บรรดา Next Generation TV ถูกนำมาโชว์เรียงรายกันเต็มพื้นที่จัดแสดง

 

คุณ โรมัน ไปทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ 3 มิติ ตามคำเชิญ
ด้วยแว่นที่ทาง LG ได้ให้เป็นที่ระลึกมา

สนุกกันไปอีกแบบกับการเล่นเกมส์ Kinect บน XBOX360
ด้วยภาพ 3 มิติ เหมือนเราเข้าไปเป็นตัวละครในเกมส์จริง ๆ

น้อง ๆ พริตตี้ก็ตั้งใจทำงานกันอย่างขะมักเขม้น
ดูซิว่าใครจะเข้าเส้นชัยก่อนกัน

เดินเลยมาเป็นส่วนที่แสดง Spot โฆษณาชุดใหม่ของทาง LG
ที่มีเนื้อหาเปรียบเทียบระบบ 3 มิติ แบบเก่ากับ Cinema 3D ของ LG

รู้จักกับ Cinema 3D และ Smart TV กันก่อน
Cinema 3D เป็นชื่อเรียกระบบการสร้างภาพ 3 มิติแบบใหม่ของทาง LG ที่ใช้พาเนลใหม่ชื่อว่า FPR (Film Patterned Retarder) ซึ่งใช้คู่กับแว่นตาที่เป็น Polarized Glasses ช่วยให้ภาพที่ได้มีอาการกระพริบเกิดขึ้นน้อย ลดอาการเวียนศีรษะจากการรับชมเป็นเวลานาน ๆ นอกจากนี้ยังสามารถรับชมได้ในทุกอิริยาบถอีกด้วย

Smart TV  เป็น ชื่อเรียกของฟังก์ชั่นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยที่เราสามารถเข้าถึง Content ต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการรับชมข่าวสาร คลิปวิดีโอ พยากรณ์อากาศ หรือแม้กระทั่ง Social Network โดยทาง LG มีหน้าเมนูหลักที่เรียกว่า Home Dashboard เพื่อนำคุณเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายดายแค่ Point • Click • Control ด้วย Magic Motion Remote Control 

ทางทีมงานเริ่มคอแห้งกันเล็กน้อยเนื่องจากอากาศในวันนี้ร้อนมาก
จึงต้องหาอะไรดับกระหายกันพอเป็นกษัย อิ อิ

จากนั้นก็ร่วมบันทึกภาพเป็นที่ระทึก เอ๊ย ระลึกกันซักหน่อย

ต้องขอบอกกันก่อนนะครับว่าคอนเซปต์ของ งานที่จัดครั้งนี้ เน้นไปที่ Cinema 3D และ Smart TV ทำให้ไม่มีทีวีที่เป็นพลาสม่ามาโชว์ซึ่งใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพสามมิติคนละ อย่างมาโชว์ เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนในเรื่องของการสื่อสารขึ้นนะครับ

สำหรับ LED & LCD TV ปี 2011 ที่มาโชว์ในงานมีดังต่อไปนี้
1. [LCD] LK330 & LK450 (HDTV)
2. [LED] LV2130 (Full HD)
3. [LED] LV3730 (Full HD, Smart TV)
4. [LED] LW4500 (Full HD, Cinema 3D)
5. [LED] LW5700 (Full HD, Cinema 3D & Smart TV)
6. [LED] LW6500 (Full HD, Cinema 3D & Smart TV)

บรรดาทีวีเรียงรายกันเป็นตับ พร้อมเปิด Demo โชว์ฟังก์ชั่นเด่น ๆ ของแต่ละรุ่นให้ชม

LCD TV ปี 2011 มากัน 2 รุ่น ด้วยกันคือ LK330 ในขนาด 26" กับ 32"
และ LK450 ในขนาด 32" กับ 42"

ถัดมาเป็นในส่วนของ LED ที่เป็น Smart TV คือรุ่น LV3730(ตัวซ้าย) 
วางคู่กับ Full HD LED TV รุ่น LV2130 มาพร้อมฟีเจอร์ LED Plus ที่ช่วยให้ภาพสมจริงบนความบางเหลือเชื่อ


เลยมาอีกหน่อยเป็นบรรดา LED TV ที่เป็น Cinema 3D อย่างเดียว
คือรุ่น LW4500 จัดเต็มพื้นที่ครบสี่ขนาดกันเลยทีเดียว


ปิดท้ายด้วยรุ่นใหญ่ที่มีทั้ง Cinema 3D และ Smart TV ในเครื่องเดียวกัน
ซึ่งก็คือรุ่น LW5700 และ LW6500 นั่นเอง

จุดแข็งของ 3D LED TV จากทาง LG
1. Cinema 3D เทคโนโลยีสามมิติแบบใหม่ ที่ขจัดปัญหาอาการเวียนศีรษะ เพิ่มอิสระและความสว่างในการรับชมมากขึ้น
2. ระบบการแปลงภาพจาก 2D ไปเป็น 3D ที่ชาญฉลาด ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์และแก้ปัญหาเรื่อง Contents สามมิติมีน้อยได้อย่างน่าอัศจรรย์
3. Invisible Speaker ลำโพงดีไซน์แบบซ่อนที่มาพร้อม Infinite 3D surround รอบทิศทางสมจริง และ Clear Voice II ที่ช่วยเพิ่มเสียงบทสนทนาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
4. หรูหราด้วยดีไซน์ Monotonous Clean & Sample
5. เข้าถึง Smart TV อย่างง่ายดายเมื่อใช้คู่กับ Magic Motion Remote Control

เปิด contents โชวพลังแห่งภาพ 3 มิติ ให้ได้ดูกันจะ ๆ

 LW6500 พี่ใหญ่ในบรรดาตระกูล Cinema 3D  ที่คุณ Roman ได้รีวิวให้ทุกท่าน
ได้รับชมกันไปแล้วบนเว็บของเรานี่เอง (อ่านรีวิว LG LW6500 คลิ๊ก !!!)