ตอนที่ 4


หลังจากเลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วอายาโตะก็ต้องไปเดินหาชมรมเป็นเพื่อนวากาชิที่ตกลงใจว่าจะเข้าชมรมยูโดแน่นอนว่าอายาโตะเองตกลงใจจะเข้าร่วมชมรมนี้ด้วยเช่นกันในตอนแรกวากาชิส่ายหน้าเป็นเชิงไม่เห็นด้วยที่คนร่างบอบบางอย่างเขาจะเข้าชมรมศิลปะการต่อสู้แต่อายาโตะก็ให้เหตุผลว่าเขาเองก็เคยได้รับการสอนมาที่ประเทศไทยจึงคิดว่าไม่เป็นปัญหา อีกทั้งตัวอายาโตะเองก็ไม่ใช่คนอ่อนแอถึงขนาดที่วากาชิเข้าใจอีกด้วย

“เฮ้ย เอาจริงอ่ะ นายจะเข้าชมรมเดียวกับเราจริงอ่ะ”

“อื้อ อันนี้และ เราจะได้ออกกำลังกายไปด้วย ไม่ได้เล่นนานก็ชักจะฝืดๆ”

“แต่เราว่า...”

“ไม่ต้องห้ามเราหรอก เราเองก็เคยเรียนมาบ้าง ป่ะ จัดการสมัครให้เสร็จๆเราจะได้กลับสักทีเดี๋ยวจะได้เวลานัดแล้วด้วย”

“เออๆ เอาก็เอา”

วากาชิเดินเข้าไปยื่นใบสมัครกับหัวหน้าชมรมยูโดพร้อมกับอายาโตะดูเหมือนว่าตัวหัวหน้าเองก็มีท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับการที่คนอย่างอายาโตะจะเข้าชมรม

“น้องจะเข้าชมรมพี่จริงอ่ะ อย่าดีกว่ามั้ง...”

“พี่ครับ ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ เคยเล่นมาก่อน”

“เอางั้นเหรอ แต่มันหนักอยู่นะ พี่กลัวน้องจะหักกลางซะก่อน”

“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ อีกอย่างไม่เข้าชมรมนี้ผมก็ไม่รู้จะไปชมรมอะไรบาสตัวผมก็ไม่สูง”

“อ้าวก็คหกรรมไง อย่างน้องนี้มาดให้มากเลย”

วากาชิหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกับยกนิ้วให้รุ่นพี่ที่เคารพ ในความคิดของเขาอายาโตะเหมาะมากกับชมรมคหกรรมหรือไม่ก็ชมรมการฝีมือจริงๆยิ่งตอนเขาจับมือหมอนี้ มือก็แสนจะนุ่มนิ่มไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาก่อนอายาโตะค้อนเพื่อนร่วมสายวิชาอย่างปวดตับแค่เขาตัวเล็กบอบบางอย่างกับผู้หญิงทำไมเขาจะต้องไปทำอะไรแบบผู้หญิงด้วยล่ะ ให้ตายก็ไม่เอาหรอก

“พี่ครับ ผมทำกับข้าวไม่เป็นและผมเป็นผู้ชายจะให้ไปคหกรรมได้ไงครับ”

“โอ๊ยเดียวนี้เค้าไม่ถือแล้วน้องเพื่อนพี่ตัวอย่างควายยังเข้าคหกรรมเลย ว่าไงไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอเอาอาหารกลับไปให้แฟนกินได้ด้วยนะ”รุ่นพี่คนเดิมพยายามหว่านล้อมเต็มที่

“ไม่ดีกว่าครับ พอดีผมไม่เคร่งเรื่องการทำอาหารผมเคร่งเรื่องศิลปะป้องกันตัวมากกว่า”

อายาโตะส่ายหน้าไม่ยอมถูกหว่านล้อมแต่อย่างใดเพราะศิลปะป้องกันตัวสำคัญกว่าการทำอาหารใช่ว่าทุกเวลาจะมีคนคอยคุ้มกันเขาเสียเหมือนไหร่ถึงแม้ว่าการทำอาหารให้คนรักกินจะดูพิสมัยอยู่หน่อยๆ ก็เถอะ

“เอางั้นก็ได้ อ่ะเอาใบสมัครมาสิ”

“นี้ครับ”

“วันนี้เพิ่งจะเปิดเรียนวันแรกยังไม่มีการทำกิจกรรมอะไรทั้งสัปดาห์หรอกนะ ยังไงก็สัปดาห์หน้าค่อยมาละกัน”

“ครับ”

อายาโตะและวากาชิส่งยิ้มให้รุ่นพี่ก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้รุ่นพี่ได้แต่ส่ายศีรษะไปมาที่หว่านล้อมเด็กหนุ่มไม่สำเร็จสงสัยว่าเวลาฝึกคงต้องให้พวกบ้าพลังออมแรงให้ซะหน่อยแล้วไม่งั้นเดี๋ยวตายเอาโดยเฉพาะพวกรุ่นพี่ของเขาที่ชอบแกล้งรุ่นน้องใหม่ๆ

“แล้วนี้นายจะกลับเลยใช่ป่าวอ่ะ”

วากาชิหันมาถามอายาโตะที่เดินออกมาจะถึงตึกอาคารเรียนที่ติดกับลานจอดรถแล้วอายาโตะพยักหน้ารับเขาโทรศัพท์ไปหาดีแลนตั้งแต่หลังยื่นใบสมัครให้กับรุ่นพี่ในชมรมยูโดแล้วนี้ก็คงจะได้เวลาที่อีกฝ่ายน่าจะมาถึงหน้าประตูแล้วก็เป็นได้

“อื้อ เดี๋ยวจะมีคนมารับน่ะ”

“ถ้างั้นเดินไปหน้าประตูด้วยกันนะเราก็จะไปร้านคาราโอเกะที่นัดไว้กับเพื่อนแล้วเหมือนกัน”

“ได้สิ”

ยังไม่ทันทีอายาโตะจะเดินไปจนถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยเมอร์ซิเดสสีดำปลาบมันก็แล่นมาจอดเทียบฟุตบาทข้างลำตัวอายาโตะอย่างรวดเร็วอายาโตะมองรถคันดังกล่าวก็พบว่าเอียนที่เป็นเลขาส่วนตัวของดีแลนเป็นคนขับมาเขาหยุดยืนจนกระทั้งร่างสูงของใครบางคนก้าวลงจากรถ

ภายใต้ชุดสูทสีเทาดำนั้นก้าวลงจากรถสายตาทุกคู่ก็จับจ้องเอิร์ลหนุ่มด้วยความสนใจทันทีพลังแห่งบุรุษเพศแทบจะกระชากลมหายใจของสาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นดีแลนส่งยิ้มอันทรงเสน่ห์ให้กับเขาโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของคนรอบข้างแต่อย่างใดร่างสูงนั้นก้าวเข้ามาหาเขาอย่างมั่นคง

“ฉันมารับแล้ว อายาโตะ”

อายาโตะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์รีบพยักหน้าตอบรับเอิร์ลหนุ่มทันที มือแกร่งนั้นโอบไหล่มนของเขาอย่างถือสิทธิการกระทำที่ราวกับจะประกาศให้คนทั้งมหาวิทยารู้ว่าตนเป็นเจ้าของร่างบอบบางนั้นทำเอาหัวใจสาวน้อยในบริเวณนั้นร่วงไปตามๆกัน

“เอ่อ คุณดีแลนครับ นี้วากาชิ เพื่อนที่เรียนเอกเดียวกันกับผมครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉัน อเล็กซานเดอร์ ไวส์ ดีแลน เรียกดีแลนก็ได้”

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันครับ คุณดีแลน”

“เราไปกันได้หรือยังหือ อายาโตะ”

“อ๋อ.. ครับ เราไปก่อนนะวากาชิ”

“อื้อ แล้วเจอกันนะ อายาโตะ”

วากาชิโบกมือลาอายาโตะที่โดนคนร่างสูงพาตัวขึ้นรถเมอร์ซิเดสคันหรูด้วยสายตาที่ว่างเปล่ารอจนกระทั่งรถแล่นพ้นเขตมหาวิทยาลัยแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายถึงใครบางคนทันที

“สืบให้ได้ว่าหมอนั่นเป็นใครแล้วมารายงานฉัน เข้าใจใช่ไหม ว่าห้ามพลาด”

“รับทราบครับ ท่านวากาชิ”

“คงจะรู้ใช่ไหม ว่าถ้าพลาดจะเป็นยังไง”

“ครับ”

“ดีมาก เจอกันพรุ่งนี้เวลาเดิม”

“ครับ พรุ่งนี้เวลาเดิม”

วากาชิกดปุ่มมือถือและสอดมันลงไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินออกไปภายนอกรั้วมหาวิทยาลัยสายตาที่เคยอ่อนโยนและเป็นมิตรนั้นแปรเปลี่ยนเป็นดุดันและแข็งกร้าวพลังอำนาจที่มีเพียงผู้นำตระกูลเช่นเขาเท่านั้นที่มีเงาสีดำที่คอยหลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ค่อยๆเผยกายออกมาและเดินตามผู้เป็นนายราวกับขบวนของปีศาจที่พร้อมจะล้างพล่านทุกสิ่งอย่างให้พินาศไปพร้อมกัน

ภายในรถเมอร์ซิเดสคันหรูดีแลนโอบร่างบางอย่างแนบชิดอายาโตะพยายามขยับเนื้อตัวไม่ให้แนบชิดกับเขามากนักอย่างเขินอายเพราะภายในรถไม่ได้มีแต่เขาและเอิร์ลหนุ่มเท่านั้นยังมีเหล่าบอดี้การ์ดที่คอยทำหน้าตายอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ยินยอมให้อายาโตะหลุดรอดจากอ้อมแขนอันทรงพลังน้ำไปได้เขากลับยิ่งกระชับมันแน่นมากกว่าเดิม

“คุณดีแลนครับ”

“หือ

“ปล่อยเถอะครับ ผะ-ผมหายใจไม่ออก”

“ฉัน ‘รัด’ เธอแน่นไปเหรอ”

“ก็... ครับ”

“เท่านี้ยังทนไม่ได้ แล้วคืนนี้เธอจะทนรับฉันไหวได้อย่างไง”

ดีแลนกระซิบอย่างส่อความนัยอายาโตะหน้าแดงระเรื่อก้มหน้างุดๆ ไม่ยอมให้ใครเห็นสีหน้าของตนเองจนดีแลนอดใจไม่ได้ต้องโน้มริมฝีปากลงจุมพิตที่หน้าผากมนก่อนจะไล้ลงมาหยุดที่ริมฝีปากเล็กอย่างถือดี

“พะ-พอเถอะครับ.. ฮื้อ...”

เสียงจ้อกแจ้กที่อื้ออึงอยู่ในหูกับจุมพิตที่อ่อนโยนก่อนเปลี่ยนเป็นร้อนแรงทำเอาอายาโตะแทบหมดแรงดีเลนถอนริมฝีปากออกก่อนจะจุมพิตร้อนแรงลงอีกครั้งและยอมหยุดการกระทำลงเมื่อดูจากสภาพแล้วว่าคนร่างเล็กไม่ไหวแน่แล้วอายาโตะซบลงกับอกกว้าง เสียงหอบหายใจของเขาดูเร้าอารมณ์ดีแลนมากเป็นพิเศษ

“แค่จูบก็หมดแรงถ้าฉันทำกับเธอมากกว่านี้สงสัยคงจะแย่” ดีแลนกระซิบ

“ก็อย่าทำสิครับ” อายาโตะโต้กลับน้ำเสียงติดงอน ดีแลนหัวเราะเบาๆ

“อะไรพอเป็นปกติแล้วเถียงกลับได้แล้วเหรอ.. หือ ที่รัก”

“คุณดีแลน!”

“เอาเถอะๆ ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว หิวแล้วหรือยังหรือว่าอยากต่อจากเมื่อกี่ฉันจะได้รีบพากลับบ้าน”

น้ำเสียงพร่าที่ข้างหูทำเอาอายาโตะเสียวซ่านไปทั้งตัวดีแลนหัวเราะในลำคอก่อนจะแกล้งร่างเล็กในอ้อมกอดเขาขบที่ข้างหูของอายาโตะอย่างจงใจจนอายาโตะถึงกับยกมือขึ้นป้องหูด้วยความจักกระจี้

“อ๊ะ.. อย่าสิครับ”

“ก็เธอทำให้ฉันอยาก... รับผิดชอบด้วยล่ะ”

“อะไรน่ะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”อายาโตะประท้วงหน้าแดงแป๊ด

“ไม่ได้ทำได้ยังไง ดูสิ ฉันเป็นถึงขนาดนี้แล้ว”

ว่าแล้วก็ดุนแก่นกลางที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของตนเองเป็นอย่างดีให้แนบชิดกับบันท้ายของอีกฝ่ายอายาโตะถึงกับตาโตมองดีแลนที่ส่งยิ้มทะเล้นมาให้เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย ดีแลนจุมพิตที่ริมฝีปากเบาๆก่อนกระซิบที่ข้างหูอายาโตะ

“ไม่ต้องกลัว คืนนี้ฉันเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกแน่”

“บ้า ไม่เอานะครับ พูดเองเออเอง... พอเถอะครับ ผะ-ผมหิวแล้ว”

“ฮึ โอเค หิวก็หิวงั้นเราไปทานข้าวที่ภัตตาคารก่อนแล้วค่อยมาต่อเรื่องนี้กันทีหลังละกัน”

สิ้นเสียงดีแลนก็จัดการสั่งให้คนขับรถขับไปยังภัตตาคารที่ขึ้นชื่อที่สุดในย่านโตเกียวอย่างรวดเร็วอายาโตะได้แต่จ้องหน้าร่างสูงอย่างหลงใหล อเล็กซานเดอร์ ไวท์ ดีแลนดูจะเป็นคนที่ทรงเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ การที่มาคบหารับเขาเป็นคนรักแบบนี้บอกตรงๆตัวเขาเองก็ยังคิดไม่ถึง

จะมีอะไรหรือเปล่านะที่เขาจะทำให้กับ‘คนรัก’ คนนี้ได้

อายาโตะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขรึมของดีแลนดูเหมือนคนร่างสูงจะรู้สึกว่าอายาโตะกำลังมองตนอยู่จึงส่งยิ้มละมุนไปให้และจุมพิตเบาๆที่หน้าผากกว้างอายาโตะรู้สึกเป็นสุขมากกับสิ่งที่ร่างสูงทำเช่นนั้นเขาซบหน้าลงกับอกกว้างทันที

ขอให้วันแบบนี้จงอยู่กับเราไปนานๆทีเถอะ เพี้ยง...

