด้วยก็ได้นะครับ"

วากาชิหันไปส่งเสียงบอกอีกฝ่ายที่นั่งหน้าตึงอยู่ในรถดีแลนพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ก่อนเรียกให้อายาโตะเลิกร่ำลาวากาชิอย่างกับอีกฝ่ายกำลังจะตายให้ขึ้นรถกลับคฤหาสน์ได้แล้ว

"ขึ้นรถเถอะอายาโตะเดี๋ยวฉันต้องไปงานเลี้ยงตอนเย็นอีก" ดีแลนบอก

ความจริงงานเลี้ยงเขาไม่อยากไปหรอกแต่เห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้แล้วชักจะงอนแต่ถ้าให้อยู่ก็กลัวจะทำรุนแรงกับอายาโตะจนอีกฝ่ายรับไม่ได้บอกเลิกเขาเขาก็คงรับไม่ได้อีกเหมือนกัน

ถ้าเป็นคนอื่นเขาไม่เคยจะแคร์บอกเลย

"ครับผม"

อายาโตะรับคำอย่างฝืดๆหน้าเศร้าหมอง ตลอดทางดีแลนเหมือนอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลาทำเอาอายาโตะแทบไม่อยากเอาเสื้อคู่ที่ซื้อมาให้อีกฝ่ายเพราะกลัวว่าดีแลนจะยิ่งอารมณ์เสียขึ้นไปอีกซึ่งเมื่อถึงคฤหาสน์ดีแลนก็ปล่อยให้อายาโตะอยู่คนเดียวส่วนตัวเองออกไปงานเลี้ยงเพื่อสงบสติอารมณ์ทันที

ตอนเช้ามืด ดีแลนเดินเข้ามาในคฤหาสน์อย่างเหนื่อยล้าปกติเขาไม่ใช่คนที่จะอยู่จนงานเลิกและไปต่อที่อื่นอีกแต่มีครั้งนี้และที่เขาอยากให้อายาโตะได้รับรู้ถึงรสชาติที่ต้องเหงาอยู่คนเดียวและต้องการปรับอารมณ์ตนเองไม่ให้ครุกกรุ่นจนเอาความรู้สึกหึงหวงไปลงที่คนร่างเล็ก

ร่างสูงบอกบอดี้การ์ดของเขาให้ไปพักผ่อนได้ก่อนเดินเข้าไปในตัวบ้านอย่างเชื่องช้ามือหนานวดหัวไหล่ที่ปวดตุ๊บๆขึ้นมาเล็กน้อยก่อนถอนหายใจเมื่อมองเข้าไปในคฤหาสน์ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะเป็นยังไงบ้างแต่แล้วดีแลนก็รับรู้ถึงความผิดปกติบ้านไม่น่าเงียบและห้องไม่น่าจะปิดไฟเกือบหมดแบบนี้ดีแลนกระชับปืนในมือไว้อย่างเหนียวแน่นและค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านอย่างเงียบเชียบตอนแรกเขาจะเรียกบอดี้การ์ดส่วนตัวมาแต่ก็เปลี่ยนใจเพราะเห็นว่าน่าจะไม่ร้ายแรงที่สำคัญเขาไม่อยากให้คนที่กำลังบุกรุกเข้ามารู้ตัว

ปัง ปัง ปัง

เสียงดังสนั่นนี้ไม่ใช่เสียงจากปืนของดีแลนแต่อย่างใดแต่เป็นเสียงปะทัดของเล่นที่ใช้ในงานวันเกิดและคนดึงประทัดไม่ใช่ใครกลับเป็นคนร่างเล็กที่ยืนตาปรืออยู่เบื้องหน้าดูเหมือนว่ามีความพยายามอย่างสูงที่จะอยู่รอเขาจนถึงเวลาย่ำรุ่ง

"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับคุณดีแลน"

อายาโตะเอ่ยบอกเสียงผะแผ่วเสื้อคู่ที่เขาซื้อมาก็เพราะอยากให้อีกฝ่ายเป็นของขวัญวันเกิดในวันนี้ส่วนทำไมถึงรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอีกฝ่ายก็เพราะเขาแอบถามมาจากเอียนและบอกไม่ให้ดีแลนรู้แถมยังขอให้เอียนซื้อเค้กวันเกิดที่เป็นรสกาแฟเพราะดีแลนไม่ชอบของหวานมาอีกด้วยแต่ดีแลนก็มาอารมณ์เสียๆ ก่อน

ดีแลนมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเหวอๆแต่ก็เปลี่ยนเป็นส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้อารมณ์มาคุที่มีมาเมื่อตอนเย็นถูกชะล้างไปจนหมดดีแลนก้าวอย่างมั่นคงเข้ามาดึงร่างอายาโตะให้เข้ามาในอ้อมกอดอย่างคิดถึงแค่โกรธกันเพียงนิดเดียวกลับทำให้เขารู้สึกโหยหาอีกฝ่ายอย่างนี้แล้วคงไม่ต้องพูดว่าถ้าโกรธกันเป็นเดือนๆหรือถ้าต้องห่างกันเป็นเดือนๆจะเกิดอะไรขึ้นไม่ว่าอย่างไงเขาก็ยังต้องการอายาโตะอยู่กับเขาอยู่ดี

"หายโกรธผมแล้วใช่ไหมครับ"อายาโตะเอ่ยเสียงพร่า เขายังรู้สึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะยังอารมณ์เสียอยู่

"หายแล้วล่ะขอโทษด้วยนะที่ปล่อยให้อยู่คนเดียว"

"ไม่เป็นไรครับแต่อย่าบ่อยนะครับ ผมเหงา"

อายาโตะพูดเสียงอุบอิบเขาเหงาจริงๆพอไม่มีคนร่างสูงอยู่ด้วยใกล้ๆดีแลนจูบซับที่ขมับด้านขวาของอีกฝ่ายอายาโตะกอดกระชับร่างหนาอย่างโหยหา

"ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอต้องเหงาอยู่คนเดียวอีกแล้ว"

"จริงนะครับ"อายาโตะร้องออกมาอย่างดีใจที่อีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เขาต้องเหงาอยู่คนเดียวอีกแล้ว

"ใช่แต่ต้องมีข้อแม้..." ดีแลนกระตุกยิ้มมุมปาก อายาโตะทำหน้ามุ่ยว่าข้อแม้อะไร

"ข้อแม้อะไรครับ?"

