ตอนที่ 3 หลังจากที่ทั้งสามเดินออกไปจากเรือนรับรองแล้วเอิร์ลหนุ่มจึงพาร่างบอบบางมานั่งยังโซฟาหลุยที่อยู่อีกด้านของเรือนรับรองทันทีที่นี่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์กลิ่นของมันหอมคละคลุ้งไปทั่วทำให้อายาโตะอดที่จะสูดดมไม่ได้ร่างสูงกดร่างบางให้นั่งลงพร้อมกับสั่งแม่บ้านทางอินเตอร์โฟนให้นำชาและของว่างเข้ามาเสิร์ฟที่ทันที ไงครับ ทีนี้ให้รางวัลฉันได้หรือยัง อายาโตะ รางวัล? อายาโตะทำสีหน้างุนงงกับสิ่งที่ดีแลนพูดก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากตัวเขาหัวใจที่เต้นรัวเร็วพร้อมกับเลือดที่ฉีดพล่านไปทั่วใบหน้านั้นแทบจะทำให้คนร่างเล็กรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเอาให้ได้ยิ่งเมื่อคิดไปถึงร่างสองร่างที่แนบแน่นกันในห้องอาบน้ำด้วยแล้วยิ่งทำให้เขาไม่อยากให้คนข้างกายรู้ถึงความคิดในตอนนี้ ว่าไงครับ รางวัลน่ะ ระ... รางวัลอะไรครับ หืม ไม่รู้จริงๆ หรือว่าฉันต้องการอะไร... อายาโตะ มือหนาเชยคางมนขึ้นดวงตาสีน้ำทะเลลึกนั้นมองมายังดวงตากลมโตที่ฉายแววบางอย่างในนั้นรอยยิ้มกรุ่มกริมของคนร่างสูงรับรู้ได้ทันทีว่าคนร่างเล็กรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรนิ้วเรียวค่อยๆไล้ไปตามโครงหน้าอย่างแผ่วเบาทำเอาอายาโตะถึงกับหยุดหายใจไปพักหนึ่งเลยทีเดียว เธอสวยมาก อายาโตะ ดีแลนพูดพลางไล้นิ้วลงไปเรื่อยๆจนหยุดที่ริมฝีปากทีแดงน่าจูบตรงหน้า อายาโตะกลืนน้ำลายคงคออย่างยากลำบากริมฝีปากแห้งผากจนเขาเผลอที่จะใช้ลิ้นเล็กๆ นั้นเลียเพื่อเรียกความชุ่มชื้น โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำนั้นกลับยิ่งยั่วยุอารมณ์ด้านมืดของเอิร์ลหนุ่มเข้าอย่างจัง มือหนาเชิดหน้าของอายาโตะขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ริมฝีปากของอายาโตะจะถูกบดจูบอย่างเร่าร้อนด้วยริมฝีปากของคนตรงหน้าลิ้นอุ่นถูกสอดแทรกเข้าพัวพันกับลิ้นของอายาโตะอย่างรวดเร็ว เสียงดูดกลืนความหวานดังระงมไปทั่ว ฮื้อ.. อ่ะ.. หวาน.. หวานมาก.. อายาโตะ.. ดะ.. เดี๋ยวครับ.. อ่ะ.. อายาโตะพยายามห้ามปรามเมื่อริมฝีปากนั้นยอมปล่อยให้เขาหายใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะตามประกบลงในเวลาไม่ช้าร่างของเขาถูกพลั่กให้นอนลงบนโซฟาหลุยก่อนที่ร่างหนาจะตามมาประกบสองแขนของเขาถูกรวบไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียวราวกับไม่ยินยอมให้อายาโตะหลุดไปได้อายาโตะที่ถูกคนร่างสูงจูบอย่างเร่าร้อนจึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เอิร์ลหนุ่มตักตวงความหอมหวานภายในปากของเขาอย่างเต็มที่ ดวงตาคู่สวยปิดปรือตามฤทธิ์จูบก่อนที่ความเพลิดเพลินในรสกามรมณ์จะเข้าครอบงำเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมเริ่มดังขึ้นเมื่อมือหนาของคนที่จับกดเขาเริ่มรุกรานภายใต้ร่มผ้าเสียงเสียดสีของเนื้อกับเนื้อดังขึ้นเป็นระยะพร้อมกับกระแสอารมณ์ที่ถูกปลดปล่อยถึงขีดสุดร่างที่ชื้นเหงื่อนั้นทำได้เพียงแต่นอนหลับไปในอ้อมกอดของคนร่างสูงที่ได้รับรางวัลจนพอใจเท่านั้น รางวัลที่อายาโตะไม่รู้ว่าไปตกลงมันตอนไหน
โรงแรมเทโตะ ทำไมแกต้องให้นายน้อยอยู่กับเอิร์ลอะไรนั้นด้วย หลงพูดขึ้นขณะก้าวเข้ามาภายในห้องของอายาโตะที่อยู่ในโรงแรมเทโตะด้วยท่าทางที่เกรี้ยวกราดโดยก่อนเข้ามานั้นเขาได้สั่งให้เอียนรออยู่ภายในล็อบบี้ของโรงแรมแทนที่จะตามขึ้นมาเพราะเขาต้องการเคลียร์เรื่องนี้กับอชิสองต่อสองเท่านั้น อชิหันหน้ามามองสีหน้าที่เกรี้ยวกราดของหลงอย่างชอบใจเขากระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนนั่งลงบนเตียงนอนของอายาโตะด้วยท่าทีสบายอารมณ์นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของหลงถูกกวนให้ขุ่นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้อชิมองหน้าเพื่อนร่วมงานอย่างท้าทาย เขารู้ว่าหลงไม่มีทางทำอะไรเขาได้หรอกถึงเห็นว่าเขาจะตัวเล็กกว่า บึกบึนน้อยกว่าแต่ถ้าให้สู้กันจริงๆ หลงมีแต่แพ้กับแพ้อชิมองหน้าหลงที่อารมณ์เสียอยู่อย่างนั้นก่อนหัวเราะใจลำคอและ ลุกไปขนกระเป๋าเดินทางที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าออกมาจัดการโดยสนใจจะตอบคำถามของหลงเลยแม้แต่น้อยยิ่งทำให้หลงชักเกิดอาการฉุนขาดเขากระชากแขนของอชิจนตัวของอีกฝ่ายลอยมาติดตัวเขา อชิมองหน้าหลงอย่างไม่ชอบใจ ว่าไง...