ชีวิตคือการค้นหา..แต่สิ่งที่หาจะเกิดขึ้นใหม่ทุกๆวัน
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 มีนาคม 2553
 
 
มาเก๊า ไม่เก๋า ก็มาได้ ตอนที่ 2

เริ่มเช้าของวันที่ 2 ตั้งแต่ประมาณ 7.30 น. ตั้งใจไว้แต่แรกว่าอยากจะไปทานติ๋มซำ ถามทางจากป้าพนักงานต้อนรับของโรงแรมเรียบร้อย แต่หาร้านไม่เจอซะงั้น 2 สาวก็มิมีความรู้ภาษาจีนแต่อย่างใด เลยเปลี่ยนจุดหมายใหม่ตามคำแนะนำของป้า(แกเขียนแผนที่พร้อมชื่อภาษาจีนให้ด้วย) ให้ไปที่ตลาด St.Domingos อยู่ในซอยด้านซ้ายมือของเซนาโด้ ซึ่งด้านล่างเป็นตลาดสด ขายผักผลไม้ ขึ้นลิฟไปที่ชั้น 3 จะเป็น Food Court เดินทางดั้นด้นมาจนถึง สั่งบะหมี่ไปคนละอย่าง หน้าตาน่าทาน แต่รสชาดก็ยังคงconcept เดิมคือจืดๆ มันๆ (คิดถึงพวงเครื่องปรุงบ้านเรามั่กมากกก)


หลังจากอาหารเช้า วันนี้ตั้งใจมาลุยเซนาโด้เต็มที่ เริ่มจากโบส์ถเซนต์ดอมินิค ซึ่งอยู่ในบริเวณเซนาโด้ สแควร์ อยู่ข้างๆ Shop Bossini เลย


เดินไปตามซอยทางขวาของ โบส์ถเซนท์ดอมินิค เข้าซอยแรกด้านขวา เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอมหาวิหาร ชอบมุมนี้ค่ะ มีตึกสวยๆ อยู่รายล้อม

.....


ออกจากซอยนี้ เดินเข้าไปในซอยฝั่งตรงข้ามกันจะไปถึงประตูโบส์ถเซนต์ปอล ด้วยความที่เรามายังเช้าอยู่ ผู้คนยังไม่มากเท่าไหร่ บรรดาร้านรวงก็ยังไม่เปิดกัน ถ่ายรูปกันสบายๆ ไปเรื่อยๆ เสร็จจากการถ่ายรูปซากประตูก็เดินลงมาทางด้านซ้าย ก็จะเจอกับวัดนาชา เป็นคล้ายๆศาลเจ้า ด้านหน้าก็จะเป็นกำแพงเมืองเก่า (เก่าจริงๆ)

แล้วเราก็เดินตัดลงมาในซอยที่มีอาคารเก่าด้านนึงสีชมพู อีกด้านสีเหลือง

ออกจากซอยเลี้ยวไปทางขวาเดิน ไปตามทางก็จะมาเจอโบส์ทเซนท์แอนโทนี ซึ่งมีวงเวียนน้ำพุอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างทางขวาของโบส์ถก็คือสวนคาซ่า เป็นสวนสาธารณะมีป้าๆ ลุงๆ มาเดินออกกำลังกายกัน ที่นี่มีรูปปั้นหน้าตาแปลกๆ เป็นสัญลักษณ์


เรามารอขึ้นรถเมล์สาย 17เพื่อไปวัดเจ้าแม่กวนอิม วัดนี้จะเป็นวัดเก่าแก่ของมาเก๊า


เดินถ่ายรูปกันสักพักก็ออกมารอรถเมล์สาย 12 บริเวณหน้าวัดเพื่อจะไปต่อยัง Flora Garden ที่เราต้องขึ้น Cable car ไปยังประภาคารเกีย ปรากฎว่านั่งรถเมล์เลยป้ายก็เลยต้องเดินย้อนกลับมา
สำหรับการขึ้นรถเมล์ไม่ยากค่ะ เพราะที่ป้ายรถเมล์จะข้อมูลเส้นทางของรถเมล์แต่ละสายว่าผ่านที่ไหนบ้าง โดยเราอาศัยนับจำนวนป้ายจากจุดที่ขึ้นถึงจุดที่ลงว่ามีกี่ป้าย แต่ที่ยากก็คือการนับว่าผ่านมาแล้วกี่ป้ายค่ะ ป้ายที่ไม่มีคนลงและรถไม่ได้จอดเราจะไม่รู้ เพราะบางป้ายดูไม่รู้เลยว่าเป็นป้ายรถเมล์ ซึ่งจะมีแค่ตัวหนังสือสีเหลืองเขียนว่า But Stop อยู่ที่พื้นถนนเท่านั้น และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เรานั่งรถเมล์เลยป้าย
สำหรับค่าบริการ cable carไป-กลับราคา 3$ จาก cable carก็ต้องเดินขึ้นเขาต่อไปอีก อากาศเย็นกำลังดีเหมือนเมื่อวานเลย ตามทางเดินก็จะเป็นต้นไม้เขียวไปตลอด มีดอกไม้สีสดๆ ไว้ตามทาง ดอกอะไรไม่รู้จักแต่สีสดมากเหมือนดอกไม้ปลอมเลย

เดินกันมาพอได้เหงื่อ ก็มาถึงทางเข้าเป็นคล้ายๆ อุโมงค์ ตัวประภาคารอยู่ด้านบน ติดกันก็จะเป็นโบส์ถเล็กๆ สามารถเข้าไปชมภาพเขียนสีภายในโบส์ถได้ ซึ่งเค้าจะห้ามถ่ายรูปค่ะ จากบนนี้สามารถมองเป็นวิวของตัวเมืองได้ แต่วันนี้หมอกหนาทีเดียว มองเห็น โรงแรม Grand Lisboa เป็นบางส่วนเท่านั้น


ลงมาจากประภาคารเกีย ตั้งใจจะเดินไป red market ระหว่างทางกะว่าจะหาข้าวเที่ยงทานกัน ข้ามถนนจากฝั่ง Flora Garden เดินเข้าถนน Avenida do Ouvidor Arriaga เพื่อไป red market เดินกันไปเรื่อย ๆ ถนนเส้นนี้มีร้านค้าอยู่ตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเข้าร้านไหนดี เนื่องจากแต่ละร้านมีแต่เมนูภาษาจีนทั้งน้าน คาดว่าคงจะสั่งไม่รู้เรื่องแน่นอน เดินจนสุดถนน ก็มาเจอตึก red market อยู่หัวมุม เดินเข้าไปเยื่ยมชม ที่นี่เป็นตลาดสด ขายผักขายปลา ขายหมู ค่ะ(มิได้ถ่ายรูปมา)
ออกจาก red market เดินย้อนกลับมาอีกถนน คือ Avenida Horta e Costa ถนนเส้นนี้คึกคักดูเหมือนเป็นย่านการค้า ตลอดเส้นทางมีร้านค้าให้ shoping มากมาย เดินย้อนกลับมาจันถึงหน้า Flora Garden แล้วก็ขึ้นรถเมล์สาย 19 กลับไปแถวๆ เซนาโด้ สแควร์ เราถือคติว่าไปไหนไม่ถูกก็กลับมาตั้งต้นที่เซนาโด้ก่อน
มาถึงเซนาโด้ช่วงบ่ายแล้ว หลังจากเดินกันมาตั้งแต่เช้า ตอนนี้ทั้งขา ทั้งรองเท้าเริ่มประท้วง เลยแอบเนียนไปนั่งพักในโบส์ถเซนต์ดอมินิคนิดนึง พอออกมาด้านนอกตอนนี้คึกคักกว่าตอนเช้ามาก ผู้คนเต็มไปหมด ร้านค้าต่างๆก็เปิดกันแล้ว เห็นผู้คนมุงร้านทาร์ตไข่ เลยไปต่อคิวซื้อมาลองกะเค้าบ้าง เป็นทาร์ตไข่อันแรกที่มาเก๊าค่ะ จากนั้นก็มาลองลูกชิ้นลวกบ้าง เห็นเค้านิยมกัน เฉพาะที่เซนาโด้มีอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่ก็คล้ายๆกัน จะมีลูกชิ้นแบบต่างๆ มีผัก ให้เราเลือกแล้วเค้าก็จะลวกให้ มีน้ำจิ้มเหลืองๆ ราด (น่าจะเป็นผงกะหรี่)เห็นป้าเค้าบอก Spicy เมนูนี้โอค่ะ ทานร้อนๆ แย่งกันจิ้มอร่อยใช้ได้ ลูกชิ้นแต่ละชนิดราคาไม่เท่ากัน เฉลี่ยประมาณไม้ละ 5$


อิ่มกันไปพอสมควร มองหาจุดมุงหมายต่อไป ซึ่งดูจากแผนที่เตรียมมาเรายังไม่ได้ไปป้อมปราการ Mount Fortress เลยเดินย้อนไป ซากประตูเซนต์ปอล บรรยากาศต่างกับเมื่อเช้าลิบลับ ผู้คนช่างมากมาย โดยเฉพาะในซอยทางเข้า เนื่องจากมีร้านขายของฝากมีชื่ออยู่ในซอย ของฝากขึ้นชื่อก็จะเป็นพวกขนมคุ๊กกี้ ถั่วตัด และก็หมูแผ่น
ป้อมปราการ Mount Fortress จะอยู่ข้างซ้าย(หันหน้าออก)ของซากประตูโบส์ถเซนต์ปอล เห็นทางเดินขึ้นเขาแล้วเริ่มท้อแท้ นั่งทำใจก่อนเดินขึ้นไป แต่ในที่สุดก็เดินขึ้นไปจนถึง ด้านบนเป็นป้อมปราการเก่า มีอาคาร macau museum ตอนขาลงเพิ่งสังเกตุว่ามันมีบันไดเลื่อน ขึ้นมาทาง macau museum ไอ้เราก็กัดฟันปีนเขาขึ้นมาซะงั้น ( 2 คนพากันขำตัวเอง) แนะนำว่าถ้าใครอยากขึ้นมาแบบสบายๆ ให้ขึ้นมาทาง macau museum แล้วค่อยเดินลงทางฝั่ง Mount Fortress ค่ะ

สำหรับวันนี้เหลืออย่างเดียวคือการซื้อของฝาก แต่เนื่องจากยังพอมีเวลาเลยอยากกลับไปถ่ายรูปที่จตุรัส เอากุสติน ก็เลยเดินทะลุซอยทางขวาของซากประตูลงมาเรื่อยๆ กะจะกลับไปเซนาโด้ สแควร์ เดินมาเจอคล้ายๆจะเป็นสวนสาธารณะ มีการเพ้นต์ภาพสีบนกำแพง สีสดใสสวยงาม ก็เลยแวะถ่ายรูปกันอีกพักนึง


ออกจากเซนาโด้ ข้ามถนน เดินขึ้นไปที่จตุรัสเอากุสติน ซึ่งเราเพิ่งสังเกตุเห็นลายบนพื้นถนนตอนที่มารอบสองนี่แหละ อย่างที่เคยบอกไว้เพราะสีมันซีดมากแล้ว รอบนี้มาก็ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมีครอบครัวหรรษาแตะบอลกันอยู่ เลยเดินกลับไปหาซื้อของฝากที่เซนาโด้ ตั้งใจนะไปซื้อเค้กกลับไปทานที่โรงแรม เล็งที่ร้านไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว ปรากฎว่าเค้กหน้าตาสวยๆหมดซะแล้ว เสียดายมาก เลยได้เค็กหน้าตาบ้านๆ กับขนมปังมาแทน แต่รสชาดก็อร่อยใช้ได้ค่ะ ไม่แพงด้วย
จากนั้นก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหาทางกลับโรงแรม ระหว่างทางเดินกลับ มาแวะทานนมตุ๋นกันค่ะ เล็งไว้ตั้งแรกแล้วว่าอยากจะลองทานซักครั้ง รสชาดหวานนิดๆ มันๆ ทานหมดถ้วยก็มีเลี่ยนนิดหน่อยค่ะ เพื่อนบอกว่านึกว่าจะเป็นแบบอุ่นๆเห็นอยู่ในตู้ แต่จริงๆแล้วมันเย็นๆ ค่ะ เลยคิดกันว่าถ้าอุ่นๆ น่าจะ work กว่านี้นะ


ระหว่างเดินกลับชิมหมูหวานกันมาเรื่อยๆ จะมีร้านอยู่ตลอดทาง ลองชิมเพื่อเปรียบเทียบรสชาด เพราะตั้งใจจะซื้อเป็นของฝาก ก็เดินมาเจอ Happiness Street โดยบังเอิญ เป็นถนนที่มีร้านอาหารเยอะมาก คนที่มาทานอาหารมีทั้งคนมาเก๊าและนักท่องเที่ยว ในที่สุดก็ได้หมูหวานรสชาดถูกใจ ในราคาปอนด์ละ 45 $


จาก Happiness Street สามารถเดินทะลุออกซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมได้เลยค่ะ กลับมาถึงโรงแรมนับเงินที่แลกมายังมีเหลืออยู่อีกเยอะ เลยต้องออกไปละลายทรัพย์กันอีกรอบ เพราะถ้าไปแลกคืนคงไม่คุ้ม ออกจากโรงแรมเพื่อเดินกลับไป shoping กันต่อที่เซนาโด้ (ตอนเดินมายังแอบมีหลงทางกันอีก ไม่ทิ้งconceptค่ะ รั่วตลอด..) หลังจากได้ใช้เงินก็กลับมานอนด้วยความสบายใจ เตรียมตัวเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันสุดท้ายแล้ว..
จบตอนที่ 2 ค่ะ


Create Date : 26 มีนาคม 2553
Last Update : 27 มีนาคม 2553 8:42:44 น. 1 comments
Counter : 1765 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

เสียดายจังตอนไปอดชิมนมตุ๋มและเที่ยว Happiness Street ค่ะ


โดย: mamminnie วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:11:36:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ohkouu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ohkouu's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com