"ข้อแม้ที่ว่าต่อไปห้ามจับมือถือแขนกับใครอีกยกเว้นฉันบอกตรงๆ ฉันหึงหึงมากด้วย"

ดีแลนสำทับเขาหึงจนแทบควันจะออกหูอายาโตะหัวเราะออกมาเมื่อได้ฟังข้อแม้ของอีกฝ่าย

"หัวเราะอะไร"

"เปล่าครับผมแค่ขำที่คุณดีแลนก็น่ารักเหมือนกันนะ"อายาโตะกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นไปอีกรู้สึกสุขใจมากที่มีแต่คนรัก ที่สำคัญสุขใจสุดๆ ที่ดีแลนหึงตน

"อย่าให้ถึงคราวฉันละกันจะเอาให้หนักเลย" ถึงจะเขินที่อีกฝ่ายชมว่าตนเองน่ารักแต่ดีแลนก็ยังอดเข่งเขี้ยวไม่ได้

"คร๊าบบบผมจะรอ...คืนนี้"

อายาโตะพูดแบบนั้นแล้วดีแลนดันร่างอีกฝ่ายออกพร้อมกับยกร่างน้อยขึ้นแนบอกไม่ต้องรอให้ถึงคืนนี้หรอกจัดการมันเช้านี้และ เอาให้ไม่ต้องนอนเลย

เสียงหัวเราะของทั้งสองดังระงมไปทั่วบ้านก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางอ่อนราวเสียงของลูกแมวน้อยกำลังโดนราชสีห์จับกิน...

สองสัปดาห์ถัดมาอายาโตะออกมาจากห้องของดีแลนด้วยอาการโมโหปนน้อยใจสาเหตุเป็นเพราะดีแลนไม่ยอมบอกตนว่าต้องกลับสำนักงานใหญ่เพื่อเตรียมการเชิญผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูลเพื่อเปิดสำนักงานใหญ่สาขาญี่ปุ่นหลังจากที่ลงนามในสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นถึงสามบริษัท

ถ้าไม่เป็นเพราะเขาชวนไปเที่ยวสวนสนุกคงไม่มีวันรู้ว่าอีกฝ่ายจะเดินทางไปอังกฤษ

ไม่บอกเขาตอนนี้แล้วจะให้เขาไปรู้ตอนไหน...

“ไม่เอาน่าอย่างอนฉันอย่างนั้นสิอายาโตะ”

ดีแลนรีบสาวเท้าลงบันใดตามอายาโตะที่งอนเขาหลังจากที่บอกเด็กหนุ่มไปอายาโตะเชิดหน้าใส่ วันนี้คนร่างเล็กได้หยุดเนื่องในวันสถาปนามหาวิทยาลัย

“ไม่ต้องมาพูดเลย ถ้าผมไม่เอาเรื่องไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาบอกให้คุณรู้คุณคงไม่บอกผมว่าจะไปอังกฤษใช่ไหม”

อายาโตะกระแทกเสียงเขายอมรับว่าโมโหมาก โมโหที่ถ้าไม่ถามก็ไม่ยอมบอก ทั้งๆที่เอิร์ลหนุ่มจะเดินทางอยู่เดือนหน้านี้อยู่แล้ว

“ก็ฉันเห็นว่าไปแปปเดียว คิดว่าจะบอกเธอวันพรุ่งนี้ไงที่รัก” ดีแลนออดอ้อน อายาโตะมองอีกฝ่ายด้วยหางตาก้อนความน้อยใจยังมีอยู่ในอกร้นปี่

"ไปแปปเดียวอะไรของคุณ!ไปเกือบเดือนไม่ใช่เหรอแล้วก็ไม่ต้องมาเรียกว่าผมว่าที่รักเลยนะ" อายาโตะแขวะเสียงดัง

ดีแลนถอนหายใจใช่แล้วเขารู้ว่าต้องเดินทางไปอังกฤษตั้งแต่ตอนวันเกิดแต่ก็เลือกที่จะไม่บอกคนรักเพราะกลัวคนรักคิดมากเพราะนอกจากไปเตรียมงานแล้วเขาต้องไปสู้รบกับอีกเรื่องที่ย่าของเขาหามาให้อีกดีแลนนึกถึงคนที่มีบรรดาศักดิ์เป็นท่านย่าของเขาทันที

ฉันจะแนะนำแม่หนูเรเซียให้เรารู้จักฉันคิดว่าหล่อนเหมาะสมกับเรานะ อเล็กซานเดอร์

เขาล่ะอยากจะบอกย่าของเขาเสียจริงๆว่าไม่ต้องหาคู่ให้เขาเพราะเขามีอายาโตะอยู่แล้วแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวอายาโตะจะมีภัยเห็นทีเขาคงต้องพยายามให้การดูตัวครั้งนี้ล้มไปให้ได้

ดีแลนกระชับร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอายาโตะยังมีอาการขืนตัวแต่ก็ต้องยอมซบกับอกกว้างทั้งๆ ที่ยังมีน้ำตา

“ฉันขอโทษนะ ฉันกลัวเธอรับไม่ได้เพราะฉันต้องไปถึงหนึ่งเดือน”

การเตรียมงานยักษ์ถึงจะเร่งให้ตายแค่ไหนก็ยังต้องใช้เวลาเกือบเดือนหรืออาจมากกว่านั้น

อายาโตะร้องไห้โฮเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายต้องไปถึงหนึ่งเดือนดีแลนกระชับร่างเล็กให้แน่นขึ้นพลางตบหลังราวกับอีกฝ่ายเป็นเด็กน้อย

"แล้วทำไมแค่บอกผมว่าคุณจะไปอังกฤษมันยากนักเหรอทำไมต้องปิดกันด้วยรู้ไหมว่าผมน้อยใจนะ"

"ฉันขอโทษฉันจะไม่ปิดบังเธออีกแล้ว" ดีแลนขอโทษอีกฝ่ายอีกอายาโตะกลืนก้อนสะอื้นดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา

"เดือนหน้าคุณก็จะไปแล้วนะเราเป็นคนรักกันไม่ใช่เหรอแล้วคุณก็รู้มาตั้งแต่วันเกิดคุณแล้วว่าคุณจะไปทำไมถึงไม่บอกผม”

"เอาเป็นว่าฉันผิดเองอย่าร้องให้นะคนดี เดี๋ยวไม่สบายฉันให้หมอฉีดยาให้จริงๆ นะ"ดีแลนยกมือขึ้นลูบใบหน้าอีกฝ่ายพลางพูดติดตลกเขารู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นอายาโตะร้องให้เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดเรื่องดูตัว

“ทำไมไม่บอกผม... อึก... ผมจะได้... ได้เตรียมตัว... อึก... ผมจะไป...ไปกับคุณ...” อายาโตะพูดไปร้องไห้ไปดีแลนถอนหายใจให้ตายเขาก็ไม่พาอายาโตะไปหรอก

“แต่เธอติดเรียนไม่ใช่หรืออายาโตะฉันไม่อยากให้การไปอังกฤษของฉันทำให้เธอเสียการเรียนนะ”

ดีแลนทักทวงโดนเอาเรื่องเรียนมาอ้างอายาโตะเม้มปากแน่นพอพูดถึงเรื่องเรียนแล้วเขาไปไม่เป็นเลย แต่ก็อยากกับดีแลน

“อีกไม่กี่วันก็ปิดภาคเรียนแล้ว”

อายาโตะพยายามพูดให้อีกฝ่ายพาเขาไปด้วยเด็กหนุ่มรู้ว่าดีแลนไม่อยากให้เขาไปด้วยเพราะอะไรแค่รักเพศเดียวกันก็เป็นทุกข์พอแล้วแล้วถ้าคนที่โน้นบังคับให้ดีแลนต้องแต่งผู้หญิงล่ะ เขาจะเหลืออะไรแบบนี้สู้เอามีดมากรีดหัวใจเลยดีกว่า

“ไม่ได้ครับ”

ดีแลนดุเสียงเข้มอายาโตะกัดปากแน่นดันร่างหนาออก ดวงหน้าเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาจ้องดีแลนเขม็งตอนนี้จะว่าเขาเอาแต่ใจก็เอาเลย คนรักของใครๆ ก็หวง

“ไม่รู้ล่ะ ผมจะไปด้วยถ้าไม่ให้ผมไปด้วย เราก็เลิกกัน!” พู

ดไปก็เจ็บไปถ้าดีแลนเลิกกับเขาจริงๆมันคงเป็นการเลิกกันที่เจ็บปวดมากที่สุดดีแลนได้ยินอายาโตะพูดแบบนั้นกับตนก็ตวาดอีกฝ่ายออกมาเสียงดังเขาไม่คิดเลยว่าอายาโตะจะพูดคำนี้ออกมา

“อายาโตะ!”

“ไม่ต้องมาตวาดผมเลยนะ แค่คุณปิดบังผมเรื่องไปอังกฤษผมก็เสียใจพอแล้วเพราะฉะนั้นคุณต้องไถ่โทษโดยการพาผมไปด้วย!” อายาโตะว่าอีกฝ่ายพลางกอดอกแน่น

แค่คิดว่าต้องห่างกันตั้งหนึ่งเดือนก็ร้อนใจจะแย่แล้วแต่ยิ่งแย่หนักคือในหัวตอนนี้คิดแต่ว่าอีกฝ่ายต้องไปเจอสาวที่ไหนหว่านเสน่ห์ใส่ยิ่งร้อนหนักกว่าเดิมเขายอมรับเลยว่าตัวเองขี้หึงมาก

“ทำไมถึงอยากไปนักหือ อายาโตะ! เธอมีหน้าที่ต้องเรียนนะ”

“ผมหึง” อายาโตะบอกตามตรง ดีแลนรู้สึกขำเมื่อได้ยินอายาโตะตอบมาตรงๆว่าหึงหวงตน ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่อีกฝ่ายตอบเขามาแบบนี้

“หึงฉันเหรอ”

“ใช่!”บอกเลยว่าหึงมาก

“ทำไมล่ะ”

ดีแลนยิ้มกว้างกับหน้าตาหน้ารักของอีกฝ่ายนี้อายาโตะน่าจะส่องกระจกนะว่าตัวเองทำหน้ายังไง ตาแดงๆที่ผ่านการร้องให้เหมือนกระต่ายน้อยกับท่าทางเหมือนลูกแมวกำลังพองขนใส่มันทำเอาเขาอยากจับกดให้รู้แล้วรู้รอด

อาการเครียดขึงเพราะความเอาแต่ใจหายไปหมด

“ทีงี้ให้ผมไปด้วยได้ยัง”

“ไม่ได้ครับ” ถ้าไปด้วยนี้เรื่องใหญ่

“ทำไมอ่ะ เดี๋ยวก็ปิดภาคเรียนแล้ว”

“ไม่ได้ครับเด็กน้อยฉันรู้นะว่าเรายังต้องไปมหาลัยอีกถึงแม้ว่ามันจะปิดแล้วก็ตาม”

“ไม่เอาจะไป”อายาโตะยังดื้อ

“อย่าดื้อสิเด็กน้อย” ดีแลนบอกเสียงแข็ง

“เพราะผมเป็นผู้ชายเหรอคุณถึงไม่พาผมไป” อายาโตะเริ่มพาล พลางสะบัดร่างออกจากดีแลน

“ไม่ใช่”

“ไม่เชื่อหรอก” อายาโตะถอนหายใจเรื่องนี้คงเป็นปัญหามากสินะ

“ถ้าคุณกลัวคนอื่นรู้ คุณก็ไม่ต้องบอกใครต่อใครก็ได้นี้ครับว่าเราเป็นคนรักกัน” อายาโตะบอกเขาเองก็แฟร์พอที่จะยอมให้อีกฝ่ายปิดบังเรื่องของเขาไว้

ดีแลนส่ายหน้าเขาไม่ได้กลัวเรื่องที่จะเปิดเผยอายาโตะแก่คนอื่นว่าเป็นคนรักเดิมทีที่เขาจะไปนี้ก็เผื่อปฏิเสธคู่ดูตัวและบอกเรื่องอายาโตะกับย่าของเขาแต่เขากลัวอายาโตะจะมีภัยเกิดย่าของเขาไม่ยอมรับ

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ อยู่เป็นเด็กดีที่นี้นะครับคนดี” ดีแลนตัดบท

“ไม่ให้ไปด้วยใช่ไหม!” อ้อนก็แล้วเสียงแข็งก็แล้วยังไม่ให้ไปอีก ดีแลนพยักหน้า

“ได้ ในเมื่อไม่ให้ไปก็นอนไปคนเดียวละกัน”

อายาโตะผลักดีแลนออกและเดินกระแทกเท้าออกไปด้านนอกทันทีปล่อยให้ดีแลนมองอีกฝ่ายอย่างอึ้งๆ ให้เขานอนคนเดียวงั้นเหรอเขาไม่ยอมนอนคนเดียวแน่นอน เอิร์ลหนุ่มรีบตามคนรักไปทันที เรื่องอะไรที่เขาจะต้องมานอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอกาล่ะไม่มีวันซะหรอก...

หนึ่งเดือนต่อมาวันที่ดีแลนจะต้องเดินทางไปประเทศอังกฤษก็มาถึง อายาโตะตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารให้กับคนรักวันนี้เป็นวันที่เขาไม่อยากให้มาถึงเป็นที่สุดแต่ทำอย่างไรได้หน้าที่การงานย่อมมาก่อนเป็นอันดับหนึ่งเขาไม่อยากให้ดีแลนต้องมาเสียงานเสียการเพราะเขา

อายาโตะวางโถงข้าวต้มลงอาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มข้าวกล่องใส่ใบเตยเพื่อให้ความหอมโดยมีเครื่องเคียงประกอบด้วย ไข่เจียว ปลาทอดกรอบ ยำไข่เค็ม ก้านคะน้าดองผักกาดดอง และปลาเซียวหวาน ตามจริงของเหล่านี้มีหลายๆ อย่างที่หาไม่ค่อยได้ในประเทศญี่ปุ่นแต่ด้วยความที่อายาโตะเป็นลูกชายของเจ้าของโรงแรมเทโตะทำให้ของเหล่านี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา

ใครๆมักจะคิดว่าอายาโตะเป็นนายน้อยไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้เป็นแต่ความจริงแล้วด้วยความที่คุณแม่เป็นคนไทยแท้และยิ่งมีเชื้อสายเก่าแก่ทำให้มีคนสืบทอดอาหารตำรับชาววังอยู่บ้างอายาโตะก็เพียงแค่ครูพักลักจำมาเรียนรู้อาหารสำหรับประทังชีพเล็กๆ น้อยๆบ้างเท่านั้น

“อ่ะ ขาดแก้วน้ำ”

ร่างบางกำลังจะวิ่งไปเอาแก้วน้ำในครัวแต่แม่บ้านก็ถือถาดมาส่งให้เสียก่อนอายาโตะอมยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณเป็นภาษาญี่ปุ่น

“ขอบคุณมากนะครับ ผมลืมไปเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณอายาโตะ”

แม่บ้านส่งแก้วน้ำสีสวยพร้อมเหยือกน้ำให้อายาโตะนำไปวางเองไม่ใช่หล่อนขี้เกียจวางเองแต่เป็นเพราะตั้งแต่อายาโตะรู้ว่าท่านเอิร์ลต้องเดินทางไปประเทศอังกฤษอาหารเช้าทุกมื้ออายาโตะจะเป็นคนทำเอง บ้างทีไม่ทำอาหารเช้าก็จะทำอาหารเย็นไม่อาหารฝรั่งก็ญี่ปุ่นแต่ที่ทำมากสุดเห็นจะเป็นอาหารไทยบางครั้งหล่อนก็เป็นคนช่วยเหลือให้คำแนะนำบ้างในหลายๆ จุดที่คนร่างเล็กทำไม่เป็น

อายาโตะวางแก้วน้ำพร้อมเหยือกไว้ข้างๆเพื่อให้หยิบง่าย ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ก็มักจะเป็นคนทำอะไรง่ายๆ เสมอเวลานั่งกินข้าวก็อยากให้เป็นกันเองก็เลยขอดีแลนให้นำโต๊ะยาวที่ห่างกันเป็นวาออกไปแทนที่ด้วยโต๊ะขนาดเล็กกว่าที่เพิ่มความใกล้ชิดและอบอุ่นขึ้นมากส่วนโต๊ะยาวเป็นวาก็ถูกจัดวางไว้อีกห้องไว้สำหรับรับแขกที่มายังคฤหาสน์โดยจัดไว้ให้อยู่ในเรือนแยกอีกหลัง

“เท่านี้ก็เรียบร้อย”

ร่างบางอมยิ้มกับตนเองก่อนยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาวันนี้เขาลาทั้งวันไม่ไปเรียนหนังสือ

“เดี๋ยวผมไปดูดีแลนก่อนนะครับ ฝากดูด้วยนะครับ” อายาโตะหันไปบอกแม่บ้าน

“ค่ะคุณอายาโตะ”

อายาโตะรีบเดินไปในยังห้องนอนที่อยู่อีกด้านของคฤหาสน์เวลานี้ดีแลนน่าจะตื่นและอาบน้ำแล้วตอนนี้ก็คงแต่งตัวอยู่ล่ะมั้ง ร่างบางเคาะประตูหน้าห้องก็ไม่เห็นได้ยินเสียงดีแลนจะตอบกลับร่างบางขมวดคิ้วหรือเขาจะคิดผิดหรือดีแลนจะเหนื่อยจนหลับไม่ตื่น

เมื่อคืนนี้กว่าดีแลนจะได้นอนก็เป็นเวลาเกือบเช้าเพราะต้องเร่งสะสางงานทางนี้ให้เรียบร้อยก่อนเดินทางไปตลอดเดือนที่ผ่านมามีบ้างที่ดีแลนจะทำอะไรต่อมิอะไรกับเขาแต่ก็ไม่เคยเห็นเขาจะเหน็ดเหนื่อยหรือเพราะงานมันจะล้มทับคนร่างสูงจริงๆแล้วก็เป็นได้

“ดีแลนครับ!”

อายาโตะลองเรียกอีกทีถ้าไม่ขานรับเขาก็คงต้องเปิดเข้าไปดูความจริงจะทำแบบนั้นเลยก็ได้แต่ด้วยมารยาทแล้วเขาก็อยากจะเรียกอีกฝ่ายก่อนเผื่ออีกฝ่ายกำลังแต่งตัวอยู่จะได้ไม่เป็นการเสียมารยาท

ถึงแม้ว่าดีแลนจะยอมเสียมารยาทกับเขานักก็เถอะ

อายาโตะหน้าแดงเมื่อนึกถึงสภาพที่ดีแลนเสียมารยาทกับตนในห้องแต่งตัวห้องน้ำ หรือแม้กระทั้งทางเดินระเบียงบ้าน

“บ้ามาคิดอะไรบ้าๆ เนอะเรา”

อายาโตะสลัดภาพนั้นทิ้งไปก่อนจะเคาะประตูเรียกอีกครั้ง

“ดีแลนครับ ถ้าไม่ขานตอบผมเปิดเข้าไปนะครับ”

ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับอายาโตะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบว่ายังคงเป็นแสงสลัวอยู่หรือดีแลนจะยังนอนไม่ตื่นจริงๆ

อายาโตะเดินเข้าไปในห้องก็พบว่าดีแลนยังคงนอนอยู่จริงๆ

“อ่า ยังไม่ตื่นจริงๆ หรือเนี่ย”

อายาโตะทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงร่างสูงใหญ่ที่ถอดเสื้อผ้านอนนั้นจู่ๆ ก็ดึงแขนอายาโตะลงทับร่างตนอย่างรวดเร็ว

“อ่ะ!”

อายาโตะตกใจยังไม่ทันได้ตั้งตัวดีแลนก็พลิกร่างบางลงโดยใช้ร่างหนาของตนทับร่างอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหนดีแลนส่งยิ้มให้อย่างทรงเสน่ห์ความจริงเขาอาบน้ำแต่งตัวแล้วแต่พอเห็นอายาโตะเคาะประตูเรียกก็อยากแกล้งอีกฝ่ายบ้าง

ก็ใครใช้ให้อีกฝ่ายลุกจากเตียงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างไปทำอาหารให้เขาล่ะ

“อรุณสวัสดิ์... ที่รัก”

“อรุณสวัสดิ์ครับดีแลน”

“จุ๊ๆ เรียกฉันว่าที่รักสิ”

อายาโตะเม้มปากใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายถึงแม้จะพอรับได้กับคำเรียกของอีกฝ่ายแต่ก็ยังไม่วายเขินอายทุกทีไป

ดีแลนเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงหูแดงก็หลุดยิ้มออกมาแต่ก็ยังไม่วายกระเซ้าให้อีกฝ่ายเรียกตนว่าที่รักกลับอยู่ดีอายาโตะของเขาน่ารักจนไม่อยากปล่อยไปไหนวันนี้ดีแลนกะว่าทานอาหารเช้าแล้วก็จะทำรักกับคนร่างเล็กทานอาหารเที่ยงแล้วก็จะทำอีก จนกระทั้งได้เวลาเตรียมที่จะต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องในตอนดึกเขาคงจะมีความสุขน่าดู

“ว่าไงครับ”

“ทะ ที่รัก” อายาโตะเรียกอีกฝ่ายว่าที่รักอย่างแผ่วเบาก่อนจะรีบเสไปทางอื่นแต่ไม่ทันเสียหรอกเพราะดีแลนจัดการจุมพิตที่ริมฝีปากแดงเรื่อนั้นเรียบร้อย

“อื้ม... อื้ม...”

ลิ้นเล็กพัวพันลิ้นใหญ่อย่างเร่าร้อนอายาโตะครางเสียงแผ่วมือของดีแลนเลื่อนขึ้นสัมผัสที่ลูกเชอร์รี่ใต้ร่มผ้าพลางเขี่ยเล่นอย่างถือดี

“ยะ-อย่าครับ” อายาโตะรีบห้ามอีกฝ่ายทันทีเพราะดีแลนกำลังจะโน้มหน้าลงเลียยอดอกของเขาแต่มีหรือที่คนร่างใหญ่จะยอมทำตาม

“อ่ะ... อ่าาาา...อึก...”

อายาโตะครางผะแผ่วเมื่ออีกฝ่ายละเลิงลิ้นกับตุ่มไตเล็กนั้นร่างบางยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อปิดกั้นเสียงที่เล็ดลอดออกมาดีแลนยกยิ้มมุมปากพลางดึงมือที่ปิดเสียงนั้นออก

“อย่าปิดสิ ฉันชอบเสียงหวานๆ นั้นของเธอ”

ดีแลนซุกซบซอกคอหอมกรุ่นตรงหน้าอายาโตะครางเสียงหวานให้อีกฝ่ายได้ยินอย่างสมปรารถนา

“อึก... ฮื้อ... อย่า... หื้อ...”

อายาโตะเบี่ยงคอไปมารู้สึกเสียววาบที่ท้องน้อยเมื่อมือสากของอีกฝ่ายคืบคลานลงไปสัมผัสที่เบื้องร่างมือนั้นทำหน้าที่เป็นอย่างดีไม่ขาดตกบงพร่องดีแลนดูดกลืนลูกเชอร์รี่สองเม็ดที่แต่งแต้มเรือนร่างหอมกรุ่นอย่างบ้าคลั่ง

“อ่ะ... อ่ะ...” อายาโตะกระตุกไปทั้งร่างด้วยความที่อยากปลดปล่อย

“เสียวไหม ตรงนี้ขยายใหญ่แล้วนะ”

ดีแลนไหลตัวลงไปเบื้องร่างก่อนใช้มือลูบไล้สิ่งที่ยังอยู่ภายใต้ร่มผ้าอย่างกลั้นแกล้งอายาโตะหลุบตามองอีกฝ่ายพลางสะอื้นฮักเมื่อเห็นดีแลนพยายามแกล้งตนไม่ยินยอมสัมผัสสิ่งนั้นโดยตรงอายาโตะตัดพ้ออีกฝ่ายพลางสะบัดหน้าไปมาเมื่อดีแลนยังคงแกล้งลูบไล้กดแกนกลางของตนเองไม่หยุด

“อึก... อย่า... อย่าแกล้งสิ... หื้อ...”

“อยากให้ฉันทำอะไรล่ะ” ดีแลนจุมพิตส่วนนั้น อายาโตะขบริมฝีปากใบหน้าแดงซ่าน อยากก็อยากแต่จะให้พูดก็ออกจะกระดากอย่างไรไม่รู้

“ว่ายังไงล่ะ ตรงนี้สั่นระริกแล้วนะ”

ดีแลนกระตุ้นอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอายาโตะกระตุกวาบเมื่อดีแลนนอกจากกดสิ่งนั้นแล้วยังแอบสัมผัสช่องทางรักของเขาด้วย

“ฮื้อ... อย่า...”

อายาโตะประท้วงอีกฝ่ายด้วยการดิ้นไปมาแต่มีหรือที่ดีแลนจะยอมปล่อยคนร่างเล็กให้หลุดมือเขาดันร่างของอายาโตะให้ขึ้นเกยขาของเขาจนบันท้ายของอีกฝ่ายลอยโด่งปล่อยให้เขาสัมผัสช่องทางรักได้มากขึ้น

อายาโตะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วเพราะยิ่งดิ้นมากเท่าไรแกนกายของอีกฝ่ายก็ยิ่งสัมผัสกับบันท้ายตนเองมากขึ้นเท่านั้น

“อ้าวไม่ดิ้นแล้วเหรอ” ดีแลนหัวเราะในลำคออายาโตะเบะปากจ้องอีกฝ่ายจนดีแลนต้องเป็นฝ่ายใจอ่อนไม่แกล้งคนรักอีกต่อไปแล้ว

“เอาล่ะๆ ไม่แกล้งแล้ว ไม่แกล้งแล้ว โอ้ๆ”

ดีแลนจุมพิตร่างเล็กก่อนคลายกางเกงขาสั้นของอายาโตะออกเตรียมจะจัดการดูดกลืนของคนร่างเล็กเข้าปากแต่อายาโตะห้ามเสียก่อน

“เดี๋ยว!”ดีแลนเลิกคิ้วแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเมื่ออายาโตะบอกถึงสิ่งที่จะทำ

“ผมก็อยากทำให้คุณเหมือนกัน... ที่... ที่รัก...” ใบหน้าแดงก่ำนั้นทำเอาเขาอยากกระโจนใส่ร่างเล็กโดยไม่ต้องมีการเล้าโลมเลยทีเดียว

ดีแลนจัดการถอดเสื้อผ้าของอายาโตะออกนอกจากกางเกงที่ถูกถอดโยนลงพื้นแล้วอายาโตะเองก็ทำหน้าที่ไม่แพ้กันด้วยการถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกจนทั้งสองเปลือยเปล่าร่างทั้งสองจึงผนึกเข้าหากันดีแลนโอบกอดอายาโตะมอบความรักให้อีกฝ่ายจนคนร่างเล็กแทบละลายไปกับสัมผัสของอีกฝ่าย

“ขึ้นมาบนตัวฉัน”

ดีแลนกระซิบบอกอายาโตะที่หอบหายใจเพราะถูกคนรักทำให้ปลอดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่งยังไม่ทันที่อายาโตะจะได้ทำตามดีแลนก็ยกร่างเล็กขึ้นจนตัวเองอยู่ในท่า 69

อายาโตะที่อยู่ในท่านั้นก็รู้สึกเขินอายยิ่งนักยิ่งเมื่อเห็นแกนกลางของอีกฝ่ายที่ชูชันล่อสายตาเขาด้วยแล้วคนร่างเล็กก็กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่

ดีแลนหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอีกฝ่ายตกตะลึงราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อนไม่ใช่ว่าอายาโตะจะไม่เคยทำเสียเมื่อไหร่

“สัมผัสสิ” ร่างสูงเร่งเร้าอีกฝ่ายพลางยกบันท้ายของอายาโตะขึ้นละเลิงลิ้นจนอายาโตะครางกระเส่า

“อ๊ะ... อ๊ะ...”

เสียงดูดกลืนที่แสนหยาบโลนทำเอาหัวใจของอายาโตะเต้นระรัวช่องทางหวานนั้นขมิบราวกับเชิญชวนให้อีกฝ่ายจัดการใส่ความใหญ่โตเข้าไปนักดีแลนไม่รอช้าส่งนิ้วเข้าไปคว้านหาความหอมหวานภายใน

“ฮื้อ...”

เมื่ออายาโตะถูกคนรักปลุกเร้าความอายก็เริ่มหายไปน้ำลายเหนียวๆเปรอะเปื้อนริมฝีปากน้อย อายาโตะส่งความใหญ่โตของดีแลนเข้าปาก

“ฮื้อ... อื้ม... อื้ม...”

ดีแลนเห็นอายาโตะจัดการครอบครองแกนกายของเขาด้วยริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มนั้นเขาก็รู้สึกสุขใจยิ่งนักเสียงครางหวานเล็ดรอดออกมาให้เขาได้ยินก็ยิ่งเร่งอารมณ์รักของคนร่างสูงไปหลายเท่าตัว

“อ้า... ดี... อย่างนั้นและ”

ดีแลนชอบอายาโตะดูเหมือนว่ายิ่งชมอายาโตะก็ยิ่งได้ใจมากขึ้นร่างเล็กผงกศีรษะขึ้นลงอย่างรู้งานดูดกลืนน้ำหวานที่เล็ดออกมาจนเอ่อร้นจนแทบจะปลดปล่อยออกมารดหน้าอีกฝ่ายเสียให้ได้

เอิร์ลหนุ่มรีบจัดการครอบครองแกนกายของคนรักบ้างจนอายาโตะชะงักไปเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับ

“ฮื้อ... อ่า... อ่า...”

“เสียวไหม” ดีแลนกระซิบถาม อายาโตะพยักหน้าพลางส่งเสียง

“อื้อ... เสียว... เสียว... อ่า...”

“เสียวงั้นเหรอ แล้วแบบนี้ละ” ดีแลนจัดการเลียวนที่ส่วนหัวของอีกฝ่าย อายาโตะกระตุกวาบไปทั้งตัวท้องน้อยของเขารู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด

“อะไร จะไปแล้วเหรอ” เสียงพร่าถามขึ้นเมื่อเห็นคนร่างเล็กกำลังจะปลดปล่อยออกมา

“อึก... อึก... จะ... จะออก... ออกแล้ว... ฮื้อ...”

อายาโตะรับคำอย่างว่าง่ายใบหน้าเหยเกบงบอกว่าอีกไม่นานคงจะยั้งความร้อนที่โพยพุงออกจากกายไม่อยู่ดีแลนรีบขยับศีรษะขึ้นลงทันที เช่นเดียวกับอายาโตะที่อยากให้คนรักปลดปล่อยพร้อมตน

“พร้อมกันนะเด็กน้อย”

“อื้อ... อ่า... อ่า..”

“ใกล้แล้ว... อ่า... ซี๊ดดดด...”

“อือ... อือ... อ่ะ... อ่ะ...”อายาโตะขยับขึ้นลงตามจังหวะความเร็วของดีแลนจนกระทั้งทั้งสองฝ่ายใกล้ถึงฝั่งฝัน

“ดีแลน... ดีแลน...”

“อายาโตะ... อายาโตะ...”

“อะ-ออกแล้ว... อื้อ... อ๊าาา”

“ฉันก็จะออกแล้ว... ซีดด...รักนะอายาโตะ... รักเธอ”

“ผมก็รักคุณ... อ่ะ... อ่ะ..”

อายาโตะและดีแลนปลดปล่อยออกมาพร้อมกันดีแลนจัดการดูดกลืนน้ำหวานของอีกฝ่ายจนหมดส่วนอายาโตะที่ดูจะประสบการณ์น้อยสำรักไอจนกระจายเต็มใบหน้า

“แค่ก... แค่ก...”

เอิร์ลหนุ่มรีบขยับตัวขึ้นลูบหลังของคนรักด้วยความเป็นห่วงไม่คิดจะโกรธเคืองอีกฝ่ายที่ไม่ดูดกลืนของตนเองลงไป

“ผมขอโทษ” อายาโตะขอโทษดีแลนที่ไม่สามารถรับสิ่งนั้นไว้ได้หมด

“ฉันไม่คิดมากหรอก แค่เธอทำให้ก็ดีใจแล้ว... เด็กน้อย”

“แต่...”

“เอาน่า”

ดีแลนจุมพิตที่หน้าผากกว้างของอีกฝ่ายพลางส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอายาโตะหลับตาพริมรู้สึกเป็นสุขเมื่อได้รับความรักจากอีกฝ่ายแต่แล้วก็ต้องรู้สึกเศร้าเมื่อคิดว่าวันนี้คือวันที่ดีแลนจะต้องเดินทางกลับอังกฤษ เอิร์ลหนุ่มถอนหายใจใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนร่างเล็กคิดอะไรอยู่

“เดี๋ยวเราอาบน้ำแล้วค่อยไปกินข้าวนะ วันนี้เป็นอะไรเอ่ย”

“ข้าวต้มครับ”

“งั้นก็ไปจัดการอาหารเช้าก่อนแล้วเราค่อยมาต่อกันดีไหม”

ดีแลนหอมแก้มเนียนอายาโตะทำแก้มป่องเมื่อเห็นอีกฝ่ายคิดแต่เรื่องใต้สะดือแต่ก็ไม่คิดจะคัดค้านเพราะไม่รู้ว่าดีแลนจะกลับมาเมื่อไหร่ เมื่อไม่เห็นว่าคนร่างเล็กจะตอบอะไรเอิร์ลหนุ่มจึงช้อนร่างเล็กขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกันทันที

หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วเอิร์ลหนุ่มก็จูงมือคนรักมายังห้องรับประทานอาหารตลอดทางมาอายาโตะมีสีหน้าเหม่อลอยอาจเพราะตอนอยู่ในห้องน้ำเขาไม่ยอมปล่อยให้คนร่างเล็กได้อาบน้ำดีๆจนกระทั้งร่างเล็กหมดแรงปล่อยให้เขาเป็นคนจัดการทำความสะอาดร่างกายและปรนนิบัติกระทั้งสวมเสื้อผ้าให้นั้นและ

“ถึงห้องอาหารแล้ว”

ดีแลนบอกอายาโตะร่างบางพยักหน้ารับไอร้อนที่หน้ายังคงไม่จางหายไปเป็นเพราะไม่ค่อยเคยชินกับการอาบน้ำอุ่นทำให้เวลาอาบก็มังจะรู้สึกเป็นลมในบางทียิ่งดีแลนชอบแกล้งเขาตอนอยู่ในห้องน้ำด้วยแล้วทำให้รู้สึกร้อนที่หน้าแปลกๆ

อายาโตะทรุดตัวลงนั่งแม่บ้านที่คอยท่าทั้งสองอยู่พอเห็นหน้าเด็กหนุ่มแดงก่ำและชุดที่เปลี่ยนใหม่ก็อมยิ้มอย่างรู้ความดีแลนเห็นว่าคนรักนั่งลงแล้วจึงนั่งตาม

“ข้าวต้มน่าทานจัง แต่เอ๊ะ ทำไมสีแปลกๆ”

ดีแลนเห็นสีเม็ดข้าวเป็นสีแดงบ้างขาวบ้างก็นึกแปลกใจพอดมดูก็พบว่ามีกินหอมสดชื่นอายาโตะอมยิ้มดูท่าดีแลนคงจะไม่รู้จักข้าวกล้องและอาจจะไม่รู้ว่ากลิ่นหอมสดชื่นนั้นคือใบเตยที่เขาขอให้โรงแรมเทโตะส่งมาให้

“ข้าวกล้องนะครับ มีประโยชน์นะครับ”

“หือ มีประโยชน์อย่างไงล่ะ”

“ก็แก้เหน็บชา ป้องกันโรคเกี่ยวกับประสาทบางชนิด ป้องกันโรคเลือดจางแล้วก็ลดอาการอ่อนเพลียครับ”

ดีแลนเลิกคิ้วมองคนร่างเล็กร่ายยาวถึงสรรพคุณของข้าวกล้องแต่เมื่อถึงสรรพคุณที่ว่าลดอาการอ่อนเพลียคนรักของเขาก็มีสีหน้าเขินอายอย่างเห็นได้ชัดดีแลนยกยิ้มมุมปากเรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้มันเลยไปโดนไม่เย้าแหย่คนรักเสียล่ะ

“หือ... ลดอาการอ่อนเพลีย จากเรื่องเมื่อกี่รึเปล่า”

“อืม ผมว่าทานกันเถอะครับ”

อายาโตะอมยิ้มไม่ตอบเร่งให้อีกฝ่ายทานอาหารเช้าทันทีดีแลนหัวเราะในลำคอไม่ขัดที่อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องดีแลนตักข้าวต้มข้าวกล้องขึ้นมาดมอีกครั้ง

“แล้วกลิ่นหอมสดชื่นนี้คืออะไรน่ะ”

“ใบเตยน่ะครับ ผมขอให้ทางโรงแรมเค้าส่งใบเตยอบแห้งมาให้เพราะห้องอาหารของโรงแรมมีครัวไทยใบเตยจะให้กลิ่นหอมผมชอบกลิ่นของมันดี”

“อื้ม หอมจริงๆ นั้นและ ดีใจจังที่เธอทำให้ฉันแบบนี้”

ดีแลนจุมพิตที่แก้มของอีกฝ่ายอายาโตะตาโตทันทีรีบหันไปมองแม่บ้านที่ยืนอยู่คอยให้บริการก็พบว่าอีกฝ่ายรีบหันหน้าหนีบนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มที่ฝืนเอาไว้อายาโตะยกมือตีดีแลนทันที

“อย่าทำแบบนี้สิครับ”

“ทำไมล่ะ” ดีแลนหัวเราะรู้ว่าอีกฝ่ายคงเขิน

“ก็...”

“เอาน่า ฉันอยากจูบเธอเยอะๆเก็บเกี่ยวมันไว้เพราะกว่าจะกลับมาฉันคงห่อเหี่ยวที่ไม่ได้สัมผัสเธอ”

ร่างสูงบอกอีกฝ่ายอายาโตะถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ได้แต่พยักหน้ารับไม่ว่าอีกฝ่ายจะขออะไรเขาก็จะทำให้เพราะตอนค่ำของวันนี้ดีแลนต้องเดินทางไปประเทศอังกฤษแล้วดีแลนเห็นอายาโตะพยักหน้ารับก็ส่งยิ้มอบอุ่นให้พลางจุมพิตที่ริมฝีปากน้อยๆอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งรับประทานข้าวต้มจนหมด




Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 17:26:52 น.
Counter : 219 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไลแลต..
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






- นิยายที่ผ่านการตีพิมพ์ -









ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
  •  Bloggang.com