ทำไมไม่ตอบล่ะ ฮึ... ฉันรู้นะว่านายต้องการอะไรแล้วก็คิดอะไรอยู่แต่เรื่องบางเรื่องเก็บมันไว้ในใจก็ได้นะหน้าที่อย่างเราไม่จำเป็นต้องแสดงมันออกมาก็ได้นะหลง หลงสะอึกกับคำพูดรู้ทันของอชิแต่ก็พยายามเฉไฉไปทางอื่น รู้อะไร ฉันทำไม? จะรู้อะไร นายก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะว่าฉันหมายความว่าไง อชิพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมแพ้แถมยังมาดันร่างของเขาให้ชิดกับกำแพงอีกด้วยสีหน้าราวกับล่วงรู้ทุกอย่างของอีกฝ่ายทำให้หลงขบกรามแน่นอชิที่ถึงแม้ว่าจะทำท่าทางเรื่อยเปื่อยเล่นไปเสียทุกอย่างแต่แท้จริงแล้วเป็นคนที่เก็บรายละเอียดของเรื่องได้มากที่สุดในทุกๆด้าน เก่งซะจนแม้แต่เขาก็สู้ไม่ได้ เหมือนนายใช่ไหม อชิ ใช่ เหมือนฉัน ทำไมถึงได้รับออกมาง่ายๆ อย่างนั้นล่ะวะ อ้าว ถ้ามันคือความจริงทำไมฉันจะต้องโกหกด้วยล่ะ ฮึ.. หลงทำเสียงในลำคอเขารู้สึกไม่ชอบใจนักที่อชิไม่แม้แต่จะปฏิเสธ เขารู้อยู่แล้วว่าอชิเป็นคนอย่างไรความรู้สึกที่มีอยู่ในใจนั้นจะแสดงออกมามากหรือน้อยแล้วแต่เจ้าตัวจะเป็นคนบอกหากเรื่องไหนไม่อยากให้ใครรู้ อย่าว่าแต่จะรื้อค้นเลย แม้แต่หาก็ยังหาไม่เจอ หลงแนบหน้าของตนเองเข้ามาบดจูบริมฝีปากของอชิอย่างรุนแรงรสเฟือนๆ ของเลือดปะปนไปกับเสียงหยาบโลนที่ดังในอุ้งปากอชิมองการกระทำนั้นของอีกฝ่ายอย่างเฉยชาก่อนจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนนำเกมส์เขาแทรกปลายลิ้นแลกจูบกับอีกฝ่ายอย่างเมามันส์ อื้ม... อื้ม...หลงดันท้ายทอยของอีกฝ่ายให้เชิดจนเห็นซอกคอที่ไร้การป้องกันเขาซุกใบหน้าลงขบที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างแรง โอ๊ย... อย่าทำให้เป็นรอยสิวะ ฮึ... เป็นแล้วยังไง เกิดนายน้อยเห็นจะทำไง ก็ไม่ทำไง เฮอะ... หยุดพูดมากดีกว่าน่า หลงปิดปากของอีกฝ่ายด้วยปากของเขามือข้างหนึ่งปลดเข็มขัดกางเกงเสล็ก ก่อนจะรูดซิบของอีกฝ่ายลงอชิเมื่อเห็นว่าหลงทำเช่นนั้นเขาก็จัดการทำเช่นกันมือทั้งสองข้างเกาะกุมส่วนสำคัญของกันและกันไว้อย่างมั่นคงก่อนจะขยับขึ้นลง ฮื้อ.... อ่า... อ่า... ดีไหม... ดี... แล้วแบบนี้ล่ะ หลงขยับมือของตัวเองให้แรงขึ้นกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายแรงมาเขาก็แรงกลับไปเช่นกัน อ่า... อ่า... ฮื้อ... จะออกแล้ว... ฉันก็จะออกเหมือนกัน.... อ่า... แรงอีก... อย่างนั้น อชิจัดไปให้ตามคำขอหลงบดจูบริมฝีปากของคนตรงหน้าอีกครั้งก่อนที่ลมหายใจของทั้งคู่จะสอดประสานพร้อมกับปลดปล่อยสิ่งสำคัญของกันและกันอย่างรวดเร็วเสียงหอบหายใจของทั้งสองฝ่ายดังขึ้นหลงซบหน้าตนเองเข้ากับไหล่ของอีกฝ่ายก่อนจะพยายามระงับอารมณ์ที่อยากทำมากกว่านี้อชิดันตัวหลงออกจากตัวเขาก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา อย่าทำอะไรเกินหน้าทีล่ะหลง ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือนหลงมองใบหน้าของอชิที่แสดงความเย็นชาใส่เขาอย่างไม่ชอบใจ นายก็เหมือนกัน อชิ ทั้งสองผันร่างออกจากกันพร้อมกับหยิบกระดาษชำระที่อยู่บนโต๊ะเช็ดคราบขาวที่อยู่บนมือก่อนจะจัดการกับร่างของตัวเองที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับโยนมันทิ้งลงในถังขยะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็แค่การปลดปล่อยอารมณ์ของกันและกันโดยไม่มีแม้กระทั่งความรักเท่านั้นเอง อชิคิดก่อนจะลงมือลากกระเป๋าสัมภาระของอายาโตะออกไปยังภายนอกห้องทิ้งให้หลงยืนสำรวจสิ่งที่ตกค้างอยู่ภายในห้องอีกครั้งจนกระทั่งเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นพร้อมกับรถที่แล่นออกจากโรงแรมเทโตะแห่งนี้เพื่อไปยังคฤหาสน์ของเอิร์ลดีแลนซึ่งเป็นที่พักใหม่ของนายน้อยแห่งตระกูลฟูวะและตระกูลอัครเสนีย์