เมอร์ซิเดสคันหรูแล่นเข้าสู่ภัตตาคารชื่อดังย่านใจกลางเมืองซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องอาหารต้นตำรับญี่ปุ่นดังเดิมเขาเคยมาทานที่นี่หลายครั้งตอนที่มาติดต่อธุรกิจหรือพาคู่ควงมาเที่ยวหรือจะพูดให้ถูกคือพามาช็อปปิง ซื้อของ อะไรพวกนั้นแน่นอนว่ามันมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องทุกครั้งไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาจะมีความสุขกับการพาคนข้างกายมายังสถานที่แห่งนี้

เขาเอื้อมมือไปรับอายาโตะที่ก้าวเท้าลงจากรถหลังจากที่บอดี้การ์ด วัยฉกาจเปิดประตูรถให้เขาเพื่อให้ดีแลนและคนรักลงจากรถก่อนที่จะมีอีกกลุ่มซึ่งน่าจะนัดแนะกันให้มาเจอที่นี่ลงมาคอยคุ้มกันราวกับว่าคนร่างสูงนั้นเป็นเจ้าพ่อก็ไม่ปาน

อายาโตะมองกลุ่มคนเหล่านั้นถ้าบอกคนอื่นว่าคนข้างกายเขามีบรรณาศักดิ์เป็นเอิร์ลก็คงไม่มีใครเชื่อเป็นแน่เพราะดีแลนเหมือนเจ้าพ่อ หรือมาเฟีย มากกว่าเอิร์ลแห่งแดนอังกฤษอายาโตะหลุดขำออกมาเมื่อคิดเช่นนั้นก่อนจะหันไปทำหน้าตายใส่ดีแลนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาที่ตนดีแลนเชยคางมนขึ้นจนดวงตาของทั้งสองสบกันพร้อมทั้งถามอย่างอ่อนโยน

“คิดอะไรอยู่ล่ะหือ”

“เปล่าสักหน่อยนิครับ”อายาโตะส่งยิ้มพลางปฏิเสธ

“แน่ใจนะ”

“แน่สิ ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”จะให้อีกฝ่ายรู้ได้ไงล่ะว่ากำลังคิดว่าดีแลนเหมือนมาเฟีย

“ไม่ล่ะ เธอต้องกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ” ดีแลนหรี่ตามองก่อนจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ “เอาอย่างนี้ไหมล่ะถ้าฉันเดาถูกเธอต้องให้รางวัลฉัน”

“หือ... รางวัลอะไรครับ” อายาโตะถามอย่างข้องใจ

“ไว้ค่อยคิดตอนฉันเดาถูก”ดีแลนทำสีหน้าเจ้าเล่ห์อายาโตะเหล่ตามองร่างสูงเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้มออกมาพยักหน้ารับคำท้าให้ตายก็เดาไม่ถูกหรอกเพราะนี้คือความคิดในสมองของเขา อายาโตะคิดก่อนพยักหน้ารับคำท้าดีแลนส่งยิ้มกว้างให้

“ก็เอาสิครับ ถ้าคุณเดาถูก ผมจะทำตามที่คุณว่า”

“ฮึ... ถ้าให้ฉันเดาเธอคงคิดว่าฉันเหมือนเจ้าพ่อหรือไม่ก็มาเฟียมากกว่าเอิร์ลสินะ”

“อ่ะ... ถูกด้วย!!” อายาโตะปิดปากตัวเองอย่างตกใจ คนๆ นี้มีญาณหรือไง ถึงล่วงรู้ความคิดตน

“นั่นไง ฉันเดาถูกด้วย อย่าลืมที่สัญญากันล่ะ... ที่รัก” ดีแลนกระซิบที่ใบหูของอายาโตะอย่างแผ่วเบาจนอายาโตะถึงกับเขินหน้าแดงก่อนจะเม้มริมฝีปากแล้วอุบอิบพูดตอบกลับไป

“ไม่ลืมหรอกครับ โธ่...” เสียงหัวเราะดังก้องทั่วทางเดินอายาโตะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้เอิร์ลหนุ่มหยุดหัวเราะให้จงได้

ก็แหมคนเค้าออกจะอายขนาดนี้ ยังมาหัวเราะอีก คอยดูนะกลับไปจะเล่นให้หนัก

อายาโตะคาดโทษอีกฝ่ายไว้ในใจก่อนทั้งคู่และกลุ่ม บอดี้การ์ดจะก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่เพื่อไปสู่ห้องส่วนตัวที่ดีแลนสั่งการลูกน้องให้จองไว้โดยที่ทั้งหมดนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าท่ามกลางเสียงหัวเราะที่กึกก้องกลับมีเงาดำมืดของใครบางคนซ่อนเร้นกายอยู่สีหน้าเครียดแค้นนั้นพุ่งตรงมาที่อายาโตะซึ่งเป็นเป้าหมายเพียงคนเดียวของภารกิจครั้งนี้ ครั้งแรกฉันเคยทำพลาดมาแล้ว จะต้องไม่ให้พลาดอีกเป็นครั้งที่สอง!ร่างนั้นพึมพำกับตนเองก่อนจะเดินปลีกตัวไปอีกด้านหนึ่งเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของใครต่อใคร

ดีแลนพาอายาโตะไปยังห้องวีไอพีที่เวลาเขามาก็จะมาห้องนี้ประจำ ที่นี่ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องความเป็นส่วนตัวทางเดินของภัตตาคารแห่งนี้ถูกจัดเป็นสวนหินแบบผสมผสานไม่ให้ดูกระด้างเกินไปแต่ก็ยังคงความสงบเงียบเสียงไม้ไผ่กระทอกหินดังกังวานไปทั่วอายาโตะมองไปยังสวนหินนั้นอย่างชอบใจโดยเฉพาะต้นซากุระที่บานสะพรั่งเต็มต้นก่อนร่วงหล่นอย่างง่ายได้กลีบของมันลอยตามลมจนมาถึงระเบียงทางเดินแห่งนี้จนอายาโตะอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นรับกลีบที่แสนบอบบางนั้นอายาโตะหยุดเดินมองไปยังกลีบซากุระในมือก่อนส่งยิ้มให้ดีแลน

“สีขาวอมชมพูสวยจังเลยนะครับ”

“ใช่ สวยและบอบบาง” ดีแลนรับกลีบซากุระไว้ในมือก่อนส่งมันคืนอายาโตะ

“นั่นสิ บอบบาง ไร้เรี่ยวแรง และไม่นานก็ล่วงโรย”

“เป็นอะไรหรือเปล่า หือ ถึงได้ทำเสียงเศร้าแบบนั้น”

“เปล่าครับ ก็แค่... พอมองแล้วมันเหงา แล้วก็เศร้า”

“อย่างนั้นเหรอ...”

“ครับ... ดูแล้วทั้งสวยงามและแสนเศร้า”

อายาโตะส่งยิ้มเศร้าให้เขาเป็นอ่อนไหวมากกับเรื่องพวกนี้ยิ่งเมื่อคิดถึงตนเองที่ตอนนี้มีคู่รักเป็นผู้ชายแล้วยิ่งพาลให้ใจแป่วเพราะความรักที่มีอยู่ตอนนี้เหมือนมันพร้อมจะร่วงโรยหายไปเฉ่งเช่นซากุระในมือ

“คิดมากเรื่องของเราเหรอ”

“จะบอกว่าไม่คิดมากก็คงโกหก... แหะๆ...”

“บางทีอุปสรรค์ ก็มีไว้ให้ฝ่าฟันนะอายาโตะแล้วมันก็เป็นเรื่องของอนาคตคิดมากไปก็เท่านั้น”

ดีแลนเอื้อมมือขึ้นลูบศีรษะของคนตรงหน้าอย่างปลอบโยนใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจ ความรักระหว่างเขาและอายาโตะจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ได้มันเป็นเรื่องของอนาคต เขาที่มีบรรณาศักดิ์เป็นถึงเอิร์ลครอบครัวคงจะไม่ยินยอมแน่หากเขาตัดสินใจเปิดเผยกับสาธารณชนว่าอายาโตะคือที่รัก หนึ่งเดียวของเขาแต่แน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยอมปล่อยอายาโตะไปไหนเป็นแน่

“ก็จริงครับ คิดไปก็เท่านั้น ขอโทษนะครับ”

“ดีแล้ว และตอนนี้ฉันว่าเราไปห้องอาหารเถอะ เราหิวข้าวแล้วไม่ใช่เหรอ”

ดีแลนบีบจมูกของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูอายาโตะหัวเราะเบาๆ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายพูดแบบนี้หมายความว่าไงก็ในรถเขาร้องหิวข้าวเพื่อเลี่ยงกับการโดนดีแลนคิดต้นคิดดอกถ้ารู้ว่าไม่ได้หิวจริงๆ มีหวังโดนลงโทษแน่ เผลอๆ อาจมีเพิ่มต้นเพิ่มดอกอีกจนเขาจ่ายให้อีกฝ่ายไม่ไหว

“ป่ะ ไปกันได้แล้ว”

“ครับ” อายาโตะส่งยิ้มให้ก่อนมองไปทางกลีบดอกซากุระในมือที่ร่วงโรยในมือและปล่อยให้มันลอยตามลมต่อไป

ดีแลนกระชับมือน้อยในมือก่อนพาร่างบางเดินไปข้างหน้าไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะเจออะไรเขาปฏิญาณแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้อายาโตะไปจากเขาเป็นแน่ของๆ เขาก็ต้องเป็นของๆ เขา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงส่วนเรื่องผู้ใหญ่ในวงษาคณาญาติ ไม่คณามือของเขาหรอก ฮึ...

ดีแลนพาอายาโตะเดินมาจนถึงห้องวีไอพีพนักงานประจำห้องคลุกเข่าลงและเลือนประตูไม้ไผ่ออกเพื่อให้ทั้งสองเข้าไปนั่งลักษณะของห้องตกแต่งแบบสไตส์ญี่ปุ่นประกอบด้วยโต๊ะไม้ไผ่สำหรับวางแจกันที่มีดอกซากุระซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่นและมีรูปปั้นหมีจับปลาซึ่งเขาก็เคยได้ยินมาว่ามีคนชอบสะสมรูปปั้นพวกนี้อยู่เหมือนกันไม่ต้องไปไหนอื่นไกล บิดาของเขาเองนี้และมาญี่ปุ่นทีไรต้องซื้อกลับไปทุกทีส่วนโต๊ะวางอาหารนั้นเป็นโต๊ะไม้ญี่ปุ่นขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่นักวางอยู่ตรงกลางห้องและมีเบาะรองนั่งที่มีพนักพิงให้ด้วย โดยมีจำนวนเพียงสองที่นั่งในห้อง

ในตอนแรกอายาโตะคิดว่าจะต้องนั่งคลุกเข่าเสียแล้วแน่นอนว่าเขาไม่ถนัดนั่งทีไรตะคริวเป็นต้องกินขาทุกทีเลยแต่เมื่อเห็นว่าตรงพื้นด้านล่างใต้โต๊ะมีการขุดเป็นช่องเพื่อให้ห้อยขาลงไปได้อายาโตะก็ยิ้มกว้างทันทีเลย

อายาโตะเดินเข้าไปนั่งยังตำแหน่งในสุดซึ่งแน่นอนว่าต้องนั่งตรงข้ามกับดีแลนแน่ๆ แต่เรื่องอะไรคนร่างสูงจะยอมนั่งตรงข้ามกับอายาโตะล่ะเขาจัดการดึงเบาะมายั่งฝั่งเดียวกับอายาโตะเพื่อให้ได้นั่งข้างคนร่างเล็กอายาโตะทำตาโตเมื่อเห็นว่าคนร่างสูงดึงเบาะมาพลางหันไปมองหลงที่ยืนอยู่หน้า ห้องนั่นเท่ากับว่า บอดี้การ์ด ทั้งสองจะต้องนั่งเฝ้าพวกเขาอยู่นอกห้องเป็นแน่และนั่นคือสิ่งที่เขาเกรงใจ

“หลงกับอชิเข้ามานั่งด้วยกันสิ เดียวให้ร้านจัดที่นั่งเพิ่มให้” อายาโตะว่าแต่เรื่องอะไรดีแลนจะหาคนมาเป็นก้างล่ะ

“ไม่ต้องหรอก ฉันเตรียมห้องสำหรับทั้งสองคนแล้วอยู่ข้างๆ นี้เอง”

“แต่ว่า...”

“ไม่ มีแต่ ที่นี่เป็นทั้งภัตตาคารและเรียวกังเราจะค้างที่นี่หลังจากทานอาหารแล้วหนึ่งคืน หวังว่าพวกคุณคงเข้าใจ”

หลงขบกรามแน่นหลังได้ยินดีแลนพูดเช่นนั้นนั่นหมายความว่าเขาต้องปล่อยให้นายน้อยของเขาอยู่กับหมาป่างั้นสิอชิส่งยิ้มขบขันก่อนโค้งศีรษะลงและลากหลงไปยังห้องที่อยู่ถัดไปโดยที่หลงไม่มีสิทธิ์โวยวาย อายาโตะหันมามองคนเจ้าเล่ห์อย่างงงงวย

“คืนนี้เราจะค้างที่นี่เหรอครับ”

“ใช่...”

“ตะ... แต่ผมไม่เห็นว่ามันจะมีห้อง และผมก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนะครับ”

“หึ แสดงว่าเธอไม่รู้สินะว่าหลังประตูนั้นมีอะไร” ดีแลนหันไปมองประตูที่ดูไม่เหมือนประตูแต่เมื่อเห็นตัวเลื่อนเท่านั้นและอายาโตะก็ร้องอ้อขึ้นมาทันที

“เจ้าเล่ห์นักนะครับคุณดีแลน”

“ถ้า ไม่เจ้าเล่ห์แล้วฉันจะได้เธอมาเหรอ... หื้อ... อายาโตะ”

อายาโตะทำปากจู๋เมื่อดีแลนจับที่คางของเขาขยับไปมาจนดีแลนอดใจไม่ไหวจูบที่ปากของคนรักอย่างถือสิทธิ์

“ฮื้อ... พอเถอะครับเดี๋ยวพนักงานก็เข้ามาเห็นเข้าหรอกครับ”

“หึ... พอก็พอ แต่คืนนี้เธอไม่รอดฉันแน่อายาโตะ”

“โธ่... แล้วคิดว่าผมรอดมือคุณสักคืนไหมครับ ทำเป็นพูดดีไป”

“รอดสิ... หึหึ” ดีแลนกระตุกยิ้มที่มุมปาก อายาโตะทำหน้าสงสัย

“ก็ ฉันยังไม่ได้ทำกับเธอแบบที่ถึงที่สุดไม่ใช่เหรอ อายาโตะที่รัก...”

อายาโตะหน้าแดงทันทีเมื่ออีกฝ่ายกำลังสื่อถึงอะไรร่างบางเม้มปากบิดมือไปมาดีแลนกระชับร่างให้ของอายาโตะให้มาเกยบนตักของเขาก่อนบดขยี้ริมฝีปากนั้นอีกครั้งแน่นอนว่าไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเปิดประตูหรอกเพราะถ้าเขายังไม่กดกระดิ่งไม่มีแม้แต่แมวตัวไหนจะกล้าเปิดประตูของห้องเขาเป็นแน่

ร่างสองร่างบดเบียดกันราวกับจะไม่ให้อากาศได้สอดแทรกเข้าไปได้ดีแลนสอดปลายลิ้นเข้าคว้านหาความหอมหวานจากอุ้งปากเล็กนั้นอย่างรวดเร็วมือข้างหนึ่งสอดเข้าใต้เสื้อผ้าเคล้าคลึงความยอดอกส่วนอีกข้างหนึ่งนั้นสอดเข้าสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวของอายาโตะ

“ฮื้อ...”

เสียงจอแจกดังขึ้นในอุ้งปากดีแลนยังคงบดขยี้ริมฝีปากของคนตรงหน้าอย่างร้อนแรงก่อนจะละไล้ไปตามโครงหน้าซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องของอีกฝ่าย

“หื้อ... อย่าครับ” อายาโตะประท้วงเมื่อเห็นอีกฝ่ายขบเข้าที่ซอกคอมือข้างหนึ่งดันหน้าของคนร่างสูงออกดวงหน้าของเขาบัดนี้แรงไปตามอารมณ์รักที่อีกฝ่ายกำลังปรนเปรอให้

“ก็... ผมหิวแล้ว...”

อายาโตะพยายามหยุดอีกฝ่ายถ้ามากกว่านี้สงสัยไม่ต้องกินข้าวแล้ววันนี้เขาจะกลายเป็นอาหารดีแลนแทนเป็นแน่

“หึ... โอเคแต่ถ้าของหวานฉันขอเป็นเธอนะ... อายาโตะ”

ดีแลนพูดพลางหอมที่แก้มแดงของอีกฝ่ายจนอายาโตะต้องตีเข้าที่ไหล่ของดีแลนเป็นการสั่งสอน

“นี้แน่ะ... ผมไม่ใช่ของหวานนะครับ”

“เธอ เป็นทั้งของหวานและอาหารจานหลักของฉันเสมอล่ะ... อายาโตะ”

ดวงตาจริงจังนั้นทำเอาอายาโตะพูดไม่ออกเขารู้สึกซาบซึ้งมากกับคำพูดที่แฝงไปด้วยความรักที่อีกฝ่ายมีให้ตนมากจนน้ำตาแทบจะไหล ร่างบางขบริมฝีปากกลั้นอาการไว้พลางหลบตาดีแลนที่มองมาอย่างจริงจัง

“คุณ เองก็เป็นอาหารจานหลักและของหวานสำหรับผมเหมือนกันล่ะครับ...ดีแลน”

อายาโตะโพลเข้ากอดดีแลนและจุมพิตที่ริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างบางเบาพลางส่งยิ้มหวานให้

ดีแลนกอดร่างบางไว้แนบอกก่อนหัวเราะออกมาเบาๆเสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังออกไปนอกห้องจวบจนดีแลนสงบอารมณ์ลงได้เขากดกริ่งเรียกพนักงานให้มาเสิร์ฟอาหารทันทีก่อนที่เขาจะกินอายาโตะเป็นอาหารเสียก่อน

เพียงเวลาไม่นานบนโต๊ะญี่ปุ่นก็เต็มไปด้วยอาหารที่ขึ้นชื่อของภัตตาคารแห่งนี้อายาโตะมองอาหารบนโต๊ะที่ถูกจัดวางไว้อย่างสวยงามอย่างตื่นตาตื่นใจถึงแม้ว่าเขาจะเคยลิ้มลองอาหารที่แพงแสนแพงตามภัตตาคารในไทยแต่ด้วยรูปลักษณ์การจัดวางที่ไม่ธรรมดาของที่นี่ก็อดทำให้เขาตื่นเต้นไม่ได้ ดีแลนมองแววตาที่บ่งบอกความชื่นชอบของอีกฝ่ายก็อมยิ้มเขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่พาอายาโตะมารับประทานอาหารที่นี่ในขณะที่ดีแลนกำลังจะคีบซูชิส่งให้อายาโตะ แสงแฟรชจากมือถือก็ดังขึ้นดีแลนเงยหน้ามองอย่างสงสัย

“แหะๆ ขอโทษนะครับ คือผมอยากถ่ายเก็บไว้น่ะ” อายาโตะยกมือเกาศีรษะอย่างเขินอายดีแลนหัวเราะในลำคอไม่ว่าอะไรเขาเข้าใจคนสมัยนี้ที่ชอบถ่ายสิ่งสวยๆ งามๆเพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ

“จะถ่ายรูปฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ”

“จริงเหรอครับ” อายาโตะทำเสียงตื่นเต้น

ดีแลนพยักหน้าเรื่องอะไรจะไปห้ามว่าที่ภรรยาได้ล่ะ แต่จะให้ถ่ายฟรีๆโดยไม่มีค่าตัวนี้มันก็คงจะไม่ได้ดีแลนหัวเราะในลำคอจนอายาโตะชักไม่แน่ใจเพราะคนตรงหน้าเขาได้ชื่อว่าเจ้าเล่ห์มากเลยทีเดียว

“แต่มีข้อแม้..”

“บู่... ผมว่าแล้ว ว่าคุณคงไม่ใจดีโดยไม่มีข้อแม้หรอก”อายาโตะทำเสียงงอนอีกฝ่ายทันที

“อย่าเพิ่งงอนสิอายาโตะ ฉันยังไม่ได้บอกเธอเลยนะ ถึงข้อแม้ของฉันน่ะ”

“แล้วอะไรละครับ ข้อแม้ที่ว่า”

“เธอต้องมาถ่ายร่วมกับฉัน และอัพขึ้นเฟส อ้อเอาเป็นภาพโปรไฟล์ในมือถือด้วย โอเคนะ”

“อ่ะ...”อายาโตะทำเสียงตกใจ ไม่คิดว่าข้อแม้ของอีกฝ่ายจะง่ายขนาดนั้นเขานึกว่าตัวเขาจะต้องเสียซิงให้กับดีแลนเป็นข้อแม้เสียอีก

สงสัยเราจะสำคัญตัวผิดไปเฮ้อ...

“หรือว่าไม่ได้” ดีแลนทำเสียงเครียดนึกว่าอายาโตะไม่อยากจะให้คนอื่นรู้ว่าตัวเขากับอายาโตะเป็นอะไรกัน

“เปล่าสักหน่อยนี้ครับ ใครว่าไม่ได้ผมนึกว่าจะเป็นอะไรที่ยากกว่านั้นเสียอีก” อายาโตะบ่นอุบอิบ

ดีแลนถอนหายใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะปิดบังใครต่อใครว่าเขาและอายาโตะเป็นอะไรกันแต่ในเมื่อทำให้เขาเข้าใจผิดก็ขอแกล้งคนตรงหน้าสักหน่อยเสียแล้ว

“แล้วคิดว่าฉันจะให้ทำอะไรล่ะ” ดีแลนประชิดร่างอีกฝ่ายทันทีอายาโตะถึงกับผงะไปด้านหลังก่อนเสมองไปทางอื่น เพราะถ้าขืนมองตรงๆเขาได้อ่อนระทวยไปทั้งตัวแน่ๆ

“ก็... ก็... ไม่มีอะไรนี้ครับ...” น้ำเสียงติดขัดของอีกฝ่ายทำเอาดีแลนอยากแกล้งคนตรงหน้าเอามากๆร่างสูงเชยคางมนขึ้นให้เงยหน้าขึ้นมองเขา

“แน่ใจ...”

“แน่สิครับ” อายาโตะทำเสียงสูง ดีแลนหัวเราะในลำคอ

“แต่ให้ฉันเดา ฉันว่าเธอกลัวว่าสิ่งที่ฉันขอจะเป็นแบล็กเวอร์จิ้น

ของเธอสินะ” อายาโตะเม้มริมฝีปากทันทีเมื่ออีกฝ่ายจับได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ดีแลนแนบริมฝีปากตนเองเข้ากับริมฝีปากของคนตรงหน้าเล็กน้อยก่อนผันออกอย่างรวดเร็ว

“ไอ้แบล็กเวอร์จิ้นของเธอน่ะ ฉันเอาแน่ เธอไม่ต้องคิดมากนะอายาโตะ”อายาโตะตีเข้าที่แขนของอีกฝ่ายอย่างแรงใบหน้าของคนร่างเล็กแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

“ใครจะไปคิดมากล่ะ บ้าที่สุดเลย...”

ดีแลนหัวเราะกับอาการของอีกก่อนหอมที่แก้มอายาโตะและจัดการคีบปลาแซมมอนให้ทั้งคู่รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ต่างก็ป้อนกันไป และก็ป้อนกันมาจนรู้สึกอิ่ม

“อร่อยไหมหือ...”

“อร่อยครับ คุณรู้จักที่นี่ได้ยังไงเหรอ”

“ก็บางทีฉันก็พานักธุรกิจมาทานอาหารที่นี่น่ะ”

“แค่นักธุรกิจเท่านั้นใช่ไหมครับ”

“หึหึ... ก็ส่วนมากล่ะนะ แต่ตั้งแต่มีเธอฉันก็ไม่พาใครมาอีกเลย”

“จริงนะครับ”

“จริงสิ แค่มีเธอคนเดียวฉันก็ไม่มีเวลาว่างไปหาใครที่ไหนแล้วล่ะ..อายาโตะ” ดีแลนดึงร่างของอายาโตะเข้ามากอดปลอบ

เขาไม่อยากให้อายาโตะคิดมากอายาโตะพยักหน้าเขาเองก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่าเป็นคนเรื่องมากอะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป แต่ถ้านอกใจละก็... ฮึ่ม...

“เอาล่ะ เราเข้าไปอาบน้ำดีกว่าไหม ที่มีนี้บ่อออนเซ็นส่วนตัวด้วยนะ”

“จริงเหรอครับ”

“จริงสิ ป่ะ เดี๋ยวฉันจะพาไป” ดีแลนช้อนร่างบางของอายาโตะให้ลอยขึ้นจนคนที่ถูกช้อนตัวนั้นถึงกับร้องห้ามเสียงดัง

“ยะ-อย่าครับ ผมเดินเองได้”

“ไม่ล่ะ ฉันอยากอุ้ม ให้ฉันอุ้มนะ”

“แต่ผมกลัวตกนี้”

“ไม่ต้องกลัวตกหรอกอายาโตะที่รัก เดี๋ยวเราก็จะได้ทำอะไรๆ ด้วยกันแล้ว” อายาโตะถึงกับหน้าแดงเขาตีที่แขนของดีแลนเพื่อระบายความเขินอายทันที

“บ้าแล้ว... ใครว่าผมจะอาบน้ำพร้อมคุณกันล่ะ”

“หึหึ ก็ฉันไง เธอคิดว่าจะรอดมือฉันไปได้เหรอหึ... อายาโตะคืนนี้เธอจะต้องเป็นของฉันแล้วนะ เตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ”

“แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่ นะครับสุดที่รัก” ดีแลนกระซิบเสียงหวานที่ริมหูอายาโตะเม้มริมฝีปากด้วยไม่รู้จะพูดอะไรก่อนพยักหน้ารับและรับคำอุบอิบ

“ก็ได้ครับ... แต่เบาๆ นะครับ ผมกลัว”

“หึ ฉันจะทำให้เธอร้องขอฉันเรื่อยๆ เลยล่ะ ไม่ต้องกลัวนะ อายาโตะที่รักของฉัน” ดีแลนพาร่างบอบบางเข้าไปในโซนห้องพักทันที

ดีแลนอุ้มร่างบางไว้แนบอกขณะที่ริมฝีปากนั้นยังคลอเคลียริมฝีปากของอีกฝ่ายราวกับจะไม่ให้ห่างไปไหนลิ้นเล็กเข้าพัวพันกับลิ้นร้อนนั้นอย่างเงอะงะแต่กลับเรียกความเร่าร้อนที่แกนกลางของดีแลนได้เป็นอย่างดีร่างสูงพาร่างบางมาจนถึงเตียงคิงไซส์ที่ถูกจัดว่างเด่นที่กลางห้อง

การตกแต่งถึงแม้จะเป็นแบบญี่ปุ่นดังเดิมแต่มีเพียงเตียงนอนเท่านั้นที่เป็นแบบตะวันตกนั้นก็เพราะเขาขอให้ทางโรงแรมจัดแต่งให้เป็นแบบนี้เขาห่วงว่าอายาโตะจะไม่คุ้นชินหากเจอที่นอนฟูก ที่สำคัญเขาไม่อยากให้อายาโตะต้องเจ็บหลังมากเกินไป เพราะการกระทำที่เขาจะทำต่อไปนี้เขาคิดว่าอายาโตะจะต้องรับบทหลักเป็นแน่

ดีแลนสอดปลายนิ้วเข้าเคล้าคลึงยอดอกที่บัดนี้แข็งเกร็งเพราะถูกเขาเร้าอารมณ์อายาโตะส่งเสียงครางกระเสาเมื่อร่างสูงบดขยี้ตุ่มไตนั้นอย่างรุนแรงก่อนเสื้อเชิ้ตสีขาวจะกระเด็นไปเพราะแรงอารมณ์ของดีแลน

“อ๊ะ...”

อายาโตะสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นว่าเสื้อตัวน้อยของตนเองโดนอีกฝ่ายจัดการถอดมันออกและโยนไปที่พื้นอย่างไม่ไยดีพร้อมๆ กับกางเกงสแล็กที่หลุดไปอยู่ตรงพื้นอย่างไม่ทันรู้ตัวบัดนี้ร่างของเขามีเพียงอันเดอร์แวร์สีขาวเท่านั้นที่บดบังร่างกาย

“สวยมาก...”

ดีแลนพึมพำออกมาเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าสีไข่มุกกับยอดอกสีดอกซากุระตรงหน้าอายาโตะรู้สึกเขินอายที่อีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองอยู่แบบนั้นดวงหน้าแดงก่ำเสมองไปทางอื่นพลางยกมือขึ้นปิดส่วนบนของตนเองใจอยากจะดึงผ้าห่มมาบังกายแต่มันดันถูกสอดอยู่ข้างเตียงจะดึงก็คงจะลำบาก

“อายาโตะ...”

“คะ-ครับ...”

“ฉันอยากขยำเธอตรงนี้เสียจริงๆ”

“พะ-พูดอะไรนะครับ”

“เป็นของฉันเถอะนะ... ทั้งตัว... และใจ...”

ดีแลนเชยคางมนขึ้นดวงตาสั่นระริกนั้นบ่งบอกถึงความรักที่มอบให้ดีแลนได้เป็นอย่างดีแต่ถึงกระนั้นเขาก็อยากถามความยินยอมพร้อมใจของอีกฝ่าย สำหรับอายาโตะแล้วเขาจะจัดการร่างเล็กนั้นด้วยพละกำลังที่มีอยู่ก็ย่อมได้แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากจะทำร้ายหรือบังคับอีกฝ่ายให้มาเป็นของตนเองหากอายาโตะบอกตนว่าไม่พร้อมเขาก็พร้อมจะยอมรับความจริง

เพราะอายาโตะนั้นสำคัญกว่าเขามากกว่าสิ่งใด

อายาโตะมองใบหน้าอีกฝ่ายริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันหัวใจของเขาเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็อยากให้ทั้งตัวและใจแต่อีกใจหนึ่งก็นึกกลัววันที่ต้องจากกันไกล หากเป็นอย่างที่เขากังวล

เขาคงทำใจไม่ได้แน่หากต้องพยายามลืมรสรักของอีกฝ่ายที่ฝากฝั่งไว้ในร่างของเขาใช่ว่าดีแลนจะไม่รู้ถึงความกังวลนั้นร่างสูงสัมผัสที่ใบหน้าบางก่อนจุมพิตที่ริมฝีปากนั้นและพูดคำพูดหนึ่งที่ทำให้อายาโตะต้องพยักหน้ารับอีกฝ่ายเข้ามาในกายพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ร่วงริน ความรักนี้จะเป็นรักเดียวของเขาตลอดไป

‘ฉันจะรักมั่นแต่เธอ จะไม่ทิ้งเธอไปไหน จะไม่มีอะไรมาขัดขวางให้ฉันต้องทิ้งเธอไป...อายาโตะ ฉันรักเธอ... สุดที่รักของฉันเพียงหนึ่งเดียว’

ร่างสูงทาบทับร่างบางพลางบดเบียดกันและกันราวกับจะไม่ให้อากาศได้รอดผ่านไปได้ริมฝีปากของทั้งสองโลมรันกันอย่างรุนแรงก่อนจะเป็นดีแลนที่ถอนริมฝีปากออกและขบที่ซอกคอขาวผ่องของอายาโตะแทน

“อ๊าา อ๊าา”

“หวาน... หวานมาก... อายาโตะ...”

ดีแลนขบกัดซอกคอนั้นจนเกิดรอยแดงลิ้นร้อนลากไล้ไปตามเรือนร่างบอบบางของอีกฝ่าย อายาโตะบิดใต้ร่างเขาอย่างทนไม่ไหวยิ่งเมื่อดีแลนลากไล้ไปจนถึงแนวขาด้านในที่อยู่ใกล้กับส่วนอ่อนไหวที่แสนน่ารักของอายาโตะด้วยแล้วร่างเล็กก็แทบจะตายด้วยความเสียวซ่านเสียให้ได้

“อ๊ะ... ยะ... อย่า...”

“จะให้ฉันอย่าทั้งที่เธอดิ้นร่าๆ อย่างนี้หรือ... หือ... อายาโตะ..”

“อย่าคะ...ครับ...”

“ทำไมล่ะ” ดีแลนเงยหน้าทั้งที่ลิ้นของเขาขยับครอบครองช่องทางหวานอายาโตะสะบัดหน้าหนีพยายามกลั้นเสียงครางที่จะหลุดออกมา

“อื้อ....”

“ว่าไงล่ะ ถ้าไม่พูดฉันก็ไม่รู้นะว่าเธอรู้สึกยังไง”

“อย่าแกล้งผมสิครับ.... อ๊ะ… อ๊ะ...”

ดีแลนแกล้งอีกฝ่ายด้วยการกดลิ้นลงที่ช่องทางนั้นอย่างหนักหน่วงก่อนจะขยับเข้าครอบครองส่วนอ่อนไหวของคนร่างเล็กและจัดการขยับริมฝีปากขึ้นลงอย่างช้าๆในขณะที่นิ้วมือยังคงสอดเข้าสัมผัสส่วนอ่อนไหวอีกด้านของอีกฝ่ายและขยับเข้าออกตามการเคลื่อนไหวของปากอายาโตะสะบัดหน้าไปมาพลางยกมือขึ้นขยำศีรษะของอีกฝ่ายราวกับว่าจะหยุดการกระทำของดีแลน

“ฮื้อ... อย่า... อย่า...”

“ปากเธอบอกว่าอย่าแต่ตัวเธอไม่บอกอย่างนั้นเลยนะ อายาโตะ...”

“กะ-แกล้งผม... ผมมากไปแล้วนะครับ... ฮื้อ... อ๊าาาา...”

อายาโตะกระตุกน้ำสีขาวออกมาเปรอะเปื้อนเต็มริมฝีปากของอีกฝ่ายดีแลนกลื้นน้ำสีขาวของคนร่างเล็กจนหมดก่อนจะปาดส่วนที่เหลือเข้าปากของตนเองและละเลียดสิ่งที่ยังคงติดอยู่ที่นิ้วมือด้วยท่าทีว่ามันเอร็ดอร่อยมากจนอายาโตะถึงกับหน้าแดงกับการกระทำของอีกฝ่าย

“ให้ผมทำให้คุณบ้างไหมครับ” อายาโตะพูดออกมาถึงจะอายแต่เขาก็ไม่อยากเอารัดเอาเปรียบมีความสุขอยู่คนเดียวดีแลนส่ายศีรษะไปมาพลางส่งยิ้มให้

“ไม่ต้องหรอก ฉันอยากทำให้เธอ”

“แต่...” อายาโตะยังไม่ยินยอม

“อายาโตะที่รัก เธอไม่ต้องกลัวว่าฉันจะไม่มีความสุขแค่ฉันทำให้เธอและเธอชอบที่ฉันทำให้ฉันก็มีความสุขแล้ว”

“แต่ผมก็ไม่สบายใจอยู่ดี...”

อายาโตะลุกขึ้นโอบรอบคอของดีแลนร่างสูงจัดการรวบตัวของอายาโตะขึ้นมาวางบนตักกดสิ่งที่ใหญ่โตภายใต้กางเกงสแล็กของเขาให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงอารมณ์รักของเขา

“ไม่ต้องห่วง ฉันบอกแล้วไงว่าจะขอแบล็กเวอร์จิ้นเธอ ฉันไม่ลืมหรอกนะ”

อายาโตะเห็นอีกฝ่ายพูดดังนั้นแถมสิ่งที่ด้านหลังของเขากดทับอยู่ก็บอกถึงเจตนาของอีกฝ่ายเป็นอย่างดีก็ทำเอาร่างบางถึงกับต้องกลืนน้ำลายใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นความใหญ่โตของอีกฝ่าย มันไม่ใช่น้อยๆ มันใหญ่มากใหญ่เสียจนไม่คิดว่าจะเอาเข้าไปในช่องทางคับแคบของเขาได้

ดีแลนเห็นหน้าตาที่กินไม่ได้คายไม่ออกของอายาโตะก็ถึงกับหัวเราะเรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายคิดมากร่างสูงจัดการปิดปากร่างบางลงทันทีและเริ่มบทรักครั้งใหม่ขึ้นอีกครั้งภายใต้ห้องพักแห่งนี้

“ระ เร็ว...ครับ...ผม...ผมอยาก... อยากเป็นของคุณ”

อายาโตะหอบกระเส่าร่างเล็กยกขาขึ้นกระหวัดรัดเอวสอบของดีแลน ดีแลนครางฮึมกับคำพูดของอายาโตะ

“ให้ฉันช่วยเธอก่อนดีกว่าไหม เดี๋ยวจะเจ็บ”

“มะ... ไม่เป็นไร... อึก...”

“งั้นเหรอ... ซี๊ด... ” ดีแลนขยับความใหญ่โตของตนเองขึ้นลงราวกับจะลดอาการเสียวที่เกิดจากคนร่างเล็กเร่าเร้าเขา

“ครับ... ฮื้อ... อ่า...”

ร่างเล็กบดเบี้ยวส่วนร่างเข้าหาความแข็งขืนที่จ่ออยู่ที่ปากทางของเขาในตอนแรกดีแลนจะใส่ถุงยางอนามัยแต่เป็นเขาเองที่ขอไม่ให้อีกฝ่ายใส่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเขาเขาอยากรับอีกฝ่ายโดยไม่มีอะไรมากางกั้น

แน่นอนว่าดีแลนก็ตอบรับความต้องการของอีกฝ่ายเพราะเขาก็ไม่ได้มีภาวะเสี่ยงอะไรแน่นอนว่าก่อนเจออายาโตะเขาตรวจเลือดทุกหกเดือนและหลักจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรกับใครอีกเลยด้วยธุรกิจที่ค่อนข้างหนักทำให้แทบไม่มีเวลาให้กับเรื่องแบบนี้

“อ๊า.... อ๊า.... อึก....”

อายาโตะกัดฟันแน่นดวงตาพร่างพรายไปด้วยหยาดน้ำตา ถึงจะเต็มใจกับความเจ็บปวดแต่เมื่อสัมผัสเข้าจริงๆก็แทบจะทำเอาเขาแตกดับไปเลยทีเดียวทั้งที่ดีแลนเพิ่งจะกดส่วนหัวเข้าที่ปากทางของเขาเองนะ

ดีแลนสอดร่างแกร่งของตนเองเข้าไปในช่องทางสีหวานอย่างรุนแรงในตอนแรกเขาคิดว่าจะเข้าไปอย่างช้าๆแต่เมื่อเจอความคับแน่นของอีกฝ่ายก็ทำเอาเขาเปลี่ยนความคิดไปทันทีอายาโตะผวารัดร่างของอีกฝ่ายแน่นขณะที่มือทั้งสองข้างจิกเข้าที่แผ่นหลังของอีกฝ่ายเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับ

“ซี๊ดดดดดดดดด.... รัดเกินไปแล้วอายาโตะที่รัก...”

“เจ็บ... ฮื้อ... อย่าขยับนะ... อึก... อย่า... ดีแลน...อึก...”

อายาโตะบอกอีกฝ่ายเสียงสะอื้นดีแลนจุมพิตที่หางตาของอีกฝ่ายราวกับจะปลอบประโลมถึงแม้ว่าอายาโตะจะบอกเขาแบบนั้นแต่จะให้ไม่ขยับเลยเขาก็คงจะทรมานดีแลนขยับมันเข้าออกอย่างช้าๆ

“อย่า... เจ็บ... เจ็บ... อื้อ...”

“ทนหน่อยนะ ถ้าไม่ขยับเลยเธอก็จะเจ็บอยู่อย่างนี้ ฉันจะทำเบาๆ นะ”

“แน่นะครับ... อึก... อึก..”

เสียงสะอื้นของอีกฝ่ายทำเอาดีแลนใจระทวยเพียงแค่สอดความแข็งแกร่งเข้ากับความอ่อนโยนของอีกฝ่ายก็แทบจะทำให้เขาปล่อยออกมาได้แล้วแต่พอเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายก็ยิ่งเหมือนโดนเร่งเร้าจิตใจเบื้องลึกให้อยากกระแทกร่างเข้าไปแรงๆอยากทำให้อีกฝ่ายร้องมากกว่านี้

หรือเขาจะเป็นพวกซาดิสต์กันนะ

ดีแลนหัวเราะให้กับตัวเองก่อนกระแทกร่างเข้าไปจนมิดด้ามตามความรู้สึกของตนเองอายาโตะทุบอีกฝ่ายอย่างแรงพยายามไม่ให้ร่างสูงขยับตัวแต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ดีแลนดันข้อมือของอีกฝ่ายให้ยกขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนกระแทกความแข็งแกร่งของตนเองเข้ากับร่างของเขาอย่างรุนแรง

“อื้อ... อื้อ... อ๊า”

“แน่น... แน่นเหลือเกิน... อายาโตะ...ซี๊ดดดดด”

ดีแลนกระแทกร่างเข้าออกเข้าออกก่อนจะดันร่างตนเองให้ห่างจากช่องทางรักของอีกฝ่ายและเสือกกายเข้ากระแทกจนส่วนปลายสัมผัสกับด้านในอย่างรุนแรงจนโดนจุดเสียวของอายาโตะอย่างแรง

“อึก... ดีแลน... ดีแลน...”

ไม่น่าเชื้อว่าเพียงช่วยครู่ความเจ็บปวดจะเปลี่ยนเป็นความหฤหรรษ์ อายาโตะรัดเอวสอบของอีกฝ่ายไว้แน่นในขณะที่ดีแลนเองก็ยกขาข้างหนึ่งของอายาโตะให้รับกับการเคลื่อนไหวของเขามากขึ้น

“อื้ม... อื้ม... ซี๊ดดดด... แน่นมากเลยอายาโตะ... ขอทำแรงๆ หน่อยนะ”

“ดีแลน... คะ... ครับ... แรงอีก... ผะ... ผม... จะออก... จะออกแล้ว...อื้อ...”

“ปะ... ปล่อยเลย อ๊า.. อ๊า... พร้อมๆ กับฉัน... อึก...”

ดีแลนถาโถมความใหญ่โตของตนเองเข้าออกอย่างรุนแรงกระแทกเสียร่างของอายาโตะสั่นคลอน อายาโตะสายศีรษะไปมากอย่างอดกลั้นอาการไม่อยู่

“ดีแลน... ดีแลน...”

“อายาโตะ... อายาโตะ...”

“อะ-ออกแล้ว... อื้อ... อ๊าาา”

“ฉันก็จะออกแล้ว... ซีดด...รักนะอายาโตะ... รักเธอ”

อายาโตะกระตุกวาบไปทั้งร่างน้ำสีขาวโพยพุ่งเลอะเปรอะร่างขาว พร้อมๆ กับดีแลนที่เสือกกายเข้าออกอย่างรุนแรงมากขึ้นก่อนปลดปล่อยความปรารถนาฉีดเข้าร่างของอายาโตะดีแลนมองร่างบอบบางภายใต้ร่างเขาที่ยังคงมีอาการหอบโยนเขายกมือขึ้นเช็ดเหงื่อเม็ดโป้งที่พุดขึ้นตามใบหน้าและลำคอ

แม้ว่าอากาศที่นี้จะเย็นอยู่แต่ก็คงยากที่จะดับความร้อนของทั้งสองลงได้ใบหน้าของอายาโตะแดงเรื่อตามแรงอารมณ์ร่างสูงจูบซับใบหน้านั้นอย่างรักใคร่ก่อนที่บทรักบทต่อไปจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในเวลาต่อมาตอนนี้อายาโตะเป็นของเขาแล้ว และจะต้องเป็นของเขาตลอดไปเขาจะไม่ยอมให้ใครมาพรากคนตรงหน้าเขาไปได้ เขาสาบาน

“ฉันรักเธอนะ อายาโตะ...”

“ผมก็รักคุณครับ ดีแลน...”

ทั้งสองต่างพลอดรักกันบอกรักกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งเข้าสู่วันใหม่ก็ยังคงไม่เลิกราขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเขาและเธอมาเพื่อพบกัน ดีแลนจะรักอายาโตะแบบนี้ตลอดไป...




Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 17:25:04 น.
Counter : 231 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไลแลต..
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






- นิยายที่ผ่านการตีพิมพ์ -









ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
  •  Bloggang.com