วันนี้เป็นวันเปิดภาคการศึกษาวันแรกของอายาโตะเขาใส่ชุดสูทที่พ่อบ้านประจำคฤหาสน์เอิร์ลแห่งนี้ได้จัดเตรียมไว้อย่างรวดเร็วสูทที่ถูกส่งมานั้นเป็นสูทสั่งตัดจากห้องเสื้อชื่อดังที่ดีไซเนอร์ถูกส่งตัวมาวัดตัวเขาเมื่อวันก่อนหลังจากที่หลงและอชิออกไปเอาของๆเขาจากโรงแรมเทโตะแน่นอนว่าหลังจากที่เอิร์ลหนุ่มขอของรางวัลที่เขาไม่ได้ตกลงเสร็จด้วยนะเมื่ออายาโตะคิดถึงตรงนั้นแล้วใบหน้าเขาก็แดงระเรื่อ ตอนแรกเขาจะไม่ยอมให้วัดตัวด้วยกลัวว่าดีไซเนอร์คนดังจะเห็นร่องรอยที่ดีแลนทำไว้บนตัวเขาแต่แล้วก็ต้องยอมเพราะอีกฝ่ายไม่ได้จะให้เขาถอดเสื้อออกจนหมด ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ลักพาตัวเขาก็ล่วงเลยผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วอายาโตะสำรวจความเรียบร้อยของตนเองอีกครั้งหนึ่งเพราะไม่อยากให้รอยแดงโผล่พ้นคอเสื้อแต่ไม่ว่าจะซ่อนอย่างไรรอยที่ทำไว้มันมากจริงๆ "อ่ะ มีรอยแดงอีกแล้ว" อายาโตะเลิกคอเสื้อตัวเองออกมองที่ซอกคอตรงที่มีรอยแดงอยู่ใกล้ๆใบหู ก่อนจะถอนหายใจไม่ว่าจะปิดบังอย่างไรก็ยังไม่สามารถบังรอยได้ทุกจุด ทุกๆวันดีแลนมักจะปรนเปรอความสุขให้เขาจนแทบสำรักแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเกินเลยมากไปกว่าการสัมผัสภายนอก มีบ้างที่จะใช้นิ้วเรียวทำความคุ้นเคยกับส่วนคับแคบของเขาเมื่อคิดถึงตอนนั้นแล้วอายาโตะก็ถึงกับหน้าแดงระเรื่อไม่ว่าร่างกายนี้จะคุ้นเคยกับการสัมผัสของเอิร์ลหนุ่มมากเท่าใดแต่เขาก็ยังอดรู้สึกเขินอายไม่ได้ทุกที "ยังไม่เสร็จรึ" "จะเสร็จแล้วครับ" อายาโตะรีบจัดคอเสื้อของตนเองอย่างรวดเร็วก่อนที่ดีแลนจะเดินเข้ามาภายในห้องแต่งตัวที่เชื่อมต่อกับห้องของเขาความจริงแล้วอายาโตะเองก็มีห้องส่วนตัวที่เป็นของตัวเองอยู่แต่ไม่เคยได้ใช้มันเลยนับตั้งแต่เขาย้ายมาพำนักที่นี้ก็มักจะโดยคนร่างสูงพาเข้าไปนอนในห้องนอนของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ดีแลนเดินเข้ามาซ้อนด้านหลังของอายาโตะก่อนยืนมือมาด้านหน้าโอบร่างบางไว้อย่างหลวมๆพร้อมกับถือวิสาสะหอมขมับของอีกฝ่าย อายาโตะก้มหน้าอย่างอายๆเขารู้สึกว่าหน้าของเขาร้อนแผ่วทุกทีที่เอิร์ลหนุ่มส่งสายตาสีน้ำทะเลนั้นมองมาดูเหมือนว่าคนร่างสูงเองก็ดูจะชอบใจ ที่เห็นเขาเป็นแบบนั้น "เดี๋ยววันนี้ฉันจะไปส่งที่มหาลัยนะ" "เอ่อไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอง" "ห้ามปฏิเสธ" "ครับ..."อายาโตะก้มหน้ารับคำ หัวใจของเขาเต้นราวกับจะหลุดออกมานอกอกแค่มองตาของคนร่างสูงก็ทำเอาตัวของเขาจะละลายเป็นช็อกโกแลตที่โดนความร้อนแล้ว "รู้ไหมว่าเธอทำหน้าแบบนั้นทำเอาฉันไม่อยากปล่อยให้ออกจากห้องนอนเลย อายาโตะ" "อ่ะ..อย่าครับ.." "ขอจูบหน่อยละกัน" "มะ...ฮื้อ.." และแล้วอายาโตะก็ถูกคนร่างสูงปล้นจูบยามเช้าจนได้จูบที่แสนเนินนานจนทำเอาเข่าของเขาแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น หากไม่ได้ดีแลนคอยพยุงร่างไว้ได้เข่าของเขาที่สอดสัมผัสกับส่วนต้องห้าม "โดนฉันปล้นแรงไปขนาดนี้จะไปเรียนไหวรึ" "วะ..ไหวครับ" อายาโตะพูดขึ้นขณะที่พยายามรั้งร่างตัวเองให้ออกห่างจากดีแลนแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไรนักเพราะคนร่างสูงไม่ยอมให้ทำแบบนั้นซ้ำยังกระตุกยิ้มอย่างชอบใจที่คนตัวเล็กพยายามพยุงร่างตัวเองให้ออกห่างจากเขาเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ของตนเอง ให้ตายสิน่าจับกดชะมัด ดีแลนได้แต่คิดในใจแต่เขาเองก็ต้องพยายามหักห้ามอารมณ์เช่นกันเพราะนับตั้งแต่ได้สัมผัสเรือนร่างนี้ก็ทำให้เขาอยากจะทำไปให้จนสุดทางทุกครั้งแต่เมื่อคิดว่าคนร่างเล็กยังรับสัมผัสทันเป็นตัวตนของเขาทั้งหมดไม่ได้นั่นก็ทำให้เขาต้องหยุดมันไว้แต่เพียงเท่านั้นทุกที
ลีมูซีนสองประตูปลาบมันจอดเทียบอยู่หน้าคฤหาสน์โดยมีหลงและอชิ บอดี้การ์ด สองคนของฝั่งอายาโตะยืนรออยู่หน้าประตูรถ ส่วนอีกด้านก็เป็นบอดี้การ์ด ของฝั่งดีแลน หลงเปิดประตูฝั่งซ้ายมือตนเองให้อายาโตะนั่งในฝั่งที่เขาและอชิต้องนั่งดีแลนแสยะยิ้มมุมปากก่อนดึงตัวอายาโตะที่กำลังจะก้าวขึ้นไปตามที่ทั้งสองผ่ายมือบอกอายาโตะหันมามองตามแรงดึง มีอะไรเหรอครับ มานั่งกับฉันด้านนี้สิ แต่ว่า... มาเถอะ... นะ ดีแลนกระซิบที่หูเบาๆหลงถึงกับคิ้วกระตุกอย่างไม่พอใจมีเพียงอชิคนเดียวที่มองภาพนั้นอย่างขำขันก่อนเปิดประตูฝั่งขวามือเพื่อให้ดีแลนขึ้นไปนั่งกับอายาโตะพร้อมกับกล่าวเชิญ เชิญครับ ขอบคุณนะครับ ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่.... ดีแลนก้าวขึ้นรถพร้อมกับดึงตัวอายาโตะให้ตามมานั่งคู่กับเขาอชิปิดประตูฝั่งขวามือ ก่อนหันไปยักคิ้วให้หลง ขึ้นรถสิหลง เออ... หลง ฉันเตือนนายไว้ว่าไง หวังว่านายคงจะจำได้นะ รู้หรอกนะ เฮอะ... เตือนตัวเองด้วยเถอะ ฉันเตือนตัวเองอยู่ทุกวันขอบใจที่เป็นห่วง อชิส่งยิ้มให้อย่างกวนบาทาหลงฮึดฮัดก่อนก้าวขึ้นรถในฝั่งที่ประตูยังเปิดออกนั่งเผชิญหน้ากับดีแลนที่บัดนี้ไม่ยอมปล่อยอายาโตะให้เป็นอิสระโดยที่ดีแลนไม่แม้แต่จะสนใจ บอดี้การ์ดที่อยู่เบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อยเขาสนแต่คนในอ้อมแขนที่พยายามฝืนตัวเองให้ออกจากตัวเขามากกว่า ปล่อยผมเถอะครับ เรื่องอะไรล่ะ ทำไมต้องปล่อย ก็พวกหลงมองผมอยู่นะครับ อายเค้า ไม่เห็นต้องอายเลย ฉันยังไม่อายไม่พูดเปล่าหอมแก้มอายาโตะโชว์เหล่า บอดี้การ์ดอีกต่างหากอายาโตะเม้มปากก่อนว่าไปเบาๆ อีกแล้วนะครับ คุณนิหน้าหนาจังเลยนะครับ อะไรนะ... พูดอะไรไม่เห็นได้ยิน เปล่าซะหน่อย แล้วความจริงไม่ต้องไปส่งผมก็ได้นะครับ ผมไปเองได้ ตามจริงอายาโตะได้เคยทักท้วงไปก่อนหน้านี้แล้วเขาอยากไปเรียนด้วยตัวเองแต่ดีแลนก็ไม่ยอมไม่ว่าอย่างไรก็อยากมาส่งให้ได้เมื่อเป็นเช่นนั้นอายาโตะทำได้แค่เพียงขอเปลี่ยนเป็นลีมูซีนคันเล็กแทนที่จะเป็นลีมูซีนที่เป็นคันยาวเฟื้อยแบบที่เห็นในภาพยนต์แน่นอนว่าดีแลนยอมตามคำขอนั้น เราว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ อายาโตะดีแลนตอบเสียงเรียบ โธ่ ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มใส่หรอกครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ อายาโตะทำปากยื่นใส่ดีแลนหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่กลัวเขา มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบไล้ที่ใบหน้านวลอย่างรักใคร่ "แล้ววันนี้เลิกกี่โมงล่ะจะได้ให้คนมารับ" "ยังไม่ทราบเลยครับไม่ต้องให้ใครมารับก็ได้เดี๋ยวผมกลับเอง" "ไม่ได้เหตุการณ์ยังไม่น่าไว้ใจที่สำคัญเธอสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่หรือว่าจะตามคำขอของฉัน" อายาโตะเม้มริมฝีปากแน่นถึงแม้จะไม่พอใจเล็กๆที่ดีแลนขัดใจเขาแต่นั่นก็เป็นเพราะเหตุการณ์ลักพาตัวยังไม่คี่คลายเอิร์ลหนุ่มเห็นท่าทางขัดใจของอายาโตะก็ส่งยิ้มออกมาพร้อมทั้งกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบา "หรือจะให้ฉันไปรับดีแล้วเราค่อยไปเดทในที่ๆเธออยากไป" "เอ๋ ?" "เอายังไงล่ะ" "กะ.. ก็ได้ครับ" อายาโตะก้มหน้านิ่งพยายามซ่อนใบหน้าเขินอายกับเสียงกระซิบที่ทำเอาหัวใจของเขาสั่นไหวเสียงที่เคยแหบพร่าเมือยามอยู่บนเตียงถึงแม้จะพูดแบบปกติก็ยังเซ็กซี่อยู่ดี "เอาล่ะเดี๋ยวตอนเย็นฉันจะมารับ เป็นอันตกลงตามนี้" หลงทำท่าจะทักท้วงแต่ดีแลนกดมันไว้ภายใต้ท่าที่ที่เกรงขาม เขารู้นิสัยของอายาโตะเลาๆ แล้วว่าถึงแม้อายาโตะจะเป็นคนยอมคนแต่หากไปกดดันคนร่างเล็กมากๆสักวันอาจทำอะไรที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวเองได้ง่ายๆหากคิดจะปกป้องเขาแล้วละก็ควรทำมันเงียบๆหรือค่อยตะลอมและหาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนดีกว่า
ลีมูซีนคันหรูแล่นเข้าสู่บริเวณภายในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วมหาวิทยาลัย T ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านแพทยศาสตร์ และนิติศาสตร์ส่วนด้านภาษาศาสตร์ที่อายาโตะได้รับทุนการศึกษามานั้นก็ถือเป็นอันดับสามของชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยนี้เสียงจอแจดังขึ้นเป็นระยะตามด้วยสายตาทุกคู่ของนักศึกษาที่เดินเรียงรายกันเข้ามาภายในรั้วมหาวิทยาลัย อายาโตะถอนหายใจอย่างปลงตกรอบแรกที่เขามาที่นี่คือเมื่อสามวันก่อนการเปิดภาคการศึกษาวันแรกวันนั้นอายาโตะจำเป็นต้องมาปฐมนิเทศก็เจอสายตาเช่นนี้และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทำข้อตกลงในวันนี้ว่าหากไม่ให้เขามาเองด้วยรถไฟฟ้าที่เป็นระบบคมนาคมของประเทศนี้ก็ต้องเปลี่ยนเป็นลีมูซีนคันเล็กแต่ราคาไม่เล็กแทนคันเดิมที่ยาวเฟื้อย ตอนแรกเขาทักท้วงด้วยซ้ำว่าไม่ต้องการใช้รถจำพวกนี้แต่ถ้าไม่ใช่รถแบบนี้ก็คงไม่สามารถบรรจุเหล่า บอดี้การ์ดที่ติดตามคนทั้งสองไปได้หมด นี้ขนาดไม่หมดนะยังมีแอบตามมาอีกสองคันเล็กอีกต่างหาก อายาโตะถอนหายใจเมื่อเห็นว่ารถหยุดแล่นแล้วเขารีบคว้ากระเป๋าเป้แบรนดังที่เขานำมาจากประเทศไทยเพื่อเตรียมตัวลงจากรถแต่ยังไม่ทันที่อายาโตะจะได้เปิดประตูรถดีแลนก็คว้าข้อมือของเขาไว้เสียก่อนจนทำให้คนร่างเล็กต้องหันมาด้วยคำถาม มีอะไรหรือเปล่าครับ เปล่า เปล่า? ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่าอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้นะ อ้อ ครับ ไว้เลิกเรียนแล้วผมจะโทรไปนะครับ ดีมาก ดีแลนส่งยิ้มให้อย่างพอใจก่อนจะเชยคางอายาโตะขึ้นและจุมพิตที่หน้าผากนั้นอย่างแผ่วเบาโดยไม่แคร์สายตาหลงและอชิที่นั่งอยู่โดยทั้งสองมองมาด้วยสายตาที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงหลงมองอย่างแค้นเคืองและทำท่าจะจัดการเอิร์ลหนุ่มให้แดดิ้นส่วนอชิทำได้เพียงสยบความเคลื่อนไหวนั้นด้วยมือแกร่งของตัวเองในขณะที่สีหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ตลอดเวลา อายาโตะที่ตั้งสติได้รีบห้ามคนร่างสูงที่พยายามหาเศษหาเลยเขาทุกครั้งที่ทำได้อย่างเอาเป็นเอาตายเพราะริมฝีปากที่ฝากฝั่งบนหน้าผากของเขามันจะไม่หยุดเพียงแค่นั้นบัดนี้มันกลับไล้ไปตามแนวคางจนกระทั่งซุกไซร้ที่ซอกคอหอมกรุ่นเสียงริมฝีปากที่ขบเม้มซอกคอนั้นทำให้อายาโตะรีบดันร่างยักษ์ออกทันที อ๊ะ.. อย่าครับ ไม่.. เดี๋ยวเป็นรอยครับ อย่า.. อึก... เป็นรอยสิดี คนอื่นจะได้รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว แต่ผมไม่ชอบนะครับ อ๊ะ.. ฮื้อ... พอแล้วครับ... เอาล่ะ ไปได้แล้ว ดีแลนประทับรอยบนซอกคอขาวผ่องของอีกฝ่ายจนพอใจแล้วจึงผันออกมาอย่างรวดเร็วขณะที่อายาโตะพยายามมองหารอยที่อีกฝ่ายทำอย่างเอาเป็นเอาตายดูเหมือนว่าถ้ามองเผินๆ จะมองไม่เห็นจนคนร่างเล็กต้องใช้กระจกรถในการส่องหาเมื่อเห็นตำแหน่งที่อีกฝ่ายทำไว้จึงหันมาเล่นงานทันที คุณดีแลน เล่นอะไรของคุณน่ะครับ ดูสิเป็นรอยเลย ดีแลน.. ฉันให้เธอเรียกฉันว่าดีแลนไม่ใช่หรือ ? ก็ได้ครับ คุณดีแลน คุณทำแบบนี้ทำไม ไม่เห็นเป็นไรเลย ตำแหน่งที่ฉันทำถ้าใครไม่สังเกตจริงๆ ก็ไม่เห็นหรอก แต่... เอาน่า.. ยังไงฉันก็เป็นคนรักของเธอ แล้วเรามาต่อกันตอนเย็นนะ..อายาโตะ ดีแลนหยุดหยั่งคำพูดของอายาโตะด้วยนิ้วมือและกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูของอีกฝ่ายใบหน้าสวยแดงระเรื่อเมื่อได้ยินคำพูดนั้นอายาโตะเม้มริมฝีปากตัวเองจ้องอีกฝ่ายก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปอย่างรวดเร็วโดยมีเสียงหัวเราะในลำคอดังเข้าหูของเขา อายาโตะหันมาจ้องรถของอีกฝ่ายที่ยังคงอยู่ที่เดิมโดยคนร่างสูงยกมือขึ้นโบกไปมาด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มจนอายาโตะอดหมั่นไส้ไม่ได้เด็กหนุ่มทำได้แต่เพียงหมายหมาดอยู่ในใจว่าจะต้องเอาคืนอีกฝ่ายให้ได้แน่นอน ให้ตายเถอะถึงจะบอกว่าเป็นคนรักแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรตามใจตัวไปซะทุกอย่างนะ คอยดูเถอะถ้าอยู่กันสองคนจะเล่นงานให้จมเขี้ยวเลย
หลังจากที่อายาโตะแยกจากดีแลนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาก็เดินเข้ามายังในบริเวณอาคารเรียนซึ่งอยู่ติดกับบริเวณลานจอดรถหลังจากที่เอิร์ลหนุ่มปล่อยให้อายาโตะลงจากรถโดยไม่วายทำสัญลักษณ์ไว้ที่บริเวณต้นคอของเขานั้นตลอดเวลาที่เดินเข้ามาภายในอาคารเรียนอายาโตะต้องเผชิญกับสายตาสอดรู้สอดเห็นรวมถึงเสียงซุบซิบอยู่เป็นระยะ คนร่างเล็กได้แต่ปลงตกพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายตอนเขาอยู่เมืองไทยก็มักจะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอด้วยความเป็นตระกูลใหญ่ทำให้เวลาทำอะไรก็มักจะมีคนอื่นจ้องมองอยู่เสมอทำให้ต้องระมัดระวังตัวอยู่เป็นประจำ "ถอนหายใจมากระวังความสุขจะบินหนีหรอก" เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะอายาโตะกำลังจะวางเป้ลงบนโต๊ะซึ่งเป็นที่นั่งส่วนบนโต๊ะเรียนของที่นี่มีลักษณะเป็นขั้นบนใดไล่ลงโดยส่วนกลางห้องจะเป็นกระดานไวส์บอร์ดขนาดใหญ่พร้อมโปรเจคเตอร์สำหรับใช้ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อฉายภาพประกอบดูโอ่โถงสมกับเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังและนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาสอบชิงทุนที่นี่ไว้ ถึงไม่ถอนหายใจความสุขมันก็พร้อมจะบินหนีอยู่แล้วล่ะ... อ๊ะ...ใครพูดวะ เราเอง อายาโตะหันไปมองคนที่มาภายหลังอย่างรวดเร็วก็พบว่ามีชายร่างสูงประมาณ180 เซนติเมตร ผิวขาว ใบหน้าคมคายนั้นกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยดูน่าค้นหาโดยเฉพาะการแต่งกายของคนร่างสูงที่ราวกับนายแบบเพิ่งหลุดมาจากแคทวอล์คก็ไม่ปานนั่นแสดงให้เห็นถึงรสนิยมของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีอายาโตะขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีที่เป็นมิตรเขาจึงส่งยิ้มให้เช่นกัน ยินดีที่ได้รู้จัก เราชื่อทากะ วากาชิ เอกภาษาศาสตร์ นายล่ะ ผมฟูวะ อายาโตะ เอกเดียวกับนาย อื้ม งั้นเราเรียกนายว่าอายาโตะได้ไหม แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะวากาชิพูดยิ้มๆ ไม่เป็นไร เราไม่ถือ เรียกเราว่าอายาโตะก็ได้ตอนอยู่เมืองไทยเพื่อนเราก็เรียกชื่อจริงกันทั้งนั้น โอ๊ะ มาจากเมืองไทยเหรอ งั้นนักเรียนทุนที่ใครเค้าว่ากันก็คือนายอ่ะสิ วากาชิพูดยิ้มๆ อายาโตะยกมือขึ้นถูจมูกนี้ชื่อเสียงเขาดังขนาดนี้เลยเหรอ ว่าแต่ดังในด้านไหนล่ะเนี่ย คะ... เค้าว่าไงเหรอ ก็เค้าว่าๆนักเรียนทุนนั่งรถลีมูซีนมาเรียนตั้งแต่วันแรกแถมยังน่ารักมากด้วยไงล่ะ วากาชิแซวอีกฝ่ายยิ้มๆอายาโตะหน้าตูมขึ้นมาทันทีเรื่องรถเขาพอจะรู้อยู่ว่าต้องมีเรื่องลือไปทั่วแต่น่ารักเนี่ยมันใช่คำชมผู้ชายเหรอ น่ารักอะไรกัน ต้องหล่อสิ น่ารักอ่ะถูกแล้ว งั้นนายก็เรียกเราว่าวากาชิก็ได้นะเราขอนั่งข้างนายนะวากาชิขออายาโตะ อายาโตะก็ไม่ว่าอะไรตอบรับทันที อื้อ... ได้สิ อายาโตะส่งยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงอย่างรวดเร็วโดยที่อีกฝ่ายเองก็วางกระเป๋าลงและนั่งข้างอายาโตะด้วยเช่นกัน ในตอนแรกอายาโตะก็กลัวว่าจะไม่มีเพื่อนใหม่เพราะดูจากการกระทำของดีแลนที่มาส่งเขาด้วยรถลีมูซีนแล้วทำเอาคนอื่นๆแทบจะไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลย มีเพียงคนตรงหน้าที่ดูจะไม่สนใจในเรื่องนั้นเท่าไรนัก อายาโตะคิดไงถึงมาเรียนที่นี่ล่ะ ก็ไม่คิดไง เราแค่อยากมาเรียนที่บ้านเกิดของพ่อดูด้วย งั้นเหรอ แล้วนี้พักอยู่ที่ไหนล่ะ เอ่อ.. ถ้าลำบากใจที่จะตอบก็ไม่เป็นไรนะ พอดีว่าเราเพิ่งมาอยู่หอพักในเมืองก็เลยกำลังหารูทเมทน่ะ โทษทีนะ เรา... พักอยู่กับญาติน่ะ อื้อ งั้นเหรอ ไม่เป็นไร ไว้ว่างๆ ก็มาเที่ยวห้องเราได้นะ อื้อ อีกฝ่ายพูดไปพลางยิ้มไปในตอนแรกอายาโตะรู้สึกไม่ดีเท่าไรที่เหมือนปิดบังเพื่อนใหม่แต่ใครล่ะอยากจะบอกว่าพักอยู่กับเอิร์ลที่มีคฤหาสน์ใหญ่โตมาส่งเขาด้วยรถลีมูซีนคันยักษ์ถึงแม้ว่าเรื่องมาส่งนั้นจะรู้กันไปทั้งมหาวิทยาลัยแต่เขาก็ยังอยากเป็นนิสิตธรรมดาคนหนึ่งโดยลืมไปว่าตนเองมีฐานะอะไรในประเทศนี้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้อายาโตะยิ่งเหนื่อยหน่ายตอนที่เขานั่งรถมานั้นใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามีใครกำลังตามหลังรถลีมูซีนอยู่นั่นก็คงจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องการตัวเขาเป็นแน่ อายาโตะสลัดความรู้สึกเป็นกังวลปนรำคาญนั้นออกไปจากใจเมื่ออาจารย์ผู้สอนวิชาแรกก้าวเดินเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็ว
พักเที่ยง นี้ไปกินข้าวกันไหม เรารู้จักร้านอาหารอร่อยๆ ในมอ วากาชิพูดขึ้นขณะที่ออดเลิกเรียนภาคเช้าดังขึ้นวันนี้อายาโตะมีเรียนเพียงไม่กี่วิชาเท่านั้น แต่กิจกรรมต่างๆที่จะเริ่มขึ้นอย่างเช่นการหาชมรม หรืออะไรหลายๆอย่างที่ต้องทำหลังจากนี้ดูจะมีมากและนั่นทำให้อายาโตะบอกดีแลนไปว่าจะเลิกเย็นอายาโตะเก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วพร้อมกับหันมาถามวากาชิอย่างรวดเร็ว ที่ไหนเหรอ คาเฟเทอเรียแถวนี้และ ไม่ไกลหรอก เอาสิ เราก็หิวแล้ว งั้นไปกัน วากาชิเดินนำหน้าอายาโตะออกไปยังบริเวณหน้าตึกจนกระทั่งลัดเลาะไปทางปีกขวาของอาคารจนกระทั้งหยุดลงที่หน้าร้านคาเฟเทอเรียอย่างรวดเร็วจากตัวอาคารเรียนมายังที่แห่งนี้ดูจะไม่ไกลมากแต่ก็ทำเอาเขาหอบไปเลยทีเดียว วากาชิเป็นคนที่เดินเร็วมากถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะหยุดรอเขาเป็นพักๆแต่ด้วยความที่อายาโตะเป็นคนขี้เกรงใจจึงพยายามเร่งฝีเท้าให้ตามวากาชิทัน วากาชิหัวเราะกับท่าทางหอบแฮกของอายาโตะอย่างชอบใจและนั่นทำให้อายาโตะเผลอหันมาค้อนคนตัวสูงกว่าก่อนจะรู้ตัวว่าเป็นกิริยาที่ไม่ควรทำใบหน้าของเขาก็ขึ้นสีแดงระเรือไปเสียแล้ววากาชิหยุดขำและถือวิสาสะจับมือเขาพาเดินเข้าไปภายในคาเฟเทอเรียแห่งนั้นอย่างรวดเร็วอายาโตะมองการกระทำนั้นของอีกฝ่ายอย่างตกใจถึงจะอยากทักท้วงให้อีกฝ่ายปล่อยมือเขาแต่ก็ไม่กล้าด้วยความที่คิดว่าการที่ทักท้วงออกไปอาจจะทำให้วากาชิรู้สึกไม่ดีก็เป็นได้ เอาน่าวากาชิคงไม่ได้คิดอะไรกับเราหรอก อายาโตะบ่นพึมพำในใจตั้งแต่ก้าวลงจากสนามบินนาริตะ จนกระทั่งถึงวันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองจะเข้าไปพัวพันกับความรักระหว่างชาย-ชายจนทำให้รู้สึกสับสนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะความรู้สึกที่มีต่อดีแลน เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันคือความรักหรือความเผลอไผลต่อการกระทำที่คนร่างสูงนั้นปรนเปรอต่อเขาแต่ทุกอย่างก็ถูกสลัดออกไปจากใจหากไม่คิดจะยอมรับอีกฝ่ายมีหรือที่ตัวอายาโตะเองจะปล่อยให้คนร่างสูงหาเศษหาเลยได้ศิลปะป้องกันตัวที่ร่ำเรียนมาก็มีให้ใช้ได้เวลาคับขันแต่ตัวเขาเองไม่คิดจะใช้มันนั่นก็เป็นเพราะว่าเขาอาจจะกำลังตกหลุมรักเอิร์ลหนุ่มหื่นกามนั่นก็เป็นได้ เป็นอะไรไปน่ะอายาโตะ วากาชิหันมาถามอายาโตะที่ยืนทำหน้าครุ่นคิดอยู่ประตูคาเฟเทอเรียตั้งแต่ลากอายาโตะเข้ามาภายในนี้ วากาชิก็ได้แต่หันไปมองโต๊ะที่ว่างอยู่เพื่อหาที่นั่งแต่พอหันมาเห็นอายาโตะที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรก็รู้สึกผิดปกติอายาโตะส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับยิ้มให้เป็นเชิงปฏิเสธพร้อมกับมองไปที่ฝ่ามือที่โดนอีกฝ่ายจับ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่จะปล่อยเราได้ยังอ่ะ อะไร? ก็มือเราไง ดูสิคนมองไปทั่วแล้ว อ้าว ขอโทษๆ เราเผลอไปหน่อยอ่ะ อื้อ เราไม่ว่าหรอก แต่คนมองหมดแล้วน่ะ โทษที.. ก็นายตัวเล็กเดินก็ช้าให้ความรู้สึกเหมือนเป็นน้องมากกว่าเป็นเพื่อนอีกนะเนี่ย ขอโทษนะที่เราตัวเล็ก อายาโตะตอบเสียงสะบัดนึกเคืองอีกฝ่าย ใช่สิ เขาสูงแค่ 160 เซนเอง ไฉนเลยจะไปสู้คนสูง 180 อย่างวากาชิได้จะว่าไปตัวเอิร์ลเองก็สูงเกิน 190 ด้วยเหมือนกันทำไมน่ะทุกวันนี้เขาถึงเจอแต่คนสูงกว่าเขาตลอดเลยจนเดียวนี้ต้องแหงนหน้าคุยกับอีกฝ่ายแทบจะเมื่อยคออยู่แล้วในตอนแรกคนที่สูงจนกระทั่งแหงนคอคุยก็มีเพียงหลงแค่คนเดียวเท่านั้นเพราะอชิสูงไล่เลี่ยกับเขาจึงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น แต่เดียวนี้มีถึง 3 คนสงสัยคงต้องไปนวดคอสักหน่อยแล้วล่ะมั้ง เป็นอะไร คิดอะไรอีกแล้วน่ะ ป่ะไปนั่งกัน ได้ที่นั่งแล้ว วากาชิลากอีกฝ่ายโดนการดันร่างให้เดินหน้าไปอายาโตะจึงรีบเดินอย่างรวดเร็ว ก็ทั้งดันทั้งพลั่กแบบนี้จะไม่ให้เดินเร็วได้อย่างไรล่ะนะ นายจะสั่งไรอ่ะ ร้านนี้เราแนะนำข้าวหน้าหมูทอดของที่นี่อร่อยดีนะพาเฟ่ต์ ด้วยอร่อยเหมือนกัน อื้อ เอาอย่างที่นายว่าก็ดีเหมือนกัน ในภาพก็น่ากินดี งั้นน้องครับ เอาข้าวหน้าหมูทอดสอง เฟรนฟรายจัมโบหนึ่ง แล้วน้ำล่ะ วากาชิหันมาถามอายาโตะ เอาโค้กละกัน โค้กสองครับ รับทราบค่ะ ขอทวนรายการนะคะ ข้าวหน้าหมูทอดสอง เฟรนฟรายขนาดจัมโบหนึ่งส่วนเครื่องดื่มรับเป็นโค้กสองที่นะคะ ครับ รอสักครู่นะคะ อาหารจะมาเสิร์ฟภายในยี่สิบนาทีค่ะ พนักงานร้านส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินจากไปอายาโตะมันมามองวากาชิที่ทำท่าทางสนใจอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาเมื่อเห็นว่าอายาโตะกำลังมองเขาอยู่ ท่าทางนายนี้ต้องเจ้าชู้มากแน่ๆ เลยแฮะ ไม่หรอกๆ ก็แค่นิดหน่อยน่ะ เอาเถอะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย อื้อ ว่าแต่เรียนเสร็จแล้วตอนเย็นนายไปไหนป่าว หลังเลิกเรียนเหรอ? ก็ใช่น่ะสิ คิดว่าเป็นตอนไหนกันล่ะ หลังเลิกเรียนเรามีนัดน่ะอายาโตะยังไม่ลืมที่ดีแลนกำชับกับเขาไว้ตอนลงจากรถ ว้า แย่จัง เราว่าจะแนะนำเพื่อนเราให้นายรู้จักสักหน่อย อ้าวพูดถึงก็มาซะงั้น วากาชิโบกไม้โบกมือให้ใครบางคนที่กำลังก้าวเข้ามาภายในร้านดูเหมือนใครคนนั้นก็หันมาเห็นวากาชิพอดีจึงเดินมาหาอย่างรวดเร็ว เฮ้ย มาไงวะ ข้าก็มากินข้าวกับเพื่อนสิวะ ถามแปลกๆ ว่าแต่เอ็งอ่ะมากับใครวะเปลี่ยนคนใหม่อีกแล้วเหรอ วากาชิแอบกระซิบถามเพื่อนคนดังกล่าว เออ ข้าจะมากับใครก็เรื่องของข้า ว่าแต่จะไม่แนะนำให้รู้จักหน่อยเหรอ ว่าแล้วก็หลิวตาไปที่อายาโตะที่ยังคงนั่งอยู่การแต่งกายของผู้มาใหม่เป็นแบบชุดกาวน์ ดูท่าทางคงจะเป็นพวกนักศึกษาแพทย์ ดูจากหนังสือเล่มหนาที่ถือมาแล้วก็คงจะเป็นเช่นนั้นแต่ว่านะ สูงอีกแล้วนะ เกิน 180 เซนแน่ๆ เลย อายาโตะได้แต่ถอนหายใจทั้งที่ประเทศนี้เป็นเอเชียเหมือนกับประเทศไทยแท้ๆแต่ทำไมเขาถึงได้เจอแต่คนสูงกว่าเขาทั้งนั้น หรือว่าเขาจะตัวเตี้ยไปจริงๆ บ้าสิร้อยหกสิบนี้ไม่เตี้ยนะ นี้อายาโตะ เพื่อนใหม่ อย่าได้คิดเชียวนะเฟ้ย เออๆ ไม่คิดหรอกน่า ยินดีที่ได้รู้จักครับอายาโตะ ผมชื่อ ฟูจิวาระยาสุกิ เรียก ยาสุกิ เฉยๆ ก็ได้นะ ส่วนนี้เพื่อนผม เฮเซย์ ยามาโตะยินดีที่ได้รู้จัก ยาสุกิแนะนำคนข้างกายเสร็จดูเหมือนว่ามีเพียงยาสุกิเท่านั้นที่สายตาเป็นมิตรกับเขา แต่กับคนชื่อเฮเซย์ยามาโตะนั้นสายตาที่ส่งออกมามีแต่ความหึงหวง หรือว่าคนทั้งคู่จะเป็นแฟนกันน่ะ อายาโตะรีบสลัดความคิดออกจากหัวอย่างรวดเร็ว บ้าน่าคงไม่ใช้หรอกมั้ง ก็ผู้ชายทั้งคู่นิน่ะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณยาสุกิ คุณเฮเซย์ ยินดีที่ได้รู้จัก คนชื่อเฮเซย์ตอบก่อนจะหันไปทางอื่น เฮ้ย นั่งด้วยกันสิวะ เออ ก็ดีเหมือนกัน คนเริ่มแน่นร้านแล้ว นั่งนี้และนะเฮเซย์ อื้อ ก็ได้ ถึงแม้ว่าสีหน้าจะไม่อยากนั่งด้วยแต่เฮเซย์ก็ยอมตามใจยาสุกิโดยการนั่งข้างๆอายาโตะเพื่อเป็นการกันท่ายาสุกิมองการกระทำนั้นของเฮเซย์ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับท่าทางหึงหวงของอีกฝ่ายก่อนจะนั่งลงข้างๆวากาชิเพื่อนของเขาแทน ในสายตาของยาสุกิแล้ว อายาโตะดูน่ารัก น่าทะนุทะนอมดีแต่ไม่ใช่สเป็กของเขา อย่างเขาต้องผอมสูงหุ่นดีแบบเฮเซย์สิถึงจะน่ากด เฮ้ย เอ็งสั่งอะไรไปวะ ข้าสั่งข้าวหน้าหมูทอดกะเฟรนฟรายจัมโบไปวะ เอ็งจะกินอะไรล่ะ อื้อ เอาเป็นชาชูราเม็งดีกว่า เบื่อข้าวหน้าหมูทอดแล้ว แล้วเฮเซย์ล่ะเอาอะไรดี ผมเอาแฮมเบอร์เกอร์ทอดดีกว่าครับ งั้นน้ำก็เอาเป็นโค้กละกันเนอะ ง่ายดี ครับ เฮเซย์รับคำอย่างสุภาพยาสุกิหันไปสั่งรายการอาหารกับพนักงานที่เข้ามารับออเดอร์ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าตอนนี้คนจะเริ่มแน่นร้านแล้ว แต่ก็ยังไม่มากเท่าวันอื่นๆ ว่าแต่เอ็งอ่ะ ตอนเย็นตกลงจะไปคาราโอเกะกันป่าว ฉันอ่ะไป แต่อายาโตะมีนัดวะคงไปไม่ได้ เหรอครับ เสียดายจัง ถ้าอายาโตะไปจะได้เจอเพื่อนใหม่เยอะเลยนะครับยาสุกิหันมาทำท่าเสียดายที่อายาโตะไม่ไปคาราโอเกะหลังเลิกเรียนกับพวกเขาอายาโตะได้แต่ส่งยิ้มแหะๆ ไอ้ไปก็อยากไปอ่ะนะ อยากไปพบเพื่อนใหม่ๆ บ้างอะไรบ้างแต่เมื่อคิดถึงใบหน้าของดีแลนที่รู้ว่าเขาจะไม่ไปเดทตามนัดแล้วให้ตายก็ไม่กล้าจะคิดเลยว่าคนร่างสูงนั้นจะหาทางลงโทษเขาแบบไหนบ้าง มีหวังถูกจับกดไม่ได้ออกจากคฤหาสน์ไปไหนแน่ๆ เอาไว้วันหลังละกันครับ ขอบคุณนะครับที่ชวน ไม่เป็นไรครับ ติดธุระก็ไม่เป็นไร ยังไงเราก็มีชวนอีกเรื่อยๆ ล่ะนะ ครับ เฮเซย์ นายไปกับฉันด้วยนะ ครับ เฮเซย์รับคำอย่างแช่มชื่นดูเหมือนว่าคนข้างๆเขาจะดีใจที่อายาโตะไม่ไปคาราโอเกะด้วยแถมยังไม่มีท่าทีที่จะจับยาสุกิ กิริยาที่แสดงกับเขาก็ดีขึ้นตามลำดับหรือว่าที่เขาคิดนั้นมันจะเป็นความจริงกันนะ ทั้งสองคนนี้ต้องมีซัมซิ่งรองกันอยู่แน่ๆเลย |
ไลแลต..
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] - นิยายที่ผ่านการตีพิมพ์ - Group Blog